ศาลฎีกาพิพากษา ‘อนุชิต อั้นน้อย’ สมาชิกสภาเทศบาลเมืองบึงยี่โถ จ.ปทุมธานี จงใจยื่นบัญชีทรัพย์สินเท็จ ไม่แสดงเงินฝากพร้อมหุ้นสหกรณ์ฯ ม.รังสิตกว่า 1 ล้าน อ้างเข้าใจผิดคิดว่าต้องแจ้งเฉพาะเงินฝากแบงก์ ให้พ้นตำแหน่ง เพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งตลอดไป จําคุก 2 เดือน ปรับ 8,000 บาท รอลงโทษ 1 ปี
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อวันที่ 24 มกราคม 2568 ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองมีคำพิพากษาว่า นายอนุชิต อั้นน้อย สมาชิกสภาเทศบาล เมืองบึงยี่โถ อําเภอธัญบุรี จังหวัดปทุมธานี ผู้ถูกกล่าวหา จงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินหรือหนี้สินและเอกสารประกอบต่อผู้ร้องด้วยข้อความอันเป็นเท็จ หรือปกปิดข้อเท็จจริงที่ควรแจ้งให้ทราบ และมีพฤติการณ์อันควรเชื่อได้ว่ามีเจตนาไม่แสดงที่มาแห่งทรัพย์สินหรือหนี้สินนั้น กรณีพ้นจากสมาชิกสภาเทศบาลเมืองบึงยี่โถ (วาระที่ 1) และกรณีเข้ารับตําแหน่งดังกล่าว (วาระที่ 2) ให้ผู้ถูกกล่าวหาพ้นจากตําแหน่งสมาชิกสภาเทศบาลเมืองบึงยี่โถ อําเภอธัญบุรี นับแต่วันหยุดปฏิบัติหน้าที่ (วันที่ 12 ธันวาคม 2567) และให้เพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งของผู้ถูกกล่าวหาตลอดไป การกระทําของผู้ถูกกล่าวหาเป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน ให้ลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไป จําคุกกระทงละ 2 เดือน และปรับกระทงละ 8,000 บาท ผู้ถูกกล่าวหาให้การรับสารภาพ เป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้กระทงละกึ่งหนึ่ง คงจําคุกกระทงละ 1 เดือน และปรับกระทงละ 4,000 บาท รวม 2 กระทง เป็นจําคุก 2 เดือน และปรับ 8,000 บาท ไม่ปรากฏว่าผู้ถูกกล่าวหาเคยได้รับโทษจําคุกมาก่อน จึงให้รอการลงโทษ ไว้มีกําหนด 1 ปี
ทั้งนี้ผู้ถูกกล่าวหายื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินกรณีพ้นจากตําแหน่งเมื่อวันที่ 19 มีนาคม 2564 (วาระที่ 1) ไม่แสดงรายการทรัพย์สิน 2 รายการ ได้แก่ รายการเงินฝากสหกรณ์ ออมทรัพย์มหาวิทยาลัยรังสิต จํากัด จํานวน 654,018 บาท และรายการทุน เรือนหุ้นสหกรณ์ออมทรัพย์มหาวิทยาลัยรังสิต จํากัด จํานวน 441,810 บาท (รวม 1,095,828 บาท :สำนักข่าวอิศรา) และกรณีเข้ารับตําแหน่งภายในวันที่ 5 กรกฎาคม 2564 ไม่แสดงรายการทรัพย์สิน 2 รายการ ได้แก่ รายการเงินฝากสหกรณ์ออมทรัพย์ มหาวิทยาลัยรังสิต จํากัด จํานวน 613,343 บาท และรายการทุนเรือนหุ้น สหกรณ์ออมทรัพย์มหาวิทยาลัยรังสิต จํากัด จํานวน 450,810 บาท (รวม 1,064,153 บาท: สำนักข่าวอิศรา) มีรายละเอียดดังนี้
@ เปิดรายละเอียดคำพิพากษา
คดีหมายเลขดำที่ อม.30/2567 คดีหมายเลขแดงที่ อม. 3/2568 ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง วันที่ 24 เดือน มกราคม พุทธศักราช 2568
ระหว่าง คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ผู้ร้อง
นายอนุชิต อั้นน้อย ผู้ถูกกล่าวหา
เรื่อง การแสดงบัญชีรายการทรัพย์สินและหนี้สิน
@ ยื่นบัญชีฯ เท็จ 2 ครั้ง
ผู้ร้องยื่นคําร้องขอให้วินิจฉัยว่า ผู้ถูกกล่าวหาได้รับเลือกตั้งให้ดํารงตําแหน่งสมาชิกสภาเทศบาลเมืองบึงยี่โถ อําเภอธัญบุรี จังหวัดปทุมธานี (วาระที่ 1) เมื่อวันที่ 2 เมษายน 2555 และพ้นจากตําแหน่งเมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2564 ต่อมาได้รับเลือกตั้งให้ดํารงตําแหน่งดังกล่าวอีก (วาระที่ 2) เมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2564 จงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินต่อผู้ร้อง ด้วยข้อความอันเป็นเท็จ หรือปกปิดข้อเท็จจริงที่ควรแจ้งให้ทราบ และมีพฤติการณ์อันควรเชื่อได้ว่า มีเจตนาไม่แสดงที่มาแห่งทรัพย์สินหรือหนี้สินนั้นทั้งกรณีพ้นจากตําแหน่ง (วาระที่ 1) และกรณีเข้ารับตําแหน่ง (วาระที่ 2) ขอให้พ้นจากตําแหน่ง และเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งของผู้ถูกกล่าวหา กับลงโทษตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 81, 114 วรรคสอง (1), 167 ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91
ผู้ถูกกล่าวหาให้การรับสารภาพ
@ ไม่แจ้งรายการเงินฝากสหกรณ์ออมทรัพย์-หุ้นสหกรณ์ออมทรัพย์ ม.รังสิต รวมกว่า 1 ล้าน
พิเคราะห์คําร้อง เอกสารประกอบคําร้อง และคําให้การของผู้ถูกกล่าวหาแล้ว ข้อเท็จจริงฟังได้ว่า ผู้ถูกกล่าวหาได้รับเลือกตั้งให้ดํารงตําแหน่งสมาชิกสภาเทศบาลเมืองบึงยี่โถ อําเภอธัญบุรี จังหวัดปทุมธานี (วาระที่ 1) เมื่อวันที่ 2 เมษายน 2555 และพ้นจากตําแหน่ง เมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2564 ต่อมาได้รับเลือกตั้งให้ดํารงตําแหน่งดังกล่าวอีก (วาระที่ 2) เมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2564 ผู้ถูกกล่าวหามีหน้าที่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินของตน คู่สมรส และบุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ กรณีพ้นจากตําแหน่งภายในวันที่ 2 เมษายน 2564 แต่ ผู้ถูกกล่าวหายื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินต่อผู้ร้องกรณีพ้นจากตําแหน่งเมื่อวันที่ 19 มีนาคม 2564 (วาระที่ 1) โดยไม่แสดงรายการทรัพย์สินของผู้ถูกกล่าวหา 2 รายการ ได้แก่ รายการเงินฝากสหกรณ์ ออมทรัพย์มหาวิทยาลัยรังสิต จํากัด เลขที่บัญชี 00191 จํานวน 654,018 บาท และรายการทุน เรือนหุ้นสหกรณ์ออมทรัพย์มหาวิทยาลัยรังสิต จํากัด จํานวน 441,810 บาท
และมีหน้าที่ยื่นบัญชี แสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินกรณีเข้ารับตําแหน่งภายในวันที่ 5 กรกฎาคม 2564 แต่ผู้ถูกกล่าวหายื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินกรณีเข้ารับตําแหน่งเมื่อวันที่ 17 มิถุนายน 2564 (วาระที่ 2) โดยไม่แสดงรายการทรัพย์สินของผู้ถูกกล่าวหา 2 รายการ ได้แก่ รายการเงินฝากสหกรณ์ออมทรัพย์ มหาวิทยาลัยรังสิต จํากัด เลขที่บัญชี 00191 จํานวน 613,343 บาท และรายการทุนเรือนหุ้น สหกรณ์ออมทรัพย์มหาวิทยาลัยรังสิต จํากัด จํานวน 450,810 บาท
@ อ้าง เข้าใจว่าต้องแจ้ง ป.ป.ช. เฉพาะประเภทเงินฝากแบงก์
ผู้ร้องแจ้งให้ไปรับทราบข้อกล่าวหา ผู้ถูกกล่าวหาไปรับทราบข้อกล่าวหาและให้ถ้อยคําชี้แจงเหตุที่ไม่ยื่นว่า เข้าใจว่า บัญชีเงินฝาก หมายถึง บัญชีธนาคารเท่านั้น ไม่ใช่บัญชีสหกรณ์ออมทรัพย์ และเข้าใจว่าทุนเรือนหุ้นของสหกรณ์ ออมทรัพย์ไม่ได้เป็นรูปแบบพาณิชย์จึงไม่ต้องแสดง จึงมิได้ยื่นแสดงรายการทรัพย์สินทั้งสองรายการ ดังกล่าว ผู้ร้องพิจารณาแล้วเห็นว่า รายการเงินฝากสหกรณ์ออมทรัพย์มหาวิทยาลัยรังสิต จํากัด มียอดเงินกว่าหกแสนบาท มูลค่าเงินฝากเป็นจํานวนเงินที่สูงมากเมื่อเปรียบเทียบกับรายการเงินฝากที่ผู้ถูกกล่าวหายื่นในแบบบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินอย่างมีนัยสําคัญ คิดเป็นยอดเงินประมาณร้อยละ 40 จากมูลค่าทั้งหมดที่แสดง ทั้งยังมีการเคลื่อนไหวเป็นประจําอย่างต่อเนื่อง ดังนั้น ผู้ถูกกล่าวหาย่อมรู้หรือควรรู้ว่า ตนมีบัญชีเงินฝากดังกล่าว
ส่วนรายการทุนเรือนหุ้นสหกรณ์ออมทรัพย์มหาวิทยาลัย รังสิต จํากัด ซึ่งมีมูลค่ากว่าสี่แสนบาท ผู้ถูกกล่าวหาได้รับผลตอบแทนในรูปของเงินปันผลจากการ ลงทุนในหุ้นดังกล่าว ผู้ถูกกล่าวหาย่อมรู้ว่าการลงทุนในลักษณะนี้ เป็นการลงทุนในหลักทรัพย์ของบริษัทชนิดหนึ่ง อีกทั้งคําอธิบายรายการทรัพย์สินที่ต้องแสดงในแบบบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินก็ระบุไว้ ชัดเจนว่า บัญชีเงินฝาก หมายถึง เงินฝากในสถาบันการเงินที่เป็นธนาคารพาณิชย์ และหมายความรวมถึงเงินฝากในสถาบันการเงินอื่นที่นอกเหนือจากธนาคารพาณิชย์ด้วย เช่น บริษัทเงินทุน บริษัท เครดิตฟองซิเอร์ และสหกรณ์ออมทรัพย์ เป็นต้น และระบุให้แสดงเงินลงทุน โดยกรณีหุ้นในสหกรณ์ออมทรัพย์ ให้ใช้หนังสือรับรองจากสหกรณ์ออมทรัพย์ ณ วันที่มีหน้าที่แสดงรายการ ทรัพย์สินและหนี้สิน หรือสําเนาใบเสร็จรับเงินจากสหกรณ์ออมทรัพย์ที่ระบุจํานวนหุ้นเป็นเอกสารประกอบรายการหุ้นสหกรณ์เพื่อยื่นแสดงต่อผู้ร้อง
คําชี้แจงของผู้ถูกกล่าวหาจึงไม่น่าเชื่อถือและไม่มีน้ำหนักให้รับฟัง ผู้ร้องจึงฟังว่า ผู้ถูกกล่าวหาจงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน ด้วยข้อความอันเป็นเท็จ หรือปกปิดข้อเท็จจริงที่ควรแจ้งให้ทราบ และมีพฤติการณ์อันควรเชื่อได้ว่า มีเจตนาไม่แสดงที่มาแห่งทรัพย์สินหรือหนี้สิน และศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดํารงตําแหน่ง ทางการเมืองมีคําสั่งให้ผู้ถูกกล่าวหาหยุดปฏิบัติหน้าที่ตั้งแต่วันที่ 12 ธันวาคม 2567
@ แบบบัญชีทรัพย์สินฯระบุรายละเอียดเกี่ยวกับประเภททรัพย์สินที่ต้องแสดงไว้อย่างชัดเจน
ปัญหาต้องวินิจฉัยมีว่า ผู้ถูกกล่าวหาจงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินหรือหนี้สินและเอกสารประกอบต่อผู้ร้องด้วยข้อความอันเป็นเท็จ หรือปกปิดข้อเท็จจริงที่ควรแจ้งให้ทราบ และมีพฤติการณ์อันควรเชื่อได้ว่ามีเจตนาไม่แสดงที่มาแห่งทรัพย์สินหรือหนี้สินนั้น กรณีพ้นจากตําแหน่งสมาชิกสภาเทศบาลเมืองบึงยี่โถ อําเภอธัญบุรี จังหวัดปทุมธานี (วาระที่ 1) และกรณีเข้ารับตําแหน่ง ดังกล่าว (วาระที่ 2) หรือไม่
เห็นว่า ผู้ถูกกล่าวหาเป็นสมาชิกสภาท้องถิ่นขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจึงเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 4 มีหน้าที่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินของตน คู่สมรส และบุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะต่อผู้ร้องเมื่อเข้ารับตําแหน่งและพ้นจากตําแหน่งตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 102 (9), 105 ประกอบประกาศคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ เรื่อง กําหนดตําแหน่งของผู้บริหารท้องถิ่น รองผู้บริหารท้องถิ่น ผู้ช่วยผู้บริหารท้องถิ่น และสมาชิกสภาท้องถิ่นขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ที่ต้องยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินตามมาตรา 102 (9) พ.ศ. 2561 ผู้ถูกกล่าวหายื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินต่อผู้ร้องเมื่อพ้นจากตําแหน่งสมาชิกสภาเทศบาลเมืองบึงยี่โถ อําเภอธัญบุรี จังหวัดปทุมธานี (วาระที่ 1) และกรณีเข้ารับตําแหน่งดังกล่าว (วาระที่ 2) โดยไม่แสดงรายการทรัพย์สินของผู้ถูกกล่าวหา 2 รายการ ได้แก่ รายการเงินฝากสหกรณ์ออมทรัพย์มหาวิทยาลัยรังสิต จํากัด และรายการทุนเรือนหุ้นสหกรณ์ออมทรัพย์มหาวิทยาลัยรังสิต จํากัด
ทั้งที่แบบบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินระบุรายละเอียดเกี่ยวกับประเภททรัพย์สินและหนี้สินที่ต้องแสดงต่อผู้ร้องไว้อย่างชัดเจนโดยหมายรวมถึงทรัพย์สิน 2 รายการตามคําร้องด้วย ซึ่งการยื่นเอกสารหลักฐานประกอบบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินเป็นหน้าที่สําคัญของสมาชิกสภาท้องถิ่นขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่ต้องปฏิบัติ ตามกฎหมาย อันเป็นมาตรการในการตรวจสอบทรัพย์สินและหนี้สินของผู้ใช้อํานาจรัฐ ผู้ถูกกล่าวหาทราบดี ถึงความมีอยู่ของทรัพย์สินดังกล่าวแต่เจตนาไม่ยื่นแสดงรายการทรัพย์สิน ประกอบกับผู้ถูกกล่าวหาให้ การรับสารภาพ พฤติการณ์จึงมีเหตุอันควรเชื่อได้ว่า ผู้ถูกกล่าวหามีเจตนาไม่แสดงที่มาแห่งทรัพย์สินและหนี้สินนั้น
ข้อเท็จจริงจึงฟังได้ว่า ผู้ถูกกล่าวหาจงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน ต่อผู้ร้องกรณีพ้นจากตําแหน่งสมาชิกสภาเทศบาลเมืองบึงยี่โถ อําเภอธัญบุรี จังหวัดปทุมธานี (วาระที่ 1) และกรณีเข้ารับตําแหน่งดังกล่าว (วาระที่ 2) ด้วยข้อความอันเป็นเท็จ หรือปกปิดข้อเท็จจริงที่ควรแจ้งให้ทราบ และมีพฤติการณ์อันควรเชื่อได้ว่าผู้ถูกกล่าวหามีเจตนาไม่แสดงที่มาแห่งทรัพย์สินหรือหนี้สินนั้น มีผลให้ผู้ถูกกล่าวหาต้องพ้นจากตําแหน่งสมาชิกสภาเทศบาลเมืองบึงยี่โถ อําเภอธัญบุรี จังหวัดปทุมธานี นับแต่วันหยุดปฏิบัติหน้าที่ (วันที่ 12 ธันวาคม 2567) และให้เพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งตลอดไป ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 81 วรรคหนึ่งและวรรคสอง ประกอบมาตรา 114 วรรคสาม และการกระทําของผู้ถูกกล่าวหายังเป็นความผิดฐานเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐจงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินต่อผู้ร้องด้วยข้อความอันเป็นเท็จ หรือปกปิดข้อเท็จจริงที่ควรแจ้งให้ทราบ และมีพฤติการณ์อันควรเชื่อได้ว่ามีเจตนาไม่แสดงที่มาแห่งทรัพย์สินหรือหนี้สินนั้นกรณีพ้นจากตําแหน่งสมาชิกสภาเทศบาลเมืองบึงยี่โถ อําเภอธัญบุรี จังหวัดปทุมธานี (วาระที่ 1) และกรณีเข้ารับตําแหน่งดังกล่าว (วาระที่ 2) ตามพระราชบัญญัติ ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 167 ด้วย
@ ให้พ้นตำแหน่ง ให้เพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งตลอดไป จําคุก 2 เดือน ปรับ 8,000 บาท รอลงโทษ 1 ปี
พิพากษาว่า นายอนุชิต อั้นน้อย ผู้ถูกกล่าวหาจงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สิน หรือหนี้สินและเอกสารประกอบต่อผู้ร้องด้วยข้อความอันเป็นเท็จ หรือปกปิดข้อเท็จจริงที่ควรแจ้งให้ทราบ และมีพฤติการณ์อันควรเชื่อได้ว่ามีเจตนาไม่แสดงที่มาแห่งทรัพย์สินหรือหนี้สินนั้น กรณีพ้นจากสมาชิกสภาเทศบาลเมืองบึงยี่โถ อําเภอธัญบุรี จังหวัดปทุมธานี (วาระที่ 1) และกรณีเข้ารับ ตําแหน่งดังกล่าว (วาระที่ 2) ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 114 วรรคสอง (1) ให้ผู้ถูกกล่าวหาพ้นจากตําแหน่งสมาชิกสภาเทศบาล เมืองบึงยี่โถ อําเภอธัญบุรี จังหวัดปทุมธานี นับแต่วันหยุดปฏิบัติหน้าที่ (วันที่ 12 ธันวาคม 2567) และให้เพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งของผู้ถูกกล่าวหาตลอดไป ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 81 วรรคหนึ่งและวรรคสอง ประกอบมาตรา 114 วรรคสาม กับมีความผิดตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 167 การกระทําของผู้ถูกกล่าวหาเป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน ให้ลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไป ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 จําคุกกระทงละ 2 เดือน และปรับกระทงละ 8,000 บาท ผู้ถูกกล่าวหาให้การรับสารภาพ เป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้กระทงละกึ่งหนึ่งตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 คงจําคุกกระทงละ 1 เดือน และปรับกระทงละ 4,000 บาท รวม 2 กระทง เป็นจําคุก 2 เดือน และปรับ 8,000 บาท ไม่ปรากฏว่าผู้ถูกกล่าวหาเคยได้รับโทษจําคุกมาก่อน จึงให้รอการลงโทษ ไว้มีกําหนด 1 ปี ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 56 ไม่ชําระค่าปรับให้จัดการตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 29, 30
ข่าวคดีบัญชีทรัพย์สินผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองเผยแพร่ ปี 2568
ศาลฎีกาฯพิพากษาคุก 1 เดือน นายก อบต.หนองแสงใหญ่ จ.อุบลฯ จงใจไม่ยื่นบัญชีฯ-รอลงโทษ(4)
ศาลฎีกาฯพิพากษาคุก 1 เดือน ‘ขนบ’ นายกอบต.โนนทัน จ.หนองบัวฯ ไม่ยื่นบัญชีฯ-รอลงโทษ(3)
ศาลฎีกาฯจำคุก 1 เดือน ‘สมพงษ์’รองนายก อบต.ดอนกลาง มหาสารคาม ไม่ยื่นบัญชีฯ-รอลงโทษ(2)
ศาลฎีกาฯจำคุก 2 เดือน ‘ชัชวาลย์ ’รองนายก อบจ.ตาก ไม่ยื่นบัญชีทรัพย์สินฯ-รอลงโทษ(1)
ข่าวคดีบัญชีทรัพย์สินผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองรอบปี 2567 (เผยแพร่ 28 ม.ค.2567-12 ม.ค.2568)
สรุปยอดคดีบัญชีทรัพย์สิน 35 นักการเมืองท้องถิ่นปี 2567
สรุปยอดคดีบัญชีทรัพย์สินนักการเมืองท้องถิ่นปี 2567 มีความผิด 35 ราย คุกจริง 2 คน
ศาลฎีกาฯจําคุก 1 เดือน ให้รอลงโทษ รองนายก อบต.หนองฉาง จ.อุทัยฯ จงใจไม่ยื่นบัญชีฯ
ศาลฎีกาฯพิพากษาจำคุก 1 เดือน ให้รอลงโทษ รองนายกทต.ธาตุพนม ยื่นบัญชีฯเท็จ
จงใจไม่ยื่นบัญชีฯ อ้างป่วย! ศาลฎีกาฯจำคุก 1 เดือน เลขาฯนายก อบจ.สมุทรสาคร-รอลงโทษ
จำคุก 2 เดือน ให้รอลงโทษ ‘นันทนิตร’ สท.เมืองศิลา ขอนแก่น จงใจไม่ยื่นบัญชีทรัพย์สิน
ศาลฎีกาฯพิพากษา รองนายก อบต.ถ้ำ จ.พังงา ไม่ยื่นบัญชีทรัพย์สิน จำคุก 1 เดือน รอลงโทษ
‘มะหมัดนีซัม บิลังโหลด’นายกเทศฯ ต.เจ๊ะบิลัง สตูล ยื่นบัญชีเท็จ จำคุก 1 ด.-รอลงโทษ
ศาลพิพากษา ‘ทรงยศ’ รองนายกเทศฯ ต.นาชะอัง ไม่ยื่นบัญชีฯ 2 ครั้ง จำคุก 2 เดือน-รอลงโทษ
‘บุญชัย สีนานันท์’รองนายก อบต.ดอนจิก จ.อุบลฯ ไม่ยื่นบัญชีฯ จำคุก 1 เดือน รอลงโทษ
เปิดคำพิพากษาฉบับเต็ม ‘ไพร พัฒโน’ นายกฯนครหาดใหญ่ ยื่นบัญชีฯเท็จจำคุก 1 เดือน
ศาลฎีกาพิพากษา ‘ศิริชัย กุลาศรี’ ส.อบจ.มหาสารคาม ยื่นบัญชีฯเท็จ คุก 1 เดือน รอลงโทษ
ให้พ้นตำแหน่ง ศาลฎีกาฯ จำคุก 2 เดือน! รองนายก อบต.คลองโคน ยื่นบัญชีเท็จ-รอลงโทษ
ให้พ้นตำแหน่ง! รองนายก อบต.น้ำผุด จ.สตูล จงใจไม่ยื่นบัญชีฯ คุก 2 เดือน รอลงโทษ
ศาลฎีกาให้รองนายกเทศฯ ต.แพรกษา พ้นตำแหน่ง ยื่นบัญชีฯเท็จ คุก 2 เดือน-รอลงโทษ
คดีที่สอง!ศาลฎีกาฯจำคุก 2 เดือน นายก ทต.สระโบสถ์ จ.ลพบุรี จงใจไม่ยื่นบัญชีฯ-รอลงโทษ
ฉบับเต็ม!องค์คณะวินิจฉัยอุทธรณ์ ยืนยกคำร้อง รองนายก อบต.กันจุ ไม่ยื่นบัญชีฯอดีตเมีย
รองนายก อบต.หนองบัวใต้ หนองบัวลำภู ไม่ยื่นบัญชีฯ 2 ครั้ง จําคุก 2 เดือน ให้รอลงโทษ
รองนายก อบต.เฉลียง จ.นครราชสีมา จงใจไม่ยื่นบัญชีทรัพย์สิน จำคุก 1 เดือน ให้รอลงโทษ
ศาลฎีกาฯพิพากษา‘พนมศิลป์’รองนายก ทต.ท่าอุเทน ยื่นบัญชีฯเท็จ คุก 1 เดือน-รอลงโทษ
ศาลฎีกาฯพิพากษา‘สุรางค์ทิพย์’ส.อบจ.ลพบุรี จงใจไม่ยื่นบัญชีฯ จำคุก 2 เดือน-รอลงโทษ
ศาลฎีกาฯ พิพากษา ส.อบจ.เพชรบูรณ์ ซุกเงินฝาก ยื่นบัญชีฯเท็จ คุก 1 เดือน-รอลงโทษ
ศาลฎีกาฯพิพากษารองนายกเทศฯต.โคกล่าม จ.ร้อยเอ็ด ไม่ยื่นบัญชีฯ คุก 1 เดือน-รอลงโทษ
ศาลฎีกาฯพิพากษา รองนายก อบต.วัด จ.ปัตตานี ไม่ยื่นบัญชีฯ จำคุก 1 เดือน รอลงโทษ
ศาลฎีกาฯสั่งจำคุก 1 เดือน -รอลงโทษ รองนายกเทศฯ ต.โพธิ์ชัย ร้อยเอ็ด ยื่นบัญชีฯเท็จ
พลิกคดีเก่า รองนายก อบจ.สกลฯ ยื่นบัญชีเท็จ 5 ครั้ง ก่อนทำผิดซ้ำ คราวนี้คุกจริง 6 เดือน
ศาลฎีกาฯพิพากษาจำคุกจริง 6 เดือน รองนายก อบจ.สกลนคร จงใจยื่นบัญชีฯเท็จ-ทำผิดซ้ำ
ศาลฎีกาฯ สั่งจำคุก 1 เดือน‘เจริญพงษ์’ส.อบจ.พังงา ปกปิดทรัพย์สินฯ 11 รายการ-รอลงโทษ
ศาลฎีกาฯจําคุก 2 เดือน ที่ปรึกษานายก อบจ.ร้อยเอ็ด จงใจไม่ยื่นบัญชีทรัพย์สิน-รอลงโทษ
ศาลฎีกาฯพิพากษาจำคุก 1 เดือน เลขาฯนายกท.นครสุราษฎร์ฯ ยื่นบัญชีฯเท็จ-รอลงโทษ
ศาลฎีกาฯพิพากษารองนายก ทต.บ้านกล้วย ชัยนาท ยื่นบัญชีฯเท็จ คุก 1 เดือน ให้รอลงโทษ
จำคุก 1 เดือน รอลงโทษ รองนายก อบต.หนองแรต จ.ปัตตานี ไม่ยื่นบัญชีฯ ป.ป.ช.
ศาลฎีกาฯจำคุก 1 เดือน รอลงโทษ สท.เมืองเขาสามยอด จ.ลพบุรี จงใจไม่ยื่นบัญชีทรัพย์สิน
ศาลฎีกาฯพิพากษา สท.เมืองท่าใหม่ จันทบุรี ปกปิดทรัพย์สิน 12 ล. คุก 1 ด. รอลงโทษ
ศาลฎีกาพิพากษารองนายก อบต.ชิงโค สงขลา ยื่นบัญชีฯเท็จ ปมเงินกู้ 2 ล. รอลงโทษจำคุก
คุก 1 ด. รอลงโทษ! ศาลฎีกาฯพิพากษา นายก อบต.โคกกรวด นครนายก ยื่นบัญชีฯเท็จ
ศาลฎีกาฯให้พ้นตำแหน่ง-ถอนสิทธิ์สมัครเลือกตั้ง! รองนายก อบต.ดูกอึ่ง ไม่ยื่นบัญชีฯป.ป.ช.
ศาลฎีกาสั่งจำคุก 1 เดือน -รอลงโทษ รองนายก อบต.สักหลง จ.เพชรบูรณ์ ไม่ยื่นบัญชี
ศาลฎีกาจำคุก 2 เดือน-รอลงโทษ นายก อบต.ด่านช้าง หนองบัวลำภู ไม่ยื่นบัญชีทรัพย์สิน