โชว์สัญญาทุเรียนฉาว 25 ล.! 'รุ่งโรจน์' ลงนาม 'เกียรติขจร' ชงเรื่อง

picsanyadurannxxxxx0009 09 64

"...กรณีการเซ็นสัญญาจัดซื้อทุเรียนดังกล่าวนั้น ทางสำนักข่าวต้องไปถามกับนายเกียรติขจร แซ่ไต่ เพราะไม่ทราบรายละเอียดเลย ที่ผ่านมามีการแค่ส่งเอกสาร มีการประมวลเรื่องมาเซ็นก็เท่านั้น..ตอนผมเซ็นงาน ก็ดูตามเอกสารหมายเลขหนึ่ง หมายเลขสอง ก็ว่ามันมีเอกสารแนบถูกต้อง ผมก็เซ็น ผู้ใต้บังคับบัญชาเขาก็เสนอขึ้นมาตามลำดับชั้นว่าเห็นควรลงนาม..."

.......................

ประเด็นตรวจสอบข้อมูลเชิงลึก กรณี องค์การคลังสินค้า (อคส.) ทำสัญญาซื้อขายทุเรียนพันธุ์หมอนทอง วงเงิน 25 ล้านบาท จาก บริษัท ซื่อหยวนพาณิชย์ จำกัด เพื่อนำไปขายต่อให้กับ บริษัท วรรัตน์ เฟรชฟรุ๊ต จำกัด

โดย อคส. ตั้งราคาจำหน่ายต้นทุนซื้อราคากิโลกรัมละ 100 บาท คิดอัตราผลตอบแทนในอัตราร้อยละ 3 ของต้นทุนซื้อ คิดเป็นราคาที่เสนอขายให้กับ บริษัท วรรัตน์ เฟรชฟรุ๊ต จำกัด กิโลกรัมละ 103 บาท รวมค่าขนส่งถึงปลายทาง ซึ่ง อคส.จะได้เงินตอบแทนจากการลงทุนครั้งนี้ คือ ได้เงินต้นทุนจำนวน 25 ล้านบาท ซึ่งเป็นค่าทุเรียน 250 กิโลกรัม กิโลกรัมละ 100 บาท คืน รวมกำไรผลตอบแทน จากการราคาตั้งขาย กิโลกรัมละ 103 บาท เป็นจำนวนเงิน 750,000 บาท

อย่างไรก็ดี ภายหลังจากที่ อคส. จ่ายเงินค่าทุเรียนให้กับ บริษัท ซื่อหยวนพาณิชย์ จำกัด ไปแล้ว จำนวน 25 ล้านบาท ปัจจุบัน อคส. ยังไม่ได้รับเงินค่าสินค้า 25 ล้านบาท บวกกำไร 750,000 บาท จาก บริษัท วรรัตน์ เฟรชฟรุ๊ต จำกัด แต่อย่างใด

ขณะที่ สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานไปแล้วว่า จากการตรวจสอบข้อมูลการจดทะเบียนจัดตั้งบริษัท ซื่อหยวนพาณิชย์ จำกัด และ บริษัท วรรัตน์ เฟรชฟรุ๊ต จำกัด พบว่าเป็นเอกชนกลุ่มเดียวกัน โดย นาง จันทิพย์ ริยะวงค์ ปรากฎชื่อเป็นกรรมการและผู้ถือหุ้นทั้ง 2 บริษัท

ส่วนบริษัทลีโรจน์นนท์ จำกัด ที่เข้าร่วมการสืบราคาขายทุเรียนให้กับ อคส.ด้วยนั้น แท้จริงแล้วก็เป็นเอกชนกลุ่มเดียวกันกับ บริษัท ซื่อหยวนพาณิชย์ จำกัด และ บริษัท วรรัตน์ เฟรชฟรุ๊ต จำกัด

หลักฐานใหม่! อคส.ซื้อทุเรียนฉาว 25 ล้าน 'คู่เทียบ' สืบราคาก็เป็นเอกชนกลุ่มเดียวกัน

ล่าสุด สำนักข่าวอิศรา ได้รับการยืนยันข้อมูลเกี่ยวกับสัญญาลงนามซื้อมาขายไปทุเรียนพันธุ์หมองทอง ทั้งในส่วน ของบริษัท วรรัตน์ เฟรชฟรุ๊ต จำกัด และบริษัท ซื่อหยวนพาณิชย์ จำกัด

พบว่า ตัวแทน อคส. ที่เป็นผู้ลงนามในสัญญาทั้ง 2 ฉบับ คือ พ.ต.อ.รุ่งโรจน์ พุทธิยาวัฒน์ ในฐานะรักษาการผู้อำนาจการ อคส.

โดยสัญญารับซื้อทุเรียนจาก บริษัท ซื่อหยวนพาณิชย์ จำกัด ลงนามเมื่อวันที่ 1 กันยายน 2563 (ดูภาพเอกสารสัญญาประกอบ)

picsanyadurann0009 09 64

ส่วนสัญญาขายทุเรียนให้กับ บริษัท วรรัตน์ เฟรชฟรุ๊ต จำกัด ลงนามเมื่อวันที่ 8 กันยายน 2563 (ดูภาพเอกสารสัญญาประกอบ)

picsanyadurann09 09 64

ขณะที่ พ.ต.อ.รุ่งโรจน์ พุทธิยาวัฒน์ ให้สัมภาษณ์ชี้แจงทางโทรศัพท์สำนักข่าวอิศรา ว่า กรณีการเซ็นสัญญาจัดซื้อทุเรียนดังกล่าวนั้น ทางสำนักข่าวต้องไปถามกับนายเกียรติขจร แซ่ไต่ เพราะไม่ทราบรายละเอียดเลย ที่ผ่านมามีการแค่ส่งเอกสาร มีการประมวลเรื่องมาเซ็นก็เท่านั้น

“ตอนผมเซ็นงาน ก็ดูตามเอกสารหมายเลขหนึ่ง หมายเลขสอง ก็ว่ามันมีเอกสารแนบถูกต้อง ผมก็เซ็น ผู้ใต้บังคับบัญชาเขาก็เสนอขึ้นมาตามลำดับชั้นว่าเห็นควรลงนาม"

"เขาทำมาก่อน ต้นเรื่องเขาเห็นควรทำอย่างนี้ ทุกคนเห็นควรหมดแล้วพอมาถึงปลายทาง เราบอกว่าไม่เซ็น ไม่ลงนาม ไม่รู้ กลัว แบบนี้ก็คงไม่ได้เหมือนกัน ถ้าไม่เซ็นมันก็ไม่มีรายได้เข้ามา"

พ.ต.อ.รุ่งโรจน์ กล่าวอีกว่า ส่วนรายละเอียดลึก ๆ เท่าที่รู้ ก็คือเป็นพรรคพวกของ ผู้บริหารอคส.ระดับสูงรายหนึ่งนั่นแหละ

"จริง ๆ เดิมที่ตอนแรกเขาจะเอาหลักทรัพย์มาค้ำประกัน ผมก็บอกว่าจะให้เอาคอนโดมาขายฝากในเรื่องทุเรียน คือ เราไม่ต้องไปเรียกเป็นเปอร์เซ็นต์ไป แต่ว่าให้เอาคอนโดมาขายฝากเลย ถ้าหากว่าเขาไม่จ่าย เราก็ยึดคอนโดตรงนี้ไป แต่ว่าตรงนี้ท่านผู้บริหารอคส.ระดับสูงรายนั้นเขาไม่ยอม”พ.ต.อ.รุ่งโรจน์กล่าว

picsanyadurann0096309 09 64

@ พ.ต.อ.รุ่งโรจน์ พุทธิยาวัฒน์

พ.ต.อ.รุ่งโรจน์กล่าวต่อว่า ผู้บริหารระดับสูง อคส.รายนั้น มีนโยบายจะหารายได้ให้กับทาง อคส. แถลงกับบอร์ดว่าจะปรับโครงสร้างบุคลากรต่างๆ ซึ่งส่วนตัวก็ได้เคยชี้แจงข้อมูลกับทางกรรมาธิการพาณิชย์ไปแล้วว่า มีอยู่ 4 โครงการที่จะช่วยหารายได้ด้วยกัน ได้แก่ 1.ถุงมือยาง 2.น้ำมันปาล์ม 3.ทุเรียน และ 4.ไข่เค็ม โดยที่ผ่านมาเห็นว่าไข่เค็มก็ผลักดันกันอยู่ แต่ก็ดูเหมือนว่าทาง ผู้อำนวยการอคส.คนใหม่เขาไม่เอาด้วย ซึ่งสำหรับเรา เมื่อฟังโครงการเราก็ว่ามันดูดี แต่พอหยุดมันก็ไปต่อไม่ได้

เมื่อถามว่า สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ได้เรียกไปให้ข้อมูลบ้างหรือยัง พ.ต.อ.รุ่งโรจน์ กล่าวว่า "มีการส่งรายงานประจำปีไปให้กับ สตง.อยู่แล้ว แต่พอเป็นข่าว ทาง สตง.ก็มาถามว่าทำไมเราไม่เคยมาทำทุเรียนแล้วเรามาทำ เราไม่เคยมาขายข้าวโพดเลี้ยงสัตว์แล้วทำไมมาขาย เราก็ชี้แจงไปแล้วโดยการส่งเอกสารไปเป็นการชี้แจงว่าการทำสัญญาแบบนี้โดยเป็นการหาเงินให้ อคส.เป็นการกินส่วนต่าง ซึ่งจะหารายได้ให้ อคส.ได้มากกว่าการเจรจากับสหกรณ์จังหวัด

อนึ่ง สำหรับ พ.ต.อ.รุ่งโรจน์ และ นายเกียรติขจร แซ่ไต่ 2 ใน 3 เจ้าหน้าที่ อคส. ที่กำลังถูกสอบสวนเรื่องการทำสัญญาจัดซื้อถุงมือยาง กับ บริษัท การ์เดียนโกลฟส์ จำกัด มูลค่ากว่า 112,500 ล้านบาท อยู่ในขณะนี้

โดยในการเข้าให้ปากคำต่อ คณะกรรมการพิจารณาความผิดทางวินัย ที่มีนายพิทักษ์ อุดมวิชัยวัฒน์ รองปลัดกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธาน นายเกียรติขจร แซ่ไต่ ได้ปฏิเสธข้อกล่าวหาเรื่องการทุจริต พร้อมยืนยันว่า ปฏิบัติตามคำสั่งของผู้บริหารซึ่งเป็น 1 ในคณะกรรมการ (บอร์ด) อคส.

ระทึก! บอร์ด อคส. ทั้งคณะ จ่อโดนสอบความรับผิดทางละเมิดคดีถุงมือยางแสนล้าน

อ่านประกอบ กรณีการจัดซื้อทุเรียนและข้าวโพดเลี้ยงสัตว์

อ่านประกอบ กรณีจัดซื้อถุงมือยางแสนล้าน

#กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage

facebook link

#กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage

โชว์สัญญาทุเรียนฉาว 25 ล.! 'รุ่งโรจน์' ลงนาม 'เกียรติขจร' ชงเรื่อง - นโยบาย 'บิ๊กอคส.'