อคส.แจ้งยกเลิกสัญญาซื้อขายทุเรียนฉาว 25 ล. หลังผ่านไปเกือบปีได้เงินคืนแค่หลักแสน

picdurtyedssdsd9 12 64

เผยความคืบหน้าคดีจัดซื้อทุเรียนฉาว 25 ล้าน ล่าสุด อคส.สรุปความเห็นแจ้งยกเลิกสัญญาเอกชน พร้อมเตรียมฟ้องร้องดำเนินคดีเรียกค่าเสียหาย หลังผ่านไปเกือบปีได้เงินคืนมาแค่หลักแสน ส่วนข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ บ.ยังค้างจ่ายเงินอีกหลักร้อยล้าน แต่ทำเรื่องขอประนอมหนี้แล้ว

..........................................

สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานความคืบหน้าประเด็นตรวจสอบข้อมูลเชิงลึก กรณี องค์การคลังสินค้า (อคส.) ทำสัญญาซื้อขายทุเรียนพันธุ์หมอนทอง วงเงิน 25 ล้านบาท จาก บริษัท ซื่อหยวนพาณิชย์ จำกัด เพื่อนำไปขายต่อให้กับ บริษัท วรรัตน์ เฟรชฟรุ๊ต จำกัด ในช่วงปี 2563 โดย อคส. ตั้งราคาจำหน่ายต้นทุนซื้อราคากิโลกรัมละ 100 บาท คิดอัตราผลตอบแทนในอัตราร้อยละ 3 ของต้นทุนซื้อ คิดเป็นราคาที่เสนอขายให้กับ บริษัท วรรัตน์ เฟรชฟรุ๊ต จำกัด กิโลกรัมละ 103 บาท รวมค่าขนส่งถึงปลายทาง ซึ่ง อคส.จะได้เงินตอบแทนจากการลงทุนครั้งนี้ คือ ได้เงินต้นทุนจำนวน 25 ล้านบาท ซึ่งเป็นค่าทุเรียน 250 กิโลกรัม กิโลกรัมละ 100 บาท คืน รวมกำไรผลตอบแทน จากการราคาตั้งขาย กิโลกรัมละ 103 บาท เป็นจำนวนเงิน 750,000 บาท

อย่างไรก็ดี ภายหลังจากที่ อคส. จ่ายเงินค่าทุเรียนให้กับ บริษัท ซื่อหยวนพาณิชย์ จำกัด ไปแล้ว จำนวน 25 ล้านบาท ปัจจุบัน อคส. ยังไม่ได้รับเงินค่าสินค้า 25 ล้านบาท บวกกำไร 750,000 บาท จาก บริษัท วรรัตน์ เฟรชฟรุ๊ต จำกัด แต่อย่างใด

โชว์สัญญาทุเรียนฉาว 25 ล.! 'รุ่งโรจน์' ลงนาม 'เกียรติขจร' ชงเรื่อง - นโยบาย 'บิ๊กอคส.'

ล่าสุด แหล่งข่าวจากกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยสำนักข่าวอิศรา ว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้ อคส. ได้สรุปความเห็นให้แจ้งบอกเลิกสัญญาการซื้อขายทุเรียนกับ บริษัท วรรัตน์ เฟรชฟรุ๊ต จำกัด พร้อมเตรียมทำเรื่องฟ้องร้องดำเนินคดีเรียกค่าเสียหายจากบริษัทฯ จากกรณีไม่จ่ายเงินค่าทุเรียนจำนวน 25 ล้านบาท พร้อมกำไรจำนวน 750,000 บาท แล้ว

"จากการติดตามข้อมูลทราบว่า ตั้งแต่ทำสัญญาซื้อขายทุเรียนดังกล่าวจนถึงปัจจุบัน อคส.ได้รับชำระเงินค่าทุเรียนจากบริษัทเพียงแค่หลักแสนบาทไม่ถึงล้าน"

ส่วนกรณีการซื้อขายข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ จากบริษัท เรนโบว์ กรุ๊ป จำกัด จำนวน 11 สัญญา รวมเป็นวงเงินจำนวน 246,175,000 บาท จากนั้นก็นำไปขายต่อให้กับ บริษัท เกษมชัยฟาร์มอาหารสัตว์ จำกัด จำนวน 11 สัญญา เท่ากัน รวมวงเงิน 248,925,000 บาท นั้น

แหล่งข่าวกล่าวว่า เท่าที่ทราบ ปัจจุบัน บริษัทเอกชน ยังค้างชำระเงินค่าสินค้า อคส. อยู่ประมาณ 100 กว่าล้านบาท แต่ก็มีการส่งตัวแทนมาทำสัญญาประนอมหนี้กันแล้ว

"กรณีข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ มีประเด็นสำคัญอยู่ที่การทำสัญญาซื้อขายแบบซอยหลายสัญญา ไม่ให้วงเงินแต่ละสัญญาเกิน 25 ล้านบาท เพื่อให้อยู่ในอำนาจของผู้บริหารอคส. ที่ลงนามในสัญญาขณะนั้นจะทำได้ นอกจากนี้ในระหว่างการทำสัญญาซื้อขาย อคส. ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการให้เจ้าหน้าที่ อคส.ไปเฝ้าโกดังเป็นหลักแสนบาทด้วย"

แหล่งข่าวกล่าวอีกว่า การทำสัญญาซื้อขายทุเรียนและข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ เป็นการดำเนินการที่เกิดขึ้น ก่อนที่ นายเกรียงศักดิ์ ประทีปวิศรุต ผู้อำนวยการ อคส.คนปัจจุบันจะเข้ามารับตำแหน่ง ส่วนเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องก็เป็นกลุ่มคนชุดเดียวกับทำสัญญาซื้อขายถุงมือยางวงเงินแสนล้านบาท ที่อยู่ระหว่างการสอบสวนในขณะนี้

สำนักข่าวอิศรา รายงานว่า ได้ติดต่อไป นายเกรียงศักดิ์ ประทีปวิศรุต ผอ.อคส.คนปัจจุบัน เพื่อขอให้ชี้แจงข้อมูลเกี่ยวกับการทำสัญญาซื้อขายทุเรียน และข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ดังกล่าว

นายเกรียงศักดิ์ ตอบว่า ทั้งสองเรื่องเกิดขึ้นก่อนที่จะเข้ามารับตำแหน่ง เมื่อรับทราบเรื่องก็ให้เจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจสอบทันที จนกระทั่งพบปัญหาหลายส่วน สำหรับสัญญาในส่วนการซื้อขายทุเรียน อยู่ระหว่างการสั่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนผู้เกี่ยวข้อง และทำเรื่องฟ้องร้องดำเนินคดีกับบริษัทเอกชนไปแล้ว

อ่านประกอบ กรณีการจัดซื้อทุเรียนและข้าวโพดเลี้ยงสัตว์

อ่านประกอบ กรณีจัดซื้อถุงมือยางแสนล้าน

#กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage

facebook link

#กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage