'วิชา' เตรียมยื่นรายงานฉบับใหญ่คดี 'บอส' ให้นายกฯพิจารณา 31 ส.ค. แง้มไม่ผิดกฎหมาย แต่อาจผิดจริยธรรม โยน 'บิ๊กตู่' ตัดสินใจแจงข้อเท็จจริงสาธารณชนหรือไม่ พร้อมขอต่อเวลาอีก 30 วันทำปฏิรูปากฎหมาย-กระบวนการยุติธรรม เผยคำชี้แจงตำรวจ ขอถอนหมายแดงอินเตอร์โพล ทั้งที่ไทยยังไม่ถอนหมายจับ
------------------------------------------
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อวันที่ 26 ส.ค. นายวิชา มหาคุณ เป็นประธานคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงและข้อกฎหมาย กรณีคำสั่งไม่ฟ้องคดีอาญาที่อยู่ในความสนใจของประชาชน โดยเป็นการประมวลความเห็นทุกฝ่ายก่อนรวบรวมรายงานข้อเท็จจริงกรณีอัยการสั่งไม่ฟ้องคดีนายวรยุทธ อยู่วิทยา หรือบอส ที่ขับรถชนตำรวจเสียชีวิตเมื่อปี 2555
เมื่อเวลา 17.00 น. นายวิชา เปิดเผยภายหลังการประชุมว่า วันนี้ได้หารือกันเพื่อทำรายงานเสนอให้นายกรัฐมนตรีเป็นครั้งที่ 3 โดยจะทำโครงสร้างและรวบรวมเพื่อนำไปสู่การทำรายงานฉบับใหญ่เพราะครบกำหนด 30 วัน โดยจะดำเนินการยื่นในวันจันทร์หน้า อย่างไรก็ตามบางประเด็นอาจจะยังไม่สมบูรณ์ เพราะเวลา 30 วันที่ทำหน้าที่มาถือว่าน้อยมาก ทำงานกันทั้งวันทั้งคืน ไม่ได้หยุด และถือว่าเป็นภาระอันหนักหนามาก เพราะต้องมารับฟังเรื่องหนักๆ ทั้งนั้น และถึงที่สุด ถือว่าเราได้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ในการเสนอนายกรัฐมนตรีในประเด็นต่างๆ ที่สำคัญ ทั้งการทำสำนวนคดีตั้งแต่แรกว่ามีข้อบกพร่องอะไร และขั้นตอนของอัยการก็ใช้เวลานานเนื่องจากมีการร้องขอความเป็นธรรมหลายครั้ง สิ่งที่เป็นประโยชน์อย่างยิ่งคือ เราได้ขอความเห็นจากอดีตอัยการสูงสุดถึง 4 คน เพื่อให้ช่วยดูว่ากรณีที่เกิดขึ้นนี้เป็นกรณีที่ขาดตกบกพร่องหรือไม่อย่างไร และควรจะปรับปรุงอะไรมาก ทั้งหมดก็ถือเป็นประโยชน์มาก
ทั้งนี้จะนำไปสู่การประกอบความเห็นเพื่อให้แน่ใจว่าจุดบอด จุดบกพร่องของเรื่องนี้อยู่ตรงไหน ทั้งนี้ยังเหลือเวลาอีก 5 วัน ที่เราจะต้องสรุปภาพรวมทั้งหมด เพื่อดูว่ามีประเด็นใดบ้างต้องแก้ไข แต่ยังไม่ได้ลงรายละเอียดถึงการปฏิรูปกฎหมาย เพราะทราบว่าท่านจะให้ต่อเวลาอีก 30 วัน แต่ก็สุดแล้วแต่นายกรัฐมนตรีจะตัดสินใจ เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ เนื่องจากมีร่างกฎหมายรอผ่านการพิจารณาในสภาอยู่ คือ ร่าง พ.ร.บ.สอบสวนคดีอาญา
“สำหรับการจัดทำข้อสรุปเรื่องนี้ เมื่อเราส่งให้นายกรัฐมนตรีรับทราบ หากท่านนายกรัฐมนตรีเห็นสมควรให้เผยแพร่หรือไม่ ผมคงไปเที่ยวเผยแพร่เองไม่ได้ และขึ้นอยู่กับท่านนายกรัฐมนตรีจะพิจารณา ผมคงไม่ทำอะไรล่วงละเมิดอำนาจท่านนายกรัฐมนตรี” นายวิชา กล่าว
นายวิชา กล่าวด้วยว่า ในการจัดทำข้อสรุปคดีนี้ เราเพียงแต่ทำให้เห็นภาพว่าข้อบกพร่องขององค์กรเป็นอย่างไร ซึ่งนายกรัฐมนตรีเห็นด้วยกับรายงานของเราที่บอกว่า การเป็นผู้บังคับบัญชาหรือผู้นำสูงสุดขององค์กรต้องรับผิดชอบจะไปสั่งการแล้วบอกว่าไม่ติดตามไม่ดูแลไม่ได้ แต่จะต้องลงลึกถึงตรงนั้น ส่วนจะรับผิดชอบแค่ไหนเพียงไรต้องไปดูรายละเอียด เพราะเราพูดกันมากว่า ถึงไม่ผิดกฎหมาย ไม่ผิดระเบียบ ก็อาจจะผิดจริยธรรม ในรัฐธรรมนูญปี 2560 ก็บอกว่าหากผิดจริยธรรมอย่างร้ายแรงก็จะถูกดำเนินการเหมือนกัน
เมื่อถามว่า กรณีบุคคลที่เข้าข่ายจริยธรรมมีกี่คน นายวิชา กล่าวว่า ยังแตกรายละเอียดอย่างนั้นไม่ได้ แต่มันรู้อยู่แก่ใจของเราว่ามีใครบ้างที่ควรจะต้องรับผิดชอบอย่างไร ถึงขนาดไหน ตรงนี้คือสิ่งที่การตรวจสอบจะต้องทำให้ปรากฏ อันนี้หนีไม่พ้น แต่เราไม่ได้บอกว่าเขาผิดอย่างนู้น อย่างนี้ แต่เราจะบอกว่า การกระทำของเขา มันส่อ หรือมันแสดงเห็นพฤติกรรมได้ว่า มันเป็นเช่นนั้น สมควรที่จะดำเนินการให้หน่วยงานใดที่จะตรวจสอบต่อไป เพราะจะต้องไปตรวจสอบในเชิงลึก
เมื่อถามย้ำว่าในรายงานที่จะส่งถึงนายกรัฐมนตรี จะระบุชื่อบุคคลชัดเจนหรือไม่ นายวิชา ตอบว่า “มีทั้งบุคคล มีทั้งคนที่เกี่ยวข้อง”
เมื่อถามย้ำอีกว่า เท่าที่ดูข้อเท็จจริงคดีนี้บุคคลที่เข้าข่ายผิดจริยธรรมร้ายแรงเป็นฝ่ายอัยการหรือตำรวจ นายวิชา ตอบว่า “อย่าเพิ่งพูดตอนนี้เลย เพราะเรายังไม่ได้ลงมติกันเรื่องนี้”
นายวิชา กล่าวถึงหลังจากคณะกรรมการตรวจสอบตำรวจเชิญ พล.ต.ต.วรวัฒน์ อมรวิวัฒน์ ผบก.กองการต่างประเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ มาชี้แจงเรื่องการถอนหมายแดงจากตำรวจสากล (อินเตอร์โพล) ว่า ทางด้านต่างประเทศแสดงให้เห็นเลยว่า พอเขาแจ้งมาว่าให้ถอนหมายจับ ท่านก็ได้ติดต่อเพื่อขอให้ถอนหมายแดงจากอินเตอร์โพล จนกระทั่งปัจจุบันนี้ ไม่มีหมายแดงแล้ว มีแต่หมายจับของไทย แต่ไม่ได้ดำเนินการในด้านต่างประเทศ แต่ตนเชื่อว่า ต่อไปทางตำรวจที่จะดำเนินการออกหมายจับใหม่ คงจะประสานทางอินเตอร์โพลในการขอออกหมายแดงอีกครั้งหนึ่ง
เมื่อถามว่า สรุปแล้วใครสั่งให้ถอนหมายแดง นายวิชา ตอบว่า “เขาอ้างว่าเป็นไปตามวิธีปฏิบัติ เมื่อได้รับแจ้งมาว่าอัยการสั่งไม่ฟ้อง แล้วก็ขอถอนหมายจับ ขณะนั้น ยังไม่ได้มีการยืนยันโดยอธิบดีอัยการศาลอาญากรุงเทพใต้ เกี่ยวกับเรื่องหมายจับ
เมื่อถามย้ำว่าแสดงว่ากระบวนการถอนหมายแดงเกิดขึ้นโดยที่ยังไม่รู้ว่าหมายจับยังไม่ได้ถอนใช่หรือไม่ นายวิชาตอบว่า “ใช่ กลายเป็นว่า เขาเชื่อตามที่ฝ่ายตำรวจ ฝ่ายพนักงานสอบสวนแจ้งมาว่าอัยการสั่งไม่ฟ้องแล้ว”
เมื่อถามต่อไปว่ากระบวนการออกหมายจับครั้งใหม่ของนายวรยุทธ เป็นผลพวงมาจากคณะกรรมการฯชุดนี้ใช่หรือไม่ นายวิชา กล่าวว่า ก็ใช่ เป็นส่วนหนึ่งที่เราได้แจ้งกับ พลตำรวจเอกจักรทิพย์ ชัยจินดา ผบตร ว่ามีข้อบกพร่องตรงไหนบ้าง
ส่วนการเชิญ พ.ต.อ.รณชัย รอดลอย ผกก.สภ.ภูพิงคราชนิเวศน์ จ.เชียงใหม่ มาชี้แจงเรื่องการเสียของนายจารุชาติ มาดทอง พยานคนำสคัญในคดีนี้ นายวิชา กล่าวว่า ทราบว่ามีการแยกคดีออกเป็น 2 กรณี คือ 1.กรณีอุบัติเหตุ ที่เขาไม่พบสิ่งผิดปกติ 2.กรณีพบสิ่งผิดปกติจากพฤติกรรมที่เกี่ยวข้องกับเพื่อนหรือคนรอบข้างนายจารุชาติ ที่มาจากเรื่องของโทรศัพท์มือถือ ที่ได้ความว่าถูกทำลาย ที่ยังเป็นข้อสงสัยอยู่ว่าถูกทำลายได้อย่างไร และอยู่ระหว่างการสอบรายละเอียดรวมถึงสอบเส้นทางการเงินด้วย
เมื่อถามถึงความคืบหน้าในการประสานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) เพื่อให้ตรวจสอบเส้นทางการเงินบุคคลที่เกี่ยวข้อง นายวิชา กล่าวว่า เราประสานไปเรียบร้อยแล้ว และอยู่ระหว่างดำเนินการระหว่างคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) และ ปปง. เพราะ ป.ป.ช.จะเป็นองค์กรหลักในการดำเนินการที่จะต้องแจ้งให้ ปปง.รับทราบ เนื่องจากว่าจะมีผู้ร้องเรียนในเรื่องการทุจริตด้วย และจะประสานไปที่ ปปง. เพื่อดำเนินการต่อไป
เมื่อถามย้ำว่า คณะกรรมการฯจะเป็นคนยื่นเรื่องต่อ ป.ป.ช.หรือไม่ นายวิชา กล่าวว่า “ไม่ๆ มีคนร้องเรียนไปล่วงหน้า มันมีสำนวนของมันอยู่”
ก่อนการประชุมวันนี้ มูลนิธิเมาไม่ขับได้มายื่นข้อมูลหลักฐานใหม่ให้กับนายวิชาด้วย ซึ่ง นพ.แท้จริง ศิริพานิช เลขาธิการมูลนิธิเมาไม่ขับ เปิดเผยว่า วันนี้เดินทางมายื่นหนังสือ ซึ่งเป็นข้อมูลที่เป็นหลักฐานใหม่เกี่ยวกับเมาแล้วขับ โดยเมื่อวันที่ 20 สิงหาคมที่ผ่านมามูลนิธิฯ ได้จัดเวทีสาธารณะตามหาความจริงคดีบอสยุติธรรมหรือธรรม-ยุติ ที่ทำให้พบหลักฐานใหม่ที่พิสูจน์หักล้างพบข้อมูลจากการนำอาสาสมัคร จำนวน 6 คน มาทดสอบการลดลงของปริมาณแอลกอฮอล์ในร่างกาย ภายหลังจากการดื่มแอลกอฮอล์เข้าไป ที่ยืนยันว่าสามารถขับรถได้ตามปกติ และไม่มีอาการแสดงว่าไม่มีสติที่จะขับรถไม่ได้
นพ.แท้จริง กล่าวด้วยว่า ซึ่งขัดแย้งกับกรณีนายแพทย์ผู้เชี่ยวชาญในขณะนั้นลงความเห็นไว้ ที่ระบุว่า นายวรยุทธมีปริมาณแอลกอฮอล์ 389 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ อาจทำให้เมาจนไม่มีสติที่จะขับขี่รถได้นั้น ตนเห็นว่าไม่เป็นความจริง เพราะหลักฐานใหม่ดังกล่าวนี้อาจจะนำไปสู่การรื้อคดีใหม่ว่านายวรยุทธ เรื่องเมาแล้วขับ ซึ่งจะนำไปสู่การพิจารณาฟ้องร้องในฐานขับขี่โดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ซึ่งมีอายุความถึง 15 ปี และหากนับจากวันเกิดเหตุก็ยังเหลืออายุความอีก 7 ปี ทั้งนี้คาดหวังว่า นายวิชาจะนำข้อมูลใหม่นี้ไปเสนอต่อนายกรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการต่อไป
นอกจากนั้นมูลนิธิเมาไม่ขับ ยังพบข้อมูลของกรมควบคุมโรคจากการตรวจวัดแอลกอฮอล์ผู้ขับขี่รถประจำปี 2562 จากโรงพยาบาลของรัฐทั่วประเทศ พบว่า มีผู้ขับขี่รถที่มีปริมาณแอลกอฮอล์ 300-350 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ จำนวน 612 คน มีปริมาณแอลกอฮอล์ 350-400 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ จำนวน 284 คน และมีปริมาณแอลกอฮอล์เกินกว่า 400-450 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ จำนวน 71 คน ดังนั้นสิ่งที่แพทย์ผู้เชี่ยวชาญชี้ข้อมูลว่า นายวรยุทธ มีปริมาณแอลกอฮอล์ 389 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ไม่สามารถขับขี่รถได้ จึงไม่เป็นความจริง
เมื่อถามว่าหากการยื่นหลักฐานใหม่ครั้งนี้ไม่ได้นำไปสู่การแจ้งข้อหาใหม่จะทำอย่างไร นพ.แท้จริง กล่าวว่า วันนี้สังคมเดินเลยจุดนั้นมาแล้ว ไม่ได้อยู่ในจุดที่ต้องรอดูว่าตำรวจ สน.ทองหล่อจะฟ้องหรือไม่ฟ้อง เพราะตนเชื่อว่าเมื่อยื่นข้อมูลให้กับคณะกรรมการพิจารณาแล้ว ก็ไม่จำเป็นต้องลุ้นอีกว่า ตำรวจ สน.ทองหล่อจะฟ้องหรือไม่ เพราะคณะกรรมการชุดนี้ถือว่าเป็นที่สุด และได้รับอำนาจโดยตรงจากนายกรัฐมนตรี และหากไม่มีการดำเนินคดีเรื่องเมาแล้วขับ หลังจากนี้เชื่อว่าจะมีเหตุการณ์เมาหลังขับเกิดขึ้นอีกมาก
ขณะที่นายวิชา ได้มามารับหนังสือด้วยตัวเอง พร้อมกล่าวว่าจะพิจารณาเรื่องนี้อย่างละเอียด ทั้งอายุความและข้อกฎหมายประกอบด้วย อย่างไรก็ตามหากต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมจะเชิญนายแพทย์แท้จริงมาให้ข้อมูลในคราวต่อไป
อย่างไรก็ตามในวันนี้เป็นการประชุมข้อสรุปทั้งหมด ที่ได้เริ่มมีการสอบพยานทั้งหมดของคดีนายวรยุทธ อยู่วิทยา
นายมุนินทร์ พงศาปาน คณบดีนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ในฐานะกรรมการฯ ระบุว่าวันนี้จะมีการสรุปข้อเท็จจริงเกี่ยวกับประเด็นที่เกิดข้อพิรุธของคดีทั้งหมดและจะสรุปภาพรวมและคาดว่าจะสรุปภาพรวมส่งให้นายกรัฐมนตรีพิจารณาทันภายใน 30 สิงหาคมนี้ตามกรอบเวลาที่กำหนดไว้
ส่วนประเด็นข้อเสนอแนะสำหรับการปฏิรูปกระบวนการยุติธรรมนั้น ประธานคณะกรรมการเตรียมเสนอขอขยายเวลาออกไปอีก
อ่านประกอบ :
2 ข้อหาอายุความ 15 ปี! ศาลอนุมัติหมายจับ 'บอส' หลัง ตร.ใช้หลักฐานใหม่ยื่นคำร้อง
ปริศนาใครถอนหมายแดง ‘บอส อยู่วิทยา’!อินเตอร์โพล ตอบอีเมลอิศรา แนะให้ถาม ตร.ไทย
เลือกปธ.ฟีฟ่าอยู่สวิส!'สมยศ' กางหลักฐานโต้พา 'สายประสิทธิ์' ให้ข้อมูลความเร็วรถบอส
ถูกกดดันจนไม่มีเวลาคิด!'ธนสิทธิ'แจงเหตุเปลี่ยนความเร็วรถคดี'บอส'-เรียก'สมยศ'แจงคิวต่อไป
ตร.เจ้าของสำนวน'บอส'ยอมรับแต่งตัวเลขสอบ'ธนสิทธิ' 2 ครั้งทั้งที่ทำจริงหนเดียว
17 วันค้นหาความจริง 'บอส' กก.สางคดีของ 'วิชา' พบอะไร ?
กาง กม.-ไทม์ไลน์ตำแหน่ง‘เนตร’จากอธิบดีอัยการฯ-รอง อสส.สั่งไม่ฟ้องคดี‘บอส’ตอนไหน?
Exclusive : 'อิศรา' ถาม 'ร.อ.สอาด' ตอบ ข้อเท็จจริงคดีบอส "ไม่เคยได้ไปหาจักรกฤชเลย"
ยังไม่เป็นโดยสมบูรณ์!'อรรถพล' เผย 'เนตร' แค่รักษาราชการรอง อสส.ขณะสั่งคดี'บอส'
โรมโชว์หลักฐาน‘ตัวละครลับ’ชนวนเหตุเปลี่ยนวิธีคำนวณความเร็วรถคดี‘บอส อยู่วิทยา’?
‘สิระ’เตือน‘ธานี’ถ้าไม่แจง กมธ.อาจออกคำสั่งเรียก-เชิญ 3 คณะทำงานฯสางคดี‘บอส’ด้วย
พร้อมให้สอบเส้นทางเงิน! ‘เนตร’แจง 2 กมธ.สภาฯ-ยันใช้ดุลพินิจตามสำนวนจึงไม่สั่งฟ้อง‘บอส’
เป็นทางการ!'เนตร'ไขก๊อกรอง อสส.-ตั้งคณะทำงานสอบการใช้ดุลพินิจไม่สั่งฟ้อง'บอส'
ละเอียด!แกะ 3 ปมคณะทำงานอัยการฯชง อสส.สอบต่อคดี‘บอส’-เบื้องหลัง‘เนตร’สั่งไม่ฟ้อง?
เส้นทางชีวิต ‘จารุชาติ’ พยานพลิกคดี'บอส' ให้การปี55-ไปไต้หวัน-ให้การปี 62-ตายต้นปี 63
INFO: เส้นทางชีวิต ‘จารุชาติ มาดทอง’ พยานคดี 'บอส อยู่วิทยา' ก่อนเสียชีวิตกะทันหัน
INFO : สรุปคดี 'บอส อยู่วิทยา' ก่อนอัยการมีคำสั่งไม่ฟ้อง
รองอสส.ถือว่าทำผิดกม.! 'คณิต' ชี้คดี 'บอส' อัยการสูงสุดสั่งฟ้องไปแล้วเปลี่ยนไม่ได้
ร่วมทำบุญผ้าป่า-เดินทางไปงานบวช! ไขข้อมูล 'ส.ว.ก๊อง - อสส.' รู้จักกันจริงไหม?
ผบช.ภ.5แถลงสอบลูกน้อง‘ชูชัย’ สารภาพ ทำลายโทรศัพท์‘จารุชาติ’พยานคดีบอส อ้างมีรูปตัวเองเยอะ
ถอดคลิป18 ช็อต! อุบัติเหตุ 'จารุชาติ' พยานคดี 'บอส อยู่วิทยา' ตำรวจตั้งข้อหาถูกแล้วหรือ?
เจาะ บ.นิติชัยฯ นายจ้าง 'จารุชาติ' - อดีต ส.ว.ก๊อง รวมก่อตั้ง - แจ้งมีเงินให้กก.กู้ยืม 7.1 ล.
ก่อนเล่าหลังฉากพยานคดี‘บอส’!โพรไฟล์ ‘ชูชัย เลิศพงศ์อดิศร’อ้างรู้จัก‘เฉลิม อยู่วิทยา’?
ชำแหละคำแถลงคณะทำงาน อสส.แค่’เอาตัวรอด-โยนความผิด’?ไร้ผลนำ‘บอส’ขึ้นศาล
ใครเป็นใคร? เปิดชื่อ-หน้าที่ 3 คณะทำงาน-4 กมธ.2 สภาลุยสอบปมไม่ฟ้องคดี‘บอส อยู่วิทยา’
ผบก.ป.ตั้ง 2 สมมติฐานชันสูตรศพ‘จารุชาติ’-ลั่นหลักฐานต้องชัดเจนไม่ว่าผลเป็นอย่างไร
ผู้การเชียงใหม่'เร่งรัดผลตรวจหาสารในร่าง'จารุชาติ'-กองปราบฯ ลงพท.สืบปมการตาย
ทางการ! 'บิ๊กตู่'สั่งอายัดศพ'จารุชาติ'พยานคดี'บอส'ชันสูตรหาสาเหตุเสียชีวิตใหม่แล้ว
'บวรศักดิ์'จี้ชันสูตรศพพยานคดี’บอส’ให้ชัดเจน ก่อนญาติฌาปนกิจพรุ่งนี้
ตายเพราะอุบัติเหตุกะทันหัน! ‘จารุชาติ มาดทอง’ พยานปากเอก พลิกคดี ’บอส อยู่วิทยา’
ฉบับเต็ม! สำนวนลับอัยการสั่งไม่ฟ้อง ‘บอส อยู่วิทยา’ พยาน 2 รายใหม่ อ้างขับรถแค่ 50-60กม.
เปิดอาณาจักร 62 บ.‘อยู่วิทยา’ ปี 62 ‘ที.ซี.ฟาร์มาฯ-กระทิงแดง’รายได้ 4 หมื่นล.
มูลนิธิเมาไม่ขับจี้ อสส.-ผบ.ตร.! ชี้แจงหลักการ-เหตุผลไม่สั่งฟ้อง‘วรยุทธ อยู่วิทยา’
โชว์หนังสืออัยการสั่งไม่ฟ้อง‘บอส อยู่วิทยา’ผบ.ตร.ไม่แย้ง-สตช.ยื่นศาลถอนหมายจับ
อสส. แจงอิศรายังไม่ทราบเรื่อง! ซีเอ็นเอ็น ตีข่าว 'อัยการ' ไม่สั่งฟ้อง 'บอส อยู่วิทยา'
ป.ป.ช.ฟันวินัยไม่ร้ายแรงอดีต‘ผบก.น.5-พวก’ปมช่วยเหลือ-ไม่ออกหมายจับ‘บอส กระทิงแดง’
ทายาทกระทิงแดงขอสอบพยานเพิ่มทำคดีขับชน ตร.ตายช้า! อสส.เร่งส่งฟ้องศาล
ไทม์ไลน์ทายาท‘กระทิงแดง’ขอเลื่อนพบอัยการ 7 ครั้งก่อนจ่อถูกหมายจับ?
เจาะอาณาจักรธุรกิจหมื่นล.‘อยู่วิทยา’ -‘วรยุทธ’กก. 3 บริษัทรายได้รวม 914 ล
#กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage