“...สรุปว่า ทั้งหมด คือ ที่มาของจุดยืนของตนมาโดยตลอด ว่าผมไม่เห็นประโยชน์ของการเอาการเอาการพนันขึ้นมาบนดิน ไม่ได้ช่วยกำกับดูแล เป็นการส่งสัญญาณที่ผิด และเงินที่รัฐจะได้จากภาษี จากค่าธรรมเนียม ใบอนุญาต เป็นอันเดียวที่เห็นได้ชัดเจนว่า เป็นทางบวก มันไม่คุ้มกับปัญหาที่จะตามมา...”
หมายเหตุสำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org): เมื่อวันที่ 8 ก.พ. 2568 กลุ่มเศรษฐศาสตร์เพื่อสังคม จัดเสวนาในหัวข้อ 'สังคมเศรษฐกิจไทยในนโยบาย กาสิโนและพนันออนไลน์ถูกกฎหมาย' โดยมีการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นจากคณาจารย์ ศิษย์เก่า และศิษย์ปัจจุบัน
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เพื่อไม่ให้เกิดความรู้สึกว่า มีเรื่องประเด็นทางการเมือง จุดยืนของตนในเรื่องนี้ชัดเจนมานานแล้ว เพราะในช่วงเป็นนายกรัฐมนตรี ทำหน้าที่เป็นประธาน สสส. และเป็นคนขอ สสส.ให้ช่วยดูเรื่องการพนันเข้าไปอีกเรื่องด้วยได้หรือไม่ ถามว่า ทำไมวันนั้นตนถึงตัดสินใจหยิบเรื่องนี้มาด้วย เพราะปัญหาการพนันเป็นปัญหาใหญ่อยู่แล้วในสังคมไทย
นายอภิสิทธิ์ กล่าวยืนยันว่า ที่ผ่านมาได้รู้จักกับคนที่ชีวิตเสียหายจากการพนันตั้งแต่คนที่ฐานะไม่ดี ไปเล่นในบ่อนการพนันผิดกฎหมาย และการพนันออนไลน์ ไปจนถึงเพื่อนร่วมอาชีพเก่า คือ นักการเมือง ในที่สุดก็เสียหายจากการพนัน
พร้อมทั้งเน้นย้ำว่า วันนี้ หลายคนกึ่งทำใจไว้แล้วว่า เป็นนโยบายรัฐบาล จะเกิดขึ้น เราจะเตรียมความพร้อม เราจะสร้างเงื่อนไขอะไรต่าง ๆ ในสังคม เพื่อให้เราสามารถรับมันได้หรือไม่ จนกระทั่งทำอะไรให้เราพร้อมเผชิญกับสิ่งเหล่านี้
ความรู้สึกของตน คือ น่ากลัว เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นช่วง 1 ปีเศษที่ผ่านมา ไม่ได้มีการเริ่มต้นนำประเด็นปัญหาการพนันขึ้นมาถกเถียงชัดเจน มีการตั้งข้อสังเกตว่า ในช่วงการหาเสียงเลือกตั้งก็ไม่ได้พูดชัดเจน อาจจะมีการพูดถึงการเอากิจกรรม หรือ ธุรกิจผิดกฎหมาย ใช้คำว่า ขึ้นมาบนดิน ทำให้ถูกกฎหมาย เพื่อทำให้รัฐสามารถเข้าไปกำกับดูแล หรือ มีรายได้ แต่ไม่ได้ระบุชัดเจนว่า ครอบคลุมเรื่องอะไรบ้าง และในบางกรณี บางพรรคการเมืองพูดถึงธุรกิจเรื่องเพศ ซึ่งมีเหตุผลต่างหาก
แต่ถ้าถามถึงนโยบายของรัฐบาลจริง ๆ เรื่องนี้จะปรากฏอยู่ในเรื่องของเศรษฐกิจ ในหัวข้อ รัฐบาลอยากมีรายได้จากการท่องเที่ยว มีลักษณะกิจกรรมที่มนุษย์สร้างขึ้น แล้วจึงมีคำพูดที่ใช้คำว่า สถานบันเทิงครบวงจรขึ้นมา เข้าใจว่า ไม่ได้เขียนเรื่อง การพนัน และกฎหมายที่ร่างขึ้นมาขณะนี้ บอกว่าจะต้องมีกิจกรรมดังต่อไปนี้ กี่อย่าง รวมกับการพนัน
“อยากจะบอกว่า ทำไมจุดยืนของผมถึงไม่เห็นด้วยกับแนวความคิดที่จะทำเรื่องการพนัน ไม่ว่าจะเป็นการพนันออนไลน์ถูกกฎหมาย หรือ หรือการตั้งกาสิโน” นายอภิสิทธิ์ กล่าว
นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า มีสองแง่มุมที่ต้องวิเคราะห์ คือ ประเด็นทางสังคม และประเด็นทางเศรษฐกิจ ประเด็นทางสังคม สิ่งที่เกี่ยวข้องมากกว่าการอ้างเหตุผล เอาเรื่องผิดกฎหมายขึ้นมาบนดิน คือ การทำพนันออนไลน์ถูกกฎหมาย ซึ่งในทัศนะของตนอันตรายสูงมาก อันตรายมากกว่ากาสิโนแต่ก็ขึ้นอยู่ว่ากาสิโนกี่แห่ง
“การที่ผมมีจุดยืนอย่างนี้ ผมไม่ใช่คนไร้เดียงสานะ มันจะถูกหรือผิดกฎหมาย ปฏิเสธไม่ได้หรอกว่าของเหล่านี้ อย่างไรมันก็จะมีอยู่ในประเทศไทย ไม่ได้ปฏิเสธว่ามีอยู่แล้ว หรือบางที คนก็ชอบพูดง่าย ๆ ว่า เป็นนิสัย หนักเข้าไป บอกว่า เป็นนิสัยของคนไทยด้วยนะ ที่ชอบพนัน พนันได้ทุกเรื่อง ซึ่งจริง ๆ ไม่ต้องมีธุรกิจการพนัน คนก็พนันกันเองได้อยุ่แล้วทุกเรื่อง แค่ความเห็นไม่ตรงกัน แต่เหมือนกับเรื่องอื่น ๆ ถ้าทุกคนเห็นตรงกัน ยอมรับกันแล้วผมก็ยังไม่เห็นมีใครกล้าพูดว่า การพนันเป็นสิ่งที่ดี การเป็นสิ่งที่ผิดกฎหมายอยู่ เป็นการส่งสัญญาณสำคัญให้กับสังคม” นายอภิสิทธิ์ กล่าว
ทันทีที่รัฐบอก อันนี้ถูกกฎหมาย ตนเชื่อว่า เกือบทุกคนในห้องนี้ เข้าไปเล่น เข้าไปลอง สักครั้งสองครั้ง เพราะฉะนั้น อย่าไปมองว่า เวลาเขาอ้างว่า เอาของผิดกฎหมายขึ้นมาบนดินแล้ว แปลว่า เอาสิ่งที่มีอยู่แล้ว มาทำให้เป็นระบบ ระเบียบมากขึ้น แล้วหยุดอยู่แค่นั้น ไม่ใช่
“เมื่อใดที่เอาของที่บอกว่า ผิดเป็นถูก สิ่งที่เกิดขึ้นแน่นอน คือ การขยายตัวของกิจกรรมนั้น ผมยืนยันได้เลยว่า เมื่อใดที่ทำขึ้นมาถูกกฎหมาย คนที่จะเข้าไปเกี่ยวข้องในกิจกรรมและวงจรเหล่านี้เพิ่มขึ้นแน่นอน และแนวโน้มอาจจะเพิ่มขึ้นมากมายมหาศาล โดยเฉพาะถ้าพูดถึงการพนันออนไลน์” นายอภิสิทธิ์ กล่าว
ในมุมของสังคม ตนหาเหตุผลข้อดีของการนำการพนันขึ้นมาถูกกฎหมาย มองไม่เห็น ที่สำคัญ การตั้งกาสิโน เหตุผลที่อ้างว่าเอาสิ่งที่อยู่ใต้ดินขึ้นมาบนดิน ยิ่งไม่เป็นเหตุเป็นผล เพราะการจะตั้งสถานบันเทิงครบวงจร และมีกาสิโน จะกี่เปอร์เซ็นต์ในพื้นที่ก็แล้วแต่ ยังมองไม่เห็นว่าเป็นตลาดเดียวกันกับบ่อนที่มีอยู่เกือบทั่วประเทศอย่างไร ดังนั้น ผมมองไม่เห็นจริง ๆ ว่าประโยชน์ คือ อะไร
ผลข้างเคียง-ภาระทางเศรษฐกิจ
ประเด็นเศรษฐกิจ มีความต่าง เวลาประเมินผลกระทบทางเศรษฐกิจกับการหยิบตัวเลขทางการเงินขึ้นมาตัวใดตัวหนึ่งแล้วอ้างว่า มีรายได้เพิ่มขึ้น มีการจ้างงานเพิ่มขึ้น แล้วหยุดที่เท่านั้น เราจำเป็นต้องวิเคราะห์ลงไปในรายละเอียดมากขึ้น ว่า ผลทางเศรษฐกิจ ไม่ใช่เฉพาะระยะสั้น หรือ จุดที่เกิดการสร้างรายได้ แล้วจบลงแค่นั้น
ต้องเริ่มต้นจากว่า สมมุติว่าเราเดินหน้า ถามว่า สิ่งที่ได้ในทางตัวเงินจะมีอะไรบ้าง หนึ่ง มุมของรัฐ ได้ค่าธรรมเนียม ค่าใบอนุญาต ไม่นับว่าจะมีใต้โต๊ะหรือไม่ หรือมีผลตอบแทนอื่น
สอง เก็บภาษีได้เพิ่มขึ้น สาม อาจจะอ่างว่า มีธุรกิจนี้แล้วจะเกิดการจ้างงาน รวมถึงระบบโครงสร้างที่จะทำขึ้น สี่ อาจจะอ้างว่า เป็นวิธีการดึงดูดนักท่องเที่ยวเข้ามาเพิ่มขึ้น เกิดการจับจ่ายใช้สอย
อันนี้ คือ ตัวเงินที่อยากจะวัด ไม่เกี่ยวกับมูลค่าเงินหมุนเวียนในการพนัน ต้องไล่ดูว่า ประโยชน์ตรงนี้มากน้อยแค่ไหน มีผลข้างเคียงอย่างไร
ถ้ารัฐบาลบอกว่า มีได้แห่งเดียว ยิ่งน้อยเท่าไหร่ ค่าธรรมเนียม ค่าใบอนุญาต หรือ กำไร ก็เหมือนกับการผูกขาด มีค่าเช่าทางเศรษฐกิจสูงเท่านั้น แต่ถ้ามีหลายแห่ง ไปจึงถึงจุดที่เรียกว่า เสรี ในแง่ค่าเช่า มูลค่าก็จะลดลง เพราะการแข่งขันสูงขึ้น
โดยสรุป เป็นสิ่งที่ปฏิเสธไม่ได้ว่า รัฐบาลได้จริง ๆ แต่ในด้านอื่นไม่ชัดเจนขนาดนั้น เช่น การจ้างงาน สมมุติว่ามีกาสิโนขึ้นมา จ้างงานขึ้นหรือไม่ ถ้าไม่มีกาสิโน คนไทยจะไม่มีงานทำเลยหรือไม่ หรือเป็นการซ้ำเติมปัญหาเศรษฐกิจ เพราะผู้ประกอบการหาคนงานไม่ได้ คำตอบสุดท้ายปลายทางคือการจ้างแรงงานต่างด้าว
ตนมองไม่เคยเห็นว่า การอ้างว่าจะมีการจ้างงานเพิ่มขึ้น จะมีผลในเชิงบวกอย่างชัดเจนกับระบบเศรษฐกิจ และต้องตั้งคำถามด้วยว่า เราอยากจะให้คนไทยเข้าไปทำงานแบบนี้หรือไม่
มุมสุดท้าย คือ ท่องเที่ยว ประเทศไทยมีสิ่งดี ๆ จำนวนมาก ที่สามารถดึงนักท่องเที่ยวเข้ามาได้จำนวนมาก
“ถามผมนะ ถ้ามีใครอยู่ประเทศไหนแล้วมาบอกไม่อยากมาเมืองไทย เพราะไม่มีกาสิโน ก็ไม่ต้องมา เพราะนักท่องเที่ยวที่บอกว่าจะต้องมาทำสิ่งนี้ (เล่นการพนัน) ถึงจะมาเมืองไทย ตนไม่แน่ใจวา เป็นนักท่องเที่ยวประเภทที่เราต้องการ ในอีกมุมหนึ่ง จะมาเปลี่ยนแปลงภาพลักษณ์ว่า ตกลงประเทศไทยเป็นแหล่งท่องเที่ยวแบบไหน” นายอภิสิทธิ์ กล่าว
ถ้าจะพูดถึงการดึงคนเพื่อไปสร้างความเจริญ ต้องไปอนุญาตให้ไปอยู่ในที่กันดาร ไกล ๆ ไปเลย ไปสร้างเมืองใหม่ แต่ก็จะเกิดคำถามว่า คุ้มค่าหรือไม่
ยังไม่พูดถึงผลข้างเคียงทางลบ ซึ่งจะเป็นภาระทางเศรษฐกิจ ไม่ว่าการพนันออนไลน์ หรือ กาสิโน ถ้าในที่สุด ทำให้คนเล่นการพนันมากขึ้น ปัญหาสังคมที่จะตามมา อาชญากรรม หนี้สิน หนี้ครัวเรือนไทยสูงมาก เราเห็นว่า ประเทศไทยรัฐชอบให้เงิน ทุกรอบที่มีการให้เงิน ธุรกิจการพนันจะดีมากในช่วงที่คนได้รับแจกเงินจากรัฐ
ที่สำคัญ ตนยังไม่เห็นบทวิเคราะห์ บทความต่าง ๆ ดูธุรกิจคอลเซ็นเตอร์ที่หลอกลวงเงินคนทั้งโลก เกือบทุกกรณีในที่สุดเข้ามาเชื่อมกับวงจรกาสิโน ในรูปของการฟอกเงิน การร่วมทุน
โดยเฉพาะกรณีศึกษาของจีน รัฐบาลจีนพยายามทำทุกวิถีทางที่จะไม่ให้อยู่ในแผ่นดิน กดดันมาเก๊าให้เปลี่ยนแปลง ไม่ให้พึ่งพาจากการพนันและกดดันอีกหลายประเทศที่เป็นแหล่งการพนันสำหรับคนจีนให้หยุด เป็นความเสียหายอีกด้านหนึ่ง และเป็นภาระทางเศรษฐกิจที่ตามมา
คำถามที่ว่า ถ้าทำให้พร้อมได้หรือไม่ หนึ่ง คนของเราต้องได้รับการศึกษา ปลูกฝังให้มีภูมิคุ้มกันที่ดีพอสมควร สอง ระบบการบังคับใช้กฎหมาย องค์กรบังคับใช้กฎหมาย ตำรวจต้องมีความเที่ยงตรง เข้มแข็ง จริงจัง สาม เราต้องไม่มีปัญหาทุจริตคอรัปชั่น สิ่งผิดกฎหมายอื่นที่จะมาอาศัยกาสิโนและวงจรนี้ฟอกเงิน แค่ 3 ข้อนี้ มีใครที่คิดว่าจะได้เห็นในชีวิตของตัวเองหรือไม่
“สรุปว่า ทั้งหมด คือ ที่มาของจุดยืนของตนมาโดยตลอด ว่าผมไม่เห็นประโยชน์ของการเอาการเอาการพนันขึ้นมาบนดิน ไม่ได้ช่วยกำกับดูแล เป็นการส่งสัญญาณที่ผิด และเงินที่รัฐจะได้จากภาษี จากค่าธรรมเนียม ใบอนุญาต เป็นอันเดียวที่เห็นได้ชัดเจนว่า เป็นทางบวก มันไม่คุ้มกับปัญหาที่จะตามมา” นายอภิสิทธิ์ กล่าว
จี้ พรรคร่วมรัฐบาล เห็นด้วยหรือไม่
นายอภิสิทธิ์ตอบคำถามของผู้ดำเนินรายการว่า ถ้ายังเป็นนักการเมือง เป็นผู้นำฝ่ายค้าน หรือ ฝ่ายค้านในรัฐสภา จะทำอย่างไรก็เรื่องนี้ ว่า กฎหมายเข้าไปก็ต้องคัดค้าน
“บางทีรัฐบาลจะใช้วิธีเขียน (กฎหมาย) เผื่อต่อ ถ้าคนไปค้านทำไมกาสิโนใช้พื้นที่เยอะ งั้นเหลือ 5 % แต่ก็คือ เดินหน้าให้มี ถามว่า ถ้าไม่อยากได้ พวกเราต้องตั้งคำถามกับพรรคร่วมรัฐบาลทั้งหมด ตกลงสนับสนุนเรื่องกาสิโนใช่หรือไม่” นายอภิสิทธิ์ กล่าว
ถ้าสมมุติว่าในที่สุด เดินหน้าส่งกฎหมายเข้าสภาผู้แทนราษฎร ถ้าพรรคร่วมรัฐบาลเห็นด้วยกันหมด เป็นเสียงข้างมากก็ผ่าน แต่ยุคนี้ต้องคุยกับพรรคฝ่ายค้านด้วย เพราะตนยังไม่ได้รับสัญญาณที่ชัดจากฝ่ายค้าน ว่า คัดค้านหรือไม่
“ถ้าถามผม โอกาสที่จะผ่านสภาผู้แทนราษฎรสูงมาก ก็เป็นเรื่องแปลก บางทีเราอาจต้องไปหวังที่วุฒิสภา อาจจะเห็นประโยชน์จากระบบที่ค่อนข้างพิสดารที่ได้วุฒิสภามา” นายอภิสิทธิ์ กล่าว
ฝากความหวัง วุฒิสภา
นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า วุฒิสภายังไม่มีท่าทีที่ชัด แม้คนมักจะพูดว่า วุฒิสภาจะขึ้นอยู่กับพรรคการเมืองหนึ่ง แต่ในทางการ บอกว่า ไม่เกี่ยวกัน และตนสังเกตว่า ในหลายเรื่องไม่ได้ลงคะแนนแบบเดียวกัน ถ้าเขาเกี่ยวกันจริง แต่ว่าพรรคต้องรักษาความเป็นมารยาทในการร่วมรัฐบาล เขาอาจจะลิ่วตาว่า ในสภาผู้แทนฯ ไปทางหนึ่ง แต่วุฒิสภาก็เป็นเรื่องของวุฒิสภา และวุฒิสภาก็เป็นจุดหนึ่งที่ แม้จะไม่สามารถมีอำนาจเหนือกว่าสภาผู้แทน ฯ แต่น่าจะทำให้เกิดความยุ่งยากและยืดเยื้อในการทำกฎหมาย
“เริ่มต้นตั้งแต่การคว่ำกฎหมาย เพื่อให้รัฐบาลมายืนยัน แต่ส่วนใหญ่เป็นเรื่องของการแก้ไขที่ทำให้รัฐบาลไม่อยากได้แบบนี้ ต้องมาลงมติกันว่าจะเอาแบบไหน แล้วกลับมาอีกครั้ง ซึ่งจะเป็นช่องทางที่จะทำให้ในที่สุด ยังมีปัญหาว่าจะผ่านทั้งสองสภาหรือไม่ และต้องรอกลับมาให้สภายืนยันอีกครั้ง หรือ ตั้งคณะกรรมาธิการร่วม สส.กับ สว. ซึ่งต้องใช้เวลานาน” นายอภิสิทธิ์ กล่าว
ส่วนจะหวังพึ่งสภาผู้แทนฯไม่ได้ใช่หรือไม่นั้น นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า เป็นเรื่องยาก ถ้าหากเสียงข้างมาก คือ รัฐบาล ยืนยันที่จะผลักดัน อย่างไรก็ผ่าน ขึ้นอยู่กับว่า วุฒิสภาจะทำให้ช้า ยุ่งยาก มีการแก้ไข ทำให้ยืดเยื้อ มีความเป็นไปได้
5 หมื่นชื่อ ยื่นทำประชามติ
ส่วนประชามติจะหยุดระงับได้หรือไม่นั้น นายอภิสิทธิกล่าวว่า ถ้ามีประชามติ ไม่น่าจะผ่าน แต่จะทำอย่างไรให้มีประชามติ เพราะไม่ใช่อำนาจของพวกเราในห้องนี้ที่จะทำให้เกิดได้ง่าย ๆ
ส่วนการยื่นรายชื่อประชาชน 5 หมื่นรายชื่อต่อคณะรัฐมนตรี (ครม.) และคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เพื่อทำประชามติ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า เป็นทางที่ควรที่จะพิจารณาสำหรับคนที่ไม่เห็นด้วย
ผู้ดำเนินรายการถามว่า การทำกาสิโน มีใครอยู่ข้างหลัง กลุ่มไหนหาผลประโยชน์อย่างไร นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า นักการเมืองมีหลายสายพันธุ์ ตนไม่อาจไปตอบคนที่อาจจะมีดีเอ็นเอที่ไม่เหมือนตนได้
“ปฏิเสธไม่ได้ว่า ในเชิงหลักการเศรษฐศาสตร์ อะไรก็ตามที่มีค่าเช่าทางเศรษฐกิจเกิดขึ้น มีความเสี่ยงเสมอในการที่ผู้มีอำนาจจะแสวงหาค่าเช่านั้น แล้วก็แบ่งปันผลประโยชน์” นายอภิสิทธิ์ กล่าว
นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ขึ้นอยู่ที่ว่ามีระบบเข้มแข็งเพียงพอแค่ไหนไม่ให้เกิดการแสวงค่าเช่าทางเศรษฐกิจจากนักการเมือง หมายความว่า เราสามารถตรวจสอบเรื่องความโปร่งใส การป้องกันปราบปรามการทุจริต มีกลไกที่จะไม่ให้เกิดเรื่องแบบนี้ได้มากน้อยแค่ไหน
กาสิโน แหล่งเป้าหมายในการฟอกเงิน
ทางด้าน รศ.นวลน้อย ตรีรัตน์ ผู้อำนวยการศูนย์ศึกษาปัญหาการพนัน กล่าวว่า การพนันออนไลน์ที่เป็นภัยพิบัติมากที่สุดในปัจจุบันคือกาสิโนออนไลน์ ซึ่งต่างจากการซื้อลอตเตอรี่ออนไลน์ในแอปเป๋าตังค์ หรือเงินดิจิทัลที่รัฐบาลบอกว่าจะทำ แต่ไม่ได้ทำ
ส่วนคำถามที่ว่าประเทศใดบ้างที่ทำกาสิโนถูกกฎหมายแล้วสำเร็จ ประเทศใดบ้างล้มเหลว รศ.นวลน้อย กล่าวว่า สิงคโปร์ที่สำเร็จ มีตัวเลขรายได้หลังหักภาษีแล้ว 1.3-1.4 แสนล้าน/ปี แต่ของไทยตนยังหาตัวเลขไม่ได้ ปัจจุบันรัฐอ้างว่าลอตเตอรี่ 1 งวดจะมีรายได้งวดละ 4 หมื่นล้านบาท แต่เราไม่เคยเห็นเงินพวกนี้เลย จึงไม่รู้ว่ารัฐเอาไปใช้ประโยชน์อะไร แล้วมาอ้างว่าถ้าทำกาสิโนจะมีรายได้เจ้ารัฐเพิ่มอีก 2 หมื่นล้านบาท
ส่วนที่ล้มเหลวหลายคนจะพูดถึงฟิลิปปินส์ที่เปิดให้มีกาสิโนถูกกฎหมายมาตั้งแต่ปี 2520 เพื่อเพิ่มนักท่องเที่ยว บริหารโดยรัฐบาล แต่เพราะความหละหลวมของกฎหมายที่ให้ฝ่ายบริหารสามารถล้วงเงินไปใช้ได้ตลอด และมีการออกใบอนุญาตเพิ่มให้เอกชน จนทำให้การแข่งขันสูง
สุดท้ายมีการขายใบอนุญาตเพิ่มให้ทำกาสิโนออนไลน์ได้อีก โดยบอกว่า ให้คนต่างประเทศเข้ามาเล่นในลักษณะออฟชอร์ ไม่ใช่ให้คนในประเทศเล่น มุ่งเน้นนักท่องเที่ยวจีน จนประเทศจีนทนไม่ไหว เพราะมีการทุจริตมาก และมาเก๊าก็มีปัญหามาก รัฐบาลจึงปราบคอร์รัปชั่นและห้ามข้าราชการจีนเอาเงินออกนอกประเทศ เพราะเชื่อว่าเป็นเงินจากการคอร์รัปชั่น และยังออกกฎหมายว่า ประเทศที่มีการพนันออนไลน์คือผิดกฎหมายจีน
“ทำให้ฟิลิปปินส์ถูกขึ้นแบล็กลิสต์ ไม่มีคนไปเล่น ที่สุดคนท้องถิ่นก็เล่นแทน จนเกิดปัญหาสังคม รัฐจึงลดใบอนุญาตลง ซ้ำรัฐบาลฟิลิปปินส์ยังเคยถูกรัฐบาลบังกลาเทศฟ้องร้อง เพราะมีแก๊งอาชญากรรมโจรกรรมเงินของรัฐบาลบังกลาเทศทางไซเบอร์ โอนเงินไหลเข้าบ่อนที่ฟิลิปปินส์เพื่อฟอกเงิน จนฟิลิปปินส์ถูกขึ้นบัญชีสีเทาตั้งแต่ปี 2564 อีกทั้งยังเป็นการรวมของแก๊งคอลเซ็นเตอร์เข้ากับบ่อนกาสิโนผิดกฎหมายที่เกิดขึ้นจำนวนมาก มีคนต่างชาติถูกทรมาน มีการค้ามนุษย์ทุกอย่าง การทลายบ่อนกาสิโนในกรุงมะนิลา สามารถช่วยคนออกมากว่า 3,000 คน โดยเป็นชาวต่างชาติกว่า 1,000 คน จาก 17 ประเทศ เป็นคอลเซ็นเตอร์ขนาดใหญ่ คนไปเล่นพนันติดหนี้สิน ชนะก็ไม่ใช่จะรอด ถูกจับเรียกค่าไถ่ สุดท้ายประธานาธิบดีต้องประกาศยกเลิกใบอนุญาตพนันออนไลน์ทั้งหมดภายในเดือน ธ.ค. 2567 และยังไม่ทราบว่าคณะกรรมการที่ดูแลฟอกเงินปลดออกจากแบล็กลิสต์แล้วหรือไม่ ธุรกิจกาสิโนคือเป้าหมายการฟอกเงิน แม้ในชาติตะวันตกที่มีการกำกับดูแลอย่างดี แต่ก็ยังมีพวกฟอกเงินเข้ามา โดยไปซื้อชิปและแลกเป็นเงินสะอาด ซึ่งสุดท้ายจีนเทาคือกลุ่มคนที่จะมาลงทุนในเรื่องนี้ ในบ้านเราในอนาคต มีนักการเมืองคนหนึ่งบอกว่าไม่ต้องตรวจสอบที่มาของเงินที่นำมาเล่นกาสิโน เราจะยอมให้ประเทศเราถูกทำลายตามแนวคิดของนักการเมืองแบบนี้หรือไม่” รศ.นวลน้อย กล่าว
รศ.นวลน้อย กล่าวยกตัวอย่างอีกว่า อีกที่คือกัมพูชา ที่มีบ่อนกาสิโนที่เมืองสีหนุวิลล์ เมืองตากอากาศอันดับหนึ่งของเขา แต่ทุกวันนี้กลายเป็นเมืองร้าง เพราะเขาไม่ได้สกรีนคนที่มาลงทุน เมื่อเป็นทุนจีนสีเทามาพร้อมแก๊งคอลเซ็นเตอร์ทำผิดกฎหมาย เน้นแต่ความเจริญ สุดท้ายรัฐบาลกัมพูชายอมให้มีพนันออนไลน์ พอไม่มีคนมาเล่น ก็กลายเป็นเมืองร้าง กลุ่มจีนเทาจึงย้ายมาทำกาสิโนที่เมียนมา ในเมียวดีติดชายแดนบ้านเรา ตนคุยกับตำรวจไซเบอร์ไทย เขายอมรับว่า ปอยเปตเป็นแหล่งของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ และพนันออนไลน์ วันนี้ตัดไฟทางเมียวดี แต่ทางปอยเปตยังไม่ได้จัดการ ที่สุดจะเป็นปัญหาตามมา
รศ.นวลน้อย กล่าวว่า ที่ผ่านมาเราเคยมีการสำรวจกลุ่มตัวอย่าง 8,000 คน ทั่วประเทศว่า พบว่า 50 เปอร์เซ็นต์ ไม่เห็นด้วยกับการทำกาสิโน คนที่เห็นด้วยมีแค่ 30 เปอร์เซ็นต์ ที่สำคัญคือสภาชุดนี้ไม่คิดเรื่องการสอบถามความคิดเห็น หรือการทำประชามติในเรื่องนี้ รวมถึงรัฐบาลเอง ก็ไม่กล้าทำประชามติเรื่องกาสิโน แถมบอกว่าอย่าใช้คำว่ากาสิโน ให้ใช้คำว่า เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ เพราะกลัว อย่างไรก็ตาม ถ้าทำกาสิโน เชื่อว่าคนส่วนใหญ่ในสังคมไทยยังไม่เห็นด้วยกับเรื่องนี้
รศ.นวลน้อย กล่าวถึงร่างกฎหมายพ.ร.บ เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ตั้งต้นมาจากสภาเป็นคนทำชุดแรก ตนก็รู้สึกเสียใจว่า สส.คิดอย่างนี้ได้อย่างไร เพราะจากผลสำรวจความคิดเห็นมาหลายปี กว่า 50% ไม่เห็นด้วยกับกาสิโน มีคนเห็นด้วยเพียง 30% อยากให้สังเกตว่ารัฐบาลพยายามค้านหัวชนฝา ไม่ให้มีการทำความคิดเห็น การถามความคิดเห็นก็เพียงแขวนไว้ในออนไลน์
“ข้อเสนอทำประชามติ รัฐบาลเดือดร้อนอะไรที่ต้องคัดค้าน เพราะหากทำคิดว่าคนส่วนใหญ่น่าจะไม่เห็นด้วย เพราะตั้งแต่พนันออนไลน์ระบาดเข้ามามีปัญหามาก” รศ.นวลน้อย กล่าว
ตั้งตู้ ATM ให้ฝ่ายการเมือง?
เช่นเดียวกับ นายธนากร คมกฤส เลขาธิการมูลนิธิรณรงค์หยุดพนัน กล่าวว่า ประเทศเพื่อนบ้านกำลังจะลด และเลิกทั้งกาสิโนและพนันออนไลน์ แต่ไทยกลับกำลังจะทำ รัฐบาลอาจจะมองเห็นว่าเป็นโอกาสหรือไม่ เพราะดูรีบร้อน เร่งรัดและอาจจะนำมาสู่ความไม่รอบคอบ วิธีการที่รัฐบาลกำลังทำอยู่ จะใช้กฎหมายเฉพาะ ไม่กลับไปใช้กฎหมายที่มีอยู่แล้ว
นายธนากร กล่าวถึงข้อทักท้วงของคณะกรรมการกฤษฎีกาว่า น่าสนใจมากว่า สิ่งที่ถูกรวมมาอยู่ในเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ มีกฎหมายของตัวเองอยู่แล้ว มีเหตุจำเป็นอะไรจะต้องมาออกกฎหมายใหม่ นอกจากนี้ เงินค่าต่อใบอนุญาตในกฎหมายไม่ได้มีการเขียนว่าจะต้องส่งเข้ารัฐเท่าใด แต่เงินจำนวนนี้จะไหลเข้ามาที่สำนักงานกำกับกิจการสถานบันเทิงครบวงจร ที่จะถูกตั้งขึ้นมาภายใต้กฎหมายฉบับใหม่
"ตั้งคำถามว่าแล้วหากไม่เหลือ ไม่รู้ว่ามองโลกในแง่ร้าย หรือไม่ แต่วิธีคิดนี้เป็นการตั้งตู้ ATM ให้ฝ่ายการเมืองหรือเปล่า" นายธนกร กล่าว