ศาลฎีกาฯพิพากษา ‘อาแซ มาหะมะ’ นายกเทศฯต.ตอหลัง จ.ปัตตานี จงใจยื่นบัญชีฯเท็จ 2 ครั้ง ให้พ้นตำแหน่ง เพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง จำคุก 2 เดือน ปรับ 8,000 บาท อายุมาก ป่วยติดเตียง ไตวายระยะสุดท้าย รอลงโทษ 1 ปี เผยไม่แจ้งเงินฝาก 11 บัญชี ที่ดิน 129 แปลง 105 ล. โรงเรือนบ้าน 1 หลัง ยานพาหนะ 12 คัน
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2568 ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองมีคำพิพากษาว่า นายอาแซ มาหะมะ นายกเทศมนตรีตําบลตอหลัง อําเภอยะหริ่ง จังหวัดปัตตานี ผู้ถูกกล่าวหา จงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินหรือหนี้สินต่อผู้ร้อง กรณีพ้นจากตําแหน่งนายกเทศมนตรีตําบลตอหลัง อําเภอยะหริ่ง จังหวัดปัตตานี (ครั้งที่ 2) และกรณีเข้ารับตําแหน่งนายกเทศมนตรีตําบลตอหลัง อําเภอยะหริ่ง จังหวัดปัตตานี (ครั้งที่ 3) ด้วยข้อความอันเป็นเท็จ หรือปกปิดข้อเท็จจริงที่ควรแจ้งให้ทราบ และมีพฤติการณ์อันควรเชื่อได้ว่ามีเจตนาไม่แสดงที่มาแห่งทรัพย์สินหรือหนี้สินนั้น ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 114 วรรคสอง (1)
ให้ผู้ถูกกล่าวหา พ้นจากตําแหน่งนายกเทศมนตรีตําบลตอหลัง อําเภอยะหริ่ง จังหวัดปัตตานี นับแต่วันหยุดปฏิบัติ หน้าที่ (วันที่ 7 พฤศจิกายน 2567) และให้เพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งของผู้ถูกกล่าวหาตลอดไป เป็นความผิดหลายกรรมต่างกันให้ลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไป จําคุกกระทงละ 2 เดือน และปรับกระทงละ 8,000 บาท รวมสองกระทง เป็นจําคุก 4 เดือน และปรับ 16,000 บาท ผู้ถูกกล่าวหาให้การรับสารภาพ เป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจําคุก 2 เดือน และ ปรับ 8,000 บาท ผู้ถูกกล่าวหามีอายุมากประกอบกับป่วยเป็นโรคอัมพฤกษ์ เป็นคนไข้ติดเตียง และ ไตวายระยะสุดท้าย ทั้งไม่ปรากฏว่าผู้ถูกกล่าวหาเคยได้รับโทษจําคุกมาก่อน จึงให้รอการลงโทษจําคุกไว้มีกําหนด 1 ปี รายละเอียดดังนี้
@ เปิดรายละเอียดคำพิพากษา
คำพิพากษา คดีหมายเลขดำที่ อม.27/2567 คดีหมายเลขแดงที่ อม.5/2568 ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง วันที่ 4 เดือน กุมภาพันธ์ พุทธศักราช 2568
ระหว่าง คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ผู้ร้อง
นายอาแซ มาหะมะ ผู้ถูกกล่าวหา
เรื่อง การแสดงบัญชีรายการทรัพย์สินและหนี้สิน
@ คำร้อง ป.ป.ช.จงใจยื่นบัญชีฯ 2 ครั้ง
ผู้ร้องยื่นคําร้องและแก้ไขคําร้องขอให้วินิจฉัยว่า ผู้ถูกกล่าวหาได้รับเลือกตั้งให้ดํารงตําแหน่งนายกเทศมนตรีตําบลตอหลัง อําเภอยะหริ่ง จังหวัดปัตตานี เข้ารับตําแหน่ง (ครั้งที่ 2) เมื่อวันที่ 10 กันยายน 2555 และพ้นจากตําแหน่งดังกล่าว เมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2564 ต่อมาผู้ถูกกล่าวหาได้รับเลือกตั้งให้ดํารงตําแหน่งนายกเทศมนตรีตําบลตอหลัง อําเภอยะหริ่ง จังหวัดปัตตานี อีกครั้ง เข้ารับตําแหน่ง (ครั้งที่ 3) เมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม 2564 และดํารงตําแหน่ง เรื่อยมาจนปัจจุบัน ผู้ถูกกล่าวหายื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบ กรณีพ้นจากตําแหน่ง (ครั้งที่ 2) เมื่อวันที่ 30 มีนาคม 2564 และกรณีเข้ารับตําแหน่ง (ครั้งที่ 3) เมื่อวันที่ 16 กันยายน 2564 โดยจงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินหรือหนี้สินต่อผู้ร้อง ด้วยข้อความอันเป็นเท็จ หรือปกปิดข้อเท็จจริงที่ควรแจ้งให้ทราบ และมีพฤติการณ์อันควรเชื่อได้ว่ามีเจตนาไม่แสดงที่มาแห่งทรัพย์สินหรือหนี้สินนั้น ขอให้เพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง กับขอให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 81, 114 วรรคสอง(1), 167 ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91
ผู้ถูกกล่าวหาให้การรับสารภาพ
@ บางรายการไม่ชี้แจง บางรายการอ้างว่าไม่ทราบ หรืออ้างว่าป่วย เมียเตรียมเอกสาร ลูกจ้างจัดทำบัญชี
พิเคราะห์คําร้อง เอกสารประกอบคําร้อง และคําให้การของผู้ถูกกล่าวหาแล้ว ข้อเท็จจริงฟังได้ว่า ผู้ถูกกล่าวหาได้รับเลือกตั้งให้ดํารงตําแหน่งนายกเทศมนตรีตําบลตอหลัง อําเภอยะหริ่ง จังหวัดปัตตานี เข้ารับตําแหน่ง (ครั้งที่ 2) เมื่อวันที่ 10 กันยายน 2555 และพ้นจากตําแหน่ง (ครั้งที่ 2) เมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2564
ผู้ถูกกล่าวหายื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบ กรณีพ้นจากตําแหน่งดังกล่าว เมื่อวันที่ 30 มีนาคม 2564 ผู้ถูกกล่าวหาได้รับเลือกตั้งให้ดํารงตําแหน่งนายกเทศมนตรีตําบลตอหลัง อําเภอยะหริ่ง จังหวัด ปัตตานี เข้ารับตําแหน่ง (ครั้งที่ 3) เมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม 2564 และดํารงตําแหน่งเรื่อยมา จนปัจจุบัน ผู้ถูกกล่าวหายื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบต่อผู้ร้อง กรณีเข้ารับตําแหน่ง (ครั้งที่ 3) เมื่อวันที่ 16 กันยายน 2564 ผู้ร้องตรวจสอบแล้วปรากฏว่าผู้ถูกกล่าวหาไม่แสดงรายการทรัพย์สิน ได้แก่ (1) บัญชีเงินฝาก กรณีพ้นจากตําแหน่ง (ครั้งที่ 2) จํานวน 10 บัญชี จํานวนเงิน 6,477,201.12 บาท และกรณีเข้ารับตําแหน่ง (ครั้งที่ 3) จํานวน 11 บัญชี จํานวนเงิน 6,597,139.90 บาท (2) รายการที่ดินกรณีพ้นจากตําแหน่ง (ครั้งที่ 2) จํานวน 128 แปลงมูลค่า 105,013,856.13 บาท และกรณีเข้ารับตําแหน่ง (ครั้งที่ 3) จํานวน 129 แปลงมูลค่า 105,842,856.78 บาท (3) รายการโรงเรือน กรณีพ้นจากตําแหน่ง (ครั้งที่ 2) และกรณีเข้ารับตําแหน่ง (ครั้งที่ 3) บ้าน 1 หลัง บนที่ดินโฉนดที่ดินเลขที่ 285780 ตําบลคอหงส์ อําเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา มูลค่าตามสัญญาซื้อขาย 850,000 บาท (4) รายการยานพาหนะ กรณีพ้นจากตําแหน่ง (ครั้งที่ 2) และกรณีเข้ารับตําแหน่ง (ครั้งที่ 3) จํานวน 12 คัน มูลค่า 4,637,480.00 บาท
ผู้ร้องจึงแจ้งข้อกล่าวหาว่าผู้ถูกกล่าวหาจงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินหรือหนี้สินด้วยข้อความอันเป็นเท็จ หรือปกปิดข้อเท็จจริงที่ควรแจ้งให้ทราบ และมีพฤติการณ์อันควรเชื่อได้ว่ามีเจตนาไม่แสดงที่มาแห่งทรัพย์สินหรือหนี้สินนั้น วันที่ 5 สิงหาคม 2565 ผู้ถูกกล่าวหาชี้แจงพร้อมแสดงเอกสารหลักฐานประกอบ โดยบางรายการไม่ชี้แจง บางรายการอ้างว่าไม่ทราบ หรืออ้างว่าป่วยด้วย โรคอัมพฤกษ์ มีแผลกดทับ คู่สมรสจึงเตรียมเอกสารรายการที่ดินเท่ากับจํานวนที่ดินที่เคยยื่นบัญชี กรณีเข้ารับตําแหน่งเมื่อปี 2555 ให้ลูกจ้างเป็นผู้จัดทําบัญชี
ผู้ร้องพิจารณาแล้วเห็นว่า รายการเงินฝาก เฉพาะตามคําร้องข้อ 2 รายการเงินฝาก 1.7, 1.9 ถึง 1.11 กรณีพ้นจากตําแหน่ง (ครั้งที่ 2) รวม 4 บัญชี จํานวนเงิน 6,396,363.27 บาท กรณีเข้ารับตําแหน่ง (ครั้งที่ 3) รวม 4 บัญชี จํานวนเงิน 6,514,963.27 บาท มีรายการเคลื่อนไหวและเป็นเงินจํานวนมากเมื่อเทียบกับรายการเงินฝากที่แสดง รายการที่ดิน กรณีพ้นจากตําแหน่ง (ครั้งที่ 2) จํานวน 122 แปลง มูลค่า 103,981,806.78 บาท กรณีเข้ารับตําแหน่ง (ครั้งที่ 3) จํานวน 123 แปลง มูลค่า 104,810,806.78 บาท ซึ่งเป็นจำนวนมากและมีมูลค่าสูง รายการโรงเรือนและสิ่งปลูกสร้าง 1 หลัง ซึ่งตั้งอยู่บนที่ดินมีชื่อคู่สมรสของผู้ถูกกล่าวหาเป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์ ส่วนรถยนต์ตามคําร้องข้อ 2 รายการยานพาหนะ 4.8 เป็นยานพาหนะมีมูลค่ามากเมื่อเทียบกับรายการยานพาหนะที่แสดง ทั้งสี่รายการข้างต้นผู้ถูกกล่าวหาย่อมรู้ดีว่ามีทรัพย์สินดังกล่าว ผู้ถูกกล่าวหาจึงจงใจยื่นบัญชีทรัพย์สินหรือหนี้สินและเอกสารประกอบ กรณีพ้นจากตําแหน่ง (ครั้งที่ 2) และกรณีเข้ารับตําแหน่ง (ครั้งที่ 3) ด้วยข้อความอันเป็นเท็จ หรือ ปกปิดข้อเท็จจริงที่ควรแจ้งให้ทราบ และมีพฤติการณ์อันควรเชื่อได้ว่ามีเจตนาไม่แสดงที่มา แห่งทรัพย์สินหรือหนี้สินนั้น ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดํารงตําแหน่งทางการเมืองมีคําสั่งรับคําร้องนี้ ไว้พิจารณาเมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายน 2567 โดยมิได้มีคําสั่งเป็นอย่างอื่น ผู้ถูกกล่าวหาจึงต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่นับแต่วันดังกล่าวจนกว่าจะมีคําพิพากษา
@ ไม่แสดงเงินฝาก ที่ดิน โรงเรือนสิงปลูกสร้าง ยานพาหนะ รวมมูลค่ากว่าร้อยล้าน
ปัญหาต้องวินิจฉัยมีว่า ผู้ถูกกล่าวหาจงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินหรือหนี้สินและ เอกสารประกอบด้วยข้อความอันเป็นเท็จ หรือปกปิดข้อเท็จจริงที่ควรแจ้งให้ทราบ และมีพฤติการณ์อันควรเชื่อได้ว่ามีเจตนาไม่แสดงที่มาแห่งทรัพย์สินหรือหนี้สิน กรณีพ้นจากตําแหน่ง (ครั้งที่ 2) และ กรณีเข้ารับตําแหน่ง (ครั้งที่ 3) ในตําแหน่งนายกเทศมนตรี ตําบลตอหลัง อําเภอยะหริ่ง จังหวัดปัตตานี หรือไม่
เห็นว่า ผู้ถูกกล่าวหาดํารงตําแหน่งนายกเทศมนตรี จึงเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐตามพระราชบัญญัติ ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2561 มาตรา 4 มีหน้าที่ต้องยื่น บัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินต่อผู้ร้อง ทั้งกรณีเข้ารับตําแหน่งและกรณีพ้นจากตําแหน่งตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2561 มาตรา 102 (9) และมาตรา 105 ประกอบประกาศคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริต แห่งชาติ เรื่อง กําหนดตําแหน่งของผู้บริหารท้องถิ่น รองผู้บริหารท้องถิ่น ผู้ช่วยผู้บริหารท้องถิ่น และสมาชิกสภาท้องถิ่นขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ที่ต้องยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สิน ตามมาตรา 102 (9) พ.ศ. 2561 ซึ่งผู้ถูกกล่าวหาเคยยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน กรณีเข้ารับตําแหน่งและกรณีพ้นจากตําแหน่ง (ครั้งที่ 1) เมื่อวันที่ 16 กันยายน 2554 และ วันที่ 10 กันยายน 2555 ตามลําดับ ทั้งกรณีเข้ารับตําแหน่ง (ครั้งที่ 2) ก็ได้ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน เมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายน 2555 ผู้ถูกกล่าวหาย่อมทราบดีว่ามีหน้าที่ต้องยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินตามที่มีอยู่จริงในวันที่เข้ารับตําแหน่งหรือพ้นจากตําแหน่งต่อผู้ร้องทุกครั้งตามแบบที่ผู้ร้องประกาศกําหนด
การที่ผู้ถูกกล่าวหายื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินของตน คู่สมรส และบุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ ทั้งสองกรณีโดยระบุว่านางปาตีเมาะ มะสะ เป็นคู่สมรส จดทะเบียนสมรส เมื่อวันที่ 21 สิงหาคม 2550 ตามที่ผู้ร้องร้องขอให้ศาลวินิจฉัย รายการเงินฝากของคู่สมรสผู้ถูกกล่าวหาที่ไม่แสดงรวม 4 บัญชี จํานวนเงินในบัญชีรวมกันมากกว่าหกล้านบาท ไม่แสดงรายการที่ดินของผู้ถูกกล่าวหาและคู่สมรส กรณีพ้นจากตําแหน่ง (ครั้งที่ 2) และ กรณีเข้ารับตําแหน่ง (ครั้งที่ 3) รวมกันจํานวนมากถึง 122 แปลง และ 123 แปลง ตามลําดับ รวมมูลค่าที่ดินมากกว่าหนึ่งร้อยล้านบาท ไม่แสดงรายการโรงเรือนและสิ่งปลูกสร้างที่ตั้งอยู่บนที่ดินของคู่สมรส และไม่แสดงรายการยานพาหนะรถยนต์มูลค่ากว่าสามล้านบาท และทรัพย์สินจํานวนมากดังกล่าวส่วนใหญ่ผู้ถูกกล่าวหาและคู่สมรสได้มาในช่วงระยะเวลาที่ดํารงตําแหน่งในครั้งที่ 2 และครั้งที่ 3 และใกล้กับช่วงระยะเวลาที่ผู้ถูกกล่าวหายื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินต่อผู้ร้อง
ผู้ถูกกล่าวหาทราบดีว่าตนและคู่สมรสมีทรัพย์สินข้างต้นจํานวนมากและมีมูลค่าสูงมากเมื่อเปรียบเทียบกับรายการที่แสดงทั้งหมด ซึ่งรวมทรัพย์สินทั้งสิ้นมีเพียงยี่สิบแปดล้านบาทเศษในกรณีพ้นจากตําแหน่ง (ครั้งที่ 2) และยี่สิบเก้าล้านบาทเศษใน กรณีเข้ารับตําแหน่ง (ครั้งที่ 3) พฤติการณ์ส่อแสดงให้เห็นว่าผู้ถูกกล่าวหาไม่ใส่ใจต่อหน้าที่ที่จะต้องปฏิบัติในการยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินที่มีอยู่ให้ตรงต่อความเป็นจริงซึ่งเป็นมาตรการที่กฎหมายบัญญัติ เพื่อให้เกิดการตรวจสอบทรัพย์สินและหนี้สินของผู้ดํารงตําแหน่งทางการเมืองซึ่งเป็นผู้ใช้อํานาจรัฐ ประกอบกับผู้ถูกกล่าวหาให้การรับสารภาพ
คดีจึงฟังได้ว่า ผู้ถูกกล่าวหาจงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินหรือหนี้สินและเอกสารประกอบต่อผู้ร้องด้วยข้อความอันเป็นเท็จ หรือ ปกปิดข้อเท็จจริงที่ควรแจ้งให้ทราบ และมีพฤติการณ์อันควรเชื่อได้ว่ามีเจตนาไม่แสดงที่มาแห่งทรัพย์สินหรือหนี้สินนั้น กรณีพ้นจากตําแหน่ง (ครั้งที่ 2) และกรณีเข้ารับตําแหน่ง (ครั้งที่ 3) เมื่อวินิจฉัยดังนี้แล้ว ผู้ถูกกล่าวหาจึงต้องพ้นจากตําแหน่งนายกเทศมนตรีตําบลตอหลัง อําเภอยะหริ่ง จังหวัดปัตตานี นับแต่วันหยุดปฏิบัติหน้าที่ (วันที่ 7 พฤศจิกายน 2567) และให้เพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งตลอดไป ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปราม การทุจริต พ.ศ.2561 มาตรา 81 วรรคหนึ่งและวรรคสอง ประกอบมาตรา 114 วรรคสาม ทั้งการกระทําของผู้ถูกกล่าวหายังเป็นความผิดตามมาตรา 167 อันเป็นความผิดต่างกรรม ต่างวาระกัน ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91
@ ให้พ้นตําแหน่ง เพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งตลอดไป จําคุก 2 เดือน ปรับ 8,000 บาท รอลงโทษ 1 ปี
พิพากษาว่า นายอาแซ มาหะมะ ผู้ถูกกล่าวหา จงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินหรือหนี้สินต่อผู้ร้อง กรณีพ้นจากตําแหน่งนายกเทศมนตรีตําบลตอหลัง อําเภอยะหริ่ง จังหวัดปัตตานี (ครั้งที่ 2) และกรณีเข้ารับตําแหน่งนายกเทศมนตรีตําบลตอหลัง อําเภอยะหริ่ง จังหวัดปัตตานี (ครั้งที่ 3) ด้วยข้อความอันเป็นเท็จ หรือปกปิดข้อเท็จจริงที่ควรแจ้งให้ทราบ และมีพฤติการณ์อันควรเชื่อได้ว่ามีเจตนาไม่แสดงที่มาแห่งทรัพย์สินหรือหนี้สินนั้น ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 114 วรรคสอง (1) ให้ผู้ถูกกล่าวหา พ้นจากตําแหน่งนายกเทศมนตรีตําบลตอหลัง อําเภอยะหริ่ง จังหวัดปัตตานี นับแต่วันหยุดปฏิบัติ หน้าที่ (วันที่ 7 พฤศจิกายน 2567) และให้เพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งของผู้ถูกกล่าวหาตลอดไป ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 81 วรรคหนึ่งและวรรคสอง ประกอบมาตรา 114 วรรคสาม กับมีความผิดตามมาตรา 167 เป็นความผิดหลายกรรมต่างกันให้ลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไปตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91
จําคุกกระทงละ 2 เดือน และปรับกระทงละ 8,000 บาท รวมสองกระทง เป็นจําคุก 4 เดือน และปรับ 16,000 บาท ผู้ถูกกล่าวหาให้การรับสารภาพ เป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 คงจําคุก 2 เดือน และ ปรับ 8,000 บาท ผู้ถูกกล่าวหามีอายุมากประกอบกับป่วยเป็นโรคอัมพฤกษ์ เป็นคนไข้ติดเตียง และ ไตวายระยะสุดท้าย ทั้งไม่ปรากฏว่าผู้ถูกกล่าวหาเคยได้รับโทษจําคุกมาก่อน จึงให้รอการลงโทษจําคุกไว้มีกําหนด 1 ปี ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 56 ไม่ชําระค่าปรับให้จัดการตามประมวล กฎหมายอาญา มาตรา 29, 30.
ข่าวคดีบัญชีทรัพย์สินผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองเผยแพร่ ปี 2568
ศาลฎีกาพิพากษา ‘อนุชิต’ สท.เมืองบึงยี่โถ จ.ปทุมฯ ยื่นบัญชีฯเท็จ จําคุก 2 เดือน รอลงโทษ (5)
ศาลฎีกาฯพิพากษาคุก 1 เดือน นายก อบต.หนองแสงใหญ่ จ.อุบลฯ จงใจไม่ยื่นบัญชีฯ-รอลงโทษ(4)
ศาลฎีกาฯพิพากษาคุก 1 เดือน ‘ขนบ’ นายกอบต.โนนทัน จ.หนองบัวฯ ไม่ยื่นบัญชีฯ-รอลงโทษ(3)
ศาลฎีกาฯจำคุก 1 เดือน ‘สมพงษ์’รองนายก อบต.ดอนกลาง มหาสารคาม ไม่ยื่นบัญชีฯ-รอลงโทษ(2)
ศาลฎีกาฯจำคุก 2 เดือน ‘ชัชวาลย์ ’รองนายก อบจ.ตาก ไม่ยื่นบัญชีทรัพย์สินฯ-รอลงโทษ(1)
ข่าวคดีบัญชีทรัพย์สินผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองรอบปี 2567 (เผยแพร่ 28 ม.ค.2567-12 ม.ค.2568)
สรุปยอดคดีบัญชีทรัพย์สิน 35 นักการเมืองท้องถิ่นปี 2567
สรุปยอดคดีบัญชีทรัพย์สินนักการเมืองท้องถิ่นปี 2567 มีความผิด 35 ราย คุกจริง 2 คน
ศาลฎีกาฯจําคุก 1 เดือน ให้รอลงโทษ รองนายก อบต.หนองฉาง จ.อุทัยฯ จงใจไม่ยื่นบัญชีฯ
ศาลฎีกาฯพิพากษาจำคุก 1 เดือน ให้รอลงโทษ รองนายกทต.ธาตุพนม ยื่นบัญชีฯเท็จ
จงใจไม่ยื่นบัญชีฯ อ้างป่วย! ศาลฎีกาฯจำคุก 1 เดือน เลขาฯนายก อบจ.สมุทรสาคร-รอลงโทษ
จำคุก 2 เดือน ให้รอลงโทษ ‘นันทนิตร’ สท.เมืองศิลา ขอนแก่น จงใจไม่ยื่นบัญชีทรัพย์สิน
ศาลฎีกาฯพิพากษา รองนายก อบต.ถ้ำ จ.พังงา ไม่ยื่นบัญชีทรัพย์สิน จำคุก 1 เดือน รอลงโทษ
‘มะหมัดนีซัม บิลังโหลด’นายกเทศฯ ต.เจ๊ะบิลัง สตูล ยื่นบัญชีเท็จ จำคุก 1 ด.-รอลงโทษ
ศาลพิพากษา ‘ทรงยศ’ รองนายกเทศฯ ต.นาชะอัง ไม่ยื่นบัญชีฯ 2 ครั้ง จำคุก 2 เดือน-รอลงโทษ
‘บุญชัย สีนานันท์’รองนายก อบต.ดอนจิก จ.อุบลฯ ไม่ยื่นบัญชีฯ จำคุก 1 เดือน รอลงโทษ
เปิดคำพิพากษาฉบับเต็ม ‘ไพร พัฒโน’ นายกฯนครหาดใหญ่ ยื่นบัญชีฯเท็จจำคุก 1 เดือน
ศาลฎีกาพิพากษา ‘ศิริชัย กุลาศรี’ ส.อบจ.มหาสารคาม ยื่นบัญชีฯเท็จ คุก 1 เดือน รอลงโทษ
ให้พ้นตำแหน่ง ศาลฎีกาฯ จำคุก 2 เดือน! รองนายก อบต.คลองโคน ยื่นบัญชีเท็จ-รอลงโทษ
ให้พ้นตำแหน่ง! รองนายก อบต.น้ำผุด จ.สตูล จงใจไม่ยื่นบัญชีฯ คุก 2 เดือน รอลงโทษ
ศาลฎีกาให้รองนายกเทศฯ ต.แพรกษา พ้นตำแหน่ง ยื่นบัญชีฯเท็จ คุก 2 เดือน-รอลงโทษ
คดีที่สอง!ศาลฎีกาฯจำคุก 2 เดือน นายก ทต.สระโบสถ์ จ.ลพบุรี จงใจไม่ยื่นบัญชีฯ-รอลงโทษ
ฉบับเต็ม!องค์คณะวินิจฉัยอุทธรณ์ ยืนยกคำร้อง รองนายก อบต.กันจุ ไม่ยื่นบัญชีฯอดีตเมีย
รองนายก อบต.หนองบัวใต้ หนองบัวลำภู ไม่ยื่นบัญชีฯ 2 ครั้ง จําคุก 2 เดือน ให้รอลงโทษ
รองนายก อบต.เฉลียง จ.นครราชสีมา จงใจไม่ยื่นบัญชีทรัพย์สิน จำคุก 1 เดือน ให้รอลงโทษ
ศาลฎีกาฯพิพากษา‘พนมศิลป์’รองนายก ทต.ท่าอุเทน ยื่นบัญชีฯเท็จ คุก 1 เดือน-รอลงโทษ
ศาลฎีกาฯพิพากษา‘สุรางค์ทิพย์’ส.อบจ.ลพบุรี จงใจไม่ยื่นบัญชีฯ จำคุก 2 เดือน-รอลงโทษ
ศาลฎีกาฯ พิพากษา ส.อบจ.เพชรบูรณ์ ซุกเงินฝาก ยื่นบัญชีฯเท็จ คุก 1 เดือน-รอลงโทษ
ศาลฎีกาฯพิพากษารองนายกเทศฯต.โคกล่าม จ.ร้อยเอ็ด ไม่ยื่นบัญชีฯ คุก 1 เดือน-รอลงโทษ
ศาลฎีกาฯพิพากษา รองนายก อบต.วัด จ.ปัตตานี ไม่ยื่นบัญชีฯ จำคุก 1 เดือน รอลงโทษ
ศาลฎีกาฯสั่งจำคุก 1 เดือน -รอลงโทษ รองนายกเทศฯ ต.โพธิ์ชัย ร้อยเอ็ด ยื่นบัญชีฯเท็จ
พลิกคดีเก่า รองนายก อบจ.สกลฯ ยื่นบัญชีเท็จ 5 ครั้ง ก่อนทำผิดซ้ำ คราวนี้คุกจริง 6 เดือน
ศาลฎีกาฯพิพากษาจำคุกจริง 6 เดือน รองนายก อบจ.สกลนคร จงใจยื่นบัญชีฯเท็จ-ทำผิดซ้ำ
ศาลฎีกาฯ สั่งจำคุก 1 เดือน‘เจริญพงษ์’ส.อบจ.พังงา ปกปิดทรัพย์สินฯ 11 รายการ-รอลงโทษ
ศาลฎีกาฯจําคุก 2 เดือน ที่ปรึกษานายก อบจ.ร้อยเอ็ด จงใจไม่ยื่นบัญชีทรัพย์สิน-รอลงโทษ
ศาลฎีกาฯพิพากษาจำคุก 1 เดือน เลขาฯนายกท.นครสุราษฎร์ฯ ยื่นบัญชีฯเท็จ-รอลงโทษ
ศาลฎีกาฯพิพากษารองนายก ทต.บ้านกล้วย ชัยนาท ยื่นบัญชีฯเท็จ คุก 1 เดือน ให้รอลงโทษ
จำคุก 1 เดือน รอลงโทษ รองนายก อบต.หนองแรต จ.ปัตตานี ไม่ยื่นบัญชีฯ ป.ป.ช.
ศาลฎีกาฯจำคุก 1 เดือน รอลงโทษ สท.เมืองเขาสามยอด จ.ลพบุรี จงใจไม่ยื่นบัญชีทรัพย์สิน
ศาลฎีกาฯพิพากษา สท.เมืองท่าใหม่ จันทบุรี ปกปิดทรัพย์สิน 12 ล. คุก 1 ด. รอลงโทษ
ศาลฎีกาพิพากษารองนายก อบต.ชิงโค สงขลา ยื่นบัญชีฯเท็จ ปมเงินกู้ 2 ล. รอลงโทษจำคุก
คุก 1 ด. รอลงโทษ! ศาลฎีกาฯพิพากษา นายก อบต.โคกกรวด นครนายก ยื่นบัญชีฯเท็จ
ศาลฎีกาฯให้พ้นตำแหน่ง-ถอนสิทธิ์สมัครเลือกตั้ง! รองนายก อบต.ดูกอึ่ง ไม่ยื่นบัญชีฯป.ป.ช.
ศาลฎีกาสั่งจำคุก 1 เดือน -รอลงโทษ รองนายก อบต.สักหลง จ.เพชรบูรณ์ ไม่ยื่นบัญชี
ศาลฎีกาจำคุก 2 เดือน-รอลงโทษ นายก อบต.ด่านช้าง หนองบัวลำภู ไม่ยื่นบัญชีทรัพย์สิน