ธปท. เผยสถาบันการเงินยังรับรู้รายได้ดอกเบี้ยปกติ แม้มีมาตรการ ขณะที่ ‘แบงก์’ เผยอาจไม่เป็นผลดีนัก เพราะทำให้สถาบันการเงินมีภาระเสียภาษี ร้องแบงก์ชาติขยายมาตรการพักชำระหนี้
เมื่อวันที่ 12 มิ.ย. นายยงศักดิ์ เซี่ยงหลอ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายตรวจสอบ 1 ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยกับสำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) ถึงวิธีการบันทึกรายได้และกำไรจากดอกเบี้ยของสถาบันการเงิน ในช่วงที่สถาบันการเงินพักชำระเงินต้นและดอกเบี้ยให้ลูกค้า ว่า การพักชำระหนี้สำหรับลูกหนี้ที่ได้รับผลกระทบในช่วงสถานการณ์ระบาดของ COVID-19 นั้น สถาบันการเงินสามารถรับรู้รายได้ดอกเบี้ยได้ตลอดระยะเวลาการพักชำระหนี้ และไม่ถือเป็นเหตุแห่งการผิดเงื่อนไขการชำระหนี้ตามสัญญาด้วย
ซึ่งสอดคล้องกับแนวปฏิบัติของสภาวิชาชีพบัญชีที่ได้ระบุไว้ในประกาศสภาวิชาชีพบัญชี ที่ 17/2563 ลงวันที่ 16 เมษายน 2563 เรื่อง มาตรการผ่อนปรนชั่วคราวสำหรับกิจการที่ให้ความช่วยเหลือลูกหนี้ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ที่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทย
ส่วนการยืดมาตรการพักชำระหนี้ให้ลูกหนี้ต่อไป หลังจากสิ้นสุดระยะเวลาพักชำระหนี้เดือนต.ค.63 นั้น นายยงศักดิ์ กล่าวว่า ปัจจุบันสถาบันการเงินให้ความช่วยเหลือแก่ลูกหนี้ประชาชนและธุรกิจเป็นจำนวนมาก ด้วยการชะลอการชำระหนี้เงินต้นและดอกเบี้ย ทั้งในส่วนที่เป็นมาตรการขั้นต่ำของ ธปท. และส่วนที่สถาบันการเงินให้เพิ่มมากกว่ามาตรการขั้นต่ำ รวมถึงกรณีที่ลูกหนี้เป็นผู้ประกอบวิสาหกิจที่มีวงเงินไม่เกิน 100 ล้านบาท ได้รับการชะลอการชำระหนี้ทั้งเงินต้นและดอกเบี้ยเป็นเวลา 6 เดือนแบบอัตโนมัติ ซึ่งจะครบกำหนดในวันที่ 23 ตุลาคม 2563
อย่างไรก็ตาม ปัจจุบัน ธปท. อยู่ระหว่างประเมินสถานการณ์เพื่อพิจารณาว่ามีความจำเป็นที่จะต้องออกมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้ประชาชนและธุรกิจเพิ่มเติมต่อไปอีกหรือไม่ โดยปัจจัยสำคัญขึ้นอยู่กับการฟื้นตัวของรายได้ของประชาชนและธุรกิจ
แหล่งข่าวระดับสูงจากธนาคารแห่งหนึ่ง กล่าวถึงสำนักข่าวอิศราว่า หลักเกณฑ์ของธปท.ที่ให้สถาบันการเงินบันทึกรายได้จากดอกเบี้ยในช่วงพักชำระหนี้เงินต้นและดอกเบี้ยนั้นโดยไม่มีเงินเข้ามาจริง ภาษาชาวบ้านอาจเรียกว่า "การแต่งบัญชี"ก็ไม่ผิดนัก แม้จะดูเหมือนว่าเป็นคุณกับสถาบันการเงิน แต่หากพิจารณาจริงๆแล้วอาจไม่เป็นผลดีนัก เพราะอาจจะทหใ้สถาบันการเงินมีฐานะอ่อนแอลง นอกจากนั้น เมื่อสถาบันการเงินมีกำไรจากตัวเลขดอกเบี้ยแดอกเบี้ย แต่ไม่มีเม็ดเงินเข้ามาจริง ถ้ามีกำไรก็จะมีภาระเสียภาษีตามมาเช่นกัน ซึ่งตรงนี้อาจส่งผลกระทบต่อสถาบันการเงินที่มีฐานะอ่อนแอได้ เพราะธปท.ให้รับรู้รายได้ ทั้งๆที่ไม่มีรายได้เข้ามา
แหล่งข่าวยังระบุว่า เมื่อเร็วๆนี้ได้มีการหารือกันระหว่างธปท. สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) และสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐ โดยที่ประชุมประเมินว่ามาตรการพักชำระเงินต้นและดอกเบี้ยเป็นเวลา 6 เดือน ซึ่งจะสิ้นสุดในเดือนต.ค.นี้ อาจไม่เพียงพอ และเห็นว่าธปท.ควรขยายมาตรการพักชำระหนี้ออกไปอีก เพราะไม่เช่นนั้นอาจทำให้หนี้เสียในภาพรวม (NPL) เพิ่มจาก 3% เป็น 8% ได้
อ่านประกอบ :
‘กรุงไทย’ พักหนี้เงินต้น-ดอกเบี้ย สินเชื่อบุคคล 4 เดือน แถมลดดบ.ให้อีก 0.25%
'4 แบงก์ใหญ่' ประเดิมพักหนี้ 'เงินต้น-ดอกเบี้ย' นาน 6 เดือน-ให้กู้ดอกเบี้ย 2%
# กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage/