‘พนักงาน กทท.’ คัดค้าน ‘ร่าง พ.ร.บ.การท่าเรือ’ เปิดทางนำที่ดินท่าเรือฯ ทำ ‘กาสิโน’ เอื้อประโยชน์กลุ่มทุน ขณะที่ ‘เจิมศักดิ์’ ร่อน ‘จม.เปิดผนึก’ ค้าน ‘ร่าง พ.ร.บ.สถานบันเทิงครบวงจร’ ซุก ‘บ่อน’
.........................................
เมื่อวันที่ 11 มี.ค. ที่อาคารรัฐสภา นายศักดิ์ชาย กุลสนั่น ตัวแทนพนักงานการท่าเรือแห่งประเทศไทย (กทท.) พร้อมคณะ เข้ายื่นหนังสือต่อนายสุรเชษฐ์ ประวีณวงศ์วุฒิ สส.พรรคประชาชน และนายภัณฑิล น่วมเจิม รองประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.การท่าเรือแห่งประเทศไทย (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... เพื่อขอให้พิจารณาทบทวนสาระสำคัญบางประการของร่าง พ.ร.บ.การท่าเรือแห่งประเทศไทย (ฉบับที่ ..) พ.ศ. ….
นายศักดิ์ชาย กล่าวว่า ตามที่สภาผู้แทนราษฎรได้ลงมติรับหลักการแห่งร่าง พ.ร.บ.การท่าเรือแห่งประเทศไทย (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... เมื่อที่ 26 ก.พ.ที่ผ่านมา และตั้งกรรมาธิการวิสามัญขึ้นคณะหนึ่งเพื่อพิจารณาแล้ว นั้น พนักงานและสมาชิกสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจการท่าเรือแห่งประเทศไทย (สร.กทท.) ไม่เห็นด้วยกับสาระสำคัญของร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้ ในบางส่วน โดยเฉพาะการนำสมบัติของชาติไปเอื้อประโยชน์ให้กลุ่มทุน
“ร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้ ถ้าออกมาแล้ว จะไปตัดอำนาจในการกำกับดูแลของกระทรวงการคลังออก เหลือแต่กระทรวงคมนาคมเท่านั้น ที่สำคัญวัตถุประสงค์ในการยื่นขอแก้ไข พ.ร.บ.ฉบับนี้ มีอยู่ 2 ประเด็น คือ ประเด็นแรก เพื่ออำนวยความสะดวกต่างๆ เช่น การเดินเรือ และการให้บริการหน้าท่า ประเด็นที่สอง ให้นำที่ดินไปพัฒนาในกิจการที่เกี่ยวเนื่องกับภารกิจของการท่าเรือฯ แต่ปรากฏว่าไม่มีกิจการใดเลยที่เกี่ยวเนื่องกับภารกิจของการท่าเรือฯโดยตรงเลย” นายศักดิ์ชาย กล่าว
นายศักดิ์ชาย ย้ำว่า พนักงานฯไม่เห็นด้วยกับ ร่าง พ.ร.บ.การท่าเรือแห่งประเทศไทยฯ ฉบับนี้ และหากร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้ได้รับความเห็นชอบจากสภาฯ จะเห็นบ่อนกาสิโนเกิดขึ้นบนที่ดินของการท่าเรือฯแน่นอน
ด้าน นายสุรเชษฐ์ กล่าวว่า มีความเป็นห่วงในเรื่องการใช้ประโยชน์ที่ดินท่าเรือคลองเตย และเรื่องการแก้ไข พ.ร.บ.การท่าเรือฯ โดยเรื่องนี้พรรคประชาชนได้ติดตามมาโดยตลอด ซึ่งที่ผ่านมาคณะกรรมาธิการการคมนาคมได้แต่งตั้งคณะอนุกรรมาธิการพิจารณาศึกษาแนวทางแก้ไขปัญหาและพัฒนาท่าเรือของประเทศไทย รวมถึงติดตามประเด็นที่จะนำท่าเรือไปพัฒนาพื้นที่เป็นเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ด้วย
“เป็นเรื่องที่มีวาระซ้อนเร้น ฉะนั้น จะนำเรื่องดังกล่าวเรียนนายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร เพื่อหาแนวทางและข้อเสนอแนะในการแก้ไขปัญหาต่อไป”นายสุรเชษฐ์กล่าว
ขณะที่ นายภัณฑิล ในฐานะรองประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.การท่าเรือแห่งประเทศไทย (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... คนที่สอง กล่าวว่า ขณะนี้การพิจารณาร่าง พ.ร.บ.การท่าเรือฯ อยู่ระหว่างการพิจารณา ซึ่งตนจะนำเรื่องร้องเรียนที่ได้รับในครั้งนี้ไปรายงานให้ประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญฯ เพื่อนำไปพิจารณาปรับแก้ไขเนื้อหาที่เป็นประโยชน์ต่อร่าง พ.ร.บ.ฉบับดังกล่าวต่อไป
@‘เจิมศักดิ์’ยื่นจม.เปิดผนึกค้านเปิด‘บ่อนกาสิโน’
วันเดียวกัน (11 มี.ค.) รศ.ดร.เจิมศักดิ์ ปิ่นทอง นักวิชาการและสื่อมวลชนอาวุโส อดีตสมาชิกวุฒิสภาจากการเลือกตั้ง พ.ศ.2543-2549 และอดีตสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2550 ได้เผยแพร่หนังสือเปิดผนึกถึงคณะรัฐมนตรี (ครม.) เรื่อง รัฐบาลเปิดบ่อนพนันและพนันออนไลน์ อย่างถูกกฎหมาย หนังสือเปิดผนึกฯดังกล่าวมีเนื้อหาว่า
ในฐานะคนไทยใช้สิทธิ์ตามรัฐธรรมนูญ แต่ไม่มีสิทธิ์นอกรัฐธรรมนูญเหมือนพ่อนายกรัฐมนตรีที่ครอบงำและครอบครองนโยบายของรัฐบาล ขอเรียกร้องให้คณะรัฐมนตรีมีมติไม่อนุมัติพระราชบัญญัติเพื่อเปิดบ่อนการพนันซุกไว้ภายใต้ชื่อสถานบันเทิงครบวงจร และที่เลวร้ายกว่านั้นจะมีการพนันทางไกลที่เรียกพนันออนไลน์เกิดขึ้นทั่วราชอาณาจักร ด้วยเหตุผลดังนี้
1.การเปิดบ่อนการพนัน และการพนันออนไลน์ทางไกล โดยสมคบกับนายทุนต่างชาติและนายทุนในประเทศเพื่อหลอกเอาเงินจากผู้เล่น เป็นการชิงทรัพย์โดยไม่ก่อให้เกิดรายได้ที่แท้จริง หรือเพิ่มจีดีพีของประเทศไทย เพราะเป็นการชิงทรัพย์โอนเงินหรือล้วงเอาเงินจากประชาชนผู้เล่น
2.พรรคเพื่อไทยและพรรคร่วมรัฐบาล ไม่เคยประกาศหาเสียงให้สัญญากับประชาชนว่า เมื่อได้อำนาจจัดตั้งรัฐบาลจะเปิดบ่อนการพนัน ขึ้นในพระนครและเมืองใหญ่อีกหลายแห่ง จึงเป็นการกระทำของรัฐบาลที่ไม่ชอบธรรมในระบอบประชาธิปไตย ที่หลอกลวงชิงอำนาจรัฐจากการเลือกตั้งได้แล้ว ก็ดำเนินการตามอำเภอใจ
3.การเปิดบ่อนการพนัน และพนันทางไกลออนไลน์อย่างถูกกฎหมาย เป็นการส่งสัญญาณทิศทางการพัฒนาประเทศที่ผิด ให้ผู้คนหมกมุ่นเล่นการพนัน สูญเสียโอกาสในการประกอบสัมมาอาชีพ และมีค่านิยมชมชอบ ไม่รังเกียจอบายมุข
4.ก่อให้เกิดผลกระทบทางสังคมที่ตามมาอย่างที่คาดเดาได้ เช่น จะมีคนสูญเสียหมดเนื้อหมดตัวเป็นหนี้สิน การทะเลาะเบาะแว้ง ทอดทิ้งลูกและครอบครัวและอาจเกิดความรุนแรงถึงฆ่าตัวตายดังที่ได้เกิดขึ้นแล้วในหลายประเทศรวมทั้งประเทศไทย
5.การพนันเป็นโรคชนิดหนึ่งที่เรียก “โรคติดพนัน” เป็นโรคทางจิตที่เสพติดการพนัน ทำให้สูญเสียงบประมาณในการรักษาและสูญเสียโอกาสในการทำงานของผู้ติดพนันและครอบครัว
6.บ่อนการพนันหรือคาสิโน จะมีโอกาสเป็นแหล่งซ่องสุมอาชญากรรม การหลอกลวงทุกประเภททั้งคอลเซ็นเตอร์ สแกมเมอร์ โดยเฉพาะเป็นแหล่งฟอกเงินจากการทุจริตคอรัปชั่น และการหลอกลวงทุกประเภท และอาจเป็นสถานอบายมุขครบวงจร ดังที่เกิดขึ้นในชายแดนไทยมาแล้ว
7.พระราชบัญญัติการจัดตั้งสถานบันเทิงครบวงจร เป็นการรวบอำนาจไม่ว่าจะอนุญาตให้ใครได้จัดตั้งบ่อนการพนัน กำหนดอัตราค่าธรรมเนียม กำหนดหลักเกณฑ์วิธีการและผู้เล่นการพนัน โดยเปิดช่องไว้ให้เป็นดุลพินิจของคณะกรรมการนโยบาย และเปิดช่องให้นักการเมืองมีอำนาจในการร่วมแสวงหาประโยชน์ได้อย่างง่ายดาย
8.รัฐบาลจะถูกกล่าวหาว่าเป็นคิดคดทรยศประชาชน บกพร่องหรือขาดจริยธรรมในการบริหารประเทศ ส่งเสริมอบายมุข เซาะกร่อนบ่อนทำลายศักยภาพการทำงาน และศีลธรรมอันดีของคนไทย
จึงเรียนคณะรัฐมนตรีพรรคร่วมรัฐบาล ขออย่าได้ร่วมอนุมัติพระราชบัญญัติดังกล่าว