"....สำนักข่าวอิศรา ได้รับการยืนยันข้อมูลจากแหล่งข่าวว่า จุดเริ่มต้นในการดำเนินงานโครงการทุเรียน ถูกระบุว่า มีนักการเมืองในภาคใต้ มาติดต่อกับผู้บริหารระดับสูงของ อคส. ให้ช่วยดำเนินงานโครงการฯ นี้ให้หน่อย ผู้บริหารฯ รายนี้ จึงได้สั่งการให้ เจ้าหน้าที่กลุ่มเดียวกับที่ดำเนินงานโครงการถุงมือยางเข้ามารับผิดชอบเรื่องนี้ด้วย..."
.....................
ประเด็นตรวจสอบข้อมูลเชิงลึก กรณี องค์การคลังสินค้า (อคส.) ทำสัญญาซื้อขายทุเรียนพันธุ์หมอนทอง วงเงิน 25 ล้านบาท จาก บริษัท ซื่อหยวนพาณิชย์ จำกัด เพื่อนำไปขายต่อให้กับ บริษัท วรรัตน์ เฟรชฟรุ๊ต จำกัด
โดย อคส. ตั้งราคาจำหน่ายต้นทุนซื้อราคากิโลกรัมละ 100 บาท คิดอัตราผลตอบแทนในอัตราร้อยละ 3 ของต้นทุนซื้อ คิดเป็นราคาที่เสนอขายให้กับ บริษัท วรรัตน์ เฟรชฟรุ๊ต จำกัด กิโลกรัมละ 103 บาท รวมค่าขนส่งถึงปลายทาง ซึ่ง อคส.จะได้เงินตอบแทนจากการลงทุนครั้งนี้ คือ ได้เงินต้นทุนจำนวน 25 ล้านบาท ซึ่งเป็นค่าทุเรียน 250 กิโลกรัม กิโลกรัมละ 100 บาท คืน รวมกำไรผลตอบแทน จากการราคาตั้งขาย กิโลกรัมละ 103 บาท เป็นจำนวนเงิน 750,000 บาท
อย่างไรก็ดี ภายหลังจากที่ อคส. จ่ายเงินค่าทุเรียนให้กับ บริษัท ซื่อหยวนพาณิชย์ จำกัด ไปแล้ว จำนวน 25 ล้านบาท ปัจจุบัน อคส. ยังไม่ได้รับเงินค่าสินค้า 25 ล้านบาท บวกกำไร 750,000 บาท จาก บริษัท วรรัตน์ เฟรชฟรุ๊ต จำกัด แต่อย่างใด
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานไปแล้วว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้ อคส. ได้สรุปความเห็นให้แจ้งบอกเลิกสัญญาการซื้อขายทุเรียนกับ บริษัท วรรัตน์ เฟรชฟรุ๊ต จำกัด พร้อมเตรียมทำเรื่องฟ้องร้องดำเนินคดีเรียกค่าเสียหายจากบริษัทฯ จากกรณีไม่จ่ายเงินค่าทุเรียนจำนวน 25 ล้านบาท พร้อมกำไรจำนวน 750,000 บาท แล้ว ซึ่งจากการติดตามข้อมูลทราบว่า ตั้งแต่ทำสัญญาซื้อขายทุเรียนดังกล่าวจนถึงปัจจุบัน อคส.ได้รับชำระเงินค่าทุเรียนจากบริษัทเพียงแค่หลักแสนบาทไม่ถึงล้าน
ส่วนข้อมูลเกี่ยวกับสัญญาลงนามซื้อมาขายไปทุเรียนพันธุ์หมองทอง ทั้งในส่วน ของบริษัท วรรัตน์ เฟรชฟรุ๊ต จำกัด และบริษัท ซื่อหยวนพาณิชย์ จำกัด นั้น ตัวแทน อคส. ที่เป็นผู้ลงนามในสัญญาทั้ง 2 ฉบับ คือ พ.ต.อ.รุ่งโรจน์ พุทธิยาวัฒน์ ในฐานะรักษาการผู้อำนาจการ อคส.
ขณะที่ พ.ต.อ.รุ่งโรจน์ พุทธิยาวัฒน์ ให้สัมภาษณ์ชี้แจงสำนักข่าวอิศรา ว่า กรณีการเซ็นสัญญาจัดซื้อทุเรียนดังกล่าวนั้น ทางสำนักข่าวต้องไปถามกับนายเกียรติขจร แซ่ไต่ เพราะไม่ทราบรายละเอียดเลย ที่ผ่านมามีการแค่ส่งเอกสาร มีการประมวลเรื่องมาเซ็นก็เท่านั้น
“ตอนผมเซ็นงาน ก็ดูตามเอกสารหมายเลขหนึ่ง หมายเลขสอง ก็ว่ามันมีเอกสารแนบถูกต้อง ผมก็เซ็น ผู้ใต้บังคับบัญชาเขาก็เสนอขึ้นมาตามลำดับชั้นว่าเห็นควรลงนาม"
@ พ.ต.อ.รุ่งโรจน์ พุทธิยาวัฒน์
ส่วนนายเกียรติขจร แซ่ไต่ ในฐานะหัวหน้าส่วนงานการตรวจดิจิตอล รักษาการผู้อำนวยการสำนักขายและจัดจำหน่าย สำนักข่าวอิศรา ได้พยายามติดต่อขอสัมภาษณ์แล้ว แต่ยังติดต่อได้ แต่มีข้อมูลยืนยันเป็นเอกสารว่า นายเกียรติขจร แซ่ไต่ เป็นผู้ลงนามในหนังสือเพื่อขออนุมัติการดำเนินงานต่อ พ.ต.อ.รุ่งโรจน์ พุทธิยาวัฒน์ ทั้งการอนุมัติจัดซื้อและจำหน่ายทุเรียนให้กับเอกชน อนุมัติร่างสัญญาโดยยกร่างจากสัญญาซื้อขายข้าวสารที่ผ่านมาการตรวจจากสำนักงานอัยการสูงสุด (อสส.) ลงนามในหนังสือตกลง คำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจรับและจ่ายทุเรียนด้วย
@ เกียรติขจร แซ่ไต่
ต่อไปนี้ เป็นรายละเอียดให้สัญญาการซื้อมาขายไปทุเรียน ทั้งในส่วนของ บริษัท ซื่อหยวนพาณิชย์ จำกัด และ บริษัท วรรัตน์ เฟรชฟรุ๊ต จำกัด ฉบับเต็ม
ที่สำนักข่าวอิศรา ตรวจสอบพบล่าสุด
@สัญญาซื้อทุเรียนจากบริษัทซื่อหยวนพาณิชย์
ระบุรายละเอียดว่า สัญญาฉบับนี้ทําขึ้นที่ องค์การคลังสินค้า เลขที่ 563 ถนน นนทบุรี ตําบล บางกระสอ - อําเภอ เมืองนนทบุรี จังหวัด นนทบุรี เมื่อวันที่ 1 เดือน กันยายน พ.ศ. 2563 ระหว่าง องค์การคลังสินค้า โดย พันตํารวจเอกรุ่งโรจน์ พุทธิยาวัฒน์ ตําแหน่ง รักษาการแทนผู้อํานวยการองค์การคลังสินค้า ซึ่งต่อไปในสัญญานี้เรียกว่า “ผู้ซื้อ” ฝ่ายหนึ่งกับ บริษัท ซื่อหยวนพาณิชย์ จํากัด สํานักงานแห่งใหญ่ตั้งอยู่ เลขที่ 102/2 หมู่ 5 ตําบล/แขวง ทุ่งตะไคร อําเภอ/เขต ทุ่งตะโก จังหวัด ชุมพร โดย นางวิไลพร สรรพนุเคราะห์ กรรมการผู้มีอํานาจลงนามผูกพัน บริษัท ซื่อหยวนพาณิชย์ จํากัด ตามหนังสือรับรองของ สํานักงานทะเบียนหุ้นส่วนบริษัท จังหวัดชุมพร ที่ ชพ.001523ลงวันที่ 9 กันยายน 2563 แนบท้าย สัญญานี้ โดยมอบอํานาจให้ นายธีระพงษ์ ร่วมนาพะยา (ผู้รับมอบอํานาจ) ลงนามในสัญญาแทน ซึ่งต่อไปใน สัญญานี้ เรียกว่า “ผู้ขาย” อีกฝ่ายหนึ่ง คู่สัญญาทั้งสองฝ่ายได้ตกลงทําสัญญากันดังมีข้อความต่อไปนี้
ข้อ 1. ข้อตกลงซื้อขาย
ผู้ขายตกลงขายและผู้ซื้อตกลงซื้อทุเรียนพันธุ์หมอนทอง จํานวน รวมทั้งสิ้น 250,000 (สองแสนห้าหมื่น) กิโลกรัม หรือมีปริมาณลดลงไม่เกินร้อยละ 5 ของปริมาณตามสัญญา ในราคากิโลกรัมละ 100.00 (หนึ่งศูนย์ศูนย์จุดศูนย์ศูนย์) บาท มูลค่ารวมทั้งสิ้น 25,000,000.00 บาท (ยี่สิบห้าล้านบาทถ้วน)
ซึ่งผู้ขายจะต้องส่งมอบทุเรียนพันธุ์หมอนทอง ที่ซื้อขายตามวรรคแรก ณ คลังสินค้า บริษัท วรรัตน์ เฟรชฟรุ๊ต จํากัด ตั้งอยู่เลขที่ 49 หมู่ที่ 5 ตําบล/แขวง วังตะกอ อําเภอ/เขต หลังสวน จังหวัด ชุมพร โดยทุเรียนพันธุ์หมอนทองต้องมีคุณภาพตามเกณฑ์ที่แนบในท้ายสัญญาฉบับนี้ ตามรายละเอียด เอกสารแนบท้ายสัญญา หมายเลข 1 ซึ่งถือเป็นส่วนหนึ่งของสัญญานี้ด้วย
ข้อ 2. การส่งมอบ รับมอบ
ผู้ขายตกลงส่งมอบและผู้ซื้อตกลงรับมอบทุเรียนพันธุ์หมอนทองที่ตกลงซื้อขายทั้งหมด ที่เก็บรักษา ณ คลังสินค้า ตามข้อ 1. โดยผู้ซื้อจะชําระเงินค่าทุเรียนพันธุ์หมอนทองให้กับผู้ขาย โดยแบ่งชําระ เป็น 2 คราว คราวแรกจะชําระเงินค่าสินค้าหลังจากลงนามในสัญญาไม่เกิน 5 วันทําการ และชําระเงินคราว ที่สองให้กับผู้ขายเมื่อผู้ซื้อได้รับมอบทุเรียนพันธุ์หมอนทองเกินกว่ากึ่งหนึ่ง ของปริมาณที่ตกลงซื้อขายตาม สัญญา ข้อ 1.ทั้งนี้ ผู้ขายจะรับภาระค่าใช้จ่ายในการขนย้าย ค่าชั่งน้ําหนัก และค่าใช้จ่ายอื่นๆ ที่เกิดขึ้นจากการ ดําเนินการส่งมอบ และขนย้ายแต่เพียงฝ่ายเดียว โดยจะต้องส่งมอบให้เสร็จสิ้นภายในวันที่ 13 เดือน กันยายน พ.ศ. 2563
กรณีผู้ขายไม่สามารถส่งมอบทุเรียนพันธุ์หมอนทองแล้วเสร็จ ภายในระยะเวลาที่กําหนด ในสัญญา ผู้ซื้อสามารถเรียกเก็บชําระค่าปรับตามปริมาณคงเหลือที่ไม่สามารถส่งมอบ และขนย้ายได้ รวมทั้ง ค่าใช้จ่ายอื่นๆ ได้
ข้อ 3. การตรวจรับ
เมื่อผู้ขายส่งมอบทุเรียนพันธุ์หมอนทอง ผู้ซื้อหรือเจ้าหน้าที่ของผู้ซื้อหรือบริษัท ผู้ตรวจสอบสินค้าที่ผู้ซื้อแต่งตั้งโดยค่าใช้จ่ายของผู้ซื้อ จะตรวจรับทุเรียนพันธุ์หมอนทองที่ผู้ขายส่งมอบ และ ให้ถือว่าผู้ซื้อได้รับมอบข้าวโพดเลี้ยงสัตว์จากผู้ขายไว้ถูกต้องครบถ้วนแล้ว
การส่งมอบทุเรียนพันธุ์หมอนทองแต่ละคราว ให้จัดทําหลักฐานการส่งมอบและรับมอบ ทุเรียนพันธุ์หมอนทองตามแบบที่ผู้ซื้อกําหนด โดยคู่สัญญาทั้งสองฝ่ายหรือตัวแทนต้องลงลายมือชื่อเป็นลาย ลักษณ์อักษรในการชําระเงินให้ถือเอาน้ําหนักทุเรียนพันธุ์หมอนทองที่ได้จากการตรวจสอบร่วมกันระหว่าง ตัวแทนผู้ซื้อ และตัวแทนผู้ขายเป็นเกณฑ์การคํานวณเงินที่ต้องชําระ
ข้อ 4. การชําระเงิน
ผู้ซื้อตกลงชําระเงินค่าทุเรียนพันธุ์หมอนทองให้กับผู้ขายทั้งจํานวน ก่อนการรับมอบทุเรียนพันธุ์ หมอนทอง ตามปริมาณที่ตกลงซื้อขายตามสัญญา ข้อ 1. โดยชําระเป็นเซ็คสั่งจ่าย บริษัท ซื่อหยวนพาณิชย์ จํากัด
ข้อ 5. กรรมสิทธิ์
กรรมสิทธิ์ในทุเรียนพันธุ์หมอนทองที่ตกลงซื้อขายตามสัญญาข้อ 1. จะโอนไปยังผู้ซื้อ เฉพาะปริมาณทุเรียนพันธุ์หมอนทองที่ผู้ซื้อได้ชําระเงินเรียบร้อยแล้ว หากผู้ซื้อไม่มารับมอบและขนย้ายทุเรียน พันธุ์หมอนทองภายในกําหนดแต่ละงวด ตามสัญญาข้อ 2. วรรคสอง หากเกิดความเสียหายใดๆ ไม่ว่าปริมาณ หรือคุณภาพ หรือเสื่อมสลายตามสภาพไป เพราะระยะเวลาที่ผู้ซื้อไม่มารับมอบ ผู้ซื้อไม่ต้องรับผิดชอบใดๆ ทั้งสิ้น
ข้อ 6. หลักประกันการปฏิบัติตามสัญญา
ในขณะทําสัญญานี้ ผู้ขายได้นําหลักประกันตามใบเสร็จรับเงินขององค์การคลังสินค้าเลขที่ 6301003300 ลงวันที่ 2 กันยายน 2563 จํานวน 1,250,000.00 บาท (หนึ่งล้านสองแสนห้าหมื่นบาทถ้วน) ซึ่งคิดเป็นจํานวนร้อยละ 5 (ห้า) ของมูลค่าทุเรียนพันธุ์หมอนทองที่ซื้อขายตามสัญญาข้อ 1. มามอบให้ผู้ซื้อยึดถือไว้ เพื่อเป็นหลักประกันการปฏิบัติตามสัญญานี้
หากหลักประกันตามวรรคแรกลดน้อยลงไม่ว่าด้วยเหตุใด หรือคณะกรรมการว่าด้วยการพัสดุ (กวพ.) กําหนดแบบหนังสือค้ําประกันใหม่ที่แตกต่างจากหลักประกันตามวรรคแรกในสาระสําคัญ ผู้ซื้อต้องนํา หลักประกันมาเพิ่มเติมให้ครบถ้วน หรือนํามาเปลี่ยนให้ใหม่ตามที่ กวพ.กําหนดภายใน 15 (สิบห้า) วันทําการ นับแต่ได้รับหนังสือแจ้งจากผู้ขาย - หลักประกันที่ผู้ขายนํามามอบให้ตามความในสองวรรคก่อน ผู้ซื้อจะคืนให้โดยไม่มีดอกเบี้ย เมื่อผู้ขายพ้นจากข้อผูกพันทั้งปวงตามสัญญาแล้ว
ข้อ 7. การบอกเลิกสัญญา
ถ้าผู้ขายไม่ส่งมอบทุเรียนพันธุ์หมอนทอง หรือส่งมอบทุเรียนพันธุ์หมอนทอง ไม่ครบจํานวน ตามระยะเวลาที่กําหนดในสัญญาข้อ 2. หรือปฏิบัติผิดสัญญาข้อหนึ่งข้อใด ผู้ซื้อมีสิทธิบอกเลิกสัญญาทั้งหมด หรือเฉพาะส่วนทุเรียนพันธุ์หมอนทองที่ยังไม่ได้ชําระราคาและไม่ได้รับมอบขนย้าย
และริบหลักประกันตามสัญญาข้อ 5. ตามสัดส่วนทุเรียนพันธุ์หมอนทองที่ยังไม่ได้ ส่งมอบหรือริบหลักประกันทั้งหมดก็ได้แล้วแต่ผู้ซื้อจะเห็นสมควร หรือริบเพื่อนํามาชําระค่าปรับและ ค่าเสียหายหรือหนี้ใดๆ ที่ผู้ขายจะต้องรับผิดชอบ
ข้อ 8. ค่าปรับและค่าเสียหาย
กรณีผู้ขายไม่สามารถส่งมอบทุเรียนพันธุ์หมอนทองครบถ้วนภายในระยะเวลาที่กําหนดตาม - สัญญาข้อ 2. วรรคแรก ผู้ขายจะต้องชําระค่าปรับ และชําระค่าใช้จ่ายในการเก็บรักษาและค่าใช้จ่ายอื่นๆ ที่ เกิดขึ้น
กรณีที่ผู้ขายไม่สามารถส่งมอบทุเรียนพันธุ์หมอนทองให้แล้วเสร็จภายในระยะเวลาที่กําหนด ตามสัญญาข้อ 2. วรรคแรก และผู้ซื้อยังมิได้ใช้สิทธิบอกเลิกสัญญาตามข้อ 7. ผู้ขายจะต้องชําระค่าปรับให้ผู้ซื้อ ในอัตราร้อยละ 7.5 (เจ็ดจุดห้า) ต่อปี ของมูลค่าทุเรียนพันธุ์หมอนทองที่ยังไม่ได้ ส่งมอบ นับแต่วันล่วงเลย กําหนดส่งมอบทุเรียนพันธุ์หมอนทองตามสัญญา จนถึงวันที่ผู้ขายส่งมอบทุเรียนพันธุ์หมอนทองไปจนครบถ้วน
หากผู้ซื้อใช้สิทธิบอกเลิกสัญญา โดยบอกกล่าวล่วงหน้าไม่น้อยกว่า 30 (สามสิบ) วัน ผู้ขายยังต้องชําระค่าเสียหายเป็นค่าปรับในอัตราร้อยละ 25 (ยี่สิบห้า) ของมูลค่าปริมาณทุเรียนพันธุ์ หมอนทอง ที่ยังไม่ได้ส่งมอบอีกส่วนหนึ่งด้วย
ข้อ 9. การขอขยายเวลารับมอบ
ในกรณีที่มีเหตุสุดวิสัย หรือเหตุจากพฤติการณ์อันใดอันหนึ่ง ซึ่งผู้ขายไม่ต้องรับผิดชอบตาม กฎหมาย เป็นเหตุให้ผู้ขายไม่สามารถส่งมอบและขนย้ายทุเรียนพันธุ์หมอนทองได้ ตามเงื่อนไขและ
กําหนดเวลาแห่งสัญญานี้ ผู้ขายมีสิทธิขอขยายเวลาขนย้ายตามสัญญาได้ โดยจะแจ้งเหตุ หรือพฤติการณ์ดังกล่าวพร้อมหลักฐานเป็นลายลักษณ์อักษรให้ผู้ซื้อทราบภายใน 15 (สิบห้า) วัน นับแต่วันที่เหตุนั้นสิ้นสุดลง
ถ้าผู้ขายไม่ปฏิบัติให้เป็นไปตามความในวรรคแรกให้ถือว่าผู้ชายได้สละสิทธิเรียกร้องในการที่ จะขอขยายเวลาส่งมอบตามสัญญา หรือของดหรือลดค่าปรับโดยไม่มีเงื่อนไขใดๆทั้งสิ้น เว้นแต่กรณีเหตุเกิด จากความผิดหรือความบกพร่องของผู้ซื้อ ซึ่งมีหลักฐานชัดแจ้งหรือผู้ซื้อทราบดีอยู่แล้วตั้งแต่ต้น
การขยายเวลาทําการตามสัญญาหรือของดหรือลดค่าปรับตามวรรคแรกอยู่ในดุลพินิจของ ผู้ซื้อที่จะพิจารณา
ข้อ 10. ข้อตกลงไม่ต้องรับผิด
หากผู้ซื้อรับมอบทุเรียนพันธุ์หมอนทองจากผู้ขายในจํานวนน้อยกว่าที่กําหนดไว้ในสัญญานี้ ผู้ขายจะไม่สามารถเรียกชําระราคาตามส่วน โดยไม่ถือว่าผู้ซื้อปฏิบัติผิดสัญญาและผู้ขายไม่มีสิทธิเรียกร้อง ค่าเสียหายใดๆ จากผู้ซื้อทั้งสิ้น
สัญญานี้ทําขึ้นสองฉบับ มีข้อความถูกต้องตรงกัน คู่สัญญาได้อ่านและเข้าใจข้อความโดย ตลอดแล้ว จึงได้ลงลายมือชื่อและประทับตรา (หากมี) ต่อหน้าพยานข้างท้ายนี้ เป็นสําคัญ และต่างฝ่ายต่าง ยึดถือไว้คนละฉบับ
โดยสัญญาฉบับนี้นั้นมีผู้ลงนามด้วยกัน 4 บุคคลคือ
1.พันตํารวจเอก รุ่งโรจน์ พุทธิยาวัฒน์ ผู้ซื้อ
.2.นายธีระพงษ์ ร่วมนาพะยา ผู้ขาย
3.นายเกียรติขจร แซ่ใต่ พยาน
และ 4.นางขวัญฤทัย เทพพิทักษ์ พยาน (ดูสัญญาประกอบ)
@สัญญาขายทุเรียนให้กับบริษัท วรรัตน์ เฟรชฟรุ๊ต จํากัด
สัญญาฉบับนี้ทําขึ้นที่ องค์การคลังสินค้า เลขที่ 563 ถนน นนทบุรี ตําบล บางกระสอ อําเภอ เมืองนนทบุรี จังหวัด นนทบุรี เมื่อวันที่ 8 เดือน กันยายน พ.ศ. 2563 ระหว่าง องค์การคลังสินค้า โดย พันตํารวจเอกรุ่งโรจน์ พุทธิยาวัฒน์ ตําแหน่ง รักษาการแทนผู้อํานวยการองค์การ คลังสินค้า ซึ่งต่อไปในสัญญานี้เรียกว่า “ผู้ขาย ฝ่ายหนึ่งกับ บริษัท วรรัตน์ เฟรชฟรุต จํากัด สํานักงานแห่ง ใหญ่ตั้งอยู่เลขที่ 89 หมู่ที่ 5 ตําบล/แขวง วังตะกอ อําเภอ/เขต หลังสวน จังหวัด ชุมพร โดย นางจันทิพย์ ริยะวงค์ กรรมการผู้มีอํานาจลงนามผูกพัน บริษัท /ห้างหุ้นส่วน บริษัท วรรัตน์ เฟรชฟรุ๊ต จํากัด ตามหนังสือรับรองของสํานักงานทะเบียนหุ้นส่วนบริษัทจังหวัดชุมพร กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ เลขที่ ชพ.001306 ลงวันที่ 4 สิงหาคม 2563 แนบท้ายสัญญานี้ ซึ่งต่อไปในสัญญานี้ เรียกว่า “ผู้ซื้อ” อีกฝ่ายหนึ่ง คู่สัญญาทั้งสองฝ่ายได้ตกลงทําสัญญากันดังมีข้อความต่อไปนี้
ข้อ 1. ข้อตกลงซื้อขาย
ผู้ขายตกลงขายและผู้ซื้อตกลงซื้อทุเรียนพันธุ์หมอนทอง จํานวนรวมทั้งสิ้น 250,000 (สองแสนห้าหมื่น) กิโลกรัม ในราคากิโลกรัมละ 103.00 (หนึ่งร้อยสามจุดศูนย์ศูนย์) บาท มูลค่ารวม ทั้งสิ้น 25,750,000.00 บาท (ยี่สิบห้าล้านเจ็ดแสนห้าหมื่นบาทถ้วน)
ทุเรียนพันธุ์หมอนทองที่ซื้อขายตามวรรคแรก เก็บรักษาไว้ ณ คลังสินค้าคลังสินค้า บริษัท วรรัตน์ เฟรชฟรุ๊ต จํากัด ตั้งอยู่เลขที่ 89 หมู่ที่ 5 ตําบล/แขวง วังตะกอ อําเภอ/เขต หลังสวน จังหวัด ชุมพร
ผู้ซื้อได้ตรวจสอบทุเรียนพันธุ์หมอนทองที่ซื้อขายตามวรรคแรก ณ คลังสินค้าที่เก็บรักษา ตามวรรคสอง และยอมรับคุณภาพของทุเรียนพันธุ์หมอนทองที่ซื้อขายตามสภาพที่เป็นอยู่โดยไม่มีข้อโต้แย้ง
ข้อ 2. การส่งมอบ รับมอบ
ผู้ขายตกลงส่งมอบและผู้ซื้อตกลงรับมอบทุเรียนพันธุ์หมอนทองที่ตกลงซื้อขายทั้งหมดตาม สภาพที่เป็นอยู่ที่เก็บรักษา ณ คลังสินค้า ตามข้อ 2. โดยผู้ซื้อต้องชําระเงินค่าทุเรียนพันธุ์หมอนทองภายใน 90 วัน นับจากวันที่รับมอบและขนย้ายทุเรียนพันธุ์หมอนทองในแต่ละคราว และต้องชําระเงินและขนย้าย ทุเรียนพันธุ์หมอนทอง ที่ตกลงซื้อขายตามสัญญา ข้อ 1. ทั้งหมด ให้เสร็จสิ้นภายในวันที่ออเดือน กันยายน พ.ศ. 2563 ทั้งนี้ผู้ซื้อต้องเป็นผู้รับภาระค่าใช้จ่ายในการขนย้าย ค่าชั่งน้ําหนักและค่าใช้จ่ายอื่นๆ ที่เกิดขึ้น จากการดาเนินการรับมอบ และขนย้ายแต่เพียงฝ่ายเดียว
กรณีผู้ซื้อรับมอบและขนย้ายไม่แล้วเสร็จ ภายในระยะเวลาที่กําหนดในสัญญา ผู้ซื้อจะต้อง ชําระค่าปรับและค่าใช้จ่ายในการเก็บรักษาตามปริมาณคงเหลือที่ไม่สามารถรับมอบและขนย้ายได้ รวมทั้ง ค่าใช้จ่ายอื่นๆ แล้วแต่กรณี นับถัดจากวันครบกําหนดระยะเวลารับมอบและขนย้ายตามสัญญาจนถึงวันที่ผู้ซื้อ ได้ทําการรับมอบและขนย้ายข้าวสารไปจนครบถ้วน
หากการไม่รับมอบและขนย้ายทุเรียนพันธุ์หมอนทองของผู้ซื้อเป็นการล่วงเลยกําหนดระยะเวลา ตามวรรคแรกจนเนิ่นนานเกินควร และเป็นการก่อภาระแก่ผู้ขายหรืออาจก่อให้เกิดความเสียหายใดๆ ขึ้นได้ ไม่ว่าผู้ขายจะบอกเลิกสัญญาหรือไม่ก็ตาม ผู้ขายอาจมีตุลพินิจดําเนินการอย่างใดอย่างหนึ่งตามความจําเป็น เพื่อบรรเทาภาระและความเสียหายดังกล่าว โดยผู้ซื้อยังคงต้องรับผิดชอบในค่าใช้จ่ายทั้งปวง และความ เสียหายที่เกิดขึ้นทั้งสิ้นจากเหตุที่ไม่รับมอบและขนย้ายทุเรียนพันธุ์หมอนทองของผู้ซื้อตามสัญญา การ ดําเนินการดังกล่าวนี้ไม่ตัดสิทธิผู้ขายในการใช้สิทธิและเรียกค่าเสียหายตามข้อ 2. วรรคสอง
ข้อ 3. การตรวจรับ
เมื่อผู้ขายส่งมอบทุเรียนพันธุ์หมอนทอง ผู้ซื้อหรือเจ้าหน้าที่ของผู้ซื้อหรือบริษัทผู้ตรวจสอบ สินค้าที่ผู้ซื้อแต่งตั้งโดยค่าใช้จ่ายของผู้ซื้อ จะต้องตรวจรับทุเรียนพันธุ์หมอนทองที่ผู้ขายส่งมอบทันทีให้เสร็จ สิ้นภายในวันที่ผู้ขายส่งมอบ และให้ถือว่าผู้ซื้อได้รับมอบทุเรียนพันธุ์หมอนทองจากผู้ขายไว้ถูกต้องครบถ้วนแล้ว
การส่งมอบทุเรียนพันธุ์หมอนทองแต่ละคราว ให้จัดทําหลักฐานการส่งมอบและรับมอบ ทุเรียนพันธุ์หมอนทองตามแบบที่ผู้ขายกําหนด โดยคู่สัญญาทั้งสองฝ่ายหรือตัวแทนต้องลงลายมือชื่อเป็น ลายลักษณ์อักษรในการชําระเงินให้ถือเอาน้ําหนักทุเรียนพันธุ์หมอนทองที่ได้จากการตรวจสอบร่วมกัน ระหว่างตัวแทนผู้ซื้อ และตัวแทนผู้ขายเป็นเกณฑ์การคํานวณเงินที่ต้องชําระ
ข้อ 4. การชําระเงิน
ผู้ซื้อตกลงชําระเงินค่าทุเรียนพันธุ์หมอนทองตามสัญญาข้อ 1. ให้แก่ผู้ขายเป็นงวด ในแต่ละคราว โดยชําระเป็นเงินสด หรือเช็คที่ธนาคารสั่งจ่าย (Cashier's Cheque) ที่ออกโดยธนาคารที่ตั้งอยู่ ในเขตกรุงเทพมหานคร สั่งจ่ายองค์การคลังสินค้า ทั้งนี้ผู้ซื้อจะต้องชําระเงินค่าทุเรียนพันธุ์หมอนทองภายใน 90วัน นับจากวันที่รับมอบและขนย้ายทุเรียนพันธุ์หมอนทองในแต่ละคราว โดยจะต้องรับมอบทุเรียนพันธุ์ หมอนทองและชําระเงินค่าชําระเงินค่าทุเรียนพันธุ์หมอนทองในคราวแรกภายใน 90 (เก้าสิบ) วันทําการ นับแต่ วันที่ลงนามในสัญญาซื้อขาย หากผู้ซื้อไม่ชําระเงินค่าชําระเงินค่าทุเรียนพันธุ์หมอนทองภายใน 90 วัน นับจาก วันที่รับมอบและขนย้ายทุเรียนพันธุ์หมอนทองในแต่ละคราวหรือชําระไม่ครบถ้วนภายในกําหนดเวลาดังกล่าว จะถูกริบหลักประกันตามข้อ 6.
ข้อ 5. กรรมสิทธิ์
กรรมสิทธิ์ในทุเรียนพันธุ์หมอนทองที่ตกลงซื้อขายตามสัญญาข้อ 1. จะโอนไปยังผู้ซื้อ เฉพาะปริมาณทุเรียนพันธุ์หมอนทองที่ผู้ซื้อได้ชําระเงินเรียบร้อยแล้ว หากผู้ซื้อไม่มารับมอบและขนย้ายทุเรียน พันธุ์หมอนทองภายในกําหนดแต่ละงวด ตามสัญญาข้อ 2. วรรคสอง หากเกิดความเสียหายใดๆ ไม่ว่าปริมาณ หรือคุณภาพ หรือเสื่อมสลายตามสภาพไป เพราะระยะเวลาที่ผู้ซื้อไม่มารับมอบ ผู้ขายจะไม่รับผิดชอบใดๆทั้งสิ้น
ข้อ 6. หลักประกันการปฏิบัติตามสัญญา
ผู้ซื้อจําต้องนําหลักประกันเป็นเงินสด หรือแคชเชียร์เช็ต หรือหนังสือค้ำประกันธนาคาร หรือทรัพย์สินในวงเงินไม่น้อย 25,000,000.00บาท (ยี่สิบห้าล้านบาทถ้วน) ซึ่งเท่ากับมูลค่าของทุเรียนพันธุ์ หมอนทองที่ตกลงซื้อในข้อ 1 ตามสัญญานี้ มามอบให้แก่ผู้ซื้อภายใน 7 วันทําการนับแต่วันที่ทําสัญญา เพื่อเป็นหลักประกันการปฏิบัติตามสัญญานี้
หากหลักประกันตามวรรคแรกลดน้อยลงไม่ว่าด้วยเหตุใด หรือคณะกรรมการว่าด้วยการพัสดุ (กวพ.) กําหนดแบบหนังสือค้ำประกันใหม่ที่แตกต่างจากหลักประกันตามวรรคแรกในสาระสําคัญ ผู้ซื้อต้องนำหลักประกันมาเพิ่มเติมให้ครบถ้วน หรือนํามาเปลี่ยนให้ใหม่ตามที่ กวพ.กําหนดภายใน 15 (สิบห้า) วันทําการ นับแต่ได้รับหนังสือแจ้งจากผู้ขาย
หลักประกันที่ผู้ซื้อนํามามอบให้ตามความในสองวรรคก่อน ผู้ขายจะคืนให้โดยไม่มีดอกเบี้ย เมื่อผู้ซื้อพ้นจากข้อผูกพันทั้งปวงตามสัญญาแล้ว
ข้อ 7. การบอกเลิกสัญญา
ถ้าผู้ซื้อไม่รับมอบและขนย้ายทุเรียนพันธุ์หมอนทอง หรือรับมอบและขนย้ายทุเรียนพันธุ์ หมอนทอง ไม่ครบจํานวนตามระยะเวลาที่กําหนดในสัญญาข้อ 2. หรือปฏิบัติผิดสัญญาข้อหนึ่งข้อใด ผู้ขายมี สิทธิบอกเลิกสัญญาทั้งหมดหรือเฉพาะส่วนทุเรียนพันธุ์หมอนทองที่ยังไม่ได้ชําระราคาและไม่ได้รับมอบขนย้าย
และริบหลักประกันตามสัญญาข้อ 5. ตามสัดส่วนทุเรียนพันธุ์หมอนทองที่ยังไม่ได้รับมอบ และขนย้าย หรือริบหลักประกันทั้งหมดก็ได้แล้วแต่ผู้ขายจะเห็นสมควร หรือริบเพื่อนํามาชําระค่าปรับและ ค่าเสียหายหรือหนี้ใดๆ ที่ผู้ซื้อจะต้องรับผิดชอบ
ไม่ว่าเป็นกรณีที่ผู้ขายบอกเลิกสัญญาหรือไม่ก็ตาม ถ้าผู้ขายได้นําทุเรียนพันธุ์หมอนทอง ตามสัญญาข้อ 1. เฉพาะส่วนที่ผู้ซื้อไม่ชําระราคาและไม่รับมอบขนย้ายไปขายให้แก่บุคคลอื่น หากได้ราคา ต่ํากว่าราคาซื้อขายตามสัญญานี้ ผู้ซื้อยินยอมรับผิดชดใช้เงินส่วนต่างระหว่างราคาขายตามสัญญานี้กับราคา
ขายให้แก่บุคคลอื่นทั้งสิ้น และผู้ขายยังอาจใช้สิทธิบังคับเอากับหลักประกันตามสัญญาข้อ 6. ได้ด้วย
ข้อ 8. ค่าปรับและค่าเสียหาย
กรณีผู้ซื้อชําระเงินค่าทุเรียนพันธุ์หมอนทองครบถ้วนภายในระยะเวลาที่กําหนดตามสัญญา ข้อ 2. วรรคแรก แต่ยังรับมอบและขนย้ายไม่แล้วเสร็จภายในระยะเวลาสิ้นสุดของสัญญา ผู้ซื้อไม่ต้องชําระ ค่าปรับ แต่ต้องชําระค่าใช้จ่ายในการเก็บรักษาและค่าใช้จ่ายอื่นๆ ที่เกิดขึ้นตามสัญญาข้อ 2. วรรคสาม
กรณีที่ผู้ซื้อไม่ชําระเงินและขนย้ายทุเรียนพันธุ์หมอนทองให้แล้วเสร็จภายในระยะเวลาที่ กําหนดตามสัญญาข้อ 2. วรรคแรก และผู้ขายยังมิได้ใช้สิทธิบอกเลิกสัญญาตามข้อ 3. ผู้ซื้อจะต้องชําระ ค่าปรับให้ผู้ขายในอัตราร้อยละ 7.5 (เจ็ดจุดห้า) ต่อปี ของมูลค่าทุเรียนพันธุ์หมอนทองที่ยังไม่ได้รับมอบและ ชนย้าย นับแต่วันล่วงเลยกําหนดรับมอบและขนย้ายทุเรียนพันธุ์หมอนทองตามสัญญา จนถึงวันที่ผู้ซื้อรับมอบ และขนย้ายทุเรียนพันธุ์หมอนทองไปจนครบถ้วน และจะต้องชําระค่าใช้จ่ายในการเก็บรักษาทุเรียนพันธุ์ หมอนทอง และค่าใช้จ่ายอื่นๆ ทั้งหมดที่เกิดขึ้นตามสัญญาข้อ 2. วรรคสี รวมทั้งค่าเสียหายที่มี
หากผู้ขายใช้สิทธิบอกเลิกสัญญา โดยบอกกล่าวล่วงหน้าไม่น้อยกว่า 30 (สามสิบ) วัน ผู้ซื้อยังต้องชําระค่าเสียหายเป็นค่าปรับในอัตราร้อยละ 25 (ยี่สิบห้า ของมูลค่าปริมาณทุเรียนพันธุ์หมอนทอง ที่ยังไม่ได้รับมอบและขนย้ายอีกส่วนหนึ่งด้วย
ข้อ 9. การขอขยายเวลารับมอบ
ในกรณีที่มีเหตุสุดวิสัย หรือเหตุจากพฤติการณ์อันใดอันหนึ่ง ซึ่งผู้ซื้อไม่ต้องรับผิดชอบตาม กฎหมาย เป็นเหตุให้ผู้ซื้อไม่สามารถรับมอบและขนย้ายทุเรียนพันธุ์หมอนทองได้ ตามเงื่อนไขและ กําหนดเวลาแห่งสัญญานี้ ผู้ซื้อมีสิทธิขอขยายเวลาขนย้ายตามสัญญาหรือของดหรือลดค่าปรับตามข้อ 8 ได้ โดยจะต้องแจ้งเหตุ หรือพฤติการณ์ดังกล่าว พร้อมหลักฐานเป็นลายลักษณ์อักษรให้ผู้ขายทราบภายใน 15 (สิบห้า) วัน นับแต่วันที่เหตุนั้นสิ้นสุดลง
ถ้าผู้ซื้อไม่ปฏิบัติให้เป็นไปตามความในวรรคแรกให้ถือว่าผู้ซื้อได้สละสิทธิเรียกร้องในการที่ จะขอขยายเวลาขนย้ายตามสัญญา หรือของดหรือลดค่าปรับโดยไม่มีเงื่อนไขใดๆทั้งสิ้น เว้นแต่กรณีเหตุเกิด จากความผิดหรือความบกพร่องของผู้ขาย ซึ่งมีหลักฐานชัดแจ้งหรือผู้ขายทราบดีอยู่แล้วตั้งแต่ต้น
การขยายเวลาทําการตามสัญญาหรือของดหรือลดค่าปรับตามวรรคแรกอยู่ในดุลพินิจของ ผู้ขายที่จะพิจารณา
ข้อ 10. ข้อตกลงไม่ต้องรับผิด
หากผู้ขายส่งมอบทุเรียนพันธุ์หมอนทองให้แก่ผู้ซื้อได้จํานวนน้อยกว่าที่กําหนดไว้ในสัญญานี้ ผู้ซื้อจะชําระราคาตามส่วน โดยไม่ถือว่าผู้ชายปฏิบัติผิดสัญญาและผู้ซื้อไม่มีสิทธิเรียกร้องค่าเสียหายใดๆ จาก ผู้ขายทั้งสิ้น
สัญญานี้ทําขึ้นสองฉบับ มีข้อความถูกต้องตรงกัน คู่สัญญาได้อ่านและเข้าใจข้อความโดย ตลอดแล้ว จึงได้ลงลายมือชื่อและประทับตรา (หากมี) ต่อหน้าพยานข้างท้ายนี้ เป็นสําคัญ และต่างฝ่ายต่าง ยึดถือไว้คนละฉบับ
โดยสัญญาฉบับนี้นั้นมีผู้ลงนามด้วยกัน 4 บุคคลคือ
1.พันตํารวจเอก รุ่งโรจน์ พุทธิยาวัฒน์ ผู้ขาย
.2.นางจันทิพย์ ริยะวงศ์ ผู้ซื้อ
3.นายเกียรติขจร แซ่ใต่ พยาน
และ 4.นางขวัญฤทัย เทพพิทักษ์ พยาน (ดูเอกสารสัญญาประกอบ)
สำหรับเงื่อนปมในคดีนี้ ณ ปัจจุบัน สำนักข่าวอิศรา สามารถสรุปประเด็นสำคัญได้ดังต่อไปนี้ คือ
หนึ่ง.
ในช่วงเดือนมีนาคม 2563 บริษัท วรรัตน์ เฟรชฟรุ๊ต จำกัด ได้ทำหนังสือแจ้งขอให้ อคส. เสนอราคาจำหน่ายทุเรียนพันธุ์หมอนทอง จำนวน 250 ตัน เพื่อใช้ส่งออกไปยังตลาดคู่ค้าของบริษัทในประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน
เบื้องต้น อคส. ได้ตรวจสอบข้อมูลทุเรียนพันธุ์หมอนทอง ที่บริษัท วรรัตน์ เฟรชฟรุ๊ต จำกัด ต้องการรับซื้อ แต่ไม่มีในสต็อกของ อคส.
อคส. จึงได้ดำเนินการจัดทำหนังสือเชิญชวน ผู้มีอาชีพรวบรวมและจำหน่ายทุเรียนพันธุ์หมอนทอง จำนวน 3 ราย ให้เสนอราคาจำหน่ายทุเรียนพันธุ์หมอนทองให้กับ อคส.
ปรากฎว่า บริษัท ซื่อหยวนพาณิชย์ จำกัด เสนอราคาต่ำสุด
อคส. จึงตกลงเลือกบริษัท ซื่อหยวนพาณิชย์ จำกัด ในการรับซื้อสินค้าทุเรียน เพื่อนำไปขายต่อให้กับ บริษัท วรรัตน์ เฟรชฟรุ๊ต จำกัด
โดย อคส. ตั้งราคาจำหน่ายต้นทุนซื้อราคากิโลกรัมละ 100 บาท คิดอัตราผลตอบแทนในอัตราร้อยละ 3 ของต้นทุนซื้อ คิดเป็นราคาที่เสนอขายให้กับ บริษัท วรรัตน์ เฟรชฟรุ๊ต จำกัด กิโลกรัมละ 103 บาท รวมค่าขนส่งถึงปลายทาง ซึ่ง อคส.จะได้เงินตอบแทนจากการลงทุนครั้งนี้ คือ ได้เงินต้นทุนจำนวน 25 ล้านบาท ซึ่งเป็นค่าทุเรียน 250 กิโลกรัม กิโลกรัมละ 100 บาท คืน รวมกำไรผลตอบแทน จากการราคาตั้งขาย กิโลกรัมละ 103 บาท เป็นจำนวนเงิน 750,000 บาท
สอง.
มีข้อเท็จจริงปรากฎว่า หลังจากที่ อคส. จ่ายเงินค่าทุเรียนให้กับ บริษัท ซื่อหยวนพาณิชย์ จำกัด ไปแล้ว จำนวน 25 ล้านบาท ปัจจุบัน อคส. ยังไม่ได้รับเงินค่าสินค้า 25 ล้านบาท บวกกำไร 750,000 บาท จาก บริษัท วรรัตน์ เฟรชฟรุ๊ต จำกัด แต่อย่างใด
ล่าสุดมีการยืนยันข้อมูลว่า อคส. ได้เงินแค่มาแค่หลัก 8 แสนบาท มีปัญหาเรื่องการวางเงินค้ำประกันสัญญาด้วย และมีการบอกสัญญาสัญญา พร้อมเตรียมแจ้งความฟ้องร้องดำเนินคดีกับบริษัทฯ
สาม.
เมื่อสำนักข่าวอิศรา ตรวจสอบข้อมูลการจดทะเบียนจัดตั้งบริษัท ซื่อหยวนพาณิชย์ จำกัด และ บริษัท วรรัตน์ เฟรชฟรุ๊ต จำกัด พบว่าเป็นเอกชนกลุ่มเดียวกัน
โดย นาง จันทิพย์ ริยะวงค์ ปรากฎชื่อเป็นกรรมการและผู้ถือหุ้นทั้ง 2 บริษัท
สี่
สำนักข่าวอิศรา ยังตรวจสอบพบว่าในขั้นตอนการจัดซื้อทุเรียนพันธุ์หมอนทองของ อคส. จาก บริษัท ซื่อหยวนพาณิชย์ จำกัด เพื่อนำไปขายต่อให้กับ บริษัท วรรัตน์ เฟรชฟรุ๊ต จำกัด นั้น
อคส. ได้ดำเนินการจัดทำหนังสือเชิญชวน ผู้มีอาชีพรวบรวมและจำหน่ายทุเรียนพันธุ์หมอนทอง จำนวน 3 ราย ให้เสนอราคาจำหน่ายทุเรียนพันธุ์หมอนทองให้
โดยเอกชน 3 ราย คือ บริษัท ซื่อหยวนพาณิชย์ จำกัด บริษัท โกลเด้นฟินิกซ์ จำกัด และ บริษัทลีโรจน์นนท์ จำกัด
เมื่อตรวจสอบข้อมูลเชิงลึกพบว่า บริษัทลีโรจน์นนท์ จำกัด ก็เป็นเอกชนกลุ่มเดียวกันกับ บริษัท วรรัตน์ เฟรชฟรุ๊ต จำกัด และบริษัท ซื่อหยวนพาณิชย์ จำกัด (ดูข้อมูลประกอบ)
ทั้งนี้ จากข้อมูลทั้งหมด สำนักข่าวอิศรา เห็นว่า มีเงื่อนปมพิรุธสำคัญอยู่ 5 ประการ คือ
1. ในเมื่อ บริษัท วรรัตน์ เฟรชฟรุ๊ต จำกัด เป็นเอกชนกลุ่มเดียวกับ บริษัท ซื่อหยวนพาณิชย์ จำกัด ซึ่งมีทุเรียนอยู่ในมือ อยู่แล้ว ทำไมจะต้องมาติดต่อมาเสนอให้ อคส. จัดหาทุเรียนและกินส่วนแบ่งกำไร 3 บาท จากการขายในราคา 103 บาทต่อกิโลกรัมดังกล่าว (ต้นทุน 100 กิโลกรัม บวกกำไรที่อคส.จะได้รับ 3 บาท)
ขณะที่ บริษัทลีโรจน์นนท์ จำกัด คู่เทียบการเสนอราคาก็เป็นเอกชนกลุ่มเดียวกันด้วย
2. การดำเนินการลักษณะนี้ ของ อคส. เป็นไปตามระเบียบกฎหมายหรือไม่
3. สัญญาการซื้อขายทุเรียน ระหว่าง อคส. กับ บริษัท ซื่อหยวนพาณิชย์ จำกัด วงเงิน 25 ล้านบาท เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 1 ก.ย.2563 ตามสัญญาเลขที่ อคส.ทร.363/2563 เกิดขึ้นหลังการลงนามในสัญญาซื้อขายถุงมือยาง 112,500 ล้านบาท ของ อคส. ที่กำลังอยู่ระหว่างการสอบสวนของกระทรวงพาณิชย์ และสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ในวันที่ 31 ส.ค.2563 เพียง 1 วันเท่านั้น
นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ที่ผู้เกี่ยวข้องกับการทำบันทึกขออนุมัติการดำเนินงานเพื่อลงนามในสัญญา บางรายก็เป็นบุคคลกลุ่มเดียวกันกับที่ดำเนินงานโครงการซื้อขายถุงมือยาง 112,500 ล้านบาท ของ อคส. ด้วย
ส่วนรูปแบบสัญญา ก็มีการอ้างใช้แบบสัญญาซื้อขายข้าว ที่ผ่านการตรวจสอบจากอัยการสูงสุดมาใช้เหมือนกรณีการทำสัญญาซื้อขายถุงมือยางด้วย
4. สำนักข่าวอิศรา ได้รับการยืนยันข้อมูลจากแหล่งข่าวว่า จุดเริ่มต้นในการดำเนินงานโครงการทุเรียน ถูกระบุว่า มีนักการเมืองในภาคใต้ มาติดต่อกับผู้บริหารระดับสูงของ อคส. ให้ช่วยดำเนินงานโครงการฯ นี้ให้หน่อย ผู้บริหารฯ รายนี้ จึงได้สั่งการให้ เจ้าหน้าที่กลุ่มเดียวกับที่ดำเนินงานโครงการถุงมือยางเข้ามารับผิดชอบเรื่องนี้ด้วย
ปัจจุบันสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) อยู่ระหว่างการตรวจสอบเรื่องนี้ โดยมีการเรียกเอกสารหลักฐานที่เกี่ยวข้องมาหมดแล้ว เหลือแค่รอสอบปากคำผู้เกี่ยวข้อง ขณะที่ อคส. ได้มีการแต่งตั้งคณะกรรมการขึ้นมาสอบสวนเรื่องนี้แล้วเช่นกัน
ผลเป็นอย่างไร คงต้องติดตามดูกันต่อไป
อย่างไรก็ดี กรณีนี้ ยังไม่ได้มีการชี้มูลความผิดจากหน่วยงานตรวจสอบแห่งใด ผู้เกี่ยวข้องทุกคนรวมถึงเอกชนทุกราย ยังถือว่าเป็นผู้บริสุทธิ์อยู่
อ่านประกอบ กรณีการจัดซื้อทุเรียนและข้าวโพดเลี้ยงสัตว์
- โมเดลเดียวถุงมือยาง! สตง.แจ้งเปิดสอบสัญญาซื้อขายทุเรียน อคส. 25 ล้าน (1)
- ล้วงหนังสือ สตง.แจ้งเปิดสอบสัญญาซื้อขายทุเรียน อคส. 25 ล.-ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์โดนด้วย (2)
- ผู้ว่าฯ สตง.ยันลุยสอบสัญญาทุเรียน อคส. 25 ล้านจริง - คนใน พณ.แฉพฤติการณ์ชัดว่าถุงมือยาง (3)
- พฤติการณ์! สัญญาทุเรียน 25 ล้าน อคส.ซื้อมา-ขายไป เอกชนกลุ่มเดียวกัน (4)
- โชว์หลักฐาน 2 เอกชนกลุ่มเดียวกัน อคส. ทำสัญญาทุเรียน ซื้อมา-ขายไป 25 ล้าน (5)
- ขมวดปม 'อคส.' ซื้อทุเรียนฉาว 25 ล. 'จนท.' ผู้รับผิดชอบกลุ่มเดียวถุงมือยางแสนล้าน (6)
- ถึงคิว! เจาะ 'ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์' อคส. ซื้อมา-ขายไป 2 บ.นครปฐม เพียบ 11 ส. 248 ล้าน (7)
- พบหลักฐาน ผู้ถือหุ้น 2 บ. อคส.ซื้อมาขายไปข้าวโพด 11 ส. 248 ล. ที่อยู่ติดกัน? (8)
- หลักฐานใหม่! อคส.ซื้อทุเรียนฉาว 25 ล้าน 'คู่เทียบ' สืบราคาก็เป็นเอกชนกลุ่มเดียวกัน (9)
- โชว์สัญญาทุเรียนฉาว 25 ล.! 'รุ่งโรจน์' ลงนาม 'เกียรติขจร' ชงเรื่อง - นโยบาย 'บิ๊กอคส.' (10)
- อคส.แจ้งยกเลิกสัญญาซื้อขายทุเรียนฉาว 25 ล. หลังผ่านไปเกือบปีได้เงินคืนแค่หลักแสน (11)
- เปิดเอกสารจัดซื้อทุเรียนฉาว 25 ล. 'เกียรติขจร' เสนอ - 'รุ่งโรจน์' อนุมัติ (12)
อ่านประกอบ กรณีจัดซื้อถุงมือยางแสนล้าน
- เพิ่งจัดตั้ง 2 ด.เศษ! เปิดตัว บ.คู่สัญญาถุงมือยาง อคส.แสนล.-พ.ต.อ.รุ่งโรจน์ ยันทำถูกต้อง
- โชว์ครบ 4 หน้า! สัญญาถุงมือยาง อคส.แสนล้าน-ข้อสังเกตหลักประกัน 200 ล.-ลูกค้าปริศนา?
- แกะรอยเงิน 2 พันล.! อคส.จ่ายค่าถุงมือยาง บ.การ์เดียนโกลฟส์ งวดแรก อยู่ที่ไหน?
- โพรไฟล์ชีวิต ‘พ.ต.อ.รุ่งโรจน์’ ผู้ลงนามสัญญาซื้อขายถุงมือยาง อคส.แสนล.
- แฉเหตุ 'รุ่งโรจน์' กล้าทำสัญญาขายถุงมือยางแสนล.! มีบอร์ดอคส.-นักการเมือง ปชป.ดีลลูกค้าให้
- 'เอ็กซ์คลูซีฟ' เบื้องลึก บ.ขายถุงมือยาง อคส.แสนล.-1 ในผู้บริหารเคยโดนแจ้งความคดีฉ้อโกง?
- พบเป็นโกดังเก็บสินค้าย่านนครปฐม! เผยโฉม บ.การ์เดียนโกลฟส์ฯ คู่สัญญาถุงมือยาง อคส.แสนล.
- เปิดตัว คุณเอ็ม 'ธณรัสย์ หัดศรี' เจ้าของบ.การ์เดียนโกลฟส์ คู่สัญญาขายถุงมือยาง อคส.แสนล.
- ภาพชุด 2! เปิดตัว 'คุณเอ็ม' เจ้าของบ.การ์เดียนโกลฟส์ คู่สัญญาขายถุงมือยาง อคส.แสนล.
- 'เอ็กซ์คลูซีฟ': เปิด 7 เอกชน จองซื้อถุงมือยาง อคส.แสนล.-บ.K สั่งล็อตใหญ่ 500 ล้านกล่อง
- MR.Abdullah Pathan ตัวแทนลอว์เฟิร์มในสหรัฐฯ สั่งซื้อถุงมือยางแสนล.มีตัวตนจริงหรือไม่?
- บ้าน 2 ชั้นย่านอุดมสุข! เปิดตัวบ.เคเค.ออยล์ ลูกค้ารายที่ 2 สั่งซื้อถุงมือยาง 1.1 หมื่นล.
- คนชื่อแอร์แนะนำ! ผู้บริหารบ.เคเคออยล์ฯ แจงทำสัญญาซื้อถุงมือยาง 1.1หมื่นล.-มีลูกค้าจริง
- รุ่นพี่ชื่อ'จ๋า'แนะนำ! เปิดตัวบ.ถนอมผลไม้ ลูกค้าอคส.รายที่ 3 ซื้อถุงมือยาง 1.1 หมื่นล.
- รายที่4! เปิดตัว Galore ลูกค้า อคส. ซื้อถุงมือยาง2.2หมื่นล.-อยู่ฟลอริดา โชว์รายได้ 2 ล.
- เจอแล้ว! บ.รายที่ 5 ซื้อถุงมือยาง2.1 หมื่นล.-แจ้งงบฯขาดทุน1.2 หมื่น-ยันมีลูกค้าตปท.จริง
- ตามไปดู บ.รายที่ 6 ซื้อถุงมือยาง อคส.2.5 พันล. พบเป็นที่ตั้งลอว์เฟิร์มย่านรัชดา
- ไม่รู้ตื้นลึกหนาบาง! ตัวแทน บ.ควีนฯ แจงเหตุสั่งซื้อถุงมือยาง 2.5 พันล.-คนใน.อคส.ชักชวน
- เปิดตัว บ.รายที่ 7 ซื้อถุงมือยาง 2.5 พันล.-โอดเดือดร้อน ส่งของ รบ.ท้องถิ่นแคนาดาไม่ทัน
- ล็อกเป้า 3 บ.จุดเริ่มต้นคดีถุงมือยางแสนล.! อคส.รอ DSI สอบปากคำจบตามเงินคืน 1.8 พันล.
- โชว์ใบฝากเงิน 2 พันล.! อคส.จ่ายค่าถุงมือยาง บ.การ์เดียนฯ-เข้าบช.กสิกรไทย บิ๊กซีนครปฐม
- เปิดเส้นทางเงิน 2 พันล.! อคส.จ่ายค่าถุงมือยาง บ.การ์เดียน- ณ 15 ก.ย. เหลือยอดแค่ 858 ล.
- เผยโฉมบัญชี บ.การ์เดียนฯ รับเงิน อคส.จ่ายค่าถุงมือยาง 2 พันล.-ก่อน ป.ป.ช.สั่งอายัด
- แฉบ.การ์เดียนฯ ชิงถอนเงินเกือบหมด! หลังสื่อตีข่าว ป.ป.ช. สั่งอายัดบัญชีถุงมือยาง 2 พันล.
- ไม่เคยให้เงินใต้โต๊ะกับใคร! เปิดคำชี้แจง เจ้าของบ.การ์เดียนโกลฟส์ ปมขายถุงมือยางแสนล้าน
- ต้องเอาเงินคืน!'จุรินทร์'ตอบปม อคส.ซื้อถุงมือยางแสนล้าน-ป.ป.ช.ระงับบัญชีแล้วบางส่วน
- เบื้องลึก 'จุรินทร์' สั่งตามเงินคืน 2 พันล.! อคส.คุ้ยหลักฐานตปท.พิสูจน์MOUซื้อถุงมือยางแสนล.
- ขมวดปม (1) ข้อสังเกตสร้างนิติกรรมสัญญา? เปิดโอกาสจัดซื้อถุงมือยางแสนล้าน
- โชว์ครบ 3 หน้า แปลไทยแล้ว! สัญญาซื้อขายถุงมือยางแสนล. 'อคส.-ลอว์เฟิร์มสหรัฐฯ'
- ผู้บริหารโดนคดีฉ้อโกงค่าอาหารที่พัก! ขมวดปม (2) ข้อมูลลับ 'การ์เดียนโกลฟส์'ในมือ อคส.
- ขมวดปม (3) ข้อสังเกตสัญญาซื้อขายถุงมือยางแสนล. 'อคส.-การ์เดียนโกลฟส์' เอื้อปย.เอกชน
- เปิดที่มาเงิน 2 พันล. อคส. จ่ายค่าถุงมือยาง 'ถอนจากบัญชีฝากประจำ' ไม่ขออนุญาตก.คลัง?
- เปิดคำให้การ! เบื้องหลังมติถอนเงินบัญชีฝากประจำจ่ายถุงมือยาง 2 พันล.-ไม่ผ่านบอร์ด อคส.?
- 'เอ็กซ์คลูซีฟ' : 9 เงื่อนปม ป.ป.ช.ลุยสอบ อคส. ทำสัญญาจัดซื้อถุงมือยางแสนล้าน
- สภาระอุ! หลักฐาน-คำชี้แจง'ประเสริฐ-จุรินทร์' ปมจัดซื้อถุงมือยาง
- รอ ป.ป.ช.ชี้ขาดดีกว่า! 'รุ่งโรจน์' เมิน อคส.ชงผลสอบถุงมือยางแสนล.ให้ 'จุรินทร์'
- ยังเปิดกิจการอยู่! โชว์ภาพล่าสุด บ.การ์เดียนโกลฟส์ คู่สัญญาขายถุงมือยาง อคส. แสนล.
- ให้ปากคำ ป.ป.ช.แล้ว! ความเคลื่อนไหวล่าสุด บ.การ์เดียนฯ ขายถุงมือยางแสนล.
- แฟ้มลับคดีถุงมือยางแสนล.(1) เปิดคำให้การ บ.การ์เดียนฯ จนท. 'ก.' มาดีลงานถึงที่
- โวย อคส.ชวนมาซื้อแต่โดนคดีทุจริต! อนุฯ ป.ป.ช.แจ้งข้อหา จนท.รัฐ-เอกชนปมถุงมือยางแสนล.
- ลับสุดยอด! ภาพชุด จนท.อคส. เปิดคลังรับสินค้า บ.การ์เดียนฯ จุดเริ่มต้นคดีถุงมือยางแสนล.
- รีวิวครั้งแรก! เผยโฉมถุงมือยางแสนล้าน อคส.ทำสัญญาซื้อ บ.การ์เดียนฯ - ใครผลิต?
- เบื้องหลัง! ภาพชุดเปิดคลังรับสินค้าถุงมือยางแสนล.- บิ๊ก อคส. สั่งจัดฉากโชว์ของตัวอย่าง?
- คู่สัญญาถุงมือยางแสนล. 'อคส.' เปลี่ยนชื่อใหม่ - ออกสื่อPR.ข่าวแผนธุรกิจงานหมื่นตำแหน่ง
- อคส. หัก บ.การ์เดียนฯ สั่งคืนถุงมือยางแสนล.! ‘อิศรา’ บุกคลังสินค้าขอดูของ จนท.ไม่ให้
- ขอริบเงิน 2,000 ล.! บ.การ์เดียนฯ โต้กลับ อคส. ชิงบอกเลิกสัญญาถุงมือยางแสนล้าน
- หลักฐานใหม่ 'ศรีตรัง-ซันไทย' ไม่รู้เรื่องถูกใช้เอกสารแนบทำสัญญาซื้อขายถุงมือยางแสนล.
- เจาะผลสอบถุงมือยางแสนล.(1) เริ่มต้นห้อง บิ๊ก อคส.-นาย อ.จัดให้คำสั่งซื้อลอว์เฟิร์มสหรัฐ
- เจาะผลสอบถุงมือยางแสนล.(2) บทบาทผู้บริหาร อคส.ปริศนา สั่งหาช่องทำสัญญา-จ่ายเงินสองพันล.
- ถ้าบอกทุจริตจะสู้หัวชนฝา! ป.ป.ช. เรียก รุ่งโรจน์ แจ้งข้อกล่าวหาถุงมือยางแสนล. 28 พ.ค.
- เผยหนังสือลับคดีถุงมือยางแสนล.! อนุฯ ไต่สวน ป.ป.ช. แจ้งขอหลักฐานแต่งตั้ง ปธ.บอร์ด อคส.
- กลับไปใช้ชื่อเก่า! บ.การ์เดียนฯ ถุงมือแสนล. อคส.แจ้งเปลี่ยนรอบ2-ยังไม่โชว์งบการเงิน
- พ.ต.อ.รุ่งโรจน์ ยื่นหนังสือลาออกแต่โดนเบรก - ขอแสดงความรับผิดชอบถุงมือยางแสนล.!
- กางระเบียบ อคส.! ทางเดียว 'รุ่งโรจน์' ลาออกได้ ต้องเป็น 'ผู้บริสุทธิ์' คดีถุงมือยางแสนล.
- ขีดเส้น 'รุ่งโรจน์' ให้ปากคำสอบวินัยร้ายแรงถุงมือยาง-ถ้าโดนไล่ออกเจอฟ้องคืนเงินด.หลักล้าน!
- ระทึก! บอร์ด อคส. ทั้งคณะ จ่อโดนสอบความรับผิดทางละเมิดคดีถุงมือยางแสนล้าน
#กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage