‘เนตร นาคสุข’ ยื่นหนังสือลาออกราชการรอบ 2 แต่ยังไม่ยืนยัน 'วงศ์สกุล' อสส. อนุมัติหรือไม่ หลังมอบ 'ไชยา' ลงนามแทนแต่ถูกปฏิเสธ เหตุโดนวิจารณ์หนักเรื่องยืนยันมติเสนอโปรดเกล้าฯ 'ปรเมศวร์' -ลุ้นมติ ก.อ. ถ้าชี้ผิดวินัยร้ายแรง ตั้งคกก.สอบได้ภายใน 180 วัน แม้ลาออกไปแล้ว
.......................................
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานความคืบหน้าการสอบสวน นายเนตร นาคสุข อดีต รองอัยการสูงสุด (อสส.) กรณีมีคำสั่งไม่ฟ้อง นายวรยุทธ อยู่วิทยา หรือ'บอส' คดีขับรถชนผู้อื่นถึงความตาย ที่ปรากฏข่าวก่อนหน้านี้ว่าคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง ที่มี นายกายสิทธิ์ พิศวงปราการ กรรมการอัยการ (ก.อ.) ผู้ทรงคุณวุฒิ เป็นประธาน ได้สรุปสำนวนการสอบสวนเสร็จสิ้นแล้ว เห็นว่า นายเนตร มีความผิดวินัยไม่ร้ายแรง เพราะไม่พบการทุจริต แต่เป็นความบกพร่องในการปฏิบัติหน้าที่ และจะมีการเสนอเรื่องเข้าที่ประชุมคณะกรรมการ ก.อ.เมื่อวันที่ 10 กันยายน 2564 แต่ปรากฏข่าวภายหลังว่าคณะกรรมการอัยการ(ก.อ.) ได้เลื่อนการพิจารณากรณีดังกล่าวจากวันที่ 10 กันยายน 2564 ไปเป็นวันที่ 21 กันยายน 2564 นั้น
- สรุปผลสอบ 'เนตร นาคสุข' คดี 'บอส' ก.อ.พิจารณา 10 ก.ย. แค่ผิดวินัยไม่ร้ายแรง!
- จับตา ก.อ.อาจลงมติสวนให้ ‘เนตร นาคสุข’ ผิดวินัยร้ายแรง คดี 'บอส'
แหล่งข่าวจากสำนักงานอัยการสูงสุด (อสส.) เปิดเผยสำนักข่าวอิศรา ว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้ นายเนตร นาคสุข อดีต รอง อสส. ได้ยื่นหนังสือขอลาออกจากราชการ ต่อ นายวงศ์สกุล กิตติพรหมวงศ์ อสส. เป็นครั้งที่สอง หลังจากที่ก่อนหน้านี้มีกระแสข่าวว่าเคยยื่นเรื่องมาแล้วในช่วงเดือนสิงหาคม 2564 เนื่องจากเห็นว่าตนเองใช้ดุลพินิจโดยถูกต้องถูกระเบียบปฏิบัติ และใช้เหตุผลประกอบอันสมควร แต่สถาบันอัยการโดนกดดันจากสังคมจึงเห็นว่าเพื่อรักษาภาพลักษณ์ขององค์กร ขอแสดงความรับผิดชอบโดยการลาออก แต่ไม่ได้รับการอนุมัติ
อย่างไรก็ตาม มีรายงานข่าวว่า นายวงศ์สกุล ได้มอบหมายให้ ร้อยโท ไชยา เปรมประเสริฐ รอง อสส. ลงนามอนุมัติแทน แต่ร้อยโท ไชยา ปฏิเสธ เพราะ เคยลงนามในหนังสือในฐานะรักษาการ อสส. แทน นายวงศ์สกุล ที่ลาพักร้อนก่อนหน้านั้น 1 วัน ถึงเลขาธิการคณะรัฐมนตรี เพื่อยืนยันมติเห็นควรนำความกราบบังคมทูลเพื่อทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้ง นายปรเมศวร์ อินทรชุมนุม ให้ดำรตำแหน่งผู้ตรวจการอัยการ จนถูกกระแสสังคมวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก ทำให้จนถึงขณะนี้ยังไม่มีใครยืนยันได้ว่า นายวงศ์สกุล ได้ลงนามในหนังสืออนุมัติให้ นายเนตร นาคสุข อดีตรอง อสส. ลาออกจากราชการแล้วหรือไม่
แหล่งข่าว กล่าวว่า แม้ นายเนตร จะลาออก แต่ถ้าในการประชุมคณะกรรมการอัยการ(ก.อ.) วันที่ 21 กันยายน 2564 นี้ เห็นว่า นายเนตร มีความผิดวินัยไม่ร้ายแรง เพราะไม่พบการทุจริต แต่เป็นความบกพร่องในการปฏิบัติหน้าที่ตามความเห็น คณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง ที่มีนายกายสิทธิ์ พิศวงปราการ กรรมการอัยการ (ก.อ.) ผู้ทรงคุณวุฒิ เป็นประธาน เรื่องก็จะยุติไป
แต่ถ้า ก.อ.เห็นว่า นายเนตร ผิดวินัยร้ายแรง ก็จะต้องตั้งคณะกรรมการขึ้นมาสอบสวนอีกคณะหนึ่ง แม้นายเนตรจะลาออกราชการไปแล้วก็ไม่มีผล เพราะพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ระเบียบข้าราชการฝ่ายอัยการ พ.ศ. 2553 กำหนดให้สามารถสอบสวนข้าราชการอัยการที่ถูกกล่าวหาว่ากระทำผิดวินัยอย่างร้ายแรงหรือต้องหาว่ากระทำความผิดอาญา หรือถูกฟ้องคดีอาญาได้ภายในระยะเวลา 180 วัน
โดย พระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ระเบียบข้าราชการฝ่ายอัยการ พ.ศ. 2553 มาตรา 58 ระบุว่า ข้าราชการอัยการผู้ใดประสงค์จะลาออกจากราชการให้ยื่นหนังสือขอลาออกต่อผู้บังคับบัญชาเหนือขึ้นไปชั้นหนึ่งเพื่อให้อัยการสูงสุดเป็นผู้พิจารณา เมื่ออัยการสูงสุดสั่งอนุญาตแล้วให้ถือว่าพ้นจากตำแหน่งในกรณีที่ข้าราชการอัยการขอลาออกเพื่อดำรงตำแหน่งทางการเมือง หรือเพื่อสมัครรับเลือกตั้งหรือรับการเสนอชื่อเพื่อสรรหาเป็นสมาชิกวุฒิสภา หรือเพื่อไปดำรงตำแหน่งในองค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญ ให้การลาออกมีผลตั้งแต่วันที่ผู้นั้นขอลาออกนอกจากกรณีตามวรรคสอง ถ้าอัยการสูงสุดเห็นว่าจำเป็นเพื่อประโยชน์แก่ราชการจะยับยั้งการอนุญาตให้ลาออกไว้เป็นเวลาไม่เกินสามเดือนนับแต่วันขอลาออกก็ได้ ในกรณีที่อัยการสูงสุดประสงค์จะลาออกจากราชการให้ยื่นหนังสือขอลาออกต่อ ก.อ. เพื่อให้ ก.อ. เป็นผู้พิจารณา
มาตรา 81 ระบุว่า ข้าราชการอัยการผู้ใดถูกกล่าวหาว่ากระทำผิดวินัยอย่างร้ายแรงหรือต้องหาว่ากระทำความผิดอาญา หรือถูกฟ้องคดีอาญา ที่มิใช่เป็นความผิดที่ได้กระทำโดยประมาทหรือความผิดลหุโทษ แม้ภายหลังผู้นั้นจะพ้นจากตำแหน่งข้าราชการอัยการไปแล้วโดยมิใช่เพราะเหตุตาย ให้ดำเนินการสอบสวนหรือพิจารณาเพื่อลงโทษ หรือเปลี่ยนแปลงคำสั่งให้เป็นไปตามลักษณะนี้ต่อไปได้แต่ต้องเริ่มดำเนินการภายในหนึ่งร้อยแปดสิบวันและดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในสามร้อยหกสิบวัน ทั้งนี้ นับแต่วันที่ผู้นั้นพ้นจากตำแหน่งในกรณีตามวรรคหนึ่งถ้าผลการสอบสวนหรือพิจารณาปรากฏว่าผู้นั้นกระทำผิดวินัยไม่ร้ายแรงก็ให้งดโทษ
มาตรา 82 ระบุว่า การดำเนินการทางวินัยและสั่งลงโทษทางวินัยสำหรับอัยการสูงสุดและรองอัยการสูงสุด ให้เป็นอำนาจและหน้าที่ของ ก.อ. ตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่ ก.อ. กำหนด
อนึ่งก่อนหน้านี้ สำนักข่าวอิศรา นำเสนอข่าวไปแล้วว่า เหตุผลที่คณะกรรมการอัยการ (ก.อ.) เลื่อนการพิจารณากรณีผลสอบสวนของ นายเนตร นาคสุข จากวันที่ 10 กันยายนไปเป็นวันที่ 21 กันยายน มีด้วยกัน 2 ประการคือ
หนึ่ง เนื่องจากคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงที่มีนายกายสิทธิ์ พิศวงปราการ เป็นประธาน ได้ส่งสำนวนการสอบสวนให้สำนักงาน อสส. ตั้งแต่วันที่ 23 สิงหาคม แต่กว่าฝ่ายบริหารของสำนักงาน อสส. จะส่งให้กรรมการ ก.อ. ก็ประมาณวันที่ 3 กันยายน ทำให้กรรมการ ก.อ.ไม่สามารถอ่านสำนวนการสอบสวนที่มีจำนวนมากได้ทัน
สอง กรณีดังกล่าวเป็นเรื่องสำคัญที่มี ผลกระทบกับองค์กรอัยการเป็นอย่างมาก เมื่อมีข่าวออกมาว่าคณะกรรมการสอบสวนเห็นว่านายเนตรมีความผิดวินัยไม่ร้ายแรงเนื่องจากบกพร่องในการสั่งคดีนายวรยุทธซึ่งไม่ใช่การทุจริตจนเกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างรุนแรง ทำให้กรรมการ ก.อ.บางคนไม่เห็นด้วย จึงต้องการพิจารณาเรื่องดังกล่าวอย่างรอบคอบ
ขณะที่ แหล่งข่าว ระบุว่า นายเนตร ตำแหน่งสูงถึงรองอัยการสูงสุด มีประสบการณ์ในการสั่งคดีมากกว่า 30 ปี ในคดีของนายวรยุทธมีการร้องขอความเป็นธรรมถึง 14 ครั้ง แต่ปรากฏว่าทุกครั้งมีการสั่งยุติเรื่องโดยเฉพาะสองครั้งสุดท้ายอัยการสูงสุดถึงสองคนได้สั่งให้ยุติเรื่องแล้ว แต่นายเนตรกลับไปอ้างอิงพยานหลักฐานเก่าและไม่ชอบด้วยกฎหมายมาสั่งคดีหักล้างอัยการสูงสุดถึงสองคนจึงอาจเป็นการใช้ดุลพินิจในการสั่งคดีไม่รอบคอบอย่างร้ายแรง
"ในที่ประชุม ก.อ. อาจมีกรรมการ ก.อ.บางคนเสนอว่านายเนตร น่าจะมีความผิดวินัยร้ายแรง ถ้าที่ประชุมเห็นด้วย ก็ต้องมีมติตั้งคณะกรรมการขึ้นมาสอบสวนความผิดวินัยร้ายแรงอีกคณะหนึ่ง ยังไม่สามารถมีมติลงโทษได้ทันที แต่ถ้าที่ประชุมเห็นว่า ผลสอบสวนของกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงที่เห็นว่านายเนตรมีความผิดวินัยไม่ร้ายแรงที่ประชุมก็ สามารถลงโทษได้ทันที ซึ่งโทษสูงสุดก็คือการงดบำเหน็จหรือไม่เลื่อนขั้นและไม่เสนอให้โปรดเกล้าแต่งตั้งเป็นอัยการอาวุโส”แหล่งข่าวระบุ
นอกจากนี้ ยังมีรายงานว่า นายวงศ์สกุล กิตติพรหมวงศ์ อสส. ซึ่งจะครบอายุเกษียณราชการ 65 ปี ในสิ้นเดือนกันยายน 2564 นี้ และจะต้องไปเป็นอัยการอาวุโส ตามพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ระเบียบข้าราชการฝ่ายอัยการ พ.ศ. 2553 ได้ยื่นหนังสือลาออกจากราชการ ต่อ นายพชร ยุติธรรมดำรง ประธานคณะกรรมการอัยการ (ก.อ.)
โดยแจ้งความประสงค์ว่า จะไม่ขอรับราชการเป็นอัยการอาวุโสต่อไป ทั้งนี้ จะมีผลตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2564 เป็นต้นไป โดยจะมีการนำเรื่องนี้เข้าสู่การพิจารณาของที่ประชุม ก.อ. วันที่ 21 กันยายน 2564 นี้ด้วย
อ่านเรื่องในหมวดเดียวกัน
- ACT ออกแถลงการณ์ 'โกงตาชั่ง' ค้าน อสส. ยืนยันมติ ก.อ. เสนอโปรดเกล้าฯ 'ปรเมศวร์'
- 'วงศ์สกุล' ลาพักร้อน รอง อสส. ลงนามแทนยืนยันมติ ก.อ. เสนอโปรดเกล้าฯ 'ปรเมศวร์'
- อสส.โยนให้ ก.อ.ยืนยันความเหมาะสมตั้ง‘ปรเมศวร์’เป็นผู้ตรวจอัยการอีกรอบ
- องค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน :การแต่งตั้งอัยการระดับสูง ฤ จะเป็นเสาหลักปักขี้เลน
- ก.อ.ขีด 31 ก.ค.ต้องสรุปสอบ‘เนตร’-‘ปรเมศวร์’โดนแค่เตือน เตรียมเสนอโปรดเกล้าฯต่อ
- ก่อนไร้ชื่อแต่งตั้ง? คำพิพากษาฉบับเต็มคุก 6 เดือน รอลงโทษ‘ปรเมศวร์’คดีเมา ขับชน
- ไร้ชื่อ‘เนตร-ปรเมศวร์’! ราชกิจจานุเบกษาแพร่แล้วโปรดเกล้าฯแต่งตั้ง 973 อัยการ
- ตัดชื่อ 'เนตร-ปรเมศวร์' ออกจากบัญชีแต่งตั้งโยกย้ายอัยการ
- เป็นชั้นความลับ!ปมทูลเกล้าฯ'เนตร-ปรเมศวร์'อสส.ขอแจงเอง-ไม่เกี่ยว ก.อ.
- เป็นเรื่องของผู้ใหญ่! ‘ปรเมศวร์’ปัดแจงปมถูกตีกลับชื่อทูลเกล้าฯตั้งผู้ตรวจการอัยการ
- นัดแล้ว!ก.อ.จัดประชุมวาระพิเศษ 11 ม.ค.หารือกรณีไม่ทูลเกล้าฯ'เนตร-ปรเมศวร์'
- ไม่นำชื่อ 'เนตร-ปรเมศวร์' ขึ้นทูลเกล้าฯ ตีกลับบัญชีแต่งตั้งอัยการให้ ก.อ.ทบทวน
- 'อรรถพล'นัด ก.อ.ถกด่วนปมไม่ทูลเกล้าฯ'เนตร-ปรเมศวร์'โวยไม่มีคนรายงาน
- สนง.องมนตรีส่งกลับ!เบื้องหลังไม่ทูลเกล้าฯ'เนตร-ปรเมศวร์'ก.อ.ถกวาระพิเศษ 11-14 ม.ค.
# กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage/