ครม.เคาะ‘ร่างพ.ร.บ.ธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร’ คนไทยเล่น‘กาสิโน’ต้องมี 50 ล.-พท.ไม่เกิน10%

gov 27 03 25 pic 1

ครม.เห็นชอบ ‘ร่าง พ.ร.บ.เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์’ ฉบับ 'กฤษฎีกา' แก้ไข กำหนดหลักเกณฑ์ ‘คนไทย’ เล่น ‘กาสิโน’ ต้องมีเงินฝากในบัญชีฯ ไม่น้อยกว่า 50 ล้านบาท คุมพื้นที่กาสิโนไม่เกิน 10% ดันเข้าสภาก่อนปิดสมัยประชุม 10 เม.ย.68

............................................

เมื่อวันที่ 27 มี.ค. นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบ ร่าง พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร พ.ศ. .... หรือร่าง พ.ร.บ.เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ตามที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเสนอ และให้นำร่าง พ.ร.บ. ฉบับนี้ เสนอต่อสภาผู้แทนราษฎรเพื่อพิจารณาในวาระรับหลักการ และตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญฯพิจารณาและแปรญัตติภายในระยะเวลาที่สภาฯกำหนดต่อไป

สำหรับร่าง พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร พ.ศ. .... ยังคงมีหลักการเช่นเดียวกับที่ ครม. เคยมีมติอนุมัติหลักการ ร่าง พ.ร.บ.ฉบับดังกล่าว ไปเมื่อวันที่ 13 ม.ค.2568 แต่คณะกรรมการกฤษฎีกาได้มีการแก้ไขเพิ่มเติมรายละเอียดให้มีความเหมาะสมยิ่งขึ้นใน 4 ประเด็นหลัก ได้แก่

1.กำหนดให้นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นผู้รักษาการตามกฎหมายร่วมกัน จากเดิมที่กำหนดให้นายกรัฐมนตรีเป็นผู้รักษาการตามกฎหมายเท่านั้น

2.เพิ่มเติมหน้าที่และอำนาจของคณะกรรมการนโยบายสถานบันเทิงครบวงจรในการพิจารณาเรื่องสำคัญที่ต้องเสนอ ครม. เช่น เสนอแนะนโยบายการประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร หรือการกำหนดพื้นที่ประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร เพื่อประกอบการพิจารณาของ ครม.

3.แก้ไขกลไกการได้มาซึ่งผู้อำนวยการสำนักงานกำกับการประกอบสถานบันเทิงครบวงจร โดยให้คณะกรรมการนโยบายฯ มีอำนาจแต่งตั้ง จากเดิมที่กำหนดให้คณะกรรมการนโยบายฯแต่งตั้ง โดยความเห็นชอบของ ครม.

4.กำหนดกรอบนโยบายสถานบันเทิงครบวงจร ที่คณะกรรมการนโยบายฯเสนอแนะต่อ ครม.อย่างน้อยต้องประกอบด้วย

(1) การกำหนดจำนวนใบอนุญาตฯ (2) พื้นที่ที่จะอนุญาตให้ตั้งสถานบันเทิงครบวงจร (3) หลักเกณฑ์การพิจารณาร่วมลงทุนกับเอกชนหรือให้เอกชนเป็นผู้ลงทุน (4) มาตรการป้องกัน แก้ไข และเยียวยาผลกระทบอันอาจเกิดขึ้นจากการประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร (5) กำหนดเพิ่มเติมให้พื้นที่ที่จะอนุญาตให้ตั้งสถานบันเทิงครบวงจรต้องมีการรับฟังความคิดเห็นของประชาชนในพื้นที่ประกอบด้วย

(6) ให้กำหนดสัดส่วนพื้นที่ของกาสิโน โดยเฉพาะสถานที่จัดให้มีการเล่นพนันซึ่งจะต้องไม่เกินร้อยละ 10 ของที่ดินหรือพื้นที่ใช้สอยของอาคารอันเป็นที่ตั้งของสถานบันเทิงครบวงจร แล้วแต่กรณีใดจะน้อยกว่ากัน (กำหนดใหม่) (7) กำหนดให้ผู้ได้รับใบอนุญาตประกอบธุรกิจสถานบันเทิงถือว่าเป็นผู้ได้รับใบอนุญาตเกี่ยวกับการก่อสร้างและใบอนุญาตให้ประกอบธุรกิจตามประเภทธุรกิจที่ระบุไว้ในใบอนุญาต และให้ถือว่าผู้ได้รับใบอนุญาตที่จัดให้มีกาสิโนเป็นสถาบันการเงินตามกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (กำหนดใหม่)

(8) กำหนดให้คณะกรรมการนโยบายฯ กำหนดหลักเกณฑ์เพื่อควบคุมการประกอบการกาสิโนโดยต้องมี (8.1) การจัดให้มีมาตรการป้องกันการฟอกเงิน (8.2) ระบบควบคุมกาสิโน ที่เหมาะสมและมีประสิทธิภาพ และ (8.3) มาตรการป้องกันและแก้ไขปัญหาอันเกิดจากกาสิโน (กำหนดใหม่) (9) กำหนดให้บุคคลสัญชาติไทยซึ่งจะเล่นพนันในกาสิโนต้องมีเงินฝากในบัญชีเงินฝากประจำไม่น้อยกว่า 50 ล้านบาท ต่อเนื่องกันไม่น้อยกว่า 6 เดือน และผ่านการตรวจสอบตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่คณะกรรมการบริหารกำหนด

(10) ห้ามผู้รับใบอนุญาตหรือบุคคลใดจ้างหรือให้ผลประโยชน์ตอบแทนอื่นใดแก่บุคคลอื่น หรือเพิ่มยอดหรือจำนวนคนเล่นพนันในกาสิโน หรือเพื่อเพิ่มจำนวนเงินที่ใช้จ่ายในการเล่นพนันในกาสิโน (เดิมไม่มี) (11) เพิ่มเติมมาตรการปรับเป็นพินัย เช่น ผู้รับใบอนุญาตที่ไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของผู้อำนวยการที่สั่งให้ปฏิบัติข้อกำหนด และปล่อยปละละเลยหรือยินยอมให้บุคคลต้องห้ามเข้าไปในกาสิโน

(12) เพิ่มเติมลักษณะการกระทำความผิดที่จะได้รับโทษทางอาญา เช่น การจัดให้มีการเล่นพนันในกาสิโนผ่านการเชื่อมต่อระบบคอมพิวเตอร์ หรือถ่ายทอดการเล่นพนันในกาสิโน และกระทำการที่เป็นการเพิ่มยอดหรือเพิ่มจำนวนคนเล่นพนันหรือเพิ่มจำนวนเงินที่ใช้จ่ายในการเล่นพนันในกาสิโน

“ที่ประชุมให้ความสำคัญกับการกำหนดโครงสร้างของกฎหมายให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ของนโยบายรัฐบาล การสร้างความชัดเจนในการกำกับดูแลและการป้องกันผลกระทบเชิงลบด้านสังคม การกำหนดพื้นที่สถานที่ตั้งสถานบันเทิงครบวงจรให้เหมาะสม การกำหนดผู้รักษาการร่วมตามร่าง พ.ร.บ.ฯ เพื่อให้ทำงานร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพ

การพิจารณาความคุ้มค่าในการจัดตั้งสำนักงานกำกับสถานบันเทิงครบวงจร ความยืดหยุ่นในหน้าที่และอำนาจของคณะกรรมการนโยบายสถานบันเทิงครบวงจร ความเหมาะสมขององค์ประกอบคณะกรรมการบริหาร การบูรณาการประสานงานระหว่างหน่วยงาน และการสร้างการรับรู้ต่อสังคมในวงกว้างต่อไป” นายจิรายุ กล่าว

นายจิรายุ ระบุด้วยว่า ที่ผ่านมาได้มีการเปิดรับฟังความคิดเห็นฯ ร่าง พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร พ.ศ. .... มาแล้วทั้งสิ้น 4 ครั้ง โดยครั้งล่าสุด คือ ครั้งที่ 4 มีการเปิดรับฟังความคิดเห็นฯตั้งแต่วันที่ 28 ก.พ.- 14 มี.ค. 2568 มีผู้แสดงความคิดเห็น 71,289 คน และมีผู้เห็นด้วยร้อยละ 80 หรือคิดเป็น 57,000 คน

นายจิรายุ ย้ำว่า รัฐบาลยืนยันว่าจะสนับสนุนส่งเสริมในส่วนของเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ เพื่อส่งเสริมการกระตุ้นเศรษฐกิจ การลงทุน และการท่องเที่ยวของประเทศเป็นหลัก โดยจะไม่เน้นเรื่องคาสิโนที่มีอยู่เพียงแค่ 10% ของพื้นที่ฯ และจะดำเนินการตาม พ.ร.บ.อย่างเคร่งครัด

@คาด‘เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์’สร้างรายได้ 2.3 แสนล.

ด้าน น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ที่ประชุม ครม.มีมติเห็นชอบ ร่าง พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร พ.ศ. .... ตามที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเสนอ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างการท่องเที่ยวแบบใหม่ โดยไม่ต้องรอการท่องเที่ยวตามฤดูกาลหรือการท่องเที่ยวเดิมที่มีอยู่ หรือที่เรียกว่า Man made tourism โดยร่างพ.ร.บ.นี้ ได้ผ่านการเปิดรับฟังความคิดเห็นฯ ซึ่งมีผู้ให้ความเห็นกว่า 80,000 ราย และ 80% เห็นด้วย

“วันนี้เป็นการเห็นชอบร่าง พ.ร.บ. เพื่อเสนอให้สภาฯพิจารณาต่อไป และอยากจะอธิบายให้เข้าใจว่า เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ไม่เท่ากับ ‘กาสิโน’ เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ มีกาสิโนแค่ไม่เกิน 10% ขณะที่อีก 90% จะเป็นฮอลล์คอนเสิร์ตขนาดใหญ่ 50,000 คน เพื่อรองรับการจัดคอนเสิร์ตใหญ่ มีอินดอร์สเตเดี้ยม มีสวนน้ำ โรงแรม และร้านอาหาร ซึ่งคาดว่าจะสร้างรายได้กว่า 119,000-238,000 ล้านบาท

จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติจะเพิ่มขึ้น 5-10% ต่อปี มีการจ้างงานในประเทศเพิ่มขึ้น เกิดอาชีพใหม่ๆเพิ่มขึ้น ทั้งนี้ รัฐบาลคาดว่าจัดเก็บภาษีจากกาสิโนและธุรกิจอื่นๆเพิ่มขึ้นประมาณ 12,000-39,000 ล้านบาทต่อปี โดยเป็นการเก็บภาษีจากธุรกิจอื่น 8,000-35,000 ล้านบาทต่อปี และเฉพาะภาษีจากกาสิโนขั้นต่ำจะอยู่ที่ 3,264 ล้านบาทต่อปี ที่สำคัญจะมีกฎหมายควบคุม เพื่อป้องกันการติดการพนัน และจะมีการกำกับดูแลอย่างเคร่งครัด” น.ส.แพทองธาร กล่าว

น.ส.แพทองธาร ย้ำว่า “ถ้าเราสามารถทำเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ได้ มีทุกอย่างครบวงจร สามารถจัดงานได้ มีเอ็นเตอร์เทน แฟมิลี่ก็ได้ด้วย อยากให้มองในภาพใหญ่ ไม่ใช่มองว่าเป็นเรื่องกาสิโน แต่ความจริง คือ มีทั้งห้าง ทั้งคอมเพล็กซ์ มีเยอะแยะมากจริงๆ และคนที่มาประเทศไทยที่เคยมาเป็นซีซั่น แต่ต่อไปจะเที่ยวได้ทั้งปี”

ส่วนกรณีที่กลุ่มคนไม่เห็นด้วยกับกาสิโน นั้น น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า “เราต้องอธิบายไปเรื่อยๆ ไม่อยากพูดว่าจัดการได้ทั้งหมด เรายินดีที่จะรับฟังความคิดเห็นทั้งหมด และพร้อมที่จะตอบด้วย ถ้ามีรายละเอียดอะไรเพิ่มเติมที่อยากรู้หรืออยากทราบอะไร เราจะสื่อสารให้เยอะขึ้น”

นายกฯ ยังกล่าวว่า ที่ผ่านมาได้มีการหารือกับพรรคร่วมรัฐบาลเกี่ยวกับ ร่าง พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจรฯ ฉบับนี้ และครม.ก็ให้ความเห็นชอบร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้แล้ว ส่วนการพิจารณา ร่าง พ.ร.บ. ในชั้นการพิจารณาของสภาฯนั้น ก็ต้องให้สภาฯพิจารณาปรับปรุงให้เหมาะสมกันต่อไป ซึ่งรวมถึงประเด็นการกำหนดให้คนไทยต้องมีเงินฝากไม่น้อยกว่า 50 ล้านบาทจึงจะเข้ากาสิโนได้ ก็ต้องไปว่ากันในสภาฯ

@ เข้าสภาวาระแรกก่อนปิดสมัยประชุมนี้

ด้านนายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง แถลงว่า ขั้นตอนต่อไปคือการส่งเรื่องเป็น ‘เรื่องด่วน’ เข้าสู่การพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎร เพื่อบรรจุเป็นระเบียบวาระพิจารณาในวาระที่ 1 ขั้นรับหลักการ เพื่อตั้งณะกรรมาธิการ (กมธ.) พิจารณาต่อไป ซึ่งเป็นหน้าที่ของสภาฯ ในการพิจารณาสามวาระปกติ และในชั้นวุฒิสภา (สว.)

“เรื่องนี้เป็นเรื่องเร่งด่วน รัฐบาลอยากผลักดันให้สิ่งนี้เกิดขึ้นได้จริง เราไม่อยากดันเข้าไปในสภาแล้วคาราคาซัง ถึงเวลาหมดสมัยของรัฐบาลก็ยังพิจารณากฎหมายยังไม่เสร็จ สุดท้ายความหวัง ความฝันที่จะสร้างจุดเปลี่ยนทางเศรษฐกิจไม่เกิดจริง ดังนั้น เราต้องการสร้างความมั่นใจ เราจะพยายามผลักดันให้นักลงทุนต่างชาติทุกส่วนเห็นถึงความจริงจังในการผลักดันนโยบายของรัฐบาล เราจึงต้องการส่งเข้าไปในสภาให้เร็วที่สุด”นายจุลพันธ์กล่าว

นายจุลพันธ์กล่าวว่า ระยะเวลาในการประชุมสภาฯก่อนปิดสมัยประชุมในวันที่ 10 เม.ย.68 จำนวน 4 วัน ได้แก่ วันที่ 1-2 เม.ย.68 กับ วันที่ 8-9 เม.ย.68

นายจุลพันธ์กล่าวว่า ได้หารือกับนางมนพร เจริญศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคมในฐานะวิปครม.เพื่อไปเจรจากับวิปรัฐบาลเพื่อเลื่อนระเบียบวาระให้เข้าสภาฯได้ทันสมัยประชุมนี้

“เรื่องนี้เป็นประโยชน์มหาศาลกับประเทศ เม็ดเงินที่ได้รับจากการลงทุนไม่ต่ำกว่า 1 แสนล้านบาท รัฐจะได้รับเงินในรูปแบบภาษี ค่าธรรมเนียมต่างๆ เม็ดเงินที่ประชาชนจะได้รับผลทางเศรษฐกิจ เช่น การจ้างงาน รวมถึงกิจกรรมทางเศรษฐกิจอื่น เช่น โรงแรมผ่านการท่องเที่ยว”นายจุลพันธ์กล่าว

@ จุดเปลี่ยนที่สำคัญของประเทศไทย

นายจุลพันธ์กล่าวว่า ที่สำคัญไม่ใช่เรื่องของกาสิโนเท่านั้น เป็นเรื่องของการสร้างสถานบันเทิงครบวงจร man made tourist definition ขนาดใหญ่ ซึ่งเป็นโมเดลทางเศรษฐกิจ เช่น ดูไบ และญี่ปุ่น และต่างประเทศให้การยอมรับและดำเนินการอยู่

“วันนี้เรามองภาพประเทศไทยในอนาคต วาดฝันได้เลยว่าเราจะมีสถานที่ท่องเที่ยวระดับโลกเพิ่มมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นร้านอาหารระดับโลก สวนสนุกขนาดใหญ่ที่เป็นระดับเดียวกับ Disney ระดับเดียวกับ Universal เราจะเห็นสนามกีฬา อินดอร์สเตเดียมขนาดใหญ่”นายจุลพันธ์กล่าว
นายจุลพันธ์กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ เมื่อปีที่แล้วรัฐบาลพยายามดึงเทเลอร์ สวิฟ มา แต่ปัจจัยที่ไม่สามารถดึงมาได้เนื่องจากไม่มีพื้นที่จัดงานในที่ร่มรองรับในระดับ 4-5 หมื่นคน ปีนี้รัฐบาลพยายามดึงเลดี้ กาก้า สุดท้ายโจทย์เดิม จึงทำไม่ได้

“เราจะมีจุดดึงดูดใหม่ ๆ ที่จะสร้างกิจกรรมทางเศรษฐกิจประเภทอื่น ๆ อีกมากมาย มันจะสร้างเม็ดเงินให้กับประชาชน นี่คือจุดเปลี่ยนที่สำคัญของประเทศไทย ซึ่งจะสามารถเปลี่ยนโฉมหน้าประเทศไทยในเรื่องของการลงทุน การเดินหน้าภาคธุรกิจท่องเที่ยว วันนี้เราอยากจะสร้างจุดเปลี่ยนใหม่ ๆ ดึงการท่องเที่ยวใหม่ ๆ ขึ้นมาให้กับเข้ามา จึงมี พ.ร.บ.ฯ ที่ผ่านความเห็นชอบของครม.”นายจุลพันธ์กล่าว

@ เปิดประมูล-กิจการร่วมค้า

ผู้สื่อข่าวถามว่า ประเด็นเงินฝาก 50 ล้านบาท หากคนไทยต้องการเข้ากาสิโนยังมีอยู่ในร่างพ.ร.บ.ฯ ใช่หรือไม่ นายจุลพันธ์กล่าวว่า ยังมีประเด็นเงินฝาก 50 ล้านบาทอยู่ในร่างพ.ร.บ.ฯ ส่วนการเยียวยามีกำหนดอยู่ในกฎหมาย แต่ไม่ได้อยู่ในรูปกองทุน รวมถึงการช่วยเหลือด้านการศึกษา หรือ ชุมชนที่เป็นพื้นที่ตั้งของกาสิโน มีกลไกที่เป็นเงินเยียวยาอยู่ในกฎหมายอยู่

เมื่อถามว่า การลงทุนจะใช้รูปแบบการเปิดประมูล หรือการอนุมัติใบอนุญาต นายจุลพันธ์กล่าวว่า เป็นการประมูลแน่นอน จะต้องมีความโปร่งใส เป็น Super License

หากร่างพ.ร.บ.ฯ ผ่านความเห็นชอบของสภาฯ และวุฒิสภา โดยไม่มีการแก้ไขเปลี่ยนแปลง เริ่มต้นสำนักงานติดตามและกำกับฯ ประกอบด้วย ฝ่ายนโยบายและฝ่ายบริหาร จะทำการศึกษาความคุ้มค่าของแต่ละพื้นที่ว่าจะมีกี่จุด พื้นที่ใดบ้าง และมีธุรกิจกี่ประเภท จึงจะสามารถดำเนินการออกร่างขอบเขตของงาน (TOR)

“ผู้สนใจลงทุนจะต้องเป็นกิจการค้าร่วม (Consortium) โดยจะต้องเสนอต่อคณะกรรมการฯ โดยเราจะมีเกณฑ์โปร่งใสและเป็นธรรม โดยพิจารณาความเหมาะสม เช่น พื้นฐานบริษัทมีประสบการณ์ครบถ้วนหรือไม่ มีประวัติเป็นทุนสีเทา ฟอกเงิน ค้ามนุษย์หรือไม่ โดยจะมีกลไกพิจารณาวินิจฉัยคะแนนที่เป็นวิทยาศาสตร์ตรวจสอบได้”นายจุลพันธ์กล่าว

เมื่อถามว่ามีการตัวเลขเศรษฐกิจที่จะหมุนเวียนอยู่ในระบบเศรษฐกิจ เช่น รายได้ อย่างไร นายจุลพันธ์กล่าวว่า มีการประมาณการตัวเลขไว้แล้ว เช่น เม็ดเงินลงทุนแรกที่จะเกิดขึ้น เรามีความเชื่อมั่นว่า 1 แสนล้านบาท เป็นตัวเลขที่เล็กมา เม็ดเงินที่สองเมื่อกิจการเปิดแล้ว ซึ่งเป็นเม็ดเงินจากกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่เกิดขึ้น เช่น การจ้างงานที่เพิ่มขึ้นไม่ต่ำกว่า 15,000 – 20,000 ราย จีพีดีเพิ่มขึ้น เกิดแรงบวกจากการที่นักท่องเที่ยวที่มีกำลังจับจ่ายมากขึ้น คาดว่ารายจ่ายต่อหัวจะเพิ่มขึ้นจาก 40,000 บาท เป็น 60,000 หมื่นบาท คิดเป็น 40 %

อ่านประกอบ :

'พริษฐ์' เผย 'Melco' บ.กาสิโนที่รบ.ร่วมมือ เคยมีปัญหาฟอกเงิน ถามนายกฯ มีดีลแลกใบอนุญาตหรือไม่

มูลนิธิหยุดพนันเปิด 5 ช่องโหว่ ร่าง พ.ร.บ.กาสิโน หวั่นฟอกเงิน-คอร์รัปชัน

‘พ.ร.บ.กาสิโน’ ไม่เข้าครม. สลค. เปิด 2 แนวทาง ตีกลับกฤษฎีกาตรวจใหม่-เดินหน้าส่งสภา

'พนักงาน กทท.'ค้านแก้'กม.ท่าเรือ'นำที่ดินทำ'กาสิโน'-'เจิมศักดิ์'ออกจม.เปิดผนึกต้าน'บ่อน'

‘นักวิชาการ’หนุน‘กฤษฎีกา’ตั้งเกณฑ์เล่น‘กาสิโน’ต้องมีเงินฝาก 50 ล.-แนะผัน‘กำไร’พัฒนาชุมชน

คงเกณฑ์เงินฝาก 50 ล.เข้ากาสิโน! 'คลัง'รับฟังฯ'ร่างพ.ร.บ.สถานบันเทิงครบวงจร'ฉบับ'กฤษฎีกา'

จุลพันธ์ เผย แก้ร่างพ.ร.บ.สถานบันเทิงครบวงจร ฉบับกฤษฎีกา ตัดเงื่อนไขเงินฝาก 50 ล้าน

พื้นที่กาสิโนไม่เกิน 10%! เปิดฟังความเห็น‘ร่าง พ.ร.บ.สถานบันเทิงครบวงจรฯ’ฉบับ‘กฤษฎีกา’

กฤษฎีกา เคาะ กาสิโนไม่เกิน 10 % ชง เข้า ครม.ต้นมีนาคม โอด อย่ามากดดัน

'มูลนิธิฯหยุดพนัน'ร้อง'กฤษฎีกา'ชะลอ'ร่าง พ.ร.บ.สถานบันเทิงครบวงจรฯ'รอขั้นตอนทำ'ประชามติ'

วงเสวนาค้านกาสิโนถูกกฎหมาย ชี้ไทยได้ไม่คุ้มเสีย หวั่นเป็นแหล่งฟอกเงิน ทำสังคมพัง