"...จุดเริ่มต้นโครงการนี้ เกิดขึ้นในช่วงเดือนมีนาคม 2563 หลังจากที่ อคส. ได้รับหนังสือจากบริษัทเอกชนรายหนึ่ง ชื่อย่อ ว. แจ้งขอให้เสนอราคาจำหน่ายทุเรียนพันธุ์หมอนทอง จำนวน 250 ตัน เพื่อใช้ส่งออกไปยังตลาดคู่ค้าของบริษัทในประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน ...หลังจากนั้น อคส. ได้พิจารณาข้อมูลการนำเสนอราคาของเอกชน 3 ราย พบว่า บริษัทเอกชน ชื่อย่อ ซ. เป็นผู้เสนอราคาต่ำสุด จึงตกลงเลือกบริษัท ซ. ในการรับซื้อสินค้าทุเรียน เพื่อนำไปขายต่อให้กับ บริษัท ว. ..."
...................................
ประเด็นตรวจสอบข้อมูลเชิงลึกกรณี องค์การคลังสินค้า (อคส.) ทำสัญญาซื้อขายทุเรียนพันธุ์หมอนทอง จากเอกชนรายหนึ่ง วงเงินกว่า 25 ล้านบาท เพื่อนำมาขายต่อให้กับเอกชนอีกหนึ่ง โดย อคส. จะได้กำไรจากการขายทุเรียนดังกล่าวต่อกิโลกรัมประมาณ 3 บาทนั้น
ล่าสุด สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) ตรวจสอบพบว่า จุดเริ่มต้นโครงการนี้ เกิดขึ้นในช่วงเดือนมีนาคม 2563 หลังจากที่ อคส. ได้รับหนังสือจากบริษัทเอกชนรายหนึ่ง ชื่อย่อ ว.
แจ้งขอให้เสนอราคาจำหน่ายทุเรียนพันธุ์หมอนทอง จำนวน 250 ตัน เพื่อใช้ส่งออกไปยังตลาดคู่ค้าของบริษัทในประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน
เบื้องต้น อคส. ได้ตรวจสอบข้อมูลทุเรียนพันธุ์หมอนทอง ที่บริษัท ว. ต้องการรับซื้อ ไม่มีในสต็อกของ อคส.
แต่เพื่อเป็นการขยายตลาดการจำหน่ายทุเรียนพันธุ์หมอนทองดังกล่าว อคส.จึงดำเนินการจัดทำหนังสือเชิญชวน ผู้มีอาชีพรวบรวมและจำหน่ายทุเรียนพันธุ์หมอนทอง จำนวน 3 ราย ให้เสนอราคาจำหน่ายทุเรียนพันธุ์หมอนทองให้กับ อคส.
หลังจากนั้น อคส. ได้พิจารณาข้อมูลการนำเสนอราคาของเอกชน 3 ราย พบว่า บริษัทเอกชน ชื่อย่อ ซ. เป็นผู้เสนอราคาต่ำสุด
จึงตกลงเลือกบริษัท ซ. ในการรับซื้อสินค้าทุเรียน เพื่อนำไปขายต่อให้กับ บริษัท ว.
โดย อคส. ตั้งราคาจำหน่ายต้นทุนซื้อราคากิโลกรัมละ 100 บาท คิดอัตราผลตอบแทนในอัตราร้อยละ 3 ของต้นทุนซื้อ คิดเป็นราคาที่เสนอขายให้กับ บริษัท ว. กิโลกรัมละ 103 บาท รวมค่าขนส่งถึงปลายทาง
ซึ่ง อคส.จะได้เงินตอบแทนจากการลงทุนครั้งนี้ คือ ได้เงินต้นทุนจำนวน 25 ล้านบาท ซึ่งเป็นค่าทุเรียน 250 กิโลกรัม กิโลกรัมละ 100 บาท คืน รวมกำไรผลตอบแทน จากการราคาตั้งขาย กิโลกรัมละ 103 บาท เป็นจำนวนเงิน 750,000 บาท
ขณะที่สำนักข่าวอิศรา ได้รับการยืนยันข้อมูลว่า ภายหลังจากที่ อคส. จ่ายเงินจำนวน 25 ล้านบาท เพื่อเป็นค่าทุเรียนให้กับ บริษัท ซ. เพื่อให้ส่งสินค้าให้กับ บริษัท ว. ไปขายต่อ จนถึงปัจจุบันบริษัท ว. ยังไม่ได้ชำระเงินค่าสินค้า 25 ล้านบาท พร้อมกำไร 750,000 บาท ให้กับ อคส.แต่อย่างใด
เมื่อสำนักข่าวอิศรา ตรวจสอบข้อมูลการจดทะเบียนจัดตั้งบริษัทที่แจ้งไว้กับกรมพัฒนาธุรกิจการค้า พบว่า บริษัท ว. และบริษัท ซ. มีความสัมพันธ์เป็นกลุ่มเดียวกัน
เนื่องจากมีผู้ถือหุ้นรายหนึ่ง เป็นบุคคลเดียวกัน
อ่านประกอบ :
- โมเดลเดียวถุงมือยาง! สตง.แจ้งเปิดสอบสัญญาซื้อขายทุเรียน อคส. 25 ล้าน (1)
- ล้วงหนังสือ สตง.แจ้งเปิดสอบสัญญาซื้อขายทุเรียน อคส. 25 ล.-ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์โดนด้วย (2)
- ผู้ว่าฯ สตง.ยันลุยสอบสัญญาทุเรียน อคส. 25 ล้านจริง - คนใน พณ.แฉพฤติการณ์ชัดว่าถุงมือยาง (3)
#กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage