“...ในวันเดียวกันนั้น พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธ์ม่วง อดีต ผบ.ตร. ได้แนะนำอาจารย์สายประสิทธิ์ เกิดนิยม ให้ผู้แทนกองพิสูจน์หลักฐานกลางทำความรู้จัก และแจ้งว่า อาจารย์สายประสิทธิ์ มีสมมติฐานอีกวิธีมานำเสนอการหาอัตราความเร็วของรถยนต์ที่นายวรยุทธ เป็นผู้ขับขี่ โดยนำเสนอรายงานการวิเคราะห์จำนวน 10 หน้า ระบุความเร็ว 79.22 กม./ชม. และได้มอบเอกสารดังกล่าวให้กับกองพิสูจน์หลักฐานกลาง…”
.................................
หมายเหตุ สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) : เมื่อวันที่ 14 ส.ค. 2563 นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ในฐานะกรรมาธิการ (กมธ.) การกฎหมาย การยุติธรรม และสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ สภาผู้แทนราษฎร โพสต์ข้อความและเอกสารผ่านเฟซบุ๊ก ระบุถึงความคืบหน้าในการพิจารณากรณีพนักงานอัยการสั่งไม่ฟ้องนายวรยุทธ อยู่วิทยา หรือบอส โดยระบุสาระสำคัญถึงกรณี พ.ต.อ.ธนสิทธิ แตงจั่น ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน คดีนายวรยุทธ ที่เปลี่ยนความเห็นเรื่องความเร็วรถของนายวรยุทธ ดังนี้ (อ้างอิงจาก : https://www.facebook.com/211919486231373/posts/532703357486316/)
----
เมื่อวานนี้ (13 ส.ค.63) ในห้องประชุมกรรมาธิการกฎหมาย พ.ต.อ.ธนสิทธิ แตงจั่น ตำรวจพิสูจน์หลักฐานคดีบอส คนที่เปลี่ยนความเห็น เรื่องความเร็วจาก 177 เหลือ 79.22 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ซึ่งถือเป็นประเด็นสำคัญที่ทำให้อัยการสั่งไม่ฟ้องในคดีบอส อยู่วิทยา
พ.ต.อ.ธนสิทธิ ได้กล่าวในห้องประชุมกรรมาธิการฯ ว่ามีผู้บังคับบัญชาระดับสูงนำตัวอาจารย์สายประสิทธิ์ เกิดนิยม มาพบในห้องทำงานของผู้บังคับบัญชาระดับสูงของหน่วย และนำสมมติฐานของคดีว่าเป็นวิธีใหม่ที่คำนวณได้ และนำส่งเอกสาร 10 หน้า ที่ระบุความเร็วที่ 79.22 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ในขณะนั้นเจ้าตัวมีเวลาจำกัด และเกิดแรงกดดันจนทำให้มีการเปลี่ยนความเห็นเรื่องความเร็วต่อพนักงานสอบสวน
ทำให้ประเด็นดังกล่าวได้รับความสนใจและถูกตั้งคำถามจากสาธารณชน ว่าใครผู้บังคับบัญชาระดับสูงคนนั้น
พี่น้องประชาชนครับ คดีนี้เป็นมหากาพย์อันน่าอัปยศในกระบวนการยุติธรรมไทย ยิ่งค้นยิ่งเจอเรื่องแย่ ยิ่งสืบยิ่งเจอคนที่เกี่ยวข้องชนิดที่ไม่น่าเชื่อว่าเขาจะกล้าทำได้ ผมในฐานะกรรมาธิการการกฎหมายฯ ได้รับเอกสารชี้แจงลำดับเหตุการณ์ กรณีคำนวณความเร็วรถนายวรยุทธ อยู่วิทยา จาก พ.ต.ท.ธนสิทธิ์ ซึ่งได้ระบุชื่อชัดเจน ว่าผู้บังคับบัญชาระดับสูงคนนั้นเป็นใคร
ผมขอสรุปลำดับเหตุการณ์ให้พอสังเขปดังนี้นะครับ
1. พ.ต.ท.ธนสิทธิ์ แตงจั่น(ยศในขณะนั้น) เป็นเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานกลาง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่ได้ลงพื้นที่เกิดเหตุมาตั้งแต่วันเกิดเหตุ 3กันยายน 2555และเป็นผู้ออกรายงานการตรวจพิสูจน์ยืนยันความเร็วที่ 177 กม./ชม. ลงวันที่ 26 กันยายน 2555
2. หลังจากนั้นอีก 4 ปี คือเมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2559 พ.ต.อ.วิรดล ทับทิมดี ผกก.สอบสวนสน.ทองหล่อ ได้เดินทางมาพร้อมกับ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธ์ม่วง อดีต ผบ.ตร. และอาจารย์สายประสิทธิ์ เกิดนิยม ขอเข้าพบ พล.ต.ท.มนู เมฒหมอก ผบ.สำนักงานพิสูจน์หลักฐานตำรวจ ที่สำนักงาน ผบช.สพฐ.ตร สำนักงานตำรวจแห่งชาติ
3. ในวันเดียวกันนั้น พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธ์ม่วง อดีต ผบ.ตร. ได้แนะนำอาจารย์สายประสิทธิ์ เกิดนิยม ให้ผู้แทนกองพิสูจน์หลักฐานกลางทำความรู้จัก และแจ้งว่า อาจารย์สายประสิทธิ์ มีสมมติฐานอีกวิธีมานำเสนอการหาอัตราความเร็วของรถยนต์ที่นายวรยุทธ เป็นผู้ขับขี่ โดยนำเสนอรายงานการวิเคราะห์จำนวน 10 หน้า ระบุความเร็ว 79.22 กม./ชม. และได้มอบเอกสารดังกล่าวให้กับกองพิสูจน์หลักฐานกลาง
4. ในวันเดียวกันนั้นได้มีการสั่งการให้ พ.ต.ท.ธนสิทธิ์ แตงจั่น เข้าร่วมพิจารณากับพ.ต.อ.วิรดลฯ ในสำนักงานกองพิสูจน์หลักฐานกลาง ซึ่งพ.ต.อ.วิรดลฯ ได้ส่งเอกสารสำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญากรุงเทพใต้ ลงวันที่ 14 มกราคม 2559 โดยข้อความท้ายหนังสือดังกล่าวระบุว่าพนักงานสอบสวนเจ้าของคดีได้สอบสวนเพิ่มเติม พ.ต.ท.ธนสิทธิฯ และส่งผลการสอบสวนให้พนักงานอัยการภายในวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2559 พ.ต.ท.ธนสิทธิฯ ได้มีการคำนวณความเร็วตามสมมุติฐานของอาจารย์สายประสิทธิ์ ในกระดาษอีกแผ่นซึ่งได้ค่าใกล้เคียงกัน พ.ต.ท.ธนสิทธิฯ ลงนามไว้ว่าเป็นการคำนวณของตนเอง
5. พร้อมกันนั้น พ.ต.อ.วิรดลฯ ให้ พ.ต.ท.ธนสิทธิฯ ให้ปากคำเรื่องการคำนวณตามสมมุติฐานของอาจารย์สายประสิทธิ์ โดยถามถึงความคลาดเคลื่อนที่สามารถเกิดขึ้นได้จากการคำนวณตามรายงานการตรวจพิสูจน์ เมื่อ 26 กันยายน 2555 ที่ได้ 177 กม./ชม. ซึ่งพ.ต.ท.ธนสิทธิฯ ได้ให้ปากคำว่าอาจเกิดขึ้นได้ตามหลักทางวิทยาศาสตร์ ส่วนในเรื่องความคลาดเคลื่อนตามสมมุติฐานของอาจารย์สายประสิทธิ์ ในเวลานั้นซึ่งซึ่งพึ่งได้เห็นสมมุติฐานของอาจารย์สายประสิทธิ์เป็นครั้งแรกจึงไม่สามารถบอกได้ว่ามีความคลาดเคลื่อนหรือความบกพร่องอย่างไร
6.พ.ต.ท.ธนสิทธิฯ ได้ให้ปากคำในวันนั้นจะถึงเวลาประมาณ 22.00 น. สุดท้ายจึงลงนามในเอกสารสองฉบับฉบับแรกลงวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2559 อีกฉบับลงวันที่ 2 มีนาคม 2559 โดยมีการให้เหตุผลว่าถูกเร่งรัดให้รีบดำเนินการเนื่องจากผู้บังคับบัญชาที่อยู่ด้วยไม่ได้ทักท้วง พ.ต.ท.ธนสิทธิฯ จึงลงนามในเอกสาร
7. ต่อมา 29 มีนาคม 2559 พ.ต.ท.ธนสิทธิฯ ได้ร่วมกับทีมพิสูจน์หลักฐานเดิมทำรายงานพิสูจน์สมมุติฐานของอาจารย์สสายประสิทธิ์ พบว่าการกำหนดให้ค่าตัวแปรต่างๆผิดไปจากความเป็นจริงมากโดยวิธีการดังกล่าวมีความผิดพลาดถึง 46% จึงทำให้ความเร็วที่ได้เท่ากับ 79.22 กม./ชม. ซึ่งเป็นค่าคำนวณที่ไม่ถูกต้อง จึงได้นำพลังงานดังกล่าวเสนอต่อผู้บังคับบัญชาขอให้ประสานไปยังพ.ต.อ.วิรดลฯ ผกก.สอบสวน สน.ทองหล่อ เพื่อขอให้ปากคำเพิ่มเติมยืนยันผลการตรวจพิสูจน์ที่ 177 กม./ชม. ซึ่งในวันนั้นผู้บังคับบัญชาได้โทรประสาน พ.ต.อ.วิรดล ทันที แต่พ.ต.อ.วิรดล ปฏิเสธว่าไม่สามารถสอบปากคำเพิ่มเติมได้และได้ส่งเอกสารการให้ปากคำให้กับพนักงานอัยการแล้ว พร้อมทั้งยังได้อ้างเหตุว่าคดีเรื่องขับรถเร็วขาดอายุความไปแล้ว ทำให้ผู้บังคับบัญชาและ พ.ต.ท.ธนสิทธิ สำคัญผิดว่าเอกสารดังกล่าวไม่ถูกใช้ในสำนวนแล้ว แต่พ.ต.ท.ธนสิทธิฯ ยืนยันกับผู้บังคับบัญชาว่าจะให้ปากคำเพิ่มเติมเพื่อความถูกต้องในสำนวน
8. ต่อมา เมื่อ 21 กรกฎาคม 2559 พ.ต.อ.ธนสิทธิฯ ได้เดินทางไปยังสภานิติบัญญัติแห่งชาติ เพื่อเข้าร่วมการประชุมคณะกรรมาธิการการกฎหมายกระบวนการยุติธรรมและกิจการตำรวจ แต่เมื่อไปถึงห้องประชุมได้มีเจ้าหน้าที่สภามาแจ้งว่าขอเลื่อนการประชุมออกไปก่อนและไม่เคยมีใครติดต่อไปจนปัจจุบัน
9.ต่อมา พ.ต.อ.ธนสิทธิฯ เดินทางไปให้ถ้อยคำ กับคณะอนุกรรมการไต่สวน ที่สำนักงาน ป.ป.ช. และได้แจ้งให้คณะอนุกรรมการไต่สวนบันทึกไว้ในเอกสารว่าขอเพิ่มเติมความเห็นในกรณีความเร็วของรถ ว่าสามารถพบความบกพร่องของสมมุติฐานในการคำนวณความเร็วของอาจารย์สายประสิทธิ์ ดังนั้นความเร็ว 79.22 กิโลเมตรต่อชั่วโมง จึงไม่ถูกต้อง ซึ่งทั้งมีบันทึกคำให้การถูกคัดถ่ายเป็นสำเนาไว้
(หนึ่งในเอกสารที่นายรังสิมันต์ โรมอ้างถึง, อ่านรายละเอียดทั้งหมด : https://www.facebook.com/211919486231373/posts/532703357486316/)
โดยสรุป
อาจารย์สายประสิทธิ์ ถูกนำตัวมาพบกับกองพิสูจน์หลักฐานกลางโดยอดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติที่ชื่อว่าพลตำรวจเอกสมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง
ผู้บังคับการก่อนพิสูจน์หลักฐานกลางในขณะนั้นคือ พลตำรวจโทมนู เมฆหมอก ได้ร่วมพิจารณาสมมุติฐานของอาจารย์สายประสิทธิ์และได้สั่งการให้กองพิสูจน์หลักฐานกลางร่วมพิจารณาซึ่งการสอบปากคำพันตำรวจโทธนสิทธิฯ ต่อพนักงานสอบสวนเป็นการให้ปากคำในทางวิชาการแต่ไม่ถือว่าเป็นผลการตรวจพิสูจน์เพราะยังไม่มีการยกเลิกรายงานการตรวจพิสูจน์เดิมของกองพิสูจน์หลักฐานกลาง
ดังนั้นในความเห็นของ พ.ต.อ.ธนสิทธิ (ยศปัจจุบัน) เขายืนยันว่าไม่ได้กลับคำให้การในเรื่องการคำนวณความเร็วแต่อย่างใด
พี่น้องประชาชนครับนี่คือการสรุปข้อเท็จจริงจากเอกสารชี้แจงลำดับเหตุการณ์ซึ่งผมได้โพสต์รูปไว้แล้วพี่น้องสามารถอ่านและพิจารณาโดยละเอียดได้
สำหรับตัวผมในฐานะของกรรมาธิการการกฎหมายฯ จะเสนอให้คณะกรรมาธิการได้พิจารณาเชิญบุคลที่เกี่ยวข้องโดยเฉพาะนายตำรวจระดับสูงหลายคน ตามเอกสารฉบับนี้มาชี้แจงต่อกรรมาธิการในการประชุมโอกาสต่อไป
ล่าสุด เมื่อเวลาประมาณ 19.00 น.วันที่ 14 ส.ค. ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรา โทรศัพท์เพื่อขอสัมภาษณ์ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธ์ม่วง อดีต ผบ.ตร. ที่มีชื่อปรากฏอยู่ในข้อมูลดังกล่าว
ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่มีข้อมูลระบุว่า พล.ต.อ.สมยศ พานายสายประสิทธิ์ เกิดนิยมเดินทางมายัง สำนักงาน พิสูจน์หลักฐานตำรวจ พร้อมกับ พ.ต.อ.วิรดล ทับทิมดี ผกก.สอบสวนสน.ทองหล่อ ในเดือน กุมภาพันธ์ 2559 และมีการแจ้งผลการคำนวณความเร็วรถนายวรยุทธที่ต่างไปจากผลการคำนวณของ พ.ต.ต.ธนสิทธิ์ แตงจั่น
พล.ต.อ.สมยศ กล่าวว่าขอไม่ชี้แจงใด ๆ เนื่องจากยังไม่เห็นเอกสารดังกล่าว ไม่ทราบข้อมูลใด ๆ ที่ผู้สื่อข่าวถาม และตนเองเกษียณอายุราชการตั้งแต่ปี 2558 แล้ว ขอไม่ให้สัมภาษณ์ผ่านทางโทรศัพท์
ผู้สื่อข่าวถามว่าขอนัดสัมภาษณ์อย่างเป็นทางการเพื่อสอบถามในประเด็นดังกล่าวได้หรือไม่ พล.ต.อ.สมยศ กล่าวว่ายังไม่ให้สัมภาษณ์ ยังไม่เห็นข้อมูล
หมายเหตุ : ภาพประกอบนายรังสิมันต์ โรม จาก https://www.thairath.co.th/
อ่านประกอบ :
‘สิระ’เตือน‘ธานี’ถ้าไม่แจง กมธ.อาจออกคำสั่งเรียก-เชิญ 3 คณะทำงานฯสางคดี‘บอส’ด้วย
'เนตร-อรรถพล' เข้าพบ กก.สางคดี 'บอส อยู่วิทยา' ส่วน 'วิชา' จ่อเรียก 'ธนสิทธิ' เข้าพบสัปดาห์หน้า
พร้อมให้สอบเส้นทางเงิน! ‘เนตร’แจง 2 กมธ.สภาฯ-ยันใช้ดุลพินิจตามสำนวนจึงไม่สั่งฟ้อง‘บอส’
เป็นทางการ!'เนตร'ไขก๊อกรอง อสส.-ตั้งคณะทำงานสอบการใช้ดุลพินิจไม่สั่งฟ้อง'บอส'
ละเอียด!แกะ 3 ปมคณะทำงานอัยการฯชง อสส.สอบต่อคดี‘บอส’-เบื้องหลัง‘เนตร’สั่งไม่ฟ้อง?
ผบ.ตร.เข้าพบกรรมการชุดสางคดี 'บอส' - 'วิชา' จ่อเรียก 'เนตร นาคสุข' ชี้แจงต่อ
ชำแหละคำแถลงคณะทำงาน อสส.แค่’เอาตัวรอด-โยนความผิด’?ไร้ผลนำ‘บอส’ขึ้นศาล
'อิศรา' ตามหา 'ร.อ.สอาด' ผู้ร้องขอ 'พล.อ.ท. จักรกฤช' เข้าให้การเป็นพยานพลิกคดี 'บอส'
เส้นทางชีวิต ‘จารุชาติ’ พยานพลิกคดี'บอส' ให้การปี55-ไปไต้หวัน-ให้การปี 62-ตายต้นปี 63
INFO: เส้นทางชีวิต ‘จารุชาติ มาดทอง’ พยานคดี 'บอส อยู่วิทยา' ก่อนเสียชีวิตกะทันหัน
INFO : สรุปคดี 'บอส อยู่วิทยา' ก่อนอัยการมีคำสั่งไม่ฟ้อง
รองอสส.ถือว่าทำผิดกม.! 'คณิต' ชี้คดี 'บอส' อัยการสูงสุดสั่งฟ้องไปแล้วเปลี่ยนไม่ได้
ร่วมทำบุญผ้าป่า-เดินทางไปงานบวช! ไขข้อมูล 'ส.ว.ก๊อง - อสส.' รู้จักกันจริงไหม?
ผบช.ภ.5แถลงสอบลูกน้อง‘ชูชัย’ สารภาพ ทำลายโทรศัพท์‘จารุชาติ’พยานคดีบอส อ้างมีรูปตัวเองเยอะ
ถอดคลิป18 ช็อต! อุบัติเหตุ 'จารุชาติ' พยานคดี 'บอส อยู่วิทยา' ตำรวจตั้งข้อหาถูกแล้วหรือ?
เจาะ บ.นิติชัยฯ นายจ้าง 'จารุชาติ' - อดีต ส.ว.ก๊อง รวมก่อตั้ง - แจ้งมีเงินให้กก.กู้ยืม 7.1 ล.
ก่อนเล่าหลังฉากพยานคดี‘บอส’!โพรไฟล์ ‘ชูชัย เลิศพงศ์อดิศร’อ้างรู้จัก‘เฉลิม อยู่วิทยา’?
ชำแหละคำแถลงคณะทำงาน อสส.แค่’เอาตัวรอด-โยนความผิด’?ไร้ผลนำ‘บอส’ขึ้นศาล
ใครเป็นใคร? เปิดชื่อ-หน้าที่ 3 คณะทำงาน-4 กมธ.2 สภาลุยสอบปมไม่ฟ้องคดี‘บอส อยู่วิทยา’
ผบก.ป.ตั้ง 2 สมมติฐานชันสูตรศพ‘จารุชาติ’-ลั่นหลักฐานต้องชัดเจนไม่ว่าผลเป็นอย่างไร
ผู้การเชียงใหม่'เร่งรัดผลตรวจหาสารในร่าง'จารุชาติ'-กองปราบฯ ลงพท.สืบปมการตาย
ทางการ! 'บิ๊กตู่'สั่งอายัดศพ'จารุชาติ'พยานคดี'บอส'ชันสูตรหาสาเหตุเสียชีวิตใหม่แล้ว
'บวรศักดิ์'จี้ชันสูตรศพพยานคดี’บอส’ให้ชัดเจน ก่อนญาติฌาปนกิจพรุ่งนี้
ตายเพราะอุบัติเหตุกะทันหัน! ‘จารุชาติ มาดทอง’ พยานปากเอก พลิกคดี ’บอส อยู่วิทยา’
ฉบับเต็ม! สำนวนลับอัยการสั่งไม่ฟ้อง ‘บอส อยู่วิทยา’ พยาน 2 รายใหม่ อ้างขับรถแค่ 50-60กม.
เปิดอาณาจักร 62 บ.‘อยู่วิทยา’ ปี 62 ‘ที.ซี.ฟาร์มาฯ-กระทิงแดง’รายได้ 4 หมื่นล.
มูลนิธิเมาไม่ขับจี้ อสส.-ผบ.ตร.! ชี้แจงหลักการ-เหตุผลไม่สั่งฟ้อง‘วรยุทธ อยู่วิทยา’
โชว์หนังสืออัยการสั่งไม่ฟ้อง‘บอส อยู่วิทยา’ผบ.ตร.ไม่แย้ง-สตช.ยื่นศาลถอนหมายจับ
อสส. แจงอิศรายังไม่ทราบเรื่อง! ซีเอ็นเอ็น ตีข่าว 'อัยการ' ไม่สั่งฟ้อง 'บอส อยู่วิทยา'
ป.ป.ช.ฟันวินัยไม่ร้ายแรงอดีต‘ผบก.น.5-พวก’ปมช่วยเหลือ-ไม่ออกหมายจับ‘บอส กระทิงแดง’
ทายาทกระทิงแดงขอสอบพยานเพิ่มทำคดีขับชน ตร.ตายช้า! อสส.เร่งส่งฟ้องศาล
ไทม์ไลน์ทายาท‘กระทิงแดง’ขอเลื่อนพบอัยการ 7 ครั้งก่อนจ่อถูกหมายจับ?
เจาะอาณาจักรธุรกิจหมื่นล.‘อยู่วิทยา’ -‘วรยุทธ’กก. 3 บริษัทรายได้รวม 914 ล
#กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage