“…ใบอนุญาตมีอายุสามสิบ (30) ปีนับแต่วันที่ได้รับใบอนุญาต โดยผู้รับใบอนุญาตจะต้องชำระค่าธรรมเนียมใบอนุญาตและค่าธรรมเนียมรายปีตามที่คณะกรรมการนโยบายกำหนด…เมื่อใบอนุญาตครบอายุ ให้คณะกรรมการนโยบายมีอำนาจให้การพิจารณาต่ออายุใบอนุญาตได้คราวละไม่เกินสิบ (10) ปี…”
........................................
จากกรณีที่เมื่อวันที่ 2 ส.ค.2567 สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) กระทรวงการคลัง เปิดรับฟังความคิดเห็น ร่าง พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร พ.ศ. .... โดยร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้ ได้กำหนดแนวทางให้ ‘ธุรกิจกาสิโน’ เข้ามาอยู่ในระบบการบริหารจัดการที่ถูกต้องตามกฎหมาย ซึ่งจะทำให้ภาครัฐมีรายได้จากการจัดเก็บภาษี รวมทั้งกระตุ้นให้เกิดการลงทุนและท่องเที่ยว นั้น
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) จึงขอนำเสนอรายละเอียดของ ร่าง พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร พ.ศ. .... ซึ่งประกอบด้วย 9 หมวด 65 มาตรการ มีสาระสำคัญ ดังนี้
@‘นายกฯ’นั่ง‘ปธ.บอร์ดนโยบายฯ’มีอำนาจ 21 ข้อ
ร่าง พ.ร.บ.การประกอบสถานบันเทิงครบวงจร พ.ศ. ....
หลักการ
ให้มีกฎหมายว่าด้วยการประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร
เหตุผล
โดยที่ปัจจุบันการท่องเที่ยวเป็นภาคอุตสาหกรรมที่นำรายได้เข้าสู่ประเทศเป็นจำนวนมาก และธุรกิจสถานบันเทิงเป็นกิจกรรมสำคัญที่กระตุ้นให้นักท่องเที่ยวได้ใช้จ่าย การส่งเสริมและกำกับดูแลเพื่อให้เกิดธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจรที่ได้มาตรฐานเพื่อรองรับการท่องเที่ยว จึงเป็นมาตรการสำคัญที่จะกระตุ้นให้เกิดการลงทุนในประเทศ ซึ่งจะก่อให้เกิดผลดีต่อสังคมในภาพรวม และเป็นการสนับสนุนให้เกิดการท่องเที่ยวที่ยั่งยืน จึงจำเป็นต้องตราพระราชบัญญัตินี้
ร่างมาตรา 3 “ในพระราชบัญญัตินี้
“สถานบันเทิงครบวงจร” หมายความว่า การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงตามบัญชี แนบท้ายพระราชบัญญัตินี้หลายประเภทรวมกัน ร่วมกับกาสิโน
“กาสิโน” หมายความว่า การจัดให้มีการเข้าเล่นหรือการเข้าพนันในสถานที่ ที่กำหนดเป็นการเฉพาะ
“ใบอนุญาต” หมายความว่า ใบอนุญาตประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร
“ผู้รับใบอนุญาต” หมายความว่า ผู้รับใบอนุญาตประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบ วงจร...”
หมวด 1 คณะกรรมการนโยบายสถานบันเทิงครบวงจร (ร่างมาตรา 6-14)
ร่างมาตรา 6 กำหนดให้มี 'คณะกรรมการนโยบายสถานบันเทิงครบวงจร' (คณะกรรมการนโยบายฯ) ซึ่งมีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน มีรองนายกรัฐมนตรีที่ได้รับมอบหมาย เป็นรองประธาน มีกรรมการโดยตำแหน่ง 9 คน กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิไม่เกิน 6 คน และมีเลขาธิการเป็นกรรมการและเลขานุการ
ร่างมาตรา 11 “ให้คณะกรรมการนโยบายมีหน้าที่และอำนาจ ดังต่อไปนี้
(1) กำหนดนโยบายสถานบันเทิงครบวงจร
(2) กำหนดนโยบายการบริหารจัดการสถานบันเทิงครบวงจร
(3) กำหนดนโยบายป้องกัน แก้ไข หรือเยียวยาผลกระทบที่เกิดขึ้นจากสถานบันเทิงครบวงจร
(4) เสนอแนะแนวทางการกำหนดจำนวนใบอนุญาต และพื้นที่ประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจรเพื่อประกอบการพิจารณาของคณะรัฐมนตรี
(5) เสนอแนะอัตราภาษีที่เกี่ยวข้องกับกาสิโนต่อคณะรัฐมนตรี
(6) กำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการขอรับใบอนุญาต การให้ใบอนุญาต การต่ออายุใบอนุญาต และอัตราค่าธรรมเนียมโดยจะกำหนดเป็นอัตราเดียวหรือหลายอัตราตามปีที่ได้รับใบอนุญาตก็ได้แต่ต้องไม่เกินอัตราตามบัญชีแนบท้ายพระราชบัญญัตินี้
(7) กำหนดกิจการ หลักเกณฑ์ ประเภท ลักษณะ และรายละเอียดของธุรกิจสถานบันเทิงที่อาจดำเนินการได้ในสถานบันเทิงครบวงจรตามบัญชีแนบท้ายพระราชบัญญัตินี้
(8) กำหนดสัดส่วนพื้นที่ของกาสิโนในสถานบันเทิงครบวงจร
(9) กำหนดวันเวลาเปิดปิดและสถานที่ตั้งของสถานบริการ เวลาและสถานที่ห้ามขายหรือบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และเขตสูบบุหรี่ในเขตสถานบันเทิงครบวงจร
(10) กำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการเลิกประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร
(11) กำหนดวิธีการลงทะเบียนและอัตราค่าธรรมเนียมของผู้มีสัญชาติไทยที่จะเข้าสถานประกอบการกาสิโน แต่ต้องไม่เกินอัตราตามบัญชีแนบท้ายพระราชบัญญัตินี้
(12) กำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไข การให้สินเชื่อแก่ผู้เข้าเล่นหรือเข้าพนันในสถานประกอบการกาสิโน
(13) กำหนดลักษณะของพนักงานที่เกี่ยวข้องกับการประกอบการกาสิโน
(14) กำหนดหลักเกณฑ์ ประเภท คุณสมบัติ มาตรฐาน ความปลอดภัย และอาชีวอนามัยของพนักงานในสถานบันเทิงครบวงจร
(15) กำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไข การเปลี่ยนแปลงกรรมการ ผู้บริหาร ผู้ถือหุ้น โครงสร้างองค์กร หรือการนำหุ้นไปเป็นหลักประกันการชำระหนี้ของผู้รับใบอนุญาต
(16) พิจารณาให้ต่ออายุ หรือเพิกถอนใบอนุญาต
(17) พิจารณาการโอนสิทธิตามใบอนุญาตให้บุคคลอื่น ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน
(18) แต่งตั้งเลขาธิการหรือให้เลขาธิการออก โดยความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรี
(19) กำกับการดำเนินงานของคณะกรรมการบริหาร
(20) ออกข้อบังคับ ระเบียบ ประกาศ หรือคำสั่ง เพื่อดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ตามพระราชบัญญัตินี้
(21) ปฏิบัติการอื่นใดตามที่พระราชบัญญัตินี้หรือกฎหมายอื่นบัญญัติให้เป็นอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการนโยบาย หรือตามที่ได้รับมอบหมายจากคณะรัฐมนตรี”
ร่างมาตรา 14 “ในการดำเนินการสถานบันเทิงครบวงจร หากคณะกรรมการนโยบายเห็นว่ากฎหมาย กฎ ระเบียบ ข้อบังคับ ประกาศ หรือคำสั่งใดก่อให้เกิดความไม่สะดวกหรือล่าช้า มีความซ้ำซ้อนหรือเป็นการเพิ่มภาระการดำเนินการโดยไม่จำเป็น หรือมีปัญหาหรืออุปสรรคอื่นใด
ให้คณะกรรมการนโยบายเสนอต่อคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาให้มีการดำเนินการปรับปรุงกฎหมาย กฎ ระเบียบ ข้อบังคับ ประกาศ หรือคำสั่งดังกล่าว หรือมีกฎหมายขึ้นใหม่ เพื่อให้การดำเนินการสถานบันเทิงครบวงจรมีประสิทธิภาพ สะดวก และรวดเร็ว ทั้งนี้ ต้องไม่กระทบต่อความเสมอภาค สิทธิและเสรีภาพของประชาชน และต้องไม่เลือกปฏิบัติ”
@‘คกก.บริหาร’มีอำนาจออกหลักเกณฑ์ควบคุม‘โฆษณา’
หมวด 2 คณะกรรมการบริหาร (ร่างมาตรา 15-19)
ร่างมาตรา 15 กำหนดให้มี 'คณะกรรมการบริหาร' ซึ่งมีบุคคลซึ่งนายกรัฐมนตรีแต่งตั้งเป็นประธาน มีกรรมการ โดยตำแหน่ง 11 คน มีกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิไม่เกิน 3 คน และเลขาธิการเป็นเลขานุการ
ร่างมาตรา 17 “ให้คณะกรรมการบริหารมีหน้าที่และอำนาจ ดังต่อไปนี้
(1) กำหนดหลักเกณฑ์วิธีการ และเงื่อนไขในการเชิญชวน โฆษณา ประชาสัมพันธ์ หรือจัดกิจกรรมส่งเสริมการขาย เกี่ยวกับกาสิโน
(2) กำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการขอรับใบแทนใบอนุญาต
(3) พิจารณาอนุมัติแผนยุทธศาสตร์ แผนการดำเนินงาน แผนการใช้จ่ายเงินและงบประมาณรายจ่ายประจำปีของสำนักงาน และรายงานต่อคณะกรรมการนโยบาย
(4) กำหนดหลักเกณฑ์และอัตราในการจัดเก็บค่าธรรมเนียม ค่าบำรุง ค่าตอบแทน หรือค่าบริการในการดำเนินการต่างๆ ตามวัตถุประสงค์ของสำนักงาน
(5) พิจารณาอุทธรณ์เรื่องร้องเรียนที่เกี่ยวกับสถานบันเทิงครบวงจร
(6) กำหนดตำแหน่ง อัตราเงินเดือน และค่าตอบแทนอื่นของเลขาธิการ พนักงานและลูกจ้างของสำนักงาน
(7) คัดเลือกหรือประเมินความรู้ความสามารถของเลขาธิการ เพื่อประโยชน์ในการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่ง เลื่อนขั้นเงินเดือน หรือเสนอความเห็นให้เลขาธิการพ้นจากตำแหน่ง เพื่อเสนอต่อคณะกรรมการนโยบายพิจารณา
(8) แต่งตั้งบุคคลเพื่อเป็นผู้เชี่ยวชาญหรือผู้ชำนาญการเฉพาะด้าน อันจะเป็นประโยชน์ต่อการปฏิบัติหน้าที่ของสำนักงาน รวมทั้งกำหนดจำนวน อัตราค่าตอบแทน และระยะเวลาการปฏิบัติงานของตำแหน่งดังกล่าว..."
@ตั้ง‘สำนักงานกำกับฯ’-‘เลขาธิการฯ’มีวาระ 4 ปี
หมวด 3 สำนักงานกำกับการประกอบสถานบันเทิงครบวงจร (ร่างมาตรา 20-28)
ร่างมาตรา 20 “ให้มีสำนักงานกำกับการประกอบสถานบันเทิงครบวงจร มีวัตถุประสงค์ ในการกำกับ ดูแล ควบคุม ส่งเสริม และสนับสนุนสถานบันเทิงครบวงจรให้เป็นไปตามพระราชบัญญัตินี้
สำนักงานเป็นหน่วยงานของรัฐที่มีฐานะเป็นนิติบุคคลและไม่เป็นส่วนราชการตาม กฎหมายว่าด้วยระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน หรือรัฐวิสาหกิจตามกฎหมายว่าด้วยวิธีการ งบประมาณหรือกฎหมายอื่น
กิจการของสำนักงานไม่อยู่ภายใต้บังคับแห่งกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองแรงงาน กฎหมายว่าด้วยแรงงานสัมพันธ์ กฎหมายว่าด้วยประกันสังคม และกฎหมายว่าด้วยเงินทดแทน แต่พนักงานและลูกจ้างของสำนักงานต้องได้รับประโยชน์ตอบแทนไม่น้อยกว่าที่กำหนดไว้ในกฎหมาย ว่าด้วยการคุ้มครองแรงงาน กฎหมายว่าด้วยประกันสังคม และกฎหมายว่าด้วยเงินทดแทน”
ร่างมาตรา 21 “ให้สำนักงานมีสำนักงานใหญ่ในกรุงเทพมหานครและจะตั้งสาขา หรือตัวแทนขึ้น ณ ที่อื่นใดตามความจำเป็นก็ได้
หมวด 4 เลขาธิการ (ร่างมาตรา 29-37)
ร่างมาตรา 29 “ให้สำนักงานมีเลขาธิการคนหนึ่ง ซึ่งคณะกรรมการนโยบายแต่งตั้ง โดยความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรี มีหน้าที่บริหารกิจการของสำนักงาน”
ร่างมาตรา 31 “เลขาธิการมีวาระการดำรงตำแหน่งคราวละสี่ (4) ปี และอาจได้รับแต่งตั้งอีกได้ แต่จะดำรงตำแหน่งเกินสอง (2) วาระไม่ได้
ก่อนครบกำหนดตามวาระการดำรงตำแหน่งของเลขาธิการไม่น้อยกว่าสามสิบ (30) วันแต่ไม่เกินหกสิบ (60) วัน หรือภายในสามสิบ (30) วัน นับแต่วันที่เลขาธิการพ้นจากตำแหน่งตามวาระ ให้คณะกรรมการนโยบายแต่งตั้งเลขาธิการคนใหม่ โดยความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรี”
หมวด 5 พนักงานเจ้าหน้าที่ (มาตรา 38-40)
ร่างมาตรา 38 “ให้สำนักงานแต่งตั้งพนักงานของสำนักงานเป็นพนักงานเจ้าหน้าที่ โดยให้มีหน้าที่และอำนาจ ดังต่อไปนี้
(1) เข้าไปในสถานที่ดำเนินการสถานบันเทิงครบจรหรือสถานที่ตั้งของผู้รับใบอนุญาตในระหว่างพระอาทิตย์ขึ้นถึงพระอาทิตย์ตก หรือในเวลาทำการได้ เพื่อสังเกตการณ์หรือตรวจสอบการดำเนินการใดๆ ให้เป็นไปตามพระราชบัญญัตินี้
(2) เรียกเอกสารหรือหลักฐานจากผู้รับใบอนุญาต กรรมการหรือพนักงานของผู้รับใบอนุญาต หรือบุคคลที่เกี่ยวข้อง รวมถึงเรียกให้บุคคลดังกล่าวมาให้ถ้อยคำ เพื่อตรวจสอบการดำเนินการให้เป็นไปตามพระราชบัญญัตินี้
(3) ยึดหรืออายัดทรัพย์สิน เอกสาร หรือหลักฐานที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดตามพระราชบัญญัตินี้ เพื่อประโยชน์ในการสอบสวนข้อเท็จจริงหรือการดำเนินคดี ทั้งนี้ การออกคำสั่งยึดหรืออายัดดังกล่าวจะต้องระบุเหตุผล ความจำเป็น และสิทธิของผู้ถูกยึดหรืออายัดนั้น
(4) รับและตรวจสอบเรื่องร้องเรียนหรือข้อพิพาทจากผู้ใช้บริการในสถานประกอบการกาสิโน
(5) สั่งให้หยุดการเล่นหรือการเข้าพนันใดๆ ในสถานประกอบการกาสิโนที่ไม่เป็นไปตามพระราชบัญญัตินี้ หรืออาจก่อให้เกิดความเสียหายหรือความวุ่นวาย
(6) ตรวจสอบหรือทดสอบเครื่องมือหรืออุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับกาสิโน และสั่งให้หยุดใช้เครื่องมือหรืออุปกรณ์ดังกล่าวในกรณีที่พบว่าเครื่องมือหรืออุปกรณ์ดังกล่าวไม่อยู่ในสภาพที่สมควรใช้งาน
(7) สั่งให้บุคคลซึ่งอยู่ในสถานประกอบการกาสิโนแจ้งชื่อหรือข้อมูลอื่นใดเมื่อมีเหตุอันควรสงสัยได้ว่าบุคคลดังกล่าวดำเนินการฝ่าฝืนพระราชบัญญัตินี้
(8) ตรวจสอบการดำเนินงานของผู้รับใบอนุญาตเกี่ยวกับการเชิญชวน โฆษณาประชาสัมพันธ์ หรือจัดกิจกรรมส่งเสริมการขาย เกี่ยวกับกาสิโนแล้วรายงานต่อคณะกรรมการบริหาร
(9) รายงานผลการดำเนินงานของผู้รับใบอนุญาตต่อเลขาธิการ
(10) ปฏิบัติการอื่นใดตามที่พระราชบัญญัตินี้หรือกฎหมายอื่นบัญญัติให้เป็นอำนาจหน้าที่ของพนักงานเจ้าหน้าที่ หรือตามที่ได้รับมอบหมายจากคณะกรรมการบริหารหรือเลขาธิการ”
@‘ผู้รับใบอนุญาตฯ’ต้องจดทะเบียนในไทย-ทุน 1 หมื่นล.
หมวด 6 การอนุญาตให้ประกอบสถานบันเทิงครบวงจร (ร่างมาตรา 41-50)
ร่างมาตรา 41 “ให้สถานบันเทิงครบวงจรตั้งอยู่ในบริเวณเขตพื้นที่ตามที่กำหนดในพระราชกฤษฎีกาเท่านั้น โดยจะต้องประกอบไปด้วยธุรกิจสถานบันเทิงตามบัญชีแนบท้ายพระราชบัญญัตินี้อย่างน้อย 4 ประเภท ร่วมกับกาสิโน ทั้งนี้สัดส่วนพื้นที่ของกาสิโนในสถานบันเทิงครบวงจรให้เป็นไปตามที่คณะกรรมการนโยบายประกาศกำหนด
สถานบันเทิงครบวงจรจะกระทำได้เฉพาะบริษัทจำกัดหรือบริษัทมหาชนจำกัด ซึ่งจดทะเบียนในประเทศไทย ที่มีทุนชำระแล้วไม่น้อยกว่าหนึ่งหมื่น (10,000) ล้านบาท โดยได้รับใบอนุญาตจากคณะกรรมการนโยบาย ทั้งนี้ จำนวนใบอนุญาต ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์และจำนวนที่กำหนดในพระราชกฤษฎีกา
การขอรับใบอนุญาตให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่คณะกรรมการนโยบายประกาศกำหนด
การประกอบธุรกิจของบริษัทมหาชนจำกัดที่ได้รับใบอนุญาต ให้ได้รับยกเว้นจากกฎหมายว่าด้วยการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว และมิให้นำความในมาตรา 67 แห่งพระราชบัญญัติบริษัทมหาชนจำกัด พ.ศ. 2535 และมาตรา 1105 วรรคสามแห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาใช้บังคับ”
ทั้งนี้ ตามบัญชีแนบท้าย ประเภทธุรกิจสถานบันเทิง ภายใต้ ร่าง พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร พ.ศ. .... ประกอบด้วย 1.ห้างสรรพสินค้า 2.โรงแรม 3.ร้านอาหาร ไนต์คลับ ดิสโกเธค ผับ หรือบาร์ 4.สนามกีฬา 5.ยอร์ชและครูซซิ่งคลับ 6.สถานที่เล่นเกม
7.สระว่ายน้ำและสวนน้ำ 8.สวนสนุก 9.พื้นที่สำหรับส่งเสริมวัฒนธรรมไทยและสินค้า OTOP 10.กิจการอื่นๆ ตามที่คณะกรรมการนโยบายประกาศกำหนด
ร่างมาตรา 43 "ในการขอรับใบอนุญาต ให้ผู้ขอรับใบอนุญาตยื่นคำขอต่อสำนักงาน พร้อมเอกสารหลักฐาน ดังต่อไปนี้
(1) รูปแบบและแผนการประกอบการสถานบันเทิงครบวงจร ซึ่งอย่างน้อยจะต้องระบุระยะเวลาดำเนินการ แผนการลงทุนในสถานบันเทิงครบวงจร แผนสัดส่วนการจ้างแรงงานไทยในสถานบันเทิงครบวงจร ประเภทของธุรกิจที่จะประกอบการในสถานบันเทิงครบวงจร และรายการคำขออนุมัติ อนุญาต ใบอนุญาต เห็นชอบ จดทะเบียน หรือจดแจ้งจากหน่วยงานของรัฐหรือคณะกรรมการตามกฎหมายอื่น ที่จะต้องดำเนินการเพื่อให้เป็นไปตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
(2) รายละเอียดโครงสร้างองค์กร โครงสร้างกรรมการ ผู้บริหารและผู้ถือหุ้น รวมทั้งแนวทางการกำกับดูแลธุรกิจและการควบคุมภายในที่ดี
(3) เอกสารแสดงแผนการจัดให้มีระบบการควบคุมกาสิโนที่เหมาะสมและมีประสิทธิภาพให้สอดคล้องกับพระราชบัญญัตินี้
(4) เอกสารแสดงแผนการจัดให้มีมาตรการป้องกันและแก้ไขปัญหาอันเกิดจากสถานบันเทิงครบวงจร
(5) เอกสารอื่นๆ ตามที่คณะกรรมการนโยบายประกาศกำหนด
เมื่อสำนักงานได้รับคำขอตามวรรคหนึ่งแล้ว ให้สำนักงานตรวจสอบความถูกต้อง และความครบถ้วนของคำขอ หากคำขอดังกล่าวไม่ถูกต้องหรือไม่ครบถ้วน ให้สำนักงานแจ้งผลการตรวจสอบให้ผู้ขอรับใบอนุญาตทราบภายในสิบห้า (15) วันนับแต่วันยื่นคำขอ พร้อมทั้งกำหนดระยะเวลาให้ผู้ขอรับใบอนุญาตแก้ไข หากพ้นกำหนดระยะเวลาดังกล่าวแล้ว ผู้ขอรับใบอนุญาตไม่ดำเนินการแก้ไข ให้ถูกต้อง ให้สำนักงานคืนคำขอแก่ผู้ขอรับใบอนุญาต
กรณีสำนักงานพิจารณาแล้วเห็นว่า คำขอรับใบอนุญาตตามวรรคหนึ่งถูกต้องและครบถ้วน หรือผู้รับใบอนุญาตได้แก้ไขให้ถูกต้องและครบถ้วนภายในระยะเวลาที่กำหนดในวรรคสองแล้ว ให้สำนักงานเสนอคำขอรับใบอนุญาตให้คณะกรรมการนโยบายพิจารณาโดยไม่ชักช้า”
ร่างมาตรา 44 “เมื่อได้รับใบอนุญาต ให้ผู้รับใบอนุญาตยื่นคำขออนุมัติ อนุญาต ใบอนุญาต เห็นชอบ จดทะเบียน หรือจดแจ้ง ตามกฎหมายอื่น ตามรายการที่กำหนดไว้ในรูปแบบและแผนการประกอบการธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจรต่อสำนักงาน และให้สำนักงานส่งคำขอนั้นไปยังหน่วยงานผู้มีหน้าที่และอำนาจพิจารณาโดยไม่ชักช้า…”
ร่างมาตรา 45 “ผู้รับใบอนุญาตจะเริ่มประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจรได้ก็ต่อเมื่อได้รับการอนุมัติ อนุญาต ใบอนุญาต ความเห็นชอบ การจดทะเบียน หรือการจดแจ้ง ครบถ้วนตามรูปแบบและแผนการประกอบการสถานบันเทิงครบวงจร…”
ร่างมาตรา 46 “การเช่า เช่าช่วง ให้เช่า หรือให้เช่าช่วงที่ดินหรืออสังหาริมทรัพย์เพื่อประกอบการสถานบันเทิงครบวงจร มิให้นำความในมาตรา 540 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 5 แห่งพระราชบัญญัติการเช่าอสังหาริมทรัพย์เพื่อพาณิชยกรรมและอุตสาหกรรม พ.ศ. 2542 และข้อ 9 ของกฎกระทรวงการจัดหาประโยชน์ที่ราชพัสดุ พ.ศ. 2564 มาใช้บังคับ
การเช่า เช่าช่วง ให้เช่า หรือให้เช่าช่วงตามวรรคหนึ่ง ห้ามมิให้ทำสัญญาเช่าเป็นกำหนดเวลาเกินห้าสิบ (50) ปี ถ้าได้ทำ สัญญากันไว้เป็นกำหนดเวลานานกว่านั้นก็ให้ลดลงมาเป็นห้าสิบ (50) ปี การต่อสัญญาเช่าอาจทำได้แต่จะต่อสัญญาเกินสี่สิบเก้า (49) ปี นับแต่วันครบห้าสิบ (50) ปี ไม่ได้
การเช่า เช่าช่วง ให้เช่า หรือให้เช่าช่วงตามมาตรานี้ไม่ถือว่าเป็นการร่วมทุนตามกฎหมายว่าด้วยการให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ”
@‘ใบอนุญาตฯ’มีอายุ 30 ปี-ต่อได้คราวละ 10 ปี
ร่างมาตรา 47 “ผู้รับใบอนุญาตจะประกอบการสถานบันเทิงครบวงจรได้เฉพาะตามที่กำหนดไว้ในรูปแบบและแผนการประกอบการสถานบันเทิงครบวงจรที่ได้ยื่นไว้ขณะขออนุญาตผู้รับใบอนุญาตจะต้องจัดให้มีระบบการควบคุมกาสิโนที่เหมาะสมและมีประสิทธิภาพ และจะต้องจัดให้มีมาตรการป้องกันและแก้ไขปัญหาอันเกิดจากสถานบันเทิงครบวงจรไม่ต่ำกว่าที่ได้ยื่นไว้ขณะขออนุญาต
ผู้รับใบอนุญาตจะประกอบธุรกิจนอกเหนือจากที่กำหนดไว้ในรูปแบบและแผนการประกอบการสถานบันเทิงครบวงจรที่ได้ยื่นไว้ขณะขออนุญาตได้ ก็ต่อเมื่อได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการนโยบาย…”
ร่างมาตรา 48 “ผู้รับใบอนุญาตต้องประกอบสถานบันเทิงครบวงจรด้วยตนเอง โดยจะมอบการบริหารจัดการทั้งหมดหรือบางส่วน หรือยินยอมให้บุคคลอื่นเป็นผู้มีอำนาจประกอบธุรกิจแทนไม่ได้ เว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากคณะกรรมการนโยบายก่อน
ห้ามมิให้ผู้รับใบอนุญาตโอนสิทธิตามใบอนุญาตให้บุคคลอื่น ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน เว้นแต่ได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการนโยบายห้ามมิให้เปลี่ยนแปลงกรรมการ ผู้บริหาร ผู้ถือหุ้น หรือโครงสร้างองค์กร ของผู้รับใบอนุญาต รวมถึงการนำหุ้นไปเป็นหลักประกันการชำระหนี้ เว้นแต่ได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการนโยบาย ทั้งนี้ตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่คณะกรรมการนโยบายกำหนด…”
ร่างมาตรา 49 “ใบอนุญาตมีอายุสามสิบ (30) ปีนับแต่วันที่ได้รับใบอนุญาต โดยผู้รับใบอนุญาตจะต้องชำระค่าธรรมเนียมใบอนุญาตและค่าธรรมเนียมรายปีตามที่คณะกรรมการนโยบายกำหนด แต่ต้องไม่เกินอัตราตามบัญชีแนบท้ายพระราชบัญญัตินี้
ทุกห้าปีนับแต่วันที่ได้รับใบอนุญาต ให้สำนักงานประเมินประสิทธิภาพของการดำเนินงานตามรูปแบบและแผนการประกอบการสถานบันเทิงครบวงจรของผู้รับใบอนุญาต และรายงานต่อคณะกรรมการนโยบายเพื่ออาจพิจารณาทบทวนรูปแบบและแผนการประกอบการสถานบันเทิงครบวงจร
เมื่อใบอนุญาตครบอายุ ให้คณะกรรมการนโยบายมีอำนาจให้การพิจารณาต่ออายุใบอนุญาตได้คราวละไม่เกินสิบ (10) ปี ทั้งนี้ การขอต่ออายุใบอนุญาตและอัตราค่าธรรมเนียมให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่คณะกรรมการนโยบายประกาศกำหนด…”
สำหรับ ร่าง พ.ร.บ.ร่าง พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร พ.ศ. .... ได้กำหนดอัตราค่าธรรมเนียมเกี่ยวกับการขอใบอนุญาต ค่าใบอนุญาตและการต่ออายุใบอนุญาต ไว้ใน (1)-(4) ดังนี้
(1) การขอรับใบอนุญาต ครั้งละ 100,000 บาท
(2) ใบอนุญาต ครั้งแรก ฉบับละ 5,000 ล้านบาท รายปี ปีละ 1,000 ล้านบาท
(3) ใบอนุญาต (ต่ออายุ) ฉบับละ 5,000 ล้านบาท รายปี ปีละ 1,000 ล้านบาท
(4) ใบแทนใบอนุญาต ฉบับละ 100,000 บาท
@หนี้พนันใน‘กาสิโน’บังคับได้โดยชอบด้วยกม.
หมวด 7 การควบคุมการประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร (ร่างมาตรา 51-59)
ร่างมาตรา 51 “การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงในสถานบันเทิงครบวงจร จะกระทำได้เฉพาะตามบัญชีแนบท้ายพระราชบัญญัตินี้ ทั้งนี้ ตามหลักเกณฑ์ ประเภท ลักษณะ และรายละเอียดที่คณะกรรมการนโยบายประกาศกำหนด
กิจกรรมใดของสถานบันเทิงในสถานบันเทิงครบวงจรที่อยู่ภายใต้บทบัญญัติหรือการกำกับดูแลตามกฎหมายอื่น ให้ผู้รับใบอนุญาตดำเนินการให้เป็นไปตามกฎหมายว่าด้วยการนั้น เว้นแต่การกำหนดวันเวลาเปิดปิดและสถานที่ตั้งของสถานบริการตามกฎหมายว่าด้วยสถานบริการ
การกำหนดเวลาและสถานที่ห้ามขายหรือบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ตามกฎหมายว่าด้วยควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และเขตสูบบุหรี่ตามกฎหมายว่าด้วยการควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบ ให้เป็นไปตามที่คณะกรรมการนโยบายประกาศกำหนด
การจัดให้มีการเข้าเล่นหรือการเข้าพนัน ในสถานประกอบการกาสิโนในสถานบันเทิงครบวงจร ให้เป็นไปตามพระราชบัญญัตินี้
หนี้ที่เกิดจากการจัดให้มีการเข้าเล่นหรือเข้าพนันหรือเกี่ยวเนื่องกับการจัดให้มีการเข้าเล่นหรือเข้าพนันในสถานประกอบการกาสิโนในสถานบันเทิงครบวงจรที่ได้ดำเนินการตามพระราชบัญญัตินี้ เป็นหนี้ที่บังคับได้โดยชอบด้วยกฎหมาย"
ร่างมาตรา 52 “กาสิโนให้กระทำได้เฉพาะในสถานบันเทิงครบวงจรโดยผู้รับใบอนุญาตและให้มีเฉพาะประเภท ดังต่อไปนี้
(1) ใช้เครื่องเล่นซึ่งใช้เครื่องกล พลังไฟฟ้า พลังแสงสว่าง หรือพลังอื่นใดที่ใช้เล่นโดยวิธีสัมผัส เลื่อน กด ดีด ดึง ยิง โยน โยก หมุน หรือวิธีอื่นใดซึ่งสามารถท าให้แพ้ชนะกันได้ ไม่ว่าจะโดยการนับแต้มหรือเครื่องหมายใดๆ หรือไม่ก็ตาม
(2) ใช้อุปกรณ์ซึ่งสามารถทำให้แพ้ชนะกันได้ไม่ว่าจะโดยการนับแต้มหรือเครื่องหมายใดๆ หรือไม่ก็ตาม
ทั้งนี้ ตามหลักเกณฑ์ ประเภท ลักษณะ วิธีการเล่น และรายละเอียดที่สำนักงานประกาศกำหนด”
ร่างมาตรา 53 “ห้ามมิให้ผู้รับใบอนุญาตจัดให้มีการเข้าเล่นหรือเข้าพนันผ่านการเชื่อมต่อระบบคอมพิวเตอร์หรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อื่นใดกับเครือข่ายอินเทอร์เน็ต เพื่อให้บุคคลภายนอกสถานประกอบการกาสิโนเข้าเล่นหรือเข้าพนันได้”
@คนไทยเข้า‘กาสิโน’จ่าย 5 พัน-ต่ำกว่า 20 ปีห้ามเข้า
ร่างมาตรา 54 “ผู้รับใบอนุญาตจะต้องจัดให้มีเขตบริเวณของสถานประกอบการกาสิโนที่ชัดเจน โดยมีการควบคุมการเข้าออก มีการรักษาความปลอดภัย และตรวจสอบผู้เข้าเล่นหรือเข้าพนันให้เป็นไปตามมาตรา 55”
ร่างมาตรา 55 “ห้ามมิให้บุคคลดังต่อไปนี้ เข้าไปในสถานประกอบการกาสิโน
(1) ผู้มีอายุน้อยกว่ายี่สิบ (20) ปีบริบูรณ์
(2) ผู้ซึ่งสำนักงานสั่งห้ามเข้าสถานประกอบการกาสิโน
(3) ผู้มีสัญชาติไทยซึ่งยังมิได้ลงทะเบียนและชำระค่าธรรมเนียมตามที่คณะกรรมการนโยบายประกาศกำหนด
(4) ผู้ที่มีลักษณะของบุคคลต้องห้ามตามที่สำนักงานประกาศกำหนด”
ทั้งนี้ ร่าง พ.ร.บ.ร่าง พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร พ.ศ. .... ได้กำหนดอัตราค่าเข้าสถานประกอบการกาสิโนไว้ใน (5) โดยกำหนดอัตราค่าเข้าสถานประกอบการกาสิโนของผู้มีสัญชาติไทย ครั้งละ 5,000 บาท
@‘ผู้รับใบอนุญาตฯ’ให้สินเชื่อแก่ผู้เข้าเล่นพนันได้
ร่างมาตรา 56 “ในการประกอบการกาสิโน ผู้รับใบอนุญาตต้องใช้เครื่องมือหรืออุปกรณ์ที่ได้มาตรฐานตามที่สำนักงานประกาศกำหนด และดูแลรักษาเครื่องมืออุปกรณ์ให้อยู่ในสภาพดีและสามารถดำเนินงานได้อย่างไม่ขัดข้อง
ผู้รับใบอนุญาตต้องให้ความร่วมมือและอำนวยความสะดวกให้พนักงานเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบหรือทดสอบเครื่องมือหรืออุปกรณ์ในสถานประกอบการกาสิโน”
ร่างมาตรา 57 “ผู้รับใบอนุญาตต้องมีสัดส่วนของพนักงานคนไทยและต่างด้าวในสถานบันเทิงครบวงจรตามที่คณะกรรมการนโยบายประกาศกำหนด
พนักงานที่เกี่ยวข้องกับกาสิโนต้องมีลักษณะตามที่คณะกรรมการนโยบายประกาศกำหนด”
ร่างมาตรา 58 “ห้ามมิให้ผู้รับใบอนุญาตดำเนินการ เชิญชวน โฆษณา ประชาสัมพันธ์หรือจัดกิจกรรมส่งเสริมการขาย เกี่ยวกับกาสิโน หรือให้ผู้ใดดำเนินการดังกล่าว เว้นแต่จะเป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่คณะกรรมการบริหารประกาศกำหนด
ให้ถือว่าการจ่ายค่าจ้างหรือผลประโยชน์ตอบแทนอื่นใดให้แก่บุคคลใด โดยผู้รับใบอนุญาตหรือบุคคลที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับผู้รับใบอนุญาต โดยมีเงื่อนไขว่าบุคคลผู้รับค่าจ้างหรือผลประโยชน์ตอบแทนอื่นใดต้องเพิ่มยอดการเข้าเล่นหรือเข้าพนันในสถานประกอบการกาสิโน ไม่ว่าการจ่ายค่าจ้างหรือผลตอบแทนจะคำนวณจากมูลค่าการเข้าเล่นหรือเข้าพนันในสถานประกอบการกาสิโนหรือไม่ก็ตาม เป็นการเชิญชวนหรือโฆษณาตามวรรคหนึ่ง
ให้ถือว่าการจัดกิจกรรมใดๆ ที่เป็นการชักจูงให้บุคคลใดมีความประสงค์จะเข้าเล่นหรือเข้าพนันในสถานประกอบการกาสิโน เป็นกิจกรรมส่งเสริมการขายตามวรรคหนึ่ง”
ร่างมาตรา 59 “ผู้รับใบอนุญาตสามารถให้สินเชื่อแก่ผู้เข้าเล่นหรือเข้าพนันในสถานประกอบการกาสิโนได้ตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่คณะกรรมการนโยบายประกาศกำหนด”
หมวด 8 บทกำหนดลงโทษ (ร่างมาตรา 60-62)
กรณีผู้รับใบอนุญาตไม่ปฏิบัติตามที่ความกฎหมายกำหนด ให้ดำเนินการแก้ไขตามคำสั่งสำนักงานฯ ภายในเวลาที่กำหนด หากไม่ดำเนินการตามระยะเวลาผู้รับใบอนุญาตต้องชำระค่าปรับ และคณะกรรมการนโยบายฯ อาจพิจารณาเพิกถอนใบอนุญาตได้
หมวด 9 บทเฉพาะกาล (มาตราร่าง 63-65)
ในวาระเริ่มแรกกำหนดให้มีข้าราชการในสำนักนายกรัฐมนตรีที่นายกรัฐมนตรีแต่งตั้งเป็นเลขานุการ ทำหน้าที่คณะกรรมการนโยบายฯ และคณะกรรมการบริหารตามกฎหมายนี้ไปพลางก่อน โดยให้รัฐบาลพิจารณา จัดสรรงบประมาณเป็นเงินอุดหนุนให้แก่สำนักงานฯ ไปพลางก่อน
เหล่านี้เป็นรายละเอียดของร่าง พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร พ.ศ. .... ที่กระทรวงการคลัง โดย สศค. ได้นำมาเปิดรับฟังความคิดเห็นจากประชาชน และต้องติดตามกับต่อไปว่า ร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้ จะบังคับใช้ทันยุค 'รัฐบาลเศรษฐา ทวีสิน'
อ่านเพิ่มเติม : การรับฟังความคิดเห็นต่อร่าง พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร พ.ศ. ....
อ่านประกอบ :
บทวิเคราะห์สื่อสิงคโปร์: นโยบายคอมเพล็กซ์คาสิโน นำไทยสู่ผู้นำท่องเที่ยวเชิงการพนัน?
เอกชนลาสเวกัส สนใจลงทุนเปิดบ่อนพนันที่ไทย เชื่อคาสิโนแห่งแรกเกิดได้ในปี 72
สื่อมาเลย์วิเคราะห์ นโยบายฟรีวีซ่าจีนส่งผลไทยอาจผ่าน กม.หนุนจัดตั้งคาสิโนภายในปีนี้
รายงาน UN แฉโครงข่ายธนาคารใต้ดินฟอกเงิน คาสิโนริมฝั่งแม่น้ำโขง-ชายแดนไทย เม็ดเงินมหาศาล
วงเสวนาชี้ 'กาสิโนถูก กม.' ผลกระทบเพียบ! ย้ำหากเปิดต้องมีโครงสร้างพื้นฐานที่ดีก่อน
ชงโหวตรับรายงานกาสิโนถูกกฎหมาย 27 ก.ค. 65 สกัด 5 ประเด็นศึกษาเชิงลึก
นิด้าโพลเผย ปชช.ส่วนใหญ่ 46.51% ไม่เห็นด้วยกับ 'บ่อนกาสิโน' ถูกกฎหมาย