องค์คณะวินิจฉัยอุทธรณ์ในศาลฎีกาพิพากษาแก้ ปรับ 5,000 บาท รอลงโทษจำคุก 2 ปี ‘สาธินี ดาวศิริโรจน์’ รองนายก อบจ.สกลนคร คดียื่นบัญชีฯเท็จ ไม่บวกโทษคดีเก่า ยกเหตุมิได้ใช้นอมินีปกปิด-ได้รับโทษถูกเพิกถอนสิทธิฯตลอดชีพถือว่าพอสมควร หลังศาลฎีกาแผนกคดีอาญาฯสั่งจำคุกจริง 1 เดือนรวมคดีเก่าเป็น 6 เดือน
สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org รายงานว่า วันที่ 13 มีนาคม 2568 องค์คณะวินิจฉัยอุทธณรณ์ในที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกาพิพากษา คดีระหว่าง คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (คณะกรรมการ ป.ป.ช.) ผู้ร้อง นางสาวสาธินี ดาวศิริโรจน์ รองนายกองค์การบริหารบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) สกลนคร ผู้ถูกกล่าวหา จงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบต่อผู้ร้องด้วยข้อความอันเป็นเท็จหรือปกปิดข้อเท็จจริงที่ควรแจ้งให้ทราบและมีพฤติการณ์อันควรเชื่อได้ว่ามีเจตนาไม่แสดงที่มาแห่งทรัพย์สินหรือหนี้สินนั้น กรณีพ้นจากตำแหน่งรองนายก อบจ.สกลนคร
ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองพิพากษาจำคุก 1 เดือน องค์คณะผู้พิพากษาเสียงข้างมากเห็นว่า ผู้ถูกกล่าวหากระทำความผิดซ้ำในลักษณะเดียวกันหลายครั้งและผู้ถูกกล่าวหาเคยต้องคำพิพากษาในคดีหมายเลขแดงที่ อม. 103/2561 ของศาลนี้ ซึ่งพิพากษาให้ลงโทษจำคุกและรอการลงโทษ 1 ปี เมื่อวันที่ 21 มิถุนายน 2561 มาแล้ว อันเป็นการให้โอกาสแก่ผู้ถูกกล่าวหา แต่ผู้ถูกกล่าวหายังกระทำความผิดในคดีนี้อีก ส่อแสดงว่าผู้ถูกกล่าวหาไม่หลาบจำและไม่เกรงกลัวต่อกฎหมาย จึงไม่มีเหตุที่จะรอการลงโทษจำคุกให้ผู้ถูกกล่าวหาอีก และให้บวกโทษจำคุก 5 เดือน ของผู้ถูกกล่าวหาที่รอการลงโทษไว้ในคดีหมายเลขแดงที่ อม. 103/2561 ของศาลนี้เข้ากับโทษจำคุกในคดีนี้ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 58 วรรคหนึ่ง เป็นจำคุกผู้ถูกกล่าวหามีกำหนด 6 เดือน
ล่าสุดองค์คณะวินิจฉัยอุทธรณ์ เห็นว่า ผู้ถูกกล่าวหาไม่ยื่นชี้แจงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบต่อผู้ร้องที่เป็นประเด็นปัญหาในคดีนี้ ได้แก่ เงินในบัญชีเงินฝากธนาคาร 4 รายการ หนี้เบิกเงินเกินบัญชีและหนี้เงินกู้จากธนาคาร 5 รายการ ทรัพย์สินบางรายการซ้ำกับรายการทรัพย์สินเดิมที่เคยเป็นปัญหาในคดีหมายเลขแดงที่ อม.103/2561 ของศาลนี้ ทรัพย์สินและหนี้สินทั้งหมดปรากฎในรูปของการทำธุรกรรมที่ปรากฏชื่อธนาคารและผู้ถูกกล่าวหาเป็นคู่สัญญาทั้งหมด มิได้มีการใส่ชื่อบุคคลอื่นแทน ทั้งยังสามารถตรวจสอบได้ไม่ยาก พฤติกรรมของผู้ถูกกล่าวหาไม่ถึงกับส่อไปในทางทุจริต แต่เกิดจากความบกพร่อง ไม่เอาใจใส่ต่อหน้าที่ตามที่กฎหมายกำหนด อีกทั้งการดำรงตำแหน่งทางการเมืองของผู้ถูกกล่าวหาติดต่อเชื่อมโยงกันมาโดยตลอดจนถึงวันที่ศาลมีคำสั่งให้ผู้ถูกกล่าวหาหยุดปฏิบัติหน้าที่ จึงยังฟังไม่ได้ถนัดว่าผู้ถูกกล่าวหาไม่เข็ดหลาบและไม่เกรงกลัวต่อกฎหมาย ประกอบกับผู้ถูกกล่าวหาให้การรับสารภาพ และโทษทางการเมืองที่ผู้ถูกกล่าวหาได้รับโดยถูกเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งตลอดไป ถือว่าผู้ถูกกล่าวหาได้รับโทษตามสมควรแก่พฤติการณ์งการกระทำความผิด เชื่อว่าเพียงพอให้ผู้ถูกกล่าวหาหลาบจำแล้ว กรณีมีเหตุอันควรปรานีรอการลงโทษจำคุกให้แก่ผู้ถูกกล่าวหา อุทธรณ์ของผู้ถูกกล่าวหาฟังขึ้น
พิพากษาแก้เป็นว่า ให้ลงโทษปรับผู้ถูกกล่าวหา 10,000 บาท อีกสถานหนึ่ง ลดโทษ กึ่งหนึ่ง คงปรับ 5,000 บาท โทษจำคุกให้รอการลงโทษมีกำหนด 2 ปี นับตั้งแต่วันที่อ่านคำพิพากษาชั้นวินิจฉัยอุทธรณ์ ไม่บวกโทษจำคุก 5 เดือนของผู้ถูกกล่าวหาที่รอการลงโทษไว้ในคดีหมายเลขแดงที่ อม.103/2561 นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง
คำพิพากษามีรายละเอียดดังนี้
@ เปิดรายละเอียดคำพิพากษา
คำพิพากษาชั้นวินิจฉัยอุทธรณ์คดีหมายเลขดำที่ อม. อธ. 1 /2567คดีหมายเลขแดงที่ อม. อธ.ต /2568 ศาลฎีกา
วันที่ 13 เดือน มีนาคม พุทธศักราช 2568
ระหว่าง คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ผู้ร้อง นางสาวสาธินี ดาวศิริโรจน์ ผู้ถูกกล่าวหา
เรื่อง การแสดงบัญชีรายการทรัพย์สินและหนี้สิน
ผู้ถูกกล่าวหา อุทธรณ์คัดค้าน คำพิพากษาศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ลงวันที่ 10 เดือน กรกฎาคม พุทธศักราช 2567
องค์คณะวินิจฉัยอุทธรณ์ รับอุทธรณ์วันที่ 18 เดือน ธันวาคม พุทธศักราช 2567
@ที่มาแห่งคดีปกปิดแจ้งทรัพย์สิน 9 รายการ
ผู้ร้องยื่นคำร้องว่า ผู้ถูกกล่าวหาได้รับแต่งตั้งตั้งให้ดำรงทำแหน่งรองนายกองค์การบริหารบริหารส่วนจังหวัดสกลนคร เมื่อวันที่ 3 เมษายน 2557 และพ้นจากตำแหน่งเมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม 2561 ผู้ถูกกล่าวหาซึ่งเป็นผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองจงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบต่อผู้ร้องด้วยข้อความอันเป็นเท็จหรือปกปิดข้อเท็จจริงที่ควรแจ้งให้ทราบและมีพฤติการณ์อันควรเชื่อได้ว่ามีเจตนาไม่แสดงที่มาแห่งทรัพย์สินหรือหนี้สินนั้น กรณีพ้นจากตำแหน่งรองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสกลนคร โดยไม่แสดงรายการบัญชีเงินฝาก 4 รายการ รายการหนี้เบิกเงินเกินบัญชี 1 รายการ และรายการหนี้เงินกู้ 4 รายการ ขอให้วินิจฉัยว่า ผู้ถูกกล่าวหาจงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบต่อผู้ร้องด้วยข้อความอันเป็นเท็จหรือปกปิดข้อเท็จจริงที่ควรแจ้งให้ทราบ และมีพฤติการณ์อันควรเชื่อได้ว่ามีเจตนาไม่แสดงที่มาแห่งทรัพย์สินหรือหนี้สินนั้น กรณีพ้นจากตำแหน่งรองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสกลนคร ขอให้เพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งของผู้ถูกกล่าวหา และลงโทษตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 81, 114 วรรคสอง (1) และ 167
ผู้ถูกกล่าวหาให้การรับสารภาพ
@ศาลฎีกาฯจำคุก 1 เดือน กระทำผิดซ้ำ บวกอีก 5 เดือน รวมจริง 6 เดือน
ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองพิพากษาว่า ผู้ถูกกล่าวหาจงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบต่อผู้ร้องด้วยข้อความอันเป็นเท็จหรือปกปิดข้อเท็จจริงที่ควรแจ้งให้ทราบ และมีพฤติการณ์อันควรเชื่อได้ว่ามีเจตนาไม่แสดงที่มาแห่งทรัพย์สินหรือหนี้สิน กรณีพ้นจากตำแหน่งรองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสกลนคร ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 114 วรรคสอง (1) ให้เพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งของผู้ถูกกล่าวหาตลอดไป ตามมาตรา 81 วรรคหนึ่งและวรรคสอง ประกอบมาตรา 114 วรรคสาม กับมีความผิดตามมาตรา 167 จำคุก 2 เดือน ผู้ถูกกล่าวหาให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 คงจำคุก 1 เดือน องค์คณะผู้พิพากษาเสียงข้างมากเห็นว่า ผู้ถูกกล่าวหากระทำความผิดซ้ำในลักษณะเดียวกันหลายครั้งและผู้ถูกกล่าวหาเคยต้องคำพิพากษาในคดีหมายเลขแดงที่ อม. 103/2561 ของศาลนี้ ซึ่งพิพากษาให้ลงโทษจำคุกและรอการลงโทษ 1 ปี เมื่อวันที่ 21 มิถุนายน 2561 มาแล้ว อันเป็นการให้โอกาสแก่ผู้ถูกกล่าวหา แต่ผู้ถูกกล่าวหายังกระทำความผิดในคดีนี้อีก ส่อแสดงว่าผู้ถูกกล่าวหาไม่หลาบจำและไม่เกรงกลัวต่อกฎหมาย จึงไม่มีเหตุที่จะรอการลงโทษจำคุกให้ผู้ถูกกล่าวหาอีก และให้บวกโทษจำคุก 5 เดือน ของผู้ถูกกล่าวหาที่รอการลงโทษไว้ในคดีหมายเลขแดงที่ อม. 103/2561 ของศาลนี้เข้ากับโทษจำคุกในคดีนี้ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 58 วรรคหนึ่ง เป็นจำคุกผู้ถูกกล่าวหามีกำหนด 6 เดือน
ผู้ถูกกล่าวหาอุทธรณ์ต่อที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกา
@เปิดรายการเงินฝาก-เงินกู้รวม 9 รายการ
องค์คณะวินิจฉัยอุทธรณ์พิเคราะห์อุทธรณ์ของผู้ถูกกล่าวหา คำแก้อุทธรณ์ของผู้ร้องพยานหลักฐานและรายงานการไต่สวนของผู้ร้องแล้ว ข้อเท็จจริงเบื้องต้นรับฟังได้ว่า ก่อนถูกดำเนินคดีนี้ ผู้ร้องยื่นคำร้องต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองกล่าวหาว่า ผู้ถูกกล่าวหาซึ่งเป็นผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองและเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ มีหน้าที่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบต่อผู้ร้องภายในเวลาที่กฎหมายกำหนด แต่ผู้ถูกกล่าวหาไม่แสดงการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบต่อผู้ร้อง กรณีพ้นจากตำแหน่งที่ปรึกษานานาองค์การบริหารส่วนจังหวัดสกลนคร เมื่อวันที่ 13 กันยายน 2555 จำนวน 4 รายการ กรณีพ้นจากตำแหน่งที่ปรึกษานายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสกลนครมาแล้วเป็นเวลาหนึ่งปี วันที่ 13 กันยายน 2556 จำนวน 10 รายการ กรณีพ้นจากตำแหน่งที่ปรึกษานบริหารส่วนจังหวัดสกลนคร เมื่อวันที่ 3 เมษายน 2557 จำนวน 9 รายการ กรณีพ้นจากตำแหน่งที่ปรึกษานายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสกลนครมาแล้วเป็นเวลาหนึ่งปี เมื่อวันที่ 3 เมษายน 2558 จำนวน 8 รายการ และกรณีเข้ารับตำแหน่งรองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสกลนคร เมื่อวันที่ 3 เมษายน 2557 จำนวน 9 รายการ ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองมีคำสั่งรับคำร้องและสั่งให้ผู้ถูกกล่าวหาหยุดปฏิบัติหน้าที่ตั้งแต่วันที่ 16 พฤษภาคม 2561 ผู้ถูกกล่าวหาให้การรับสารภาพ ศาลพิพากษาว่า การกระทำของผู้ถูกกล่าวหาเป็นความผิดตามที่ถูกกล่าวหารวม 5 กระทง จำคุก 5 เดือน และปรับ 20,000 บาท โทษจำคุกให้รอการลงโทษไว้ 1 ปี ตามที่ปรากฏในคดีหมายเลขแดงที่ อม. 103/2561 ของศาลนี้ ต่อมาวันที่ 27 ธันวาคม 2566 ผู้ร้องได้ยื่นคำร้องต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองขอให้ลงโทษผู้ถูกกล่าวหากรณีจงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบต่อผู้ร้องด้วยข้อความอันเป็นเท็จ หรือปกปิดข้อเท็จจริงที่ควรแจ้งให้ทราบเป็นคดีนี้กล่าวหาว่า เมื่อศาลฎีกาแผนคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองมีคำมีคำพิพากษาให้ผู้ถูกกล่าวหาพ้นจากตำแหน่งนับแต่วันที่ 16 พฤษภาคม 2561 แล้ว ผู้ถูกกล่าวหาจึงมีหน้าที่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบต่อผู้ร้องภายใน 30 วัน นับจากวันที่พ้นจากตำแหน่ง กล่าวคือ ต้องยื่นภายในวันที่ 14 มิถุนายน 2561 แต่ผู้ถูกกล่าวหายื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบต่อผู้ร้องเมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2562 เกินกว่าระยะเวลาที่กฎหมายกำหนด 227 วัน และไม่แสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน ได้แก่
1. เงินฝากธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) เลขที่บัญชี 2002417035 ชื่อบัญชี นางสาวสาธินี ดาวศิริโรจน์ และนางสาวอรทัย คำเมือง จำนวน 65,326.73 บาท (เฉพาะส่วนของผู้ถูกกล่าวหา)
2. เงินฝากธนาคารออมสิน เลขที่บัญชี 020160310650 ชื่อบัญชี นางสาวสาธินี ดาวศิริโรจน์ จำนวน 77,883.17 บาท
3. เงินฝากธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) เลขที่บัญชี 5472523456 ชื่อบัญชี นางสาวสาธินี ดาวศิริโรจน์ จำนวน 100,292.29 บาท
4. เงินฝากธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) เลขที่บัญชี 5472530518 ชื่อบัญชี นางสาวสาธินี ดาวศิริโรจน์ จำนวน 306,980.14 บาท
5. หนี้เบิกเงินเกินบัญชีธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) เลขที่บัญชี 5473024374 ชื่อบัญชี นางสาวสาธินี ดาวศิริโรจน์ จำนวน 2,906,042.61 บาท
6. หนี้เงินกู้ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาขน) เลขที่บัญชี 54760078570 ชื่อบัญชี นางสาวสาธินี ดาวศิริโรจน์ จำนวน 90,000 บาท
7. หนี้เงินกู้ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) เลขที่บัญชี 54760078651 ชื่อบัญชี นางสาวสาธินี ดาวศิริโรจน์ จำนวน 15,475,235 บาท
8. หนี้เงินกู้ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) เลขที่บัญชี 48590063273 ชื่อบัญชี นางสาวสาธินี ดาวศิริโรจน์ จำนวน 10,000,000 บาท
9. หนี้เงินกู้ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) เลขที่บัญชี 5473200309 ชื่อบัญชี นางสาวสาธินี ดาวศีริโรจน์ จำนวน 10,000,000 บาท
@อุทธรณ์อ้างรับตำแหน่งหลายครั้งทำให้หลงลืม มีธุรกิจต้องดูแล ช่วยเหลือสังคม มีโรคประจำตัว
ปัญหาต้องวินิจฉัยตามอุทธรณ์ของผู้ถูกกล่าวหามีว่า กรณีมีเหตุที่จะรอการลงโทษจำคุกให้แก่ผู้ถูกกล่าวหาหรือไม่
ผู้ถูกกล่าวหายื่นอุทธรณ์ว่า ในช่วงเวลาที่เกิดเหตุผู้ถูกกล่าวหาได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษานานายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสกลนคร ครั้งที่ 1 เมื่อวันที่ 20 ตุลาคม 2551 และพ้นจากตำแหน่งเมื่อวันที่ 13 กันยายน 2555 ต่อมาได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษานายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสกลนคร ครั้งที่ 2 เมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายน 2555 และพ้นจากตำแหน่งเมื่อวันที่ 3 เมษายน 2557 และในวันเดียวกันก็ได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งรองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสกลนครเรื่อยมาจนถึงวันที่ 16 พฤษภาคม 2561 จึงพ้นจากตำแหน่งดังกล่าวตามคำพิพากษาของศาลนี้ ผู้ถูกกล่าวหาดำรงตำแหน่งและพ้นจากตำแหน่งหลายครั้งหลายหนต่อเนื่องเชื่อมโยงกันมาตลอด ทำให้สับสนหลงลืม ประกอบกับผู้ถูกกล่าวหาไม่เคยได้รับโทษจำคุกมาก่อน มีภาระต้องอุปการะเลี้ยงดูบุตรหลาน ต้องดูแลธุรกิจสัมปทานดูดทราย อพาร์ตเมนต์ และสวนอินทผาลัมมีคนงานที่ต้องรับผิดชอบดูแล ผู้ถูกกล่าวหาช่วยงานการกุศล ประกอบคุณงามความดีช่วยเหลือสังคม ทั้งมีโรคประจำตัวเป็นโรคโลหิตจาง ความดันต่ำ นอนไม่หลับและซึมเศร้า ขอให้รอการลงโทษจำคุก
@วินิจฉัย ไม่ถึงส่อทุจริต แต่บกพร่องไม่เอาใจใส่ต่อหน้าที่ ได้รับโทษทางการเมืองตามสมควรแล้ว
เห็นว่า ผู้ถูกกล่าวหาไม่ยื่นชี้แจงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบต่อผู้ร้องที่เป็นประเด็นปัญหาในคดีนี้ ได้แก่ เงินในบัญชีเงินฝากธนาคาร 4 รายการ หนี้เบิกเงินเกินบัญชีและหนี้เงินกู้จากธนาคาร 5 รายการ ทรัพย์สินบางรายการซ้ำกับรายการทรัพย์สินเดิมที่เคยเป็นปัญหาในคดีหมายเลขแดงที่ อม.103/2561 ของศาลนี้ ทรัพย์สินและหนี้สินทั้งหมดปรากฎในรูปของการทำธุรกรรมที่ปรากฏชื่อธนาคารและผู้ถูกกล่าวหาเป็นคู่สัญญาทั้งหมด มิได้มีการใส่ชื่อบุคคลอื่นแทน ทั้งยังสามารถตรวจสอบได้ไม่ยาก พฤติกรรมของผู้ถูกกล่าวหาไม่ถึงกับส่อไปในทางทุจริต แต่เกิดจากความบกพร่อง ไม่เอาใจใส่ต่อหน้าที่ตามที่กฎหมายกำหนด อีกทั้งการดำรงตำแหน่งทางการเมืองของผู้ถูกกล่าวหาติดต่อเชื่อมโยงกันมาโดยตลอดจนถึงวันที่ศาลมีคำสั่งให้ผู้ถูกกล่าวหาหยุดปฏิบัติหน้าที่ จึงยังฟังไม่ได้ถนัดว่าผู้ถูกกล่าวหาไม่เข็ดหลาบและไม่เกรงกลัวต่อกฎหมาย ประกอบกับผู้ถูกกล่าวหาให้การรับสารภาพ และโทษทางการเมืองที่ผู้ถูกกล่าวหาได้รับโดยถูกเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งตลอดไป ถือว่าผู้ถูกกล่าวหาได้รับโทษตามสมควรแก่พฤติการณ์งการกระทำความผิด เชื่อว่าเพียงพอให้ผู้ถูกกล่าวหาหลาบจำแล้ว กรณีมีเหตุอันควรปรานีรอการลงโทษจำคุกให้แก่ผู้ถูกกล่าวหา อุทธรณ์ของผู้ถูกกล่าวหาฟังขึ้น แต่เพื่อให้ผู้ถูกกล่าวหาหลาบจำจึงเห็นควรกำหนดโทษปรับอีกสถานหนึ่ง
พิพากษาแก้เป็นว่า ให้ลงโทษปรับผู้ถูกกล่าวหา 10,000 บาท อีกสถานหนึ่ง ลดโทษ กึ่งหนึ่งตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 คงปรับ 5,000 บาท โทษจำคุกให้รอการลงโทษมีกำหนด 2 ปี นับตั้งแต่วันที่อ่านคำพิพากษาชั้นวินิจฉัยอุทธรณ์ ตามประมวลกฎหมายอาญา ตรา 56 ไม่ชำระค่าปรับให้จัดการตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 29, 30 ไม่บวกโทษจำคุก 5 เดือนของผู้ถูกกล่าวหาที่รอการลงโทษไว้ในคดีหมายเลขแดงที่ อม.103/2561 นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง
ข่าวคดี สาธินี ดาวศิริโรจน์ ก่อนหน้านี้
ศาลฎีกาฯฟัน 2 นักการเมืองท้องถิ่น ยื่นบัญชีฯเท็จ-รองนายก อบจ.สกลฯซุก 5 ครั้ง (1)
ศาลฎีกาฯพิพากษาจำคุกจริง 6 เดือน รองนายก อบจ.สกลนคร จงใจยื่นบัญชีฯเท็จ-ทำผิดซ้ำ (2)
พลิกคดีเก่า รองนายก อบจ.สกลฯ ยื่นบัญชีเท็จ 5 ครั้ง ก่อนทำผิดซ้ำ คราวนี้คุกจริง 6 เดือน (3)
ข่าวคดีบัญชีทรัพย์สินผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองเผยแพร่ ปี 2568
ศาลฎีกาฯพิพากษานายก อบต.สมสะอาด จ.อุบลฯ ไม่ยื่นบัญชีฯ จำคุก 1 เดือน –รอลงโทษ (9)
ศาลฎีกาฯพิพากษารองนายก อบต.นาคำใหญ่ จ.อุบลฯ ไม่ยื่นบัญชีฯ จำคุก 1 เดือน-รอลงโทษ (8)
ศาลฎีกาฯจำคุก 2 เดือน-รอลงโทษ รองนายก อบต.บางกุ้ง จ.ตรัง ไม่ยื่นบัญชีฯ 2 ครั้ง (7)
ศาลฎีกาฯพิพากษา ‘อาแซ มาหะมะ’ นายกเทศฯ ต.ตอหลัง ยื่นบัญชีฯเท็จ คุก 2 เดือน-รอลงโทษ (6)
ศาลฎีกาพิพากษา ‘อนุชิต’ สท.เมืองบึงยี่โถ จ.ปทุมฯ ยื่นบัญชีฯเท็จ จําคุก 2 เดือน รอลงโทษ (5)
ศาลฎีกาฯพิพากษาคุก 1 เดือน นายก อบต.หนองแสงใหญ่ จ.อุบลฯ จงใจไม่ยื่นบัญชีฯ-รอลงโทษ(4)
ศาลฎีกาฯพิพากษาคุก 1 เดือน ‘ขนบ’ นายกอบต.โนนทัน จ.หนองบัวฯ ไม่ยื่นบัญชีฯ-รอลงโทษ(3)
ศาลฎีกาฯจำคุก 1 เดือน ‘สมพงษ์’รองนายก อบต.ดอนกลาง มหาสารคาม ไม่ยื่นบัญชีฯ-รอลงโทษ(2)
ศาลฎีกาฯจำคุก 2 เดือน ‘ชัชวาลย์ ’รองนายก อบจ.ตาก ไม่ยื่นบัญชีทรัพย์สินฯ-รอลงโทษ(1)
ข่าวคดีบัญชีทรัพย์สินผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองรอบปี 2567 (เผยแพร่ 28 ม.ค.2567-12 ม.ค.2568)
สรุปยอดคดีบัญชีทรัพย์สิน 35 นักการเมืองท้องถิ่นปี 2567
สรุปยอดคดีบัญชีทรัพย์สินนักการเมืองท้องถิ่นปี 2567 มีความผิด 35 ราย คุกจริง 2 คน
ศาลฎีกาฯจําคุก 1 เดือน ให้รอลงโทษ รองนายก อบต.หนองฉาง จ.อุทัยฯ จงใจไม่ยื่นบัญชีฯ
ศาลฎีกาฯพิพากษาจำคุก 1 เดือน ให้รอลงโทษ รองนายกทต.ธาตุพนม ยื่นบัญชีฯเท็จ
จงใจไม่ยื่นบัญชีฯ อ้างป่วย! ศาลฎีกาฯจำคุก 1 เดือน เลขาฯนายก อบจ.สมุทรสาคร-รอลงโทษ
จำคุก 2 เดือน ให้รอลงโทษ ‘นันทนิตร’ สท.เมืองศิลา ขอนแก่น จงใจไม่ยื่นบัญชีทรัพย์สิน
ศาลฎีกาฯพิพากษา รองนายก อบต.ถ้ำ จ.พังงา ไม่ยื่นบัญชีทรัพย์สิน จำคุก 1 เดือน รอลงโทษ
‘มะหมัดนีซัม บิลังโหลด’นายกเทศฯ ต.เจ๊ะบิลัง สตูล ยื่นบัญชีเท็จ จำคุก 1 ด.-รอลงโทษ
ศาลพิพากษา ‘ทรงยศ’ รองนายกเทศฯ ต.นาชะอัง ไม่ยื่นบัญชีฯ 2 ครั้ง จำคุก 2 เดือน-รอลงโทษ
‘บุญชัย สีนานันท์’รองนายก อบต.ดอนจิก จ.อุบลฯ ไม่ยื่นบัญชีฯ จำคุก 1 เดือน รอลงโทษ
เปิดคำพิพากษาฉบับเต็ม ‘ไพร พัฒโน’ นายกฯนครหาดใหญ่ ยื่นบัญชีฯเท็จจำคุก 1 เดือน
ศาลฎีกาพิพากษา ‘ศิริชัย กุลาศรี’ ส.อบจ.มหาสารคาม ยื่นบัญชีฯเท็จ คุก 1 เดือน รอลงโทษ
ให้พ้นตำแหน่ง ศาลฎีกาฯ จำคุก 2 เดือน! รองนายก อบต.คลองโคน ยื่นบัญชีเท็จ-รอลงโทษ
ให้พ้นตำแหน่ง! รองนายก อบต.น้ำผุด จ.สตูล จงใจไม่ยื่นบัญชีฯ คุก 2 เดือน รอลงโทษ
ศาลฎีกาให้รองนายกเทศฯ ต.แพรกษา พ้นตำแหน่ง ยื่นบัญชีฯเท็จ คุก 2 เดือน-รอลงโทษ
คดีที่สอง!ศาลฎีกาฯจำคุก 2 เดือน นายก ทต.สระโบสถ์ จ.ลพบุรี จงใจไม่ยื่นบัญชีฯ-รอลงโทษ
ฉบับเต็ม!องค์คณะวินิจฉัยอุทธรณ์ ยืนยกคำร้อง รองนายก อบต.กันจุ ไม่ยื่นบัญชีฯอดีตเมีย
รองนายก อบต.หนองบัวใต้ หนองบัวลำภู ไม่ยื่นบัญชีฯ 2 ครั้ง จําคุก 2 เดือน ให้รอลงโทษ
รองนายก อบต.เฉลียง จ.นครราชสีมา จงใจไม่ยื่นบัญชีทรัพย์สิน จำคุก 1 เดือน ให้รอลงโทษ
ศาลฎีกาฯพิพากษา‘พนมศิลป์’รองนายก ทต.ท่าอุเทน ยื่นบัญชีฯเท็จ คุก 1 เดือน-รอลงโทษ
ศาลฎีกาฯพิพากษา‘สุรางค์ทิพย์’ส.อบจ.ลพบุรี จงใจไม่ยื่นบัญชีฯ จำคุก 2 เดือน-รอลงโทษ
ศาลฎีกาฯ พิพากษา ส.อบจ.เพชรบูรณ์ ซุกเงินฝาก ยื่นบัญชีฯเท็จ คุก 1 เดือน-รอลงโทษ
ศาลฎีกาฯพิพากษารองนายกเทศฯต.โคกล่าม จ.ร้อยเอ็ด ไม่ยื่นบัญชีฯ คุก 1 เดือน-รอลงโทษ
ศาลฎีกาฯพิพากษา รองนายก อบต.วัด จ.ปัตตานี ไม่ยื่นบัญชีฯ จำคุก 1 เดือน รอลงโทษ
ศาลฎีกาฯสั่งจำคุก 1 เดือน -รอลงโทษ รองนายกเทศฯ ต.โพธิ์ชัย ร้อยเอ็ด ยื่นบัญชีฯเท็จ
พลิกคดีเก่า รองนายก อบจ.สกลฯ ยื่นบัญชีเท็จ 5 ครั้ง ก่อนทำผิดซ้ำ คราวนี้คุกจริง 6 เดือน
ศาลฎีกาฯพิพากษาจำคุกจริง 6 เดือน รองนายก อบจ.สกลนคร จงใจยื่นบัญชีฯเท็จ-ทำผิดซ้ำ
ศาลฎีกาฯ สั่งจำคุก 1 เดือน‘เจริญพงษ์’ส.อบจ.พังงา ปกปิดทรัพย์สินฯ 11 รายการ-รอลงโทษ
ศาลฎีกาฯจําคุก 2 เดือน ที่ปรึกษานายก อบจ.ร้อยเอ็ด จงใจไม่ยื่นบัญชีทรัพย์สิน-รอลงโทษ
ศาลฎีกาฯพิพากษาจำคุก 1 เดือน เลขาฯนายกท.นครสุราษฎร์ฯ ยื่นบัญชีฯเท็จ-รอลงโทษ
ศาลฎีกาฯพิพากษารองนายก ทต.บ้านกล้วย ชัยนาท ยื่นบัญชีฯเท็จ คุก 1 เดือน ให้รอลงโทษ
จำคุก 1 เดือน รอลงโทษ รองนายก อบต.หนองแรต จ.ปัตตานี ไม่ยื่นบัญชีฯ ป.ป.ช.
ศาลฎีกาฯจำคุก 1 เดือน รอลงโทษ สท.เมืองเขาสามยอด จ.ลพบุรี จงใจไม่ยื่นบัญชีทรัพย์สิน
ศาลฎีกาฯพิพากษา สท.เมืองท่าใหม่ จันทบุรี ปกปิดทรัพย์สิน 12 ล. คุก 1 ด. รอลงโทษ
ศาลฎีกาพิพากษารองนายก อบต.ชิงโค สงขลา ยื่นบัญชีฯเท็จ ปมเงินกู้ 2 ล. รอลงโทษจำคุก
คุก 1 ด. รอลงโทษ! ศาลฎีกาฯพิพากษา นายก อบต.โคกกรวด นครนายก ยื่นบัญชีฯเท็จ
ศาลฎีกาฯให้พ้นตำแหน่ง-ถอนสิทธิ์สมัครเลือกตั้ง! รองนายก อบต.ดูกอึ่ง ไม่ยื่นบัญชีฯป.ป.ช.
ศาลฎีกาสั่งจำคุก 1 เดือน -รอลงโทษ รองนายก อบต.สักหลง จ.เพชรบูรณ์ ไม่ยื่นบัญชี
ศาลฎีกาจำคุก 2 เดือน-รอลงโทษ นายก อบต.ด่านช้าง หนองบัวลำภู ไม่ยื่นบัญชีทรัพย์สิน