'ธปท.' เตรียมลดคาดการณ์จีดีพีปี 64 ลงต่ำกว่า 3% หลังโควิด-19 ระลอก 3 กระทบหนัก ขณะที่เศรษฐกิจเดือนมี.ค. ทยอยฟื้นตัวต่อเนื่อง เผยตัวเลขส่งออกโต 15.8% แต่ตลาดแรงงงานยังเปราะบาง
.................
เมื่อวันที่ 30 เม.ย. น.ส.ชญาวดี ชัยอนันต์ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายเศรษฐกิจมหภาค ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยระหว่างการแถลงรายงานเศรษฐกิจการเงินเดือนมี.ค.2564 ว่า ผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ระลอกที่ 3 จะทำให้เศรษฐกิจไทยปี 2564 มีแนวโน้มขยายตัวต่ำกว่าที่ธปท.เคยคาดการณ์ว่าจะขยายตัวได้ที่ 3% ซึ่งในการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) สัปดาห์หน้า จะมีประเมินภาพเศรษฐกิจใหม่
"เดิมเราประเมินว่าจีดีพีปีนี้จะโตได้ 3% แต่เป็นประเมินเมื่อเดือนมี.ค. ซึ่งยังไม่ได้รวมผลกระทบจากโควิดในรอบที่ 3 ดังนั้น ในการประชุมกนง.สัปดาห์หน้าจะมีการประเมินภาพเศรษฐกิจอีกครั้ง โดยเราเชื่อว่าน่าจะมีผลกระทบแน่นอน" น.ส.ชญาวดีกล่าว
สำหรับภาวะเศรษฐกิจไทยในเดือนมี.ค.2564 ทยอยปรับดีขึ้น หลังการแพร่ระบาดรอบสองของ COVID-19 คลี่คลายลง โดยเครื่องชี้การบริโภคภาคเอกชนฟื้นตัวต่อเนื่อง ตามกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่ปรับดีขึ้นและแรงสนับสนุนจากมาตรการภาครัฐ ขณะเดียวกันการส่งออกสินค้าที่ไม่รวมทองคำขยายตัวสูงขึ้นสอดคล้องกับการฟื้นตัวของอุปสงค์ประเทศคู่ค้า ส่งผลให้เครื่องชี้การลงทุนภาคเอกชนขยายตัวได้ต่อเนื่อง
อย่างไรก็ดี การใช้จ่ายภาครัฐหดตัวจากผลของฐานสูงในระยะเดียวกันปีก่อนที่มีการเร่งเบิกจ่ายภายหลัง พ.ร.บ. งบประมาณปี 2563 ประกาศใช้ ขณะที่ภาคการท่องเที่ยวยังหดตัวสูงจากมาตรการจำกัดการเดินทางระหว่างประเทศที่ยังมีอยู่ ด้านเสถียรภาพเศรษฐกิจ อัตราเงินเฟ้อทั่วไปติดลบน้อยลงตามราคาพลังงานที่ปรับสูงขึ้นเป็นสำคัญ ด้านตลาดแรงงานยังคงเปราะบาง สำหรับดุลบัญชีเดินสะพัดขาดดุลเล็กน้อย
ทั้งนี้ รายละเอียดของภาวะเศรษฐกิจไทยมีดังนี้
ครื่องชี้การบริโภคภาคเอกชนกลับมาขยายตัวเมื่อเทียบกับระยะเดียวกันปีก่อน จาก 1) กิจกรรมทางเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวภายหลังการแพร่ระบาดรอบสองของ COVID-19 คลี่คลายลง ประกอบกับแรงสนับสนุนจากมาตรการภาครัฐที่มีต่อเนื่องทำให้การใช้จ่ายปรับดีขึ้นในทุกหมวด และ 2) ผลของฐานต่ำในระยะเดียวกันปีก่อนจากการแพร่ระบาดฯ รอบแรก
มูลค่าการส่งออกสินค้าขยายตัวสูงที่ 15.8% จากระยะเดียวกันปีก่อน และหากไม่รวมหมวดทองคำ มูลค่าการส่งออกจะขยายตัว 22.1% โดยเป็นการขยายตัวที่สูงขึ้นเมื่อเทียบกับเดือนก่อน จาก 1) อุปสงค์ประเทศคู่ค้าที่ฟื้นตัวทำให้การส่งออกปรับดีขึ้นในหลายหมวด 2) ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกที่เพิ่มขึ้นทำให้การส่งออกสินค้าที่มีมูลค่าเคลื่อนไหวตามราคาน้ำมันปรับสูงขึ้น และ 3) ฐานที่ต่ำในระยะเดียวกันปีก่อนจากการแพร่ระบาดฯ รอบแรก
นอกจากนี้ การส่งออกสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ยังขยายตัวดีแม้ชะลอลงบ้าง จากผลดีของวัฏจักรอิเล็กทรอนิกส์โลกที่อยู่ในช่วงขาขึ้น ทั้งนี้ อุปสงค์ทั้งในและต่างประเทศที่ฟื้นตัวทำให้การผลิตภาคอุตสาหกรรมปรับดีขึ้นสอดคล้องกัน
เครื่องชี้การลงทุนภาคเอกชนขยายตัวต่อเนื่องจากระยะเดียวกันปีก่อน ตามการลงทุนหมวดเครื่องจักรและอุปกรณ์ที่ขยายตัวดีสอดคล้องกับทิศทางการส่งออก อย่างไรก็ดี การลงทุนหมวดก่อสร้างหดตัวต่อเนื่อง สะท้อนกิจกรรมในภาคอสังหาริมทรัพย์และภาคก่อสร้างที่ยังอ่อนแอ
มูลค่าการนำเข้าสินค้าขยายตัว 15.1% จากระยะเดียวกันปีก่อน โดยเป็นการขยายตัวสูงต่อเนื่องในเกือบทุกหมวดสำคัญตามกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่ฟื้นตัว และผลของฐานต่ำในระยะเดียวกันปีก่อน
การใช้จ่ายภาครัฐที่ไม่รวมเงินโอนหดตัวจากระยะเดียวกันปีก่อนจากทั้งรายจ่ายประจำและรายจ่ายลงทุน โดยเป็นผลจากฐานสูงในระยะเดียวกันปีก่อนที่มีการเร่งเบิกจ่ายภายหลัง พ.ร.บ. งบประมาณปี 2563 ประกาศใช้ อย่างไรก็ดี การใช้จ่ายภาครัฐฯ ยังอยู่ในระดับสูงกว่าค่าเฉลี่ย 5 ปีย้อนหลัง
จำนวนนักท่องเที่ยวต่างประเทศยังหดตัวสูงเมื่อเทียบกับระยะเดียวกันปีก่อน จากมาตรการจำกัดการเดินทางระหว่างประเทศของไทยที่ยังมีอยู่ ส่งผลให้นักท่องเที่ยวต่างประเทศที่เดินทางเข้าไทยยังมีไม่มาก
ด้านเสถียรภาพเศรษฐกิจ อัตราเงินเฟ้อทั่วไปติดลบน้อยลงตามราคาพลังงานที่ปรับสูงขึ้นเป็นสำคัญ ด้านตลาดแรงงานยังเปราะบาง สะท้อนจากสัดส่วนผู้ขอรับสิทธิว่างงานใหม่ในระบบประกันสังคมต่อผู้ประกันตนทั้งหมดที่ยังอยู่ในระดับสูง สำหรับดุลบัญชีเดินสะพัดขาดดุลเล็กน้อยจากดุลบริการ รายได้ และเงินโอน ขณะที่อัตราแลกเปลี่ยนบาทต่อดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงกว่าสกุลเงินคู่ค้าคู่แข่งส่วนใหญ่
@มาตรการรัฐพยุงกำลังซื้อช่วงไตรมาส 1/64
ขณะที่ภาพรวมเศรษฐกิจไตรมาสที่ 1 ปี 2564 การฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดรอบสองของ COVID-19 ทำให้เครื่องชี้การบริโภคภาคเอกชนปรับแย่ลง โดยมาตรการกระตุ้นและเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบของภาครัฐช่วยพยุงกำลังซื้อได้ในระดับหนึ่ง ขณะที่ภาคการท่องเที่ยวยังหดตัวสูงจากมาตรการจำกัดการเดินทางระหว่างประเทศที่ยังมีอยู่
อย่างไรก็ดี การส่งออกสินค้าที่ไม่รวมทองคำกลับมาขยายตัวดีในหลายหมวดสินค้า ส่งผลให้การผลิตภาคอุตสาหกรรมและเครื่องชี้การลงทุนภาคเอกชนปรับดีขึ้น สำหรับการใช้จ่ายภาครัฐที่ไม่รวมเงินโอนทรงตัว ด้านเสถียรภาพเศรษฐกิจ อัตราเงินเฟ้อทั่วไปติดลบมากขึ้นจากราคาอาหารสดที่ลดลง และผลของมาตรการลดค่าไฟฟ้าและน้ำประปาเพื่อบรรเทาค่าครองชีพให้กับประชาชน
ด้านตลาดแรงงานยังเปราะบาง สำหรับดุลบัญชีเดินสะพัดขาดดุลมากกว่าไตรมาสก่อน จากดุลการค้าที่เกินดุลลดลงตามการนำเข้าทองคำเป็นสำคัญ ด้านอัตราแลกเปลี่ยนบาทต่อดอลลาร์ สรอ. โดยเฉลี่ยปรับแข็งค่าขึ้นเล็กน้อยเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนจากเงินดอลลาร์ สรอ. ที่อ่อนค่าลง อย่างไรก็ดี การแข็งค่าของเงินบาทสอดคล้องกับเงินสกุลคู่ค้าคู่แข่ง จึงทำให้ดัชนีค่าเงินบาท (NEER) ทรงตัว
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า ตัวเลขมูลค่าส่งออกไทยในเดือนมี.ค.2564 ที่ธปท.รายงานว่าขยายตัวที่ระดับ 15.8% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนนั้น สูงกว่าตัวเลขมูลค่าการส่งออกของกระทรวงพาณิชย์ที่แถลงเมื่อวันที่ 23 เม.ย.ว่า การส่งออกในเดือนมี.ค.2564 ที่ขยายตัว 8.47% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน (อ่านประกอบ : ศก.โลกฟื้นจากโควิด! ส่งออกไทยมี.ค.โต 8.47% สูงสุดในรอบ 28 เดือน)
อ่านประกอบ :
โควิดระลอก 3 เขย่าเศรษฐกิจไทย-กระทบเปิดประเทศ ‘วัคซีนทั่วหน้า’ คือ ทางออก
เปิดรายงานกนง. : เศรษฐกิจไทยเสี่ยงโตต่ำคาด-โควิดซ้ำเติมเหลื่อมล้ำรายได้เลวร้ายลง
กนง.หั่นจีดีพีโตแค่ 3%! เซ่นโควิดรอบสอง-นทท.เหลือ 3 ล้าน คงดบ.นโยบาย 0.5%
ให้กู้ยาว 5 ปี! ครม.ปลดล็อก ‘ซอฟต์โลน’ อุ้มเอสเอ็มอี-เทแสนล.หนุน ‘พักทรัพย์ พักหนี้’
แบงก์ทุนแกร่ง-สภาพคล่องล้น! ธปท.มอง NPL ปี 64 ขยับอีก-ถก'คลัง'ผุด'โกดังเก็บหนี้'
เปิดรายงาน กนง. : แนะรัฐบาล 'ออกแรง' กระตุ้นทางการคลังเพิ่ม
หั่นจีดีพีปี 64! กนง.คาดโตต่ำกว่า 3.2%-มติเอกฉันท์คงดอกเบี้ยนโยบาย 0.5%
พร้อมใช้ในจังหวะ ‘เหมาะสม’! กนง.คงดอกเบี้ยนโยบายที่ 0.5%-หั่นเป้าจีดีพีปี 64 เหลือโต 3.2%
บาทแข็งเร็วกระทบศก.ฟื้นตัว! กนง.กำชับ 'ธปท.' ทบทวนมาตรการ-มติเอกฉันท์คงดอกเบี้ย 0.5%
จีดีพีไตรมาส 3 ลบ 6.4%! สภาพัฒน์ฯคาดทั้งปีหดตัวร้อยละ 6 จับตา 'โควิดรอบ 2-การเมือง'
ไฟเขียวแบงก์ปันผล! ‘ธปท.’ ให้จ่ายได้ไม่เกิน 50% ของกำไร-ต้องไม่มากกว่าปี 62
สร้างกันชน-รักษาภูมิคุ้มกันศก.! 'วิรไท' แจงเหตุขอแบงก์ 'งดจ่ายเงินปันผลระหว่างกาล-ซื้อหุ้นคืน'
ช่วยลูกหนี้ระยะสอง! ธปท.ประกาศลดดบ. ‘บัตรเครดิต-พีโลน’ 2-4% พ่วงขยายวงเงินเป็น 2 เท่า
งดจ่ายปันผลระหว่างกาล-ซื้อหุ้นคืน! ธปท.ให้แบงก์ รักษา 'เงินกองทุน' รองรับความเสี่ยง 1-3 ปี
ห่วงธุรกิจไปไม่รอด-เมินปล่อยกู้! 2 สมาคมฯท้วงธปท.ลดเพดานดบ. ‘พีโลน-จำนำทะเบียนรถ’
รับรู้รายได้ ดบ.ปกติ! เผยวิธีบันทึกงบฯ‘สถาบันการเงิน’ช่วงพักชำระหนี้-ทำให้ฐานะอ่อนแอ
# กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage/