เปิดข้อกล่าวหา ป.ป.ช.ชี้มูล 'สมยศ-พวก' ร่วมมือเป็นระบบ-สร้างพยานหลักฐานเท็จช่วย 'บอส'

picpppdsdsdsdssddsbooossssssss8 9 66

"...การที่ผู้ต้องหาไม่หยุดรถในทันทีหลังจากชนผู้ตาย แต่กลับพาร่างผู้ตายไปไกลกว่า 60 เมตร และลากจักรยานยนต์ของผู้ตายไปไกลกว่า 160 เมตร ทำให้เกิดข้อสงสัยว่าผู้ต้องหาน่าจะกระทำความผิดฐานฆ่าผู้ตายโดยเจตนาเล็งเห็นผลขณะที่ความพยายามในการช่วยเหลือผู้ต้องหาให้รอดพ้นจากการถูกดำเนินคดีเกิดขึ้นทันทีภายหลังจากเกิดเหตุ ..."

ISRA-EXCLUSIVE : คดี 'บอส'

"ที่ประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช. เมื่อวันที่ 5 ก.ย.2566 มีมติชี้มูลความผิดผู้ถูกกล่าวในคดีการกลับคำสั่งไม่ฟ้องนายวรยุทธ หรือ บอส อยู่วิทยา แล้ว ขณะนี้อยู่ระหว่างรอกรรมการ ป.ป.ช.เซ็นรับรองรายงานที่ประชุมครบ จากนั้นน่าจะสามารถเปิดแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนได้"

"สำหรับรายชื่อผู้ถูกกล่าวหาคนสำคัญที่ถูกชี้มูลความผิด ส่วนใหญ่ก็เป็นไปตามที่สำนักข่าวอิศรา รายงานไป อาทิ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายเนตร นาคสุข นายพิชัย (ชูชัย) เลิศพงศ์อดิศร หรือ สว.ก๊อง เป็นต้น"

คือ คำให้สัมภาษณ์ยืนยันของนายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ที่ให้กับสำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) ต่อกรณีปรากฏข่าวว่า เมื่อวันที่ 5 ก.ย.2566 ที่ประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้มีมติชี้มูลความผิดผู้ถูกกล่าวหาในคดีการกลับคำสั่งไม่ฟ้องนายวรยุทธ หรือ บอส อยู่วิทยา ในข้อหาขับรถยนต์ชน ด.ต.วิเชียร กลั่นประเสริฐ เสียชีวิตเมื่อปี 2555 โดยมีขบวนการช่วยเหลือในการเปลี่ยนพยานหลักฐานด้านความเร็วของรถยนต์ เป็นทางการ

โดยผู้ถูกกล่าวหาที่ถูกคณะกรรมการ ป.ป.ช. ชี้มูลความผิดทางอาญา ซึ่งมีการยืนยันชื่อแล้ว คือ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งกรรมาธิการในคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การกฎหมาย กระบวนการยุติธรรมและกิจการตำรวจ สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) , นายเนตร นาคสุข อดีตรองอัยการสูงสุด , นายชัยณรงค์ แสงทองอร่าม อดีตอัยการอาวุโส, นายพิชัย (ชูชัย) เลิศพงศ์อดิศร หรือ สว.ก๊อง ปัจจุบันเป็นนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ , นายสายประสิทธิ เกิดนิยม และพนักงานสอบสวนบางส่วน

สำหรับ นายธานี อ่อนละเอียด สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) และอดีตเลขานุการคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การกฎหมาย กระบวนการยุติธรรมและกิจการตำรวจ สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) และ พล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ อดีตผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ปัจจุบันเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ในรัฐบาล นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ที่ประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช. เห็นควรส่งเรื่องให้ผู้บังคับบัญชาหรือผู้มีอำนาจแต่งตั้งหรือถอดถอนดำเนินการทางวินัยไปตามหน้าที่และอำนาจ เนื่องจากเรื่องที่มีการกล่าวหามิใช่เป็นความผิดร้ายแรง ตามมาตรา 64 พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561

นอกจากนี้ยังมีรายงานข่าวว่า มีการกันตัว พล.ต.อ.มนู เมฆหมอก อดีตผู้บัญชาการสำนักงานพิสูจน์หลักฐานตำรวจที่เป็นเจ้าของสถานที่จัดประชุมเปลี่ยนแปลงความเร็วรถยนต์ของ นายวรยุทธ เป็นพยาน ตามรายงานข่าวก่อนหน้านี้ เพื่อให้ยืนยันหลักฐานสำคัญที่เกี่ยวพันกับผู้ถูกกล่าวหาคนสำคัญในคดี และพยานบางรายให้การเท็จเข้าข่ายความผิดฐานเป็นผู้สนับสนุนด้วย

picbooossssssssssss5 9 66

ปัจจุบัน ณ วันที่ 8 ก.ย.2566 สำนักงาน ป.ป.ช.ยังมิได้มีการนัดหมายสื่อมวลชนเพื่อเปิดแถลงข่าวมติชี้มูลคดีนี้เป็นทางการต่อสาธารณชน

อย่างไรก็ดี สำนักข่าวอิศรา ได้รับการยืนยันข้อมูลเกี่ยวกับรายละเอียดในสำนวนการไต่สวนคดีนี้คดีนี้เพิ่มเติมว่า จำนวนผู้ถูกกล่าวหา ที่องค์คณะไต่สวนคดีนี้ ซึ่งมีกรรมการ ป.ป.ช.ทุกคนเป็นกรรมการ นอกจากนายสุชาติ ตระกูลเกษมสุข กรรมการ ป.ป.ช.ที่ถอนตัวไปก่อนหน้านี้ เนื่องจากเคยเป็นกรรมาธิการที่มีการตั้งคณะกรรมการพิจารณาคำร้องขอความเป็นธรรมที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับในคดี เสนอให้ที่ประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช.ชุดใหญ่ พิจารณาชี้มูลความผิดเป็นทางการ

มีการเสนอชื่อจำนวนผู้ถูกกล่าวหามากถึง 19 ราย โดยปรากฎชื่อ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งกรรมาธิการในคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การกฎหมาย กระบวนการยุติธรรมและกิจการตำรวจ สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) เป็นผู้ถูกกล่าวหาคนที่ 1

01072566 a1

@ สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง

ในการเสนอสำนวนคดีต่อ ที่ประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช.ชุดใหญ่ ระบุว่าเป็นคดีความทางอาญา /วินัย กรณีกล่าวหาเจ้าหน้าที่ของรัฐว่ากระทำความผิดฐานทุจริตต่อหน้าที่กระทำความผิดต่อตำแหน่งหน่าที่ราชการหรือกระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ในการยุติธรรม

ร่วมมือเป็นระบบ-สร้างพยานหลักฐานเท็จช่วย 'บอส'

สำหรับข้อกล่าวหาและพฤติการณ์ในการกระทำความผิด มีการอ้างอิงข้อมูลในรายงานการตรวจสอบข้อเท็จจริงและข้อกฎหมาย กรณีคำสั่งไม่ฟ้องคดีอาญาที่อยู่ในความสนใจของประชาชน ตามคำสั่งนายกรัฐมนตรี ที่ 225/2563 ลงวันที่ 29 กรกฎาคม 2563 ของศูนย์อำนวยการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ สำนักงาน ป.ป.ท. ที่ส่งให้สำนักงาน ป.ป.ช.พิจารณาดำเนินการตามหน้าที่และอำนาจกับเจ้าหน้าที่ของรัฐและผู้ที่เกี่ยวข้อง ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 ซึ่งมีรายละเอียดข้อเท็จจริงสรุปหลายประเด็นอาทิ คณะกรรมการได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินคดีอาญากับนายวรยุทธ อยู่วิทยา แล้ว พบว่า มีการร่วมมือกันอย่างเป็นระบบของเจ้าพนักงานในกระบวนการยุติธรรม เจ้าหน้าที่ของรัฐ ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ทนายความพยาน และบุคคลทั่วไป ในการเข้าแทรกแซงกระบวนการยุติธรรมมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ช่วงเริ่มต้นของการดำเนินคดีจนถึงปัจจุบัน

โดยใช้ช่องโหว่ของกฎหมายใช้อำนาจหน้าที่โดยมิชอบ ใช้อิทธิพลบังคับ และการสร้างพยานหลักฐานอันเป็นเท็จ เพื่อช่วยเหลือผู้ต้องหาให้รอดพ้นจากการถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย

ในชั้นการสอบสวน จากหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ที่แสดงปริมาณแอลกอฮอล์ในกระแสเลือดและบ่งชี้สารเสพติดในร่างกาย รายงานการตรวจพิสูจน์หลักฐานเกี่ยวกับความเร็วของรถในขณะเกิดเหตุ ตลอดจนความพยายามอย่างต่อเนื่องในการช่วยเหลือผู้ต้องหาให้รอดพ้นจากการถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย

คณะกรรมการเชื่อว่าผู้ต้องหาขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ ดาบตำรวจ วิเชียร กลั่นประเสริฐ ผู้บังคับหมู่งานปราบปราม สถานีตำรวจนครบาลทองหล่อ ถึงแก่ความตาย เมื่อวันที่ 3 กันยายน 2555

การที่ผู้ต้องหาไม่หยุดรถในทันทีหลังจากชนผู้ตาย แต่กลับพาร่างผู้ตายไปไกลกว่า 60 เมตร และลากจักรยานยนต์ของผู้ตายไปไกลกว่า 160 เมตร ทำให้เกิดข้อสงสัยว่าผู้ต้องหาน่าจะกระทำความผิดฐานฆ่าผู้ตายโดยเจตนาเล็งเห็นผล

เพราะวิสัยวิญญูชนเมื่อขับรถชนคนหรือสิ่งใดแล้วย่อมต้องหยุดรถทันทีเพื่อตรวจสอบความเสียหายหรือให้ความช่วยเหลือแต่ผู้ต้องหาหาทำเช่นนั้นไม่

ขณะที่ความพยายามในการช่วยเหลือผู้ต้องหาให้รอดพ้นจากการถูกดำเนินคดีเกิดขึ้นทันทีภายหลังจากเกิดเหตุ

จำแนกตามความผิดแต่ละกลุ่ม - 7 ข้อกล่าวหา

สำหรับข้อกล่าวหาและพฤติการณ์ในการกระทำความผิดของผู้ถูกกล่าวหา จำแนกตามความผิดของแต่ละกลุ่มบุคคล ได้แก่

1. กรณีการกระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการตามประมวลกฎหมายอาญา หรือกระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่หรือทุจริตต่อหน้าที่ตามกฎหมายอื่น และมีส่วนร่วมในการกระทำความผิด

2. กรณีสร้างพยานหลักฐานเท็จ โดยนำตัว นายสุเวศ หอมอุบล ลูกจ้างของครอบครัวอยู่วิทยา มามอบตัวรับสมอ้างว่าเป็นผู้ขับรถ

3. กรณีตั้งข้อหาอันเป็นเท็จและไม่ชอบด้วยกฎหมายต่อดาบตำรวจ วิเชียร กลั่นประเสริฐ ผู้ตาย แต่กลับไม่ตั้งข้อหาเสพยาเสพติดให้โทษแก่ผู้ต้องหา ทั้งที่ปรากฎผลตรวจจากห้องปฏิบัติการ

4. กรณีจัดทำพยานหลักฐานเท็จ โดยจัดให้มีการคำนวณความเร็วรถของผู้ต้องหาใหม่เพื่อเปลี่ยนคำให้การเรื่องความเร็วรถในการสอบปากคำ พันตำรวจโท ธนสิทธิ แตงจั่น เมื่อวันที่ 29 กุมภาพันธ์ 2559 และแก้ไขวันที่สอบปากคำให้เป็นวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2559 และวันที่ 6 มีนาคม 2559

5. กรณีกรรมาธิการการกฎหมาย การยุติธรรมและกิจการตำรวจ สภานิติบัญญัติแห่งชาติ เข้าไปก้าวก่ายหรือแทรกแซงการปฏิบัติหน้าที่และการใช้ดุลพินิจสอบสวนและการสั่งคดีของพนักงานสอบสวนและพนักงานอัยการ

6. กรณีการใช้ดุลพินิจของพนักงานอัยการในการสั่งคดีร้องขอความเป็นธรรมและการสั่งฟ้องหรือสั่งไม่ฟ้องคดี

และ 7. กรณีการใช้ดุลพินิจสั่งไม่แย้งคำสั่งไม่ฟ้องของพนักงานอัยการ

ถือเป็นการใช้อำนาจหน้าที่โดยมิชอบ ใช้อิทธิพลบังคับ และสร้างพยานหลักฐานเท็จ เพื่อช่วยเหลือนายวรยุทธอยู่วิทยา ผู้ต้องหา ในคดีขับขี่รถยนต์โดยประมาทเป็นเหตุให้ดาบตำรวจ วิเชียร กลั่นประเสริฐ ถึงแก่ความตายโดยมิชอบหรือโดยทุจริต

เนตร นาคสุข ถูกกล่าวหา ใช้ดุลพินิจตามอำเภอใจ -เอื้อ บอส

สำหรับข้อกล่าวหากรณีการใช้ดุลพินิจของพนักงานอัยการในการสั่งคดีร้องขอความเป็นธรรมและการสั่งฟ้องหรือสั่งไม่ฟ้องคดี นั้น ก่อนหน้านี้ สำนักข่าวอิศรา ได้รับการเปิดเผยข้อมูลจาก นายเนตร นาคสุข อดีตรองอัยการสูงสุด ว่า ถูกองค์คณะไต่สวนกลั่นแกล้งแจ้งกล่าวหาว่า เป็นการใช้ดุลพินิจที่ไม่ได้อยู่บนรากฐานของความสมเหตุสมผลและเป็นการใช้ดุลพินิจตามอำเภอใจ โดยมีเจตนาเพื่อให้เกิดความเสียหายต่อองค์กรอัยการ และเอื้อประโยชน์ให้แก่นายวรยุทธ หรือ บอส อยู่วิทยา ไม่ต้องถูกดำเนินคดี

ป.ป.ช.แจ้งอีกว่า นายเนตร นาคสุข มีโทษทางอาญา มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 มาตรา 200 และพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2561 มาตรา 172 และมีมูลความผิดทางวินัยอย่างร้ายแรง ตามพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการฝ่ายอัยการ พ.ศ.2553 มาตรา 64, 71 และ 85 (7) ด้วย

เบื้องต้น นายเนตร นาคสุข ได้มีการยื่นฟ้องคดีต่อศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อให้วินิจฉัยว่าการกระทำของ คณะกรรมการ ป.ป.ช. เป็นการกระทำที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ละเมิดสิทธิเสรีภาพ ตามที่รัฐธรรมนูญคุ้มครองไว้และการกระทำนั้นขัดต่อรัฐธรรมนูญไปแล้วก่อนหน้านี้

ส่วนผู้ถูกกล่าวหารายอื่นๆ ก็เคยออกมาชี้แจงความบริสุทธิ์ของตนเองต่อสาธารณชนไปบ้างแล้ว

ขณะที่ การชี้มูลความผิดของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ยังไม่ถือเป็นที่สุด ผู้ถูกกล่าวหาทั้งหมด มีสิทธิ์ต่อสู้คดีเพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ ในชั้นศาลได้อีก

picnnewsassaasasaas11 8 66

'เนตร'ขอความเป็นธรรม ยื่นศาลรธน.วินิจฉัยผลสอบ 'วิชา'-ข้อกล่าวหา ป.ป.ช.คดี'บอส' ใช้อำนาจมิชอบ

อย่างไรก็ดี ในเอกสารแจ้งข้อกล่าวหาคดี บอส ในส่วนของ นายเนตร นาคสุข มีการระบุถึงข้อเท็จจริงเกี่ยวกับของสอบสวนคดีนี้ ของ ป.ป.ช.ไว้เป็นทางการด้วย

รายละเอียดเป็นอย่างไร อิศรา จะขอนำมาเสนอในตอนต่อไป

อนึ่ง เกี่ยวกับคดี บอส สำนักข่าวอิศรา เคยทำสรุปข้อมูลลำดับเหตุการณ์ผ่านอินโฟกราฟฟิก ดังนี้

020820 infoboss11

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง :

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้องกับคดีบอส :

#กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage