เปิดตัว ‘บิ๊กสีกากี’ ตัวละครรายที่ 7 ในห้องปั้นความเร็วรถเฟอร์รารี่คดี ‘บอส’ หายไปไหน?

05092563boss 1

"...แหล่งข่าวยืนยันด้วยว่าพยานหลักฐานที่คณะกรรมการชุดนายวิชาที่ได้รับจาก พ.ต.อ.ธนสิทธิ ทำให้พบว่า ตัวละครที่อยู่ในห้องวันที่มีการเปลี่ยนแปลงความเร็วรถ ไม่ได้มีแค่ 6 คน แต่มีตัวละครสำคัญระดับ ‘บิ๊กสีกากี’ รวมอยู่ด้วย และมีบทบาทสำคัญต่อการตัดสินใจอย่างมากของ พ.ต.อ.ธนสิทธิ รวมถึงเป็นหนึ่งในบุคคลที่แสดงท่าทีเห็นด้วยกับนายตำรวจระดับสูงอยู่ตลอดเวลา..."

---------------------------------------------------

ประเด็นตรวจสอบข้อเท็จจริงเหตุการณ์การเปลี่ยนแปลงความเร็วรถเฟอร์รารีของนายวรยุทธ อยู่วิทยา หรือ บอส ที่ขับรถชนตำรวจเสียชีวิตเมื่อปี 2555

ที่ พ.ต.อ.ธนสิทธิ แตงจั่น ตำรวจพิสูจน์หลักฐานผู้คำนวณความเร็วรถ อ้างว่า เกิดขึ้นในห้องทำงานของ พล.ต.อ.มนู เมฆหมอก รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ขณะดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการสำนักงานพิสูจน์หลักฐานตำรวจ

ซึ่งในห้องทำงานนั้น มีกลุ่มบุคคลอยู่ร่วมด้วย จำนวน 6 ราย คือ 1. พล.ต.อ.มนู 2.พ.ต.อ.วิรดล ทับทิมดี ขณะดำรงตำแหน่งเป็นพนักงานสอบสวน สถานีตำรวจนครบาลทองหล่อ เจ้าของสำนวนคดีนายวรยุทธ 3.พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง อดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) 4.พ.ต.อ.ธนสิทธิ และมีคนนอก 2 คน คือ 1.นายธนิต บัวเขียว ทีมทนายความที่ยื่นร้องขอความเป็นธรรมเกี่ยวกับคดีของนายวรยุทธ และ 2.พนักงานอัยการที่ยังเป็นปริศนา

ขณะที่ พล.ต.อ.มนู , พ.ต.อ.วิรดล และ พล.ต.อ.สมยศ ออกมายืนยันตรงกันว่า พล.ต.อ.สมยศ ไม่ได้อยู่ในห้องทำงานและร่วมสนทนาด้วยแต่อย่างใด

โดยในส่วน พล.ต.อ.สมยศ ได้นำหลักฐานมาชี้แจงไปแล้วว่า ช่วงเวลาระหว่างวันที่ 23 -28 ก.พ. 2559 ตนเดินทางไปประชุมสหพันธ์ฟุตบอลระหว่างประเทศ (ฟีฟ่า) ที่ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ จึงไม่ได้อยู่ในห้องดังกล่าวตามที่มีการกล่าวอ้าง

(อ่านประกอบ : เลือกปธ.ฟีฟ่าอยู่สวิส!'สมยศ' กางหลักฐานโต้พา 'สายประสิทธิ์' ให้ข้อมูลความเร็วรถบอส และ ถูกกดดันจนไม่มีเวลาคิด!'ธนสิทธิ'แจงเหตุเปลี่ยนความเร็วรถคดี'บอส'-เรียก'สมยศ'แจงคิวต่อไป )

อย่างไรก็ดี ในการเปิดเผยรายงานสรุปจากนายวิชา มหาคุณ ประธานคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงและข้อกฎหมาย กรณีคำสั่งไม่ฟ้องคดีอาญาที่อยู่ในความสนใจของประชาชน ยืนยันว่า มีพยานหลักฐานที่พิสูจน์แล้วทางนิติวิทยาศาสตร์ว่า เหตุการณ์ดังกล่าว เกิดขึ้นในวันที่ 29 ก.พ.2559 ไม่ใช่วันที่ 26 ก.พ.2559 ตามที่ปรากฎข้อมูลในช่วงแรกแต่อย่างใด

ล่าสุดสำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) ได้รับการเปิดเผยข้อมูลสำคัญเพิ่มเติมว่า ในเหตุการณ์ครั้งนั้น มีอีกหนึ่งตัวละครสำคัญที่หายไป แม้ว่าก่อนหน้านี้เคยปรากฏชื่ออยู่ในเอกสารที่ถูกเผยแพร่จากคณะกรรมาธิการ สภาผู้แทนราษฎรแล้วก็ตาม แต่กลับไม่ปรากฏอยู่ในรายงาน 7 หน้า ที่คณะกรรมการของนายวิชาได้เผยแพร่ไว้กับสื่อมวลชน

ตัวละครสำคัญดังกล่าว เป็นตัวละครสำคัญระดับ ‘บิ๊กสีกากี’ ด้วย

@ ‘บิ๊กสีกากี’ รายนี้ เกี่ยวข้องในกระบวนการเปลี่ยนแปลงความเร็วรถของนายวรุยทธอย่างไร ?

แหล่งข่าวทำเนียบรัฐบาล เปิดเผยสำนักข่าวอิศราว่า พยานหลักฐานที่คณะกรรมการชุดนายวิชาที่ได้รับจาก พ.ต.อ.ธนสิทธิ ระบุว่า ตัวละครที่อยู่ในห้องวันที่มีการเปลี่ยนแปลงความเร็วรถ ไม่ได้มีแค่ 6 คน แต่มีตัวละครสำคัญอีก 1 คน นับเป็นรายที่ 7 ตำแหน่งระดับ ‘บิ๊กสีกากี’ รวมอยู่ด้วย และมีบทบาทสำคัญต่อการตัดสินใจอย่างมากของ พ.ต.อ.ธนสิทธิ รวมถึงเป็นหนึ่งในบุคคลที่แสดงท่าทีเห็นด้วยกับนายตำรวจระดับสูงอยู่ตลอดเวลา

นอกจากนั้นพยานหลักฐานได้รับจาก พ.ต.อ.ธนสิทธิ ไม่ได้มี ‘เทปบันทึกเสียง’ เพียงแค่ 1 เหตุการณ์ที่เกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนแปลงความเร็วรถของนายวรยุทธ

เพราะความเป็นพนักงานพิสูจน์หลักฐาน ที่มีงานประจำและภารกิจที่ได้รับมอบเป็นพิเศษจำนวนมาก พ.ต.อ.ธนสิทธิ จึงได้บันทึกเสียงข้อมูลต่างๆ เพื่อป้องกันไม่ให้สาระสำคัญของแต่ละภารกิจเกิดความบกพร่อง

จึงเป็นที่มาของการบันทึกเสียงอีกหนึ่งเหตุการณ์ที่ผ่านไปแล้ว 1 เดือนหลังจากเกิดการเปลี่ยนแปลงความเร็วรถของนายวรยุทธจาก 177 กม./ชม. เหลือไม่เกิน 80 กม./ชม. และเป็นบทสนทนาระหว่าง ‘บิ๊กสีกากี’ กับ หนู ซึ่งเป็นชื่อเล่นของ พ.ต.อ.ธนสิทธิ

โดยขณะนั้น พ.ต.อ.ธนสิทธิ อ้างว่า ได้คิดทบทวนเรื่องอัตราความเร็วของนายวรยุทธ จนเป็นที่มั่นใจว่า สูตรคำนวณความเร็วเหลือไม่เกิน 80 กม./ชม. ที่ได้รับคำแนะนำจาก นายสายประสิทธิ์ เกิดนิยม อาจารย์ประจำและหัวหน้าศูนย์วิจัยเฉพาะทางวิศวกรรมการประเมินและความปลอดภัยยานยนต์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือไม่ถูกต้อง

จึงได้ติดต่อพนักงานสอบสวนเพื่อขอแก้ไขปากคำเรื่องดังกล่าว โดยได้ประสานงานผ่าน ‘บิ๊กสีกากี’ รายนี้ เพื่อขอแก้ไขปากคำเรื่องความเร็วที่ให้ปากคำไว้ก่อนหน้านี้

ทั้งนี้ พนักงานสอบสวนปฏิเสธที่จะมาสอบปากคำเพิ่มเติม พร้อมยืนยันกับ ‘บิ๊กสีกากี’ ว่าได้ส่งเอกสารทั้งหมดให้พนักงานอัยการไปแล้ว และ คดีเรื่องขับรถเร็ว ก็ขาดอายุความไปแล้ว และเหลือเพียงคดีขับรถโดยประมาทเท่านั้น

อย่างไรก็ตาม ‘ความเร็วรถ’ ถือเป็นหนึ่งในองค์ประกอบของคดีขับรถโดยประมาท ทำให้ พ.ต.อ.ธนสิทธิ ยังยืนยันกับ ‘บิ๊กสีกากี’ ที่จะให้ปากคำเพิ่มเติม แต่ก็ไม่ได้รับการตอบสนองแต่อย่างใด และเห็นว่าเพียงความกังวลของ พ.ต.อ.ธนสิทธิ เท่านั้น

และกลายเป็นเหตุการณ์ที่ พ.ต.อ.ธนสิทธิ ไม่สามารถกลับคำให้การกลับไปที่ความเร็วรถ 177 กม./ชม. ได้ ?

เพราะคดีเกี่ยวกับความเร็วขาดอายุความ หรือเพราะไม่มีใครสนับสนุนในการกลับคำให้การอีกครั้งของ พ.ต.อ.ธนสิทธิ ?

@ ข้อมูลอยู่ในมือ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีแล้ว?

แหล่งข่าว ยังยืนยันสำนักข่าวอิศราว่า แม้ว่าในรายงาน 7 หน้า ที่คณะกรรมการของนายวิชาได้เผยแพร่ไว้กับสื่อมวลชน จะไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับ ‘บิ๊กสีกากี’ อยู่

แต่ในรายงานฉบับสมบูรณ์ที่อยู่ในมือนายกรัฐมนตรี มีชื่อและตำแหน่งที่ชัดเจนของ ‘บิ๊กสีกากี’ รายนี้ชัดเจน

เพราะเป็นหนึ่งในตัวละครสำคัญ ช่วงที่มีการเปลี่ยนแปลงความเร็วรถของนายวรยุทธ

‘บิ๊กสีกากี’ รายนี้ เป็นใคร? จะต้องถูกสอบสวนในคดีนี้ด้วยหรือไม่ ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของ พล.อ.ประยุทธ์ เพียงผู้เดียวเท่านั้น

05092563boss 2 (เอกสารบันทึกบทสนทนาระหว่าง บิ๊กสีกากี กับ พ.ต.อ.ธนสิทธิ แตงจั่น)