‘สศค.’ เปิดรับฟังความเห็น ‘ร่าง พ.ร.บ.สถานบันเทิงครบวงจร’ ฉบับ ‘กฤษฎีกา’ คงเงื่อนไข ‘คนไทย’ เข้า ‘กาสิโน’ ต้องมีเงินฝากในบัญชี 50 ล้าน ตัดเนื้อหา ‘คุมพื้นที่กาสิโน’ ไม่เกิน 10% ออก ให้ 'นายกฯ-รมว.มหาดไทย' ร่วมรักษาการกฎหมาย
.......................................
เมื่อวันที่ 4 มี.ค. สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อวันที่ 28 ก.พ.ที่ผ่านมา สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) กระทรวงการคลัง เปิดรับฟังความคิดเห็นต่อร่าง พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร พ.ศ. .... ฉบับที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา (สคก.) ตรวจพิจารณาแล้ว (เรื่องเสร็จที่ 261/2568) โดยจะเปิดรับฟังความคิดเห็นฯไปจนถึง 14 มี.ค.2568 และนำความคิดเห็นต่างๆไปปรับปรุงร่าง พ.ร.บ. ก่อนนำเสนอให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) ต่อไป
โดยร่าง พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร พ.ศ. .... ฉบับนี้ มีการปรับปรุงเนื้อหาและถ้อยคำแตกต่างจากเนื้อหาของร่าง พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร พ.ศ. .... ฉบับที่ผ่านมาการพิจารณาของ คณะกรรมการกฤษฎีกา วาระที่ 1 และนำไปเปิดรับฟังความคิดเห็นฯในช่วงวันที่ 5 ก.พ. -1 มี.ค.2568 ในหลายประเด็น
เช่น การยกเลิกการกำหนดสัดส่วนพื้นที่กาสิโนในสถานบันเทิงครบวงจร โดยให้คณะกรรมการนโยบายสถานบันเทิงครบวงจร (คณะกรรมการนโยบาย) มีอำนาจหน้าที่ในการกำหนดพื้นที่ของกาสิโนในสถานบันเทิงครบวงจร ซึ่งแตกต่างจาก ร่าง พ.ร.บ.ฉบับที่ผ่านการพิจารณาของคณะกรรมการกฤษฎีกาวาระแรก ที่กำหนดว่า พื้นที่ของกาสิโนในสถานบันเทิงครบวงจรต้องมีสัดส่วนไม่เกิน 10%
ขณะที่การอนุญาตและการประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจรนั้น ให้คณะกรรมการนโยบายฯ เสนอแนะนโยบายสถานบันเทิงครบวงจรต่อคณะรัฐมนตรี (ครม.) อย่างน้อย 4 เรื่อง ได้แก่ 1.การกำหนดจำนวนใบอนุญาต 2.พื้นที่ที่จะอนุญาตให้ตั้งสถานบันเทิงครบวงจร 3.หลักเกณฑ์การพิจารณาร่วมลงทุนกับเอกชนหรือให้เอกชนเป็นผู้ลงทุน และ 4.มาตรการป้องกัน แก้ไข และเยียวยาผลกระทบอันอาจเกิดขึ้นจาก การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร
ส่วนการเช่า เช่าช่วง ให้เช่า หรือให้เช่าช่วงที่ดินหรืออสังหาริมทรัพย์ เพื่อประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร นั้น กำหนดให้ทำสัญญาเช่าเป็นกำหนดเวลาได้ไม่เกิน 30 ปี ถ้าได้ทำสัญญากันไว้เป็นกำหนดเวลาเกินกว่านั้น ก็ให้ลดลงมาเป็น 30 ปี การต่อสัญญาเช่าอาจทำได้แต่จะต่อสัญญาเกิน 30 ปีไม่ได้ แตกต่างจาก ร่าง พ.ร.บ. ฉบับที่ผ่านการพิจารณาของคณะกรรมการกฤษฎีกา วาระแรก ที่กำหนดว่า ห้ามมิให้ทำสัญญาเช่าเป็นกำหนดเวลาเกิน 50 ปี และการต่อสัญญาเช่าอาจทำได้แต่จะต่อสัญญาเกิน 49 ปี
อย่างไรก็ดี ร่าง พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร พ.ศ. .... ฉบับดังกล่าว ยังคงกำหนดลักษณะของบุคคลที่ห้ามเข้ากาสิโนไว้เช่นเดียวกับ ร่าง ฉบับ พ.ร.บ.ที่ผ่านการพิจารณาของคณะกรรมการกฤษฎีกา วาระแรก คือ ห้ามบุคคลซึ่งมีอายุต่ำกว่า 20 ปี เข้ากาสิโน เป็นต้น และกำหนดให้บุคคลสัญชาติไทย ซึ่งจะเล่นพนันในกาสิโนต้องมีเงินฝากในบัญชีเงิน ฝากประจำไม่น้อยกว่า 50 ล้านบาทต่อเนื่องกันไม่น้อยกว่า 6 เดือน และผ่านการตรวจสอบ ตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่คณะกรรมการบริหารกำหนด
รายงานข่าวแจ้งว่า เมื่อวันที่ 3 มี.ค.ที่ผ่านมา นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวว่า กระทรวงการคลัง ยังไม่ได้ยืนยันร่าง พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร พ.ศ. .... ฉบับกฤษฎีกา ที่จะส่งไปยังสำนักงานเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (สลค.) เนื่องจากยังอยู่ระหว่างขั้นตอนการดำเนินการของกระทรวงการคลัง ส่วนประเด็นกำหนดให้คนไทยต้องมีเงินฝาก 50 ล้านบาท จึงจะเข้ากาสิโนได้นั้น ตอนนี้ไม่มีแล้ว (อ่านประกอบ : จุลพันธ์ เผย แก้ร่างพ.ร.บ.สถานบันเทิงครบวงจร ฉบับกฤษฎีกา ตัดเงื่อนไขเงินฝาก 50 ล้าน)
สำหรับร่าง พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร พ.ศ. .... ฉบับที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา (สคก.) ตรวจพิจารณาแล้ว (เรื่องเสร็จที่ 261/2568) ประกอบด้วย 7 หมวด 104 มาตรา มีสาระสำคัญ ดังนี้
บททั่วไป
-กำหนดให้การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร กระทำได้เฉพาะที่ได้รับอนุญาตตามพระราชบัญญัตินี้ (ร่างมาตรา 5)
-เพื่อให้การประกอบธุรกิจดังกล่าวเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ คณะกรรมการบริหารสำนักงานควบคุมการประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร (คณะกรรมการบริหาร) อาจเสนอต่อคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาสั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องปรับปรุง แก้ไขเพิ่มเติม หรือยกเลิกกฎหมายหรือกฎ ที่อาจก่อให้เกิดความล่าช้า ซ้ำซ้อน หรือก่อให้เกิดภาระ โดยไม่จำเป็นในการประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร หรือสำนักงานจะจัดให้มีการประชุมร่วมกันหรือประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐหรือเอกชนก็ได้ (ร่างมาตรา 6)
-ในการปฏิบัติหน้าที่ตามพระราชบัญญัตินี้ กำหนดให้ผู้อำนวยการ รองผู้อำนวยการ พนักงานเจ้าหน้าที่ และผู้แทนที่ได้รับมอบหมายให้ร่วมดำเนินการเป็นเจ้าพนักงานตามประมวลกฎหมายอาญา (ร่างมาตรา 7)
-กำหนดให้นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นผู้รักษาการตามกฎหมายร่วมกัน โดยให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยเป็นผู้แต่งตั้งพนักงานเจ้าหน้าที่กับประกาศกำหนดแบบบัตรประจำตัวพนักงานเจ้าหน้าที่ด้วย (ร่างมาตรา 8)
คณะกรรมการนโยบายสถานบันเทิงครบวงจร
-กำหนดให้คณะกรรมการนโยบายมีกรรมการโดยตำแหน่งจำนวน 12 คน ได้แก่ นายกรัฐมนตรี เป็นประธานกรรมการ รองนายกรัฐมนตรีซึ่งนายกรัฐมนตรีมอบหมายเป็นรองประธานกรรมการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน และเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน และมีกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิจำนวนไม่เกิน 6 คน ซึ่งนายกรัฐมนตรีแต่งตั้งจากผู้มีความรู้ความสามารถด้านเศรษฐศาสตร์ ด้านสังคม ด้านการท่องเที่ยว ด้านการบริหารธุรกิจ หรือด้านกฎหมาย โดยให้ผู้อำนวยการเป็นกรรมการและเลขานุการ (ร่างมาตรา 9)
-คณะกรรมการนโยบายสถานบันเทิงครบวงจร (คณะกรรมการนโยบาย) มีหน้าที่และอำนาจในการเสนอแนะนโยบายการประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร การกำหนดพื้นที่ประกอบธุรกิจ วางแนวทางในการกำหนดจำนวนใบอนุญาต อัตราภาษีที่เกี่ยวข้องกับกาสิโน เสนอต่อคณะรัฐมนตรี และออกประกาศเพื่อกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการอนุญาตและการประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร
การควบคุมและมาตรการบังคับ การพิจารณาและออกคำสั่งเกี่ยวกับการออกใบอนุญาต การต่ออายุใบอนุญาต และการเพิกถอนใบอนุญาต และกำหนดพื้นที่ของกาสิโนในสถานบันเทิงครบวงจร ตลอดจนแต่งตั้งผู้อำนวยการหรือให้ผู้อำนวยการพ้นจากตำแหน่ง รวมทั้งออกประกาศ ระเบียบ หรือคำสั่ง เพื่อดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ตามพระระราชบัญญัตินี้ (ร่างมาตรา 15)
คณะกรรมการบริหารสำนักงานควบคุมการประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร
-กำหนดให้คณะกรรมการบริหารสำนักงานควบคุมการประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร (คณะกรรมการบริหาร) มีกรรมการจำนวนไม่เกินสิบแปดคน ประกอบด้วย บุคคลซึ่งนายกรัฐมนตรีแต่งตั้งเป็นประธานกรรมการ ปลัดกระทรวงการคลัง ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ปลัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม
ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด อธิบดีกรมการปกครอง อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ผู้บัญชาการตำรวจตรวจคนเข้าเมือง และผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว และกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิจำนวนไม่เกินห้าคน ซึ่งนายกรัฐมนตรีแต่งตั้งจากผู้มีความรู้ความสามารถด้านเศรษฐศาสตร์ ด้านสังคม ด้านการท่องเที่ยว ด้านการบริหารธุรกิจ และด้านกฎหมาย โดยให้ผู้อำนวยการเป็นเลขานุการ (ร่างมาตรา 18)
-คณะกรรมการบริหารสำนักงานควบคุมการประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร (คณะกรรมการบริหาร) มีหน้าที่และอำนาจในการควบคุมการดำเนินงาน และกำหนดข้อบังคับหรือระเบียบเกี่ยวกับบริหารงานทั่วไปของสำนักงานควบคุมการประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร และให้มีหน้าที่เสนอความเห็นเพื่อประโยชน์ในการดำเนินการของคณะกรรมการนโยบาย ออกประกาศเพื่อกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการอนุญาตและการประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร และการควบคุมและมาตรการบังคับ
พิจารณาอนุมัติแผนยุทธศาสตร์ แผนการดำเนินงาน แผนการใช้จ่ายเงินและงบประมาณรายจ่ายประจำปีของสำนักงาน แล้วรายงานผลการดำเนินการต่อคณะกรรมการนโยบาย กำหนดหลักเกณฑ์และอัตราในการจัดเก็บค่าบริการค่าตอบแทน หรือเงินที่เรียกชื่ออย่างอื่นในการดำเนินการตามวัตถุประสงค์ของสำนักงาน พิจารณาอุทธรณ์เรื่องร้องเรียนที่เกี่ยวกับสถานบันเทิงครบวงจร แต่งตั้งบุคคลเป็นผู้เชี่ยวชาญหรือผู้ชำนาญการเฉพาะด้าน และปฏิบัติการอื่นใดตามที่พระราชบัญญัตินี้หรือกฎหมายอื่นบัญญัติให้เป็นหน้าที่และอำนาจของคณะกรรมการบริหาร หรือตามที่ได้รับมอบหมายจากคณะรัฐมนตรีหรือคณะกรรมการนโยบาย (ร่างมาตรา 20)
สำนักงานควบคุมการประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร
-กำหนดให้สำนักงานดังกล่าวทำหน้าที่เป็นหน่วยธุรการของคณะกรรมการนโยบายและคณะกรรมการบริหาร (ร่างมาตรา 23-27)
ผู้อำนวยการและรองผู้อำนวยการ
-กำหนดให้ “ผู้อำนวยการ” เป็นผู้บริหารกิจการของสำนักงาน ซึ่งคณะกรรมการนโยบายแต่งตั้ง โดยให้กระทำเป็นสัญญาจ้าง ภายใต้การควบคุมดูแลของคณะกรรมการบริหาร มีหน้าที่และอำนาจในการบริหารงานของสำนักงานให้เกิดผลสัมฤทธิ์ตามภารกิจของสำนักงาน และเป็นผู้บังคับบัญชาพนักงานและลูกจ้างของสำนักงาน และอาจมีรองผู้อำนวยการซึ่งมีสถานะเป็นพนักงานของสำนักงานด้วยก็ได้โดยผู้อำนวยการและรองผู้อำนวยการต้องมีสัญชาติไทย มีอายุไม่เกิน 65 ปี ในวันที่ได้รับการแต่งตั้ง (ร่างมาตรา 28-29)
การอนุญาตและการประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร
-ให้คณะกรรมการนโยบายเสนอแนะนโยบายสถานบันเทิงครบวงจร ต่อคณะรัฐมนตรี นโยบายดังกล่าวอย่างน้อยต้องประกอบด้วยเรื่อง ดังต่อไปนี้ (1) การกำหนดจำนวนใบอนุญาต (2) พื้นที่ที่จะอนุญาตให้ตั้งสถานบันเทิงครบวงจร (3) หลักเกณฑ์การพิจารณาร่วมลงทุนกับเอกชนหรือให้เอกชนเป็นผู้ลงทุน (4) มาตรการป้องกัน แก้ไข และเยียวยาผลกระทบอันอาจเกิดขึ้นจาก การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร (ร่างมาตรา 44)
-การกำหนดพื้นที่ที่จะอนุญาตให้ตั้งสถานบันเทิงครบวงจรให้ตราเป็นพระราชกฤษฎีกา โดยในพระราชกฤษฎีกาดังกล่าวอย่างน้อยต้องประกอบด้วย (1) แนวเขตที่ดินที่จะอนุญาตให้ตั้งสถานบันเทิงครบวงจร (2) แผนที่หรือแผนผังแสดงแนวเขตที่ดินโดยระบุท้องที่ที่อยู่ในเขตพื้นที่ และจำนวนเนื้อที่ทั้งหมดที่จะอนุญาตให้ตั้งสถานบันเทิงครบวงจร การดำเนินการตามวรรคหนึ่งให้สำนักงานจัดให้มีการรับฟังความคิดเห็น ของประชาชนในพื้นที่ประกอบด้วย (ร่างมาตรา 45)
-ผู้ขอรับใบอนุญาตต้องเป็นบริษัทจำกัดหรือบริษัทมหาชนจำกัดซึ่งจดทะเบียนในประเทศไทย มีทุนชำระแล้วไม่น้อยกว่า 1 หมื่นล้านบาท (ร่างมาตรา 47) และให้ผู้ขอรับใบอนุญาตยื่นคำขอรับใบอนุญาตพร้อมเอกสารที่เกี่ยวข้องต่อสำนักงาน (ร่างมาตรา 50)
-กรณีที่คณะกรรมการนโยบายมีมติให้ออกใบอนุญาตให้ผู้ขอรับใบอนุญาตชำระค่าธรรมเนียมใบอนุญาตแล้ว ผู้อำนวยการจึงจะออกใบอนุญาตให้ภายใน 7 วันนับแต่วันที่ได้รับชำระค่าธรรมเนียม ซึ่งใบอนุญาตดังกล่าวจะระบุว่าผู้ขอรับใบอนุญาตจะประกอบธุรกิจสถานบันเทิงตามบัญชีท้ายประเภทใดได้บ้าง และให้กำหนดเงื่อนไขไว้ด้วยว่า การประกอบธุรกิจของผู้รับใบอนุญาตจะต้องเป็นไปตามเอกสารประกอบการดำเนินธุรกิจ สถานบันเทิงครบวงจรซึ่งแนบท้ายใบอนุญาตด้วย และกำหนดให้ใบอนุญาตมีอายุ 30 ปีนับแต่วันที่ได้รับอนุญาต (ร่างมาตรา 53)
-เพื่อให้การจัดตั้งสถานบันเทิงครบวงจรเป็นไปอย่างสะดวก และมีประสิทธิภาพ ในกรณีที่คณะกรรมการนโยบายกำหนดกระบวนการพิจารณาการร่วมลงทุนกับเอกชน หรือให้เอกชนเป็นผู้ลงทุนและกำหนดวิธีการกำกับดูแลและติดตามผลการดำเนินการไว้ เป็นการเฉพาะแล้ว การร่วมลงทุนกับเอกชนหรือให้เอกชนเป็นผู้ลงทุนตามพระราชบัญญัตินี้ ให้ดำเนินการตามกระบวนการและวิธีการดังกล่าว โดยให้ถือว่าการร่วมลงทุนกับเอกชนหรือการให้ เอกชนเป็นผู้ลงทุนนั้น ได้ปฏิบัติตามกฎหมายว่าด้วยการให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐแล้ว (ร่างมาตรา 58)
-การเช่า เช่าช่วง ให้เช่า หรือให้เช่าช่วงที่ดินหรืออสังหาริมทรัพย์ เพื่อประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร ให้ทำสัญญาเช่าเป็นกำหนดเวลาได้ไม่เกิน 30 ปี ถ้าได้ทำสัญญากันไว้เป็นกำหนดเวลาเกินกว่านั้น ก็ให้ลดลงมาเป็น 30 ปี การต่อสัญญาเช่าอาจทำได้แต่จะต่อสัญญาเกิน 30 ปีไม่ได้ (ร่างมาตรา 63)
-ผู้รับใบอนุญาตต้องประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจรด้วยตนเอง จะโอนสิทธิหรือนำหุ้นไปเป็นหลักประกันการชำระหนี้ ไม่ได้ เว้นแต่ได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการบริหาร และห้ามเปลี่ยนแปลงกรรมการ ผู้บริหาร หรือโครงสร้างองค์กร ของผู้รับใบอนุญาต เว้นแต่ได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการบริหาร (ร่างมาตรา 64)
-การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร ให้ได้รับยกเว้นเกี่ยวกับการกำหนดวันเวลาเปิดปิดและสถานที่ตั้งของสถานบริการตามกฎหมายว่าด้วยสถานบริการ การกำหนดเวลาและสถานที่ห้ามขายหรือบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ตามกฎหมายว่าด้วยการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และเขตสูบบุหรี่ตามกฎหมายว่าด้วยการควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบ โดยให้เป็นไปตามที่คณะกรรมการนโยบายกำหนด (ร่างมาตรา 68)
-การประกอบธุรกิจกาสิโนนั้น กำหนดให้จัดให้มีขึ้นได้เฉพาะในสถานบันเทิงครบวงจรเท่านั้น โดยให้การเล่นพนันในกาสิโนเป็นไปตามพระราชบัญญัตินี้ โดยมิให้นำกฎหมายว่าด้วยการพนันและมาตรา 853 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาใช้บังคับ หนี้ที่เกิดจากการพนันในกาสิโนที่จัดให้มีขึ้นตามพระราชบัญญัตินี้ให้ถือว่าเป็นหนี้ที่ บังคับได้ตามกฎหมาย และเพื่อประโยชน์ในการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน ให้ถือว่าผู้รับใบอนุญาต ที่จัดให้มีกาสิโนเป็นสถาบันการเงินตามกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ร่างมาตรา 69)
-ผู้รับใบอนุญาตจะต้องดำเนินการจัดเขตบริเวณของกาสิโนให้แยกต่างหากจากสถานประกอบธุรกิจสถานบันเทิงอื่นแล้วแต่กรณี และจัดให้มีทางเข้าออกหรือระบบลิฟต์เฉพาะเพื่อให้ผู้ประสงค์จะเข้ากาสิโนเข้าได้เท่านั้น และยังต้องควบคุมการเข้าออกโดยมีการตรวจสอบและลงทะเบียนหนังสือเดินทางหรือบัตรประจำตัวประชาชนหรือเอกสารระบุตัวตนอื่นของผู้เข้าไปในกาสิโน
ทั้งนี้ ผู้รับใบอนุญาตต้องจัดให้มีสัญลักษณ์ โดยอย่างน้อยต้องแสดงให้ทราบถึงบริเวณของกาสิโน เขตควบคุมการเข้าออกที่ต้องตรวจสอบตัวตนและเงื่อนไขของบุคคลผู้จะเข้าไปในกาสิโน ข้อห้ามและข้อปฏิบัติในกาสิโน ให้ชัดเจน (ร่างมาตรา 72)
การควบคุมและมาตรการบังคับ
-กำหนดให้มีการควบคุมและมาตรการบังคับแก่ผู้รับใบอนุญาต โดยให้คณะกรรมการนโยบายกำหนดหลักเกณฑ์เพื่อควบคุมการประกอบการกาสิโน โดยอย่างน้อยในเรื่องดังต่อไปนี้ (1) การจัดให้มีมาตรการป้องกันการฟอกเงิน (2) ระบบการควบคุมกาสิโนที่เหมาะสมและมีประสิทธิภาพ (3) มาตรการป้องกันและแก้ไขปัญหาอันเกิดจากกาสิโน (ร่างมาตรา 79)
-กำหนดลักษณะของบุคคลที่ห้ามเข้ากาสิโน คือ (1) บุคคลซึ่งมีอายุต่ำกว่า 20 ปี (2) บุคคลซึ่งมิได้ลงทะเบียนและชำระค่าธรรมเนียม (3) บุคคลซึ่งมีลักษณะต้องห้าม (4) บุคคลซึ่งผู้อำนวยการสั่งห้ามเข้ากาสิโน การลงทะเบียน การกำหนดและการชำระค่าธรรมเนียมตาม (2) และการกำหนดลักษณะต้องห้ามตาม (3) ให้เป็นไปตามที่คณะกรรมการบริหารกำหนด (ร่างมาตรา 80)
-บุคคลสัญชาติไทย ซึ่งจะเล่นพนันในกาสิโนต้องมีเงินฝากในบัญชีเงิน ฝากประจำไม่น้อยกว่า 50 ล้านบาทต่อเนื่องกันไม่น้อยกว่า 6 เดือน และผ่านการตรวจสอบ ตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่คณะกรรมการบริหารกำหนด (ร่างมาตรา 81)
-ผู้รับใบอนุญาตซึ่งประกอบกิจการกาสิโนและเจ้าหน้าที่รักษาความสงบเรียบร้อยของกาสิโนต้องควบคุมไม่ให้ผู้จะเข้าไปหรืออยู่ในกาสิโนนำอาวุธเข้าไปในกาสิโน มีการเล่นพนันโดยฝ่าฝืนหรือไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการเล่น และรายละเอียดการเล่นพนันในกาสิโน กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด กระทำความผิดในลักษณะเพื่อการค้าประเวณี หรือมีอาการมึนเมาจนประพฤติวุ่นวายหรือครองสติไม่ได้ หรือกระทำการอันเป็นการขัดขวางการประกอบธุรกิจหรือก่อให้เกิดความไม่สงบ (ร่างมาตรา 82)
-กำหนดห้ามบุคคลจัดให้มีการเล่นพนันในกาสิโนผ่านการเชื่อมต่อระบบคอมพิวเตอร์หรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อื่นใดกับเครือข่ายอินเทอร์เน็ต หรือถ่ายทอดการเล่นพนัน เพื่อให้บุคคลภายนอกกาสิโนเล่นพนันได้ (ร่างมาตรา 84)
-ห้ามผู้รับใบอนุญาตหรือบุคคลใด เชิญชวน โฆษณา ประชาสัมพันธ์ จัดกิจกรรมส่งเสริมการขายหรือดำเนินการอื่นที่มีลักษณะในทำนองเดียวกัน เกี่ยวกับกาสิโน เว้นแต่จะเป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่คณะกรรมการบริหารกำหนด และยังห้ามผู้รับใบอนุญาตหรือบุคคลใดจ้างหรือให้ผลประโยชน์ตอบแทนอื่นใดแก่บุคคลอื่น เพื่อเพิ่มยอดหรือจำนวนคนเล่นพนันในกาสิโน หรือเพื่อเพิ่มจำนวนเงินที่ใช้จ่ายในการเล่นพนันกาสิโน (ร่างมาตรา 85)
พนักงานเจ้าหน้าที่
-กำหนดให้พนักงานเจ้าหน้าที่มีหน้าที่และอำนาจเข้าไปในสถานบันเทิงครบวงจรหรือสถานที่ตั้งของผู้รับใบอนุญาตในระหว่างพระอาทิตย์ขึ้นถึงพระอาทิตย์ตก หรือในระหว่างเวลาทำการ เรียกเอกสารหรือหลักฐานจากผู้รับใบอนุญาต กรรมการหรือพนักงานของผู้รับใบอนุญาต หรือบุคคลที่เกี่ยวข้อง รวมถึงเรียกให้บุคคลดังกล่าวมาให้ถ้อยคำ มีอำนาจเข้าถึงระบบเทคโนโลยีสารสนเทศของกาสิโน ยึดหรืออายัดทรัพย์สิน เอกสาร หรือหลักฐานที่เกี่ยวข้อง
สั่งให้ผู้รับใบอนุญาตหรือพนักงานของกาสิโนหยุดการให้บริการในกาสิโน หรือสั่งให้หยุดเครื่องมือหรืออุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับกาสิโนทั้งหมดหรือบางส่วน สั่งให้ผู้เข้าไปในกาสิโนแจ้งชื่อหรือข้อมูลอื่นใดพร้อมหลักฐาน ตรวจสอบการดำเนินงานของผู้รับใบอนุญาตเกี่ยวกับการเชิญชวน โฆษณา ประชาสัมพันธ์ หรือจัดกิจกรรมส่งเสริมการขาย เกี่ยวกับกาสิโนแล้วรายงานต่อผู้อำนวยการ ตลอดจนรับและตรวจสอบเรื่องร้องเรียนหรือข้อพิพาทจากผู้ใช้บริการในกาสิโน (ร่างมาตรา 89)
บทกำหนดโทษ
(1) กำหนดความผิดทางพินัย ดังต่อไปนี้
(1.1) ผู้รับใบอนุญาตที่จัดให้มีการเล่นพนันประเภทอื่น นอกเหนือจากที่คณะกรรมการนโยบายกำหนด และไม่ดำเนินการแก้ไขให้ถูกต้องครบถ้วนตามที่ผู้อำนวยการมีคำสั่ง ต้องชำระค่าปรับเป็นพินัยไม่เกิน 5 ล้านบาทหรือร้อยละจุดห้า (0.5) ของรายได้ของกาสิโนทั้งปีแล้วแต่จำนวนใดจะมากกว่ากัน และให้ชำระค่าปรับเป็นพินัยอีกวันละไม่เกิน 1 แสนบาทจนกว่าจะปฏิบัติให้ถูกต้อง (ร่างมาตรา 91)
(1.2) ผู้รับใบอนุญาตที่เลิกประกอบธุรกิจ ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน โดยไม่แจ้งต่อคณะกรรมการนโยบาย ต้องชำระค่าปรับเป็นพินัยตั้งแต่ 1 ล้านบาทถึง 10 ล้านบาท (ร่างมาตรา 92)
(1.3) ผู้รับใบอนุญาตที่ปล่อยปละละเลยหรือยินยอมให้บุคคลต้องห้ามเข้าไปในกาสิโน ต้องชำระค่าปรับเป็นพินัยไม่เกิน 1 แสนบาท (ร่างมาตรา 93)
(1.4) บุคคลซึ่งมีอายุต่ำกว่า 20 ปี หรือมิได้ลงทะเบียนและชำระค่าธรรมเนียม หรือมีลักษณะต้องห้าม หรือเป็นผู้ซึ่งผู้อำนวยการสั่งห้ามเข้าไปในกาสิโน ต้องชำระค่าปรับเป็นพินัยไม่เกิน 5 หมื่นบาท ในกรณีที่มีผู้พาบุคคลซึ่งมีอายุต่ำกว่า 20 ปี ให้ผู้พาบุคคลดังกล่าวเข้าไปในกาสิโนเป็นผู้ชำระค่าปรับเป็นพินัย (ร่างมาตรา 94)
(1.5) ผู้รับใบอนุญาตที่ไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของผู้อำนวยการ ที่สั่งให้ปฏิบัติข้อกำหนดตามที่บัญญัติไว้ในพระราชบัญญัตินี้ ต้องชำระค่าปรับเป็นพินัยตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในกฎกระทรวง โดยในการกำหนดค่าปรับเป็นพินัยให้พิจารณากำหนดโดยคำนึงถึงความร้ายแรงของพฤติการณ์และตามความเหมาะสมแก่กรณี แต่จะกำหนดค่าปรับเป็นพินัยได้ไม่เกิน 1 ล้านบาท และจะกำหนดค่าปรับเป็นพินัยรายวันได้อีกไม่เกินวันละ 5 หมื่นบาทจนกว่าจะปฏิบัติให้ถูกต้อง (ร่างมาตรา 95)
(2) กำหนดโทษอาญา
(2.1) ผู้อำนวยการ รองผู้อำนวยการ พนักงานเจ้าหน้าที่ และผู้แทนที่ได้รับมอบหมายให้ร่วมดำเนินการตามพระราชบัญญัตินี้ กระทำความผิดฐานฟอกเงิน ความผิดตามกฎหมายเกี่ยวกับยาเสพติด ความผิดตามกฎหมายว่าด้วยธุรกิจสถาบันการเงิน ความผิดตามกฎหมายว่าด้วยหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ความผิดตามกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการสนับสนุนทางการเงินแก่การก่อการร้าย
ความผิดตามกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ หรือความผิดตามกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ให้รับโทษเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าของโทษที่กำหนดไว้ในกฎหมายดังกล่าว (ร่างมาตรา 96)
(2.2) ผู้อำนวยการผู้ใดประกอบธุรกิจหรือทำงานให้แก่ผู้รับใบอนุญาต หรือผู้ประกอบธุรกิจในสถานบันเทิงครบวงจรก่อนสองปีนับแต่วันพ้นจากตำแหน่งต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 5 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ แต่หากผู้ฝ่าฝืนตามวรรคหนึ่งเป็นรองผู้อำนวยการ ต้องระวางโทษแต่เพียงกึ่งหนึ่ง (ร่างมาตรา 97)
(2.3) ผู้รับใบอนุญาต ผู้มีอำนาจประกอบธุรกิจแทน ผู้ได้รับโอนสิทธิตามใบอนุญาต และบริษัทในกลุ่มซึ่งเข้ามาบริหารจัดการสถานบันเทิงครบวงจรแทนผู้รับใบอนุญาตซึ่งประกอบกิจการกาสิโนผู้ใด ไม่ควบคุมหรือปล่อยปละละเลยให้ผู้จะเข้าไปหรืออยู่ในกาสิโนนำอาวุธเข้าไปในกาสิโน มีการเล่นพนันโดยฝ่าฝืนหรือไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการเล่น และรายละเอียดการเล่นพนันในกาสิโน กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด กระทำความผิดในลักษณะเพื่อการค้าประเวณี หรือมีอาการมึนเมาจนประพฤติวุ่นวายหรือครองสติไม่ได้หรือกระทำการอันเป็นการขัดขวางการประกอบธุรกิจหรือก่อให้เกิดความไม่สงบ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปีหรือปรับไม่เกิน 6 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ (ร่างมาตรา 98)
(2.4) ผู้ใดจัดให้มีการเล่นพนันในกาสิโนผ่านการเชื่อมต่อระบบคอมพิวเตอร์หรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อื่นใดกับเครือข่ายอินเทอร์เน็ต หรือถ่ายทอดการเล่นพนันในกาสิโนต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปีหรือปรับไม่เกิน 1 านบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และในกรณีผู้ฝ่าฝืนเป็นผู้รับใบอนุญาต ผู้มีอำนาจประกอบธุรกิจแทน ผู้ได้รับโอนสิทธิตามใบอนุญาต และบริษัทในกลุ่มซึ่งเข้ามาบริหารจัดการสถานบันเทิงครบวงจรแทนผู้รับใบอนุญาตซึ่งประกอบกิจการกาสิโนต้องรับโทษเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่า (ร่างมาตรา 99)
(2.5) ผู้ใดกระทำการที่เป็นการเพิ่มยอดหรือเพิ่มจำนวนคนเล่นพนันหรือเพิ่มจำนวนเงินที่ใช้จ่ายในการเล่นพนันในกาสิโน ต้องระวางโทษปรับตั้งแต่ 2 หมื่นบาทถึง 2 แสนบาท (ร่างมาตรา 100)
บทเฉพาะกาล
ในวาระเริ่มแรกให้มีคณะกรรมการชั่วคราวทำหน้าที่คณะกรรมการนโยบาย โดยให้ข้าราชการในสำนักนายกรัฐมนตรีและกระทรวงมหาดไทยที่นายกรัฐมนตรีแต่งตั้งเป็นเลขานุการและเลขานุการร่วม และให้นายกรัฐมนตรีแต่งตั้งผู้ทำหน้าที่ผู้อำนวยการไปพลางก่อน โดยแต่งตั้งผู้อำนวยการให้แล้วเสร็จภายใน 60 วันนับแต่วันที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ และให้นายกรัฐมนตรีเสนอต่อคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาให้ข้าราชการ พนักงาน เจ้าหน้าที่ หรือผู้ปฏิบัติงานอื่นใดในหน่วยงานของรัฐมาปฏิบัติงานที่ในสำนักงานเป็นการชั่วคราวภายในระยะเวลาที่คณะรัฐมนตรีกำหนด
อ่านเพิ่มเติม : การรับฟังความคิดเห็นต่อร่างพระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร พ.ศ. .... (ร่างฯ ที่ สคก. ตรวจพิจารณาแล้ว เรื่องเสร็จที่ 261/2568)
อ่านประกอบ :
จุลพันธ์ เผย แก้ร่างพ.ร.บ.สถานบันเทิงครบวงจร ฉบับกฤษฎีกา ตัดเงื่อนไขเงินฝาก 50 ล้าน
พื้นที่กาสิโนไม่เกิน 10%! เปิดฟังความเห็น‘ร่าง พ.ร.บ.สถานบันเทิงครบวงจรฯ’ฉบับ‘กฤษฎีกา’
กฤษฎีกา เคาะ กาสิโนไม่เกิน 10 % ชง เข้า ครม.ต้นมีนาคม โอด อย่ามากดดัน
'มูลนิธิฯหยุดพนัน'ร้อง'กฤษฎีกา'ชะลอ'ร่าง พ.ร.บ.สถานบันเทิงครบวงจรฯ'รอขั้นตอนทำ'ประชามติ'
วงเสวนาค้านกาสิโนถูกกฎหมาย ชี้ไทยได้ไม่คุ้มเสีย หวั่นเป็นแหล่งฟอกเงิน ทำสังคมพัง
‘ภาคประชาสังคมฯ’เดินหน้ารวบรวม 5 หมื่นชื่อ เสนอทำ‘ประชามติ’ชี้ชะตา‘กาสิโนถูก กม.’
เปิดกาสิโน 'อย่าคิดแต่เรื่องเงิน'
‘มูลนิธิฯหยุดพนัน’ล่าชื่อ‘เราไม่เอากาสิโน’-ชี้ร่างกม.เปิดช่อง‘การเมือง’ล้วงเงินสนองนโยบาย
‘คลัง’เสนอแผนออก‘กม.ลูก’ 24 ฉบับ รองรับ‘ร่าง พ.ร.บ.เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์’
‘วัตถุประสงค์ไม่ชัด-ซ้ำซ้อน’! เปิดความเห็น‘กฤษฎีกา’ค้าน‘ร่าง พ.ร.บ.สถานบันเทิงครบวงจรฯ’
ครม.ไฟเขียว‘ร่าง พ.ร.บ.สถานบันเทิงครบวงจรฯ’-นายกฯยัน‘กฤษฎีกา’ไม่ได้ขวาง แค่ต้องการปรับคำ
ชง'ครม.'เคาะ'ร่าง พ.ร.บ.สถานบันเทิงครบวงจร'ม.ค.68 อายุไลเซนส์ 30 ปี-เช่าที่ดินได้ 99 ปี
ปี 66 เด็ก-เยาวชนเล่นพนันเกือบ 5 ล้านคน ผลสำรวจชี้คนไทยกว่าครึ่งไม่รับกาสิโนถูก กม.
วงเสวนาฯจี้รัฐบาลทำประชามติ‘กาสิโนถูกกม.’-ห่วง‘ร่าง พ.ร.บ.สถานบันเทิงครบวงจรฯ’มีช่องโหว่
'อนุทิน'ยัน รบ.เดินหน้า พ.ร.บ.กัญชาฯ พร้อมหนุน'กาสิโน'แจงเป็นมารยาทพรรคร่วม
ดัน‘เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์’ พ่วง‘กาสิโนถูกกฎหมาย’ ได้ไม่คุ้มเสีย-เอื้อทุนใหญ่?
‘ตีเช็คเปล่า-เอื้อทุนใหญ่’! วงเสวนาฯชำแหละ‘ร่าง พ.ร.บ.เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์’
เปิด‘ร่าง พ.ร.บ.สถานบันเทิงครบวงจรฯ’ดัน‘กาสิโน’ถูกกม.-ค่า'ใบอนุญาตฯ'ครั้งแรก 5 พันล้าน
บทวิเคราะห์สื่อสิงคโปร์: นโยบายคอมเพล็กซ์คาสิโน นำไทยสู่ผู้นำท่องเที่ยวเชิงการพนัน?
เอกชนลาสเวกัส สนใจลงทุนเปิดบ่อนพนันที่ไทย เชื่อคาสิโนแห่งแรกเกิดได้ในปี 72
สื่อมาเลย์วิเคราะห์ นโยบายฟรีวีซ่าจีนส่งผลไทยอาจผ่าน กม.หนุนจัดตั้งคาสิโนภายในปีนี้
รายงาน UN แฉโครงข่ายธนาคารใต้ดินฟอกเงิน คาสิโนริมฝั่งแม่น้ำโขง-ชายแดนไทย เม็ดเงินมหาศาล
วงเสวนาชี้ 'กาสิโนถูก กม.' ผลกระทบเพียบ! ย้ำหากเปิดต้องมีโครงสร้างพื้นฐานที่ดีก่อน
ชงโหวตรับรายงานกาสิโนถูกกฎหมาย 27 ก.ค. 65 สกัด 5 ประเด็นศึกษาเชิงลึก
นิด้าโพลเผย ปชช.ส่วนใหญ่ 46.51% ไม่เห็นด้วยกับ 'บ่อนกาสิโน' ถูกกฎหมาย