UNODC ระบุว่าสิ่งที่มีความเป็นอันตรายที่สุดสำหรับกระบวนการใช้การทำนิติกรรมอำพรางก็คือข้อปฏิบัติว่าด้วย “การชดเชย” โดยลูกค้าจะฝากเงินเข้าสู่บัญชีของผู้ให้บริการพนันออนไลน์ที่อยู่ในเขตอำนาจศาลแห่งหนึ่งและจะไปถอนเงินจำนวนที่เท่าๆกันออกมา ณ อีกบัญชีที่อยู่ในพื้นที่เขตอำนาจศาลอีกแห่ง ซึ่งการทำธุรกรรมเช่นนี้จะอาศัยความช่วยเหลือของผู้ให้บริการรายเดียวกัน
ปัญหาการทุจริตและอาชญากรรมในพื้นที่ชายแดนไทย-เมียนมา ยังคงเป็นปัญหาที่ดูจะเรื้อรังและไม่มีทางออกเป็นรูปธรรมในเร็วๆนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งมีกรณีที่ปรากฏเป็นข่าวเรื่องเจ้าหน้าที่ตำรวจจากประเทศไทยไปเก็บส่วยจากกองกำลังท้องถิ่นบีจีเอฟ หรือ กองกำลังพิทักษ์ชายแดน ณ เมืองชเวโก๊กโก่ รัฐกะเหรี่ยง จนเป็นเหตุทำให้ พ.ต.อ.สถาพร รอดโพธิ์ทอง รอง ผบก.ภ.จว.ตาก ปฏิบัติราชการแทน ผบก.ภ.จว.ตาก ต้องสั่งตั้งกรรมการสอบเหตุการณ์ดังกล่าว
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) จึงขอนำเสนอรายงานขององค์การสหประชาชาติที่ระบุถึงเส้นเงินที่ไปเกี่ยวข้องกับกิจกรรมผิดกฎหมายริมชายแดนไทย-เมียนมา โดยอ้างอิงข้อมูลข่าวจากสำนักข่าววอยซ์ออฟอเมริกา มีรายละเอียดดังนี้
แก๊งอาชญากรข้ามชาติกําลังใช้อุตสาหกรรมการพนันออนไลน์ที่เฟื่องฟูและมากขึ้นเรื่อย ๆ ในพื้นที่เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน) เพื่อเป็นระบบธนาคารเงาในการเคลื่อนไหวและฟอกเงินสกปรกมากขึ้นอย่างลับๆ ตามคำกล่าวอ้างของเจ้าหน้าที่สหประชาชาติ
สํานักงานว่าด้วยยาเสพติดและอาชญากรรมแห่งสหประชาชาติ (UNODC) เชื่อว่าคาสิโนและเว็บไซต์การพนันออนไลน์ในภูมิภาคอาเซียนกำลังจัดการผลตอบแทนคิดเป็นมุลค่าหลายสิบล้านจนไปถึงหลายร้อยหรืออาจจะพันล้านดอลลาร์สหรัฐฯต่อปี ซึ่งผลตอบแทนจำนวนดังกล่าวนี้มาจากการพนันที่ผิดกฎหมาย การค้ายาเสพติด การหลอกลวงทางไซเบอร์ และอาชญากรรมอื่นๆ
UNODC ยังเชื่ออีกว่าเครื่องมือดิจิทัลที่มีลักษณะแบบเดียวกันนี้เป็นส่วนทำให้การเติบโตของกิจกรรมอาชญากรรมนั้นมากขึ้น และการติดตามเส้นทางการเงินสำหรับเจ้าหน้าที่บังคับใช้กฎหมายก็มากยิ่งขึ้นตามไปด้วย
เจ้าหน้าที่ UNODC ตรวจสอบพบว่ามีระบบธนาคารใต้ดินที่อยู่ใน “ระดับอุตสาหกรรม” ที่กำลังปฏิบัติการณ์อยู่ ซึ่งระบบเหล่านี้ส่วนใหญ่อยู่ในประเทศลุ่มน้ําโขงตอนล่าง ได้แก่ กัมพูชา ลาว พม่า ไทย และเวียดนาม
คาสิโน Blue Shield ที่สามเหลี่ยมแม่น้ำโขง โดยรูปถูกถ่ายเมื่อเดือน มี.ค.2559
นายเบเนดิกต์ ฮอฟมันน์ รองผู้แทน UNODC ประจําภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และแปซิฟิกกล่าวว่าสิ่งที่ถูกพบเจอนั้นถือว่าเป็นการเปลี่ยนกระบวนทัศน์ในวิธีที่เครือข่ายอาชญากรรมในภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขงใช้เพื่อเคลื่อนไหว โดยเทคโนโลยีไม่เพียงแต่ถูกนำมาใช้เพื่อการขยายกิจกรรมและแหล่งรายได้เท่านั้น แต่ยังถูกนำมาใช้เพื่อสร้างระบบธนาคารเพื่อเคลื่อนย้ายเงินจำนวนมหาศาลไปยังรอบๆภูมิภาค
UNODC ระบุว่าอุตสาหกรรมการพนันในภูมิภาคนี้ได้รับการสนับสนุนอย่างเพิ่มขึ้นเป็นอย่างมากเมื่อจีนเริ่มปราบปรามการพนันที่ผิดกฎหมายและการโอนเงินข้ามพรมแดนเมื่อประมาณหกปีที่แล้ว ผู้ประกอบการการพนันจํานวนมากจึงได้เริ่มกําลังมองหาประเทศที่มีขอบเขตการใช้กฎหมายที่เบาบางกว่าในภูมิภาคลุ่มน้ำโขง
สิ่งที่ตามมาหลังจากนั้นไม่นานก็คือการระบาดของไวรัสโควิด-19 ส่งผลทำให้เกิดการจำกัดการเดินทาง อันกลายเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้อุตสาหกรรมการพนันเปลี่ยนรูปแบบมาเป็นการพนันออนไลน์มากขึ้น และทำให้ธุรกิจธนาคารใต้ดินถูกยกระดับขึ้นด้วยเช่นกัน
“คาสิโนมีบทบาทในการฟอกเงินในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มานานแล้ว แต่การพนันออนไลน์ที่เพิ่มขึ้นได้เร่งบทบาทการฟอกเงินจนนำไปสู่รูปแบบที่ไม่ได้มีการคาดหวังมาก่อน” นายฮอฟมันน์กล่าว
รองผู้แทน UNODC กล่าวอีกว่าธุรกรรมขนาดใหญ่ที่สามารถดำเนินการในเชิงลับ กฎระเบียบที่มีความจำกัด ลักษะการดำเนินการข้ามพรมแดน นี่ทำให้ภาคการพนันออนไลน์เป็นสิ่งที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่ต้องการจะอำพรางธุรกรรม
@เครื่องมือสำหรับทำการค้า
UNODC ระบุว่าสิ่งที่มีความเป็นอันตรายที่สุดสำหรับกระบวนการใช้การทำนิติกรรมอำพรางก็คือข้อปฏิบัติว่าด้วย “การชดเชย” โดยลูกค้าจะฝากเงินเข้าสู่บัญชีของผู้ให้บริการพนันออนไลน์ที่อยู่ในเขตอำนาจศาลแห่งหนึ่งและจะไปถอนเงินจำนวนที่เท่าๆกันออกมา ณ อีกบัญชีที่อยู่ในพื้นที่เขตอำนาจศาลอีกแห่ง ซึ่งการทำธุรกรรมเช่นนี้จะอาศัยความช่วยเหลือของผู้ให้บริการรายเดียวกัน
โดยเจ้าหน้าที่หน่วยงานบังคับใช้กฎหมายทั่วภูมิภาคกล่าวว่าบริการเหล่านี้มีไว้ใช้เพื่อจุดประสงค์ในการเล่นพนัน ทว่า มันกลับใช้เพื่อนำไปเคลื่อนย้ายและฟอกเงินสกปรกมากขึ้นเรื่อยๆ
ความกังวลที่สําคัญและเพิ่มขึ้นอีกประการหนึ่งคือสิ่งที่เรียกว่า "ไวท์เลเบล" หรือก็คือการใช้ซอฟต์แวร์และบริการที่มีความซับซ้อน โดยผู้ที่สนใจสามารถซื้อเว็บพนันจากผู้ให้บริการและสามารถจดตั้งเว็บพนันได้ภายในไม่กี่สัปดาห์ หรือก็คือเว็บพนันที่เห็นหลายๆเว็บนั้นจะมีรูปแบบของความเป็นแฟรนไชส์นั่นเอง
หมายความว่าสิ่งที่จะทำให้อาชญากรที่มีความรู้เกี่ยวกับการเล่นเกมหรือความรู้เชิงเทคนิคเพียงเล็กน้อยจนถึงไม่มีเลยสามารถเปิดตัวคาสิโนออนไลน์ของตัวเองเพื่อปกปิดการเคลื่อนไหวทางการเงินได้
ทางด้านของนางอแมนดา กอร์ นักบัญชีนิติวิทยาศาสตร์ซึ่งเป็นหัวหน้าศูนย์ความก้าวหน้าระดับโลกซึ่งศึกษาอาชญากรรมทางการเงินในเอเชียและที่อื่น ๆกล่าวว่า การเติบโตของคริปโตเคอเรนซี่หรือสกุลเงินออนไลน์ก็เป็นอีกปัจจัยที่ทำให้การติดตามการเงินมีความยากขึ้นไปอีก
“หากคุณใส่เงินลงในคาสิโนแล้วคุณถอนเงินออกในรูปแบบอื่นเช่นคุณใส่เงินสดด้วยบัตรธนาคารแล้วคุณถอนเงินออกด้วย สกุลเงินดิจิทัล คุณจะยืนยันได้อย่างไรว่าบุคคลที่ฝากและถอนเป็นคนเดียวกัน? คุณอาจจ่ายเงินให้ใครสักคนเป็นส่วนหนึ่งของขบวนการยาเสพติดก็เป็นได้” นางกอร์กล่าว
นางกอร์กล่าวต่อไปว่ากฎสําหรับการเข้าและออกจากคาสิโนหรือเว็บไซต์การพนันแตกต่างกันไปในแต่ละประเทศ แต่ หากคุณสามารถใช้วิธีการชําระเงินที่แตกต่างกันได้ ก็อาจจะนำไปสู่การถูกมองว่ามีนัยยะสำคัญเกี่ยวกับการฟอกเงินได้
UNODC ระบุว่าตอนนี้เจ้าหน้าที่ยังไม่มีการประมาณการว่ามีเม็ดเงินสกปรกไหลผ่านระบบธนาคารใต้ดินในภูมิภาคอาเซียนมากน้อยเท่าใด แต่ว่าเหตุจับกุมอันโด่งดังก็แสดงให้เห็นว่าเม็ดเงินอาจจะพุ่งไปถึงระดับหลายหมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในแต่ละปี
ย้อนไปในเดือน ม.ค. ศาลมาเก๊าตัดสินว่านายอัลวิน เชา มีความผิดเนื่องจากบริหารอาณาจักรการพนันออนไลน์ที่ผิดกฎหมาย ด้วยการจัดการเม็ดเงินกว่า 1.05 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (3,731,700,000,000 บาท) นับตั้งแต่ปี 2556 และในช่วงหลายเดือนก่อนหน้านั้น ศาลที่จีนแผ่นดินใหญ่ก็ได้มีการตัดสินผู้ต้องหาจำนวน 36 รายว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการดำเนินการพนัน การชำระเงินข้ามพรมแดนที่ผิดกฎหมาย โดยพบข้อมูลว่าในกรณีนี้มีการจ่ายเงินจากทั้งในห้องวีไอพีและในเว็บไซต์การพนันออนไลน์ที่ดำเนินการจากคาสิโนในกัมพูชา,ฟิลิปปินส์และเวียดนามคิดเป็นมูลค่ากว่า 160 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (5,684,800,000 บาท)
นายอัลวิน เชา ปรากฎตัวที่งานภาพยนตร์ฮ่องกงเมื่อปี 2561
ในเดือน ก.ค.ที่ผ่านมา ทางการประเทศไทยได้มีการจับนายกั๋ว เช-มิน และเมื่อเดือน ก.ย. ทางการไทยก็ได้ส่งผู้ต้องหารายนี้กลับไปดำเนินคดีที่ไต้หวัน เนื่องจากว่านายกัว เช-มินนั้นถูกออกหมายจับด้วยข้อหาว่าดําเนินการการพนันออนไลน์และดำเนินเครือข่ายธนาคารใต้ดินตามคาสิโนในกัมพูชา ทางการไทยระบุว่าเขาอาจฟอกเงินกว่าครึ่งพันล้านดอลลาร์สหรัฐฯผ่านปฏิบัติการนี้
ส่วนตำรวจที่ไต้หวันสงสัยว่านายกั๋วอาจทำงานร่วมกับบุคคลชื่อนายหลิน ปิน-เหวิน ซึ่งเป็นหนึ่งในสมาชิกสามคนหลักของกลุ่มอั๊งยี่ชื่อว่า Heavenly Way ซึ่งอั๊งยี่นี้มีความเชื่อมโยงกับคดีค้ายาเสพติดอีกหลายคดี นายหลินถูกจับกุมที่ไต้หวันในในข้อหาเดียวกับนายกั๋ว
นางกอร์กล่าวว่ากรณีการจับกุมดังกล่าวที่ปรากฏเป็นข่าวนั้นน่าจะเป็น "เพียงส่วนปลายของภูเขาน้ำแข็ง" และเห็นด้วยกับ UNODC ว่าปัญหากําลังแย่ลง
นายอัลวิน เชา และนายหลิน ปิน-เหวิน (คนที่สองและสามจากซ้าย) ขณะร่วมการเปิดอีเวนท์เกี่ยวกับการพนันที่กรุงมะนิลาในปี 2561
@ผ่านประตูหลัง
นอกเหนือจากภูมิภาคแม่น้ำโขงแล้ว ฟิลิปปินส์ยังกลายเป็นอีกพื้นที่สําคัญของระบบธนาคารใต้ดินของภูมิภาคอีกด้วย
โดยในปี 2559 กรุงมะนิลาเริ่มออกใบอนุญาตผู้ประกอบการการพนันนอกชายฝั่งของฟิลิปปินส์หรือ POGOs เพื่อกําหนดเป้าหมายนักพนันในต่างประเทศโดยหวังว่าจะสร้างงานและรายได้ในท้องถิ่น
อย่างไรก็ตามพบกรณีนำใบอนุญาตที่กรอกให้กับรัฐบาลไปใช้โดยผิดประเภท โดยผู้ใช้ก็คือบริษัทท้องถิ่นที่เพิ่มจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆและบริษัทเหล่านี้ยังถูกเชื่อมโยงกับเจ้าหน้าที่บังคับใช้กฎหมาย กิจกรรมการค้ายาและการฟอกเงิน
รายงานอีกฉบับในปีนี้ซึ่งถูกจัดทำโดยสภาป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินของรัฐบาลฟิลิปปินส์เองระบุว่าพบกรณีการใช้ใบอนุญาตในทางที่ผิดพุ่งสูงขึ้นระหว่างปี 2564-2565
ตำรวจและหน่วยต่อต้านการฉ้อโกงเข้าตรวจค้นหนึ่งในสำนักงานที่เกี่ยวกับการพนันผิดกฎหมายเมื่อปลายเดือน ก.ค.2566
"มันแย่ลงเรื่อยๆ" มิเชล ซาบิโน โฆษกหญิงของกลุ่มต่อต้านอาชญากรรมไซเบอร์ของสํานักงานตํารวจแห่งชาติฟิลิปปินส์ กล่าวและกล่าวตําหนิว่านี่เป็นความผิดของการออกใบอนุญาต POGO เป็นส่วนใหญ่
“"นี่คือเครื่องมือ เพื่อให้องค์กรสามารถฟอกเงินได้ พวกเขาซ่อนตัวอยู่เบื้องหลังการดําเนินการตามใบอนุญาต POGO ที่ถูกต้องตามกฎหมาย ... แต่ภายใต้สิ่งนั้นกลับมี บริษัท ต่าง ๆ ที่ทํากิจกรรมที่ผิดกฎหมาย" นางซาบิโนกล่าว
ทางการฟิลิปปินส์จึงเริ่มมีการตระหนักถึงข้อบกพร่องของระบบ POGO ที่มีการเริ่มใช้ในช่วงต้นของการระบาดของไวรัสโควิดมากขึ้นเรื่อยๆ
นางกอร์กล่าวว่าสิ่งนี้ทำให้ผู้ประกอบการพนันบางรายย้ายไปยังประเทศกัมพูชา สอดคล้องกับการปราบปรามครั้งใหญ่ที่ประเทศจีนเมื่อไม่กี่ปีก่อนทำให้หลายคนย้ายไปยังอาเซียน
โดยนางกอร์และ UNODC ระบุว่าการปราบปรามครั้งที่สองของฟิลิปปินส์ส่งผลผลักดันให้พวกเขาส่วนใหญ่ย้ายไปลาวและเมียนมา
"นั่นเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมการตอบสนองร่วมกันในระดับภูมิภาคที่ครอบคลุมจึงมีความสําคัญมาก เพราะความพยายามของแต่ละประเทศเพียงแค่นําปัญหากลับมาผ่านประตูหลังเท่านั้น" นายฮอฟมันน์กล่าว
โดยตอนนี้บทบาทของ UNODC ก็คือการช่วยประสานงาน การตอบสนอง และการจัดเวิร์กช็อปเกี่ยวกับการต่อสู้กับธนาคารใต้ดินผ่านอุตสาหกรรมการพนันกับหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายจากลาว มาเลเซีย ฟิลิปปินส์และไทยเมื่อเดือน ก.ย.และกําลังวางแผนเพิ่มเติมมากขึ้นเรื่อยๆ
เรียบเรียงเนื้อหาและรูปภาพจาก:https://www.voanews.com/a/un-warns-of-growing-money-laundering-shadow-banking-risk-from-mekong-casinos/7331663.html