‘อรรถพล ใหญ่สว่าง’ เตรียมเรียกประชุม ก.อ.วาระด่วน หาข้อยุติปมไม่ทูลเกล้าฯชื่อ ‘เนตร-ปรเมศวร์’ บ่นอุบ! เป็นถึงประธาน ก.อ. แต่ไม่มีใครรายงานเรื่องนี้ให้ทราบ เตรียมซักรายละเอียดจากเลขาฯ พรุ่งนี้
.................................................
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานความคืบหน้า กรณีสำนักนายกรัฐมนตรี ตีกลับบัญชีรายชื่อทูลเกล้าแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการอัยการ จำนวน 2 บัญชี เนื่องจากมีรายชื่ออัยการ 2 ราย ที่มีปัญหาถูกสอบสวนและตกเป็นข่าวรวมอยู่ด้วย คือ นายเนตร นาคสุข รองอัยการสูงสูง ที่ถูกเสนอให้ดำรงตำแหน่งอัยการอาวุโส และ นายปรเมศวร์ อินทรชุมนุม อธิบดีอัยการ สำนักงานคดีอาญาธนบุรี ที่ถูกเสนอให้ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจการอัยการ
(ข่าวประกอบ : ไม่นำชื่อ 'เนตร-ปรเมศวร์' ขึ้นทูลเกล้าฯ ตีกลับบัญชีแต่งตั้งอัยการให้ ก.อ.ทบทวน)
เมื่อวันที่ 3 ม.ค.2564 นายอรรถพล ใหญ่สว่าง ประธานคณะกรรมการอัยการ (ก.อ.) เปิดเผยสำนักข่าวอิศรา ว่า ในที่ประชุม ก.อ.เมื่อวันที่ 29 ธันวาคม ที่ผ่านได้ทราบเรื่องที่สำนักงานเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (สลค.) ตีกลับบัญชีแต่งตั้งโยกย้ายกรณีของนายเนตร จึงสอบถามในที่ประชุม และได้รับคำชี้แจงจาก นายวงศ์สกุล กิตติพรหมวงศ์ อัยการสูงสุด แต่ก็ยังไม่เห็นหนังสือรายละเอียดของ สลค.แต่อย่างใด
นายอรรถพลกล่าวว่า แต่กรณีของนายปรเมศวร์นั้น ไม่เคยทราบเรื่อง เลขานุการคณะกรรมการอัยการ (ก.อ.) หรืออัยการสูงสุด ไม่เคยแจ้งให้ทราบมาก่อน
“ในการประชุมเมื่อวันที่ 29 ธ.ค. ได้รับทราบเฉพาะเรื่องของนายเนตร ส่วนเรื่องของนายปรเมศวร์ ไม่มีใครแจ้งให้ทราบ จนเพิ่งรู้จักจากสำนักข่าวอิศราเมื่อวันที่ 2 ม.ค. ดังนั้นในวันที่ 4 ม.ค. ผมจะเรียกอธิบดีอัยการสำนักงานคณะกรรมการอัยการในฐานะเลขาฯ ก.อ.มาชี้แจงรายละเอียด และจะนัดประชุมโดยเร็วที่สุด เพราะกรณีของนายปรเมศวร์ปล่อยให้ล่าช้าไม่ได้ เนื่องจากตามตำแหน่งถือว่ามีอำนาจสั่งการต่างๆ หากนายปรเมศวร์ไปสั่งการอะไร อาจขัดตอกฎหมายได้” นายอรรถพล กล่าว
ประธาน ก.อ. กล่าวอีกว่า เป็นที่น่าแปลกใจว่าเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้น ตนในฐานะประธาน ก.อ.กลับไม่ทราบเรื่อง และไม่มีใครรายงานเรื่องนี้ให้ทราบ ซึ่งพรุ่งนี้จะสอบถามข้อเท็จจริงกับเลขาฯ ก.อ. “ขอบ่นดังๆ ว่า ประธาน ก.อ. ไม่มีความหมายหรือ จากนี้ไม่บ่นเงียบๆ อีกต่อไป”
นายอรรถพล กล่าวด้วยว่า สำหรับกรณีนายปรเมศวร์นั้น หากมีการทบทวนคำสั่งแต่งตั้งโยกย้ายก็จะไม่สามารถกลับไปดำรงตำแหน่งเดิมได้ เนื่องจากจะมีข้อท้วงติงหลายประการ ในทางกลับกันหากยืนยันมติเดิมที่มีให้การแต่งตั้งตำแหน่งใหม่ก็เป็นอีกกรณีหนึ่งที่ต้องพิจารณาอย่างละเอียด อย่างไรก็ตามพรุ่งนี้น่าจะมีการพิจารณาจากเอกสารต่างๆ ตามที่เลขาฯ ก.อ.จะนำมาเสนอต่อไป
ขณะที่ นายอิทธิพร แก้วทิพย์ โฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด เปิดเผยสำนักข่าวอิศรา ว่า เท่าที่ตรวจสอบรายละเอียด ทราบว่าเป็นเรื่องที่มีการขอข้อเท็จจริงเพิ่มเติม และเป็นเรื่องที่ส่งกลับมาที่สำนักงานคณะกรรมการอัยการ (ก.อ.) ซึ่งจากนี้ ก.อ.ต้องนัดประชุมเพื่อหารือในรายละเอียด และเข้าใจว่า ก.อ.อาจจะให้ข้อมูลเรื่องนี้เอง ในส่วนของสำนักงานอัยการสูงสุดยังไม่มีอะไรต้องดำเนินการ และต้องรอดูผลการหารือของที่ประชุม ก.อ.เช่นกัน ส่วนจะมีการนัดประชุมกันเมื่อไรนั้น ตนไม่ทราบ
อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ ไทยโพสต์ รายงานว่า เมื่อวันที่ 23 ธ.ค.2563 นายธีระพงษ์ วงศ์ศิวะวิลาส เลขาธิการคณะรัฐมนตรี ได้มีหนังสือสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี นร.0508/7419 เรื่อง การแต่งตั้งข้าราชการอัยการและอัยการอาวุโส ถึงนายวงศ์สกุล กิตติพรหมวงศ์ อัยการสูงสุด (อสส.) โดยมีเนื้อหาอ้างถึง กรณีที่อัยการสูงสุดขอให้นำความกราบบังคมทูลพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม แต่งตั้งข้าราชการอัยการและอัยการอาวุโสให้ดำรงตำแหน่งต่างๆ จำนวน 975 ราย ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.เป็นต้นไป ซึ่งในจำนวนดังกล่าวรวมถึง นายเนตร ที่ปรากฏเป็นข่าวทางสื่อมวลชนว่า คณะกรรมการอัยการได้แต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนความผิดวินัยร้ายแรง กรณีสั่งไม่ฟ้องนายวรยุทธ อยู่วิทยา หรือบอสที่ขับรถชนตำรวจเสียชีวิตเมื่อปี 2555 สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีจึงขอทราบข้อมูลข้อเท็จตริงเรื่องดังกล่ากว่า ได้มีการพิจารณาอันเป็นที่ยุติชัดเจนแล้วหรือไม่ประการใด และต่อมาวันที่ 24 ธ.ค.2563 สำนักงานเลขาธิการคณะรัฐมนตรีได้ทำหนังสืออีก 1 เรื่องส่งถึงอัยการสูงสุด เพื่อสอบถามข้อเท็จจริง ทั้งกรณีนายเนตร และนายปรเมศวร์ ที่ได้รับการเสนอชื่อแต่งตั้งเช่นกัน
(อ้างอิงข่าว : https://www.thaipost.net/main/detail/88604)
#กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage