‘สามารถ’ จี้ 'รฟม.' หาคนรับผิดชอบกรณีรื้อทีโออาร์รถไฟฟ้าสายสีส้ม ‘บางขุนนนท์-มีนบุรี’ เหตุทำให้การประมูลเลื่อนออกไปแล้ว 1 ปี คาดส่งผลให้การเปิดบริการสายสีส้ม ‘ศูนย์วัฒนธรรมฯ-มีนบุรี’ ล่าช้าอย่างน้อย 1 ปี ประเทศเสียหาย 4.3 หมื่นล้าน
.........................
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อวันที่ 8 ส.ค. นายสามารถ ราชพลสิทธิ์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และอดีตรองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว ‘ดร.สามารถ ราชพลสิทธิ์ - Dr.Samart Ratchapolsitte’ โดยระบุว่า กรณีที่การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) เปลี่ยนแปลงทีโออาร์รถไฟฟ้าสายสีส้มส่วนตะวันตก ช่วงบางขุนนนท์-มีนบุรี (สุวินทวงศ์) 1.28 แสนล้านบาท ก่อนการยื่นข้อเสนอประมูล
กระทั่งต่อมากลุ่มบีทีเอส ซึ่งเข้าร่วมประมูลโครงการนี้ยื่นฟ้องต่อศาลปกครองเพื่อขอความเป็นธรรม พร้อมตั้งข้อสังเกตว่าอาจเป็นการเอื้อประโยชน์ให้กับเอกชนรายใดรายหนึ่งหรือไม่ ส่งผลให้การประมูลรถไฟฟ้าสายสีส้มโครงการนี้ต้องเลื่อนเวลาออกไปแล้ว 1 ปี นั้น คาดว่าจะทำให้การเปิดให้บริการรถไฟฟ้าสายสีส้มส่วนตะวันออก ช่วงศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย-มีนบุรี (สุวินทวงศ์) จะล่าช้ากว่าแผนอย่างน้อย 1 ปี และสร้างความเสียหาย 4.3 หมื่นล้านบาทต่อปี
นายสามารถ ยังตั้งคำถามว่า ใครจะต้องรับผิดชอบต่อความสูญเสียที่เกิดขึ้น และหาก รฟม.ไม่เปลี่ยนแปลงหลักเกณฑ์ประมูล ก็จะไม่มีการเลื่อนการยื่นข้อเสนอ และไม่มีการล้มการประมูล รวมทั้งจะไม่มีการฟ้องร้องเกิดขึ้น ขณะที่ความล่าช้าในการเปิดให้บริการรถไฟฟ้าสายสีส้มนั้น รฟม.จะโทษคนอื่นไม่ได้ นอกจาก รฟม.เอง
สำหรับข้อความที่นายสามารถโพสต์ มีดังนี้
‘ประเทศเสียหายปีละ 4.3 หมื่นล้าน! เหตุเปิดรถไฟฟ้าสายสีส้มช้า ใครต้องรับผิดชอบ?
จากการที่ รฟม.เปลี่ยนทีโออาร์การประมูลรถไฟฟ้าสายสีส้มกลางอากาศ จนในที่สุดได้ล้มการประมูล และนำไปสู่การฟ้องคดี ทำให้ไม่สามารถเปิดรถไฟฟ้าสายสีส้มได้ตามกำหนดการเดิม เป็นเหตุให้ประเทศชาติได้รับความเสียหายอย่างใหญ่หลวง ซึ่ง รฟม.ได้ประเมินกรณีเปิดรถไฟฟ้าสายสีส้มส่วนตะวันออกช้า พบว่าประเทศจะเสียหายสูงถึงปีละ 4.3 หมื่นล้านบาท ถามว่าใครจะต้องรับผิดชอบ?
รฟม. เปิดประมูลรถไฟฟ้าสายสีส้มส่วนตะวันตก
การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ได้เปิดประมูลหาเอกชนเข้าร่วมลงทุนก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีส้มส่วนตะวันตก ช่วงบางขุนนนท์-ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย ระยะทาง 13.4 กิโลเมตร วงเงิน 96,012 ล้านบาท และจัดหารถไฟฟ้ารวมทั้งให้บริหารจัดการเดินรถตลอดเส้นทาง ช่วงบางขุนนนท์-มีนบุรี (สุวินทวงศ์) ระยะทาง 35.9 กิโลเมตร วงเงิน 32,116 ล้านบาท รวมวงเงินทั้งหมด 128,128 ล้านบาท โดยให้ยื่นข้อเสนอในวันที่ 23 กันยายน 2563
แต่ก่อนถึงวันยื่นข้อเสนอ รฟม.ได้ประกาศเปลี่ยนเกณฑ์ประมูลจากเดิมที่ต้องพิจารณาข้อเสนอด้านเทคนิคก่อน หากผู้ยื่นข้อเสนอผ่านเกณฑ์การพิจารณาด้านเทคนิค ก็จะพิจารณาข้อเสนอด้านผลตอบแทนต่อไป ใครเสนอผลตอบแทนสูงสุดก็จะชนะการประมูล เป็น “เกณฑ์ใหม่” ซึ่งพิจารณาข้อเสนอด้านเทคนิคพร้อมกับข้อเสนอด้านผลตอบแทน โดยให้คะแนนด้านเทคนิค 30% และคะแนนด้านผลตอบแทน 70% ใครได้คะแนนรวมสูงสุดก็จะชนะการประมูล
ทั้งนี้ จากการที่ รฟม.ได้เปลี่ยนเกณฑ์ประมูล ทำให้ต้องเลื่อนวันยื่นข้อเสนอออกไปเป็นวันที่ 9 พฤศจิกายน 2563
บีทีเอสฟ้องศาลปกครองขอความเป็นธรรม
การเปลี่ยนเกณฑ์ประมูลกลางอากาศดังกล่าว ทำให้ บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือบีทีเอส เห็นว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม พร้อมทั้งตั้งข้อสังเกตว่าอาจเป็นการเอื้อประโยชน์ให้กับเอกชนรายใดรายหนึ่งหรือไม่ จึงได้ฟ้องต่อศาลปกครอง แต่ก่อนที่ศาลปกครองสูงสุดจะมีคำพิพากษาถึงที่สุด รฟม.ได้ยกเลิกการประมูลในวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2564 เป็นผลให้บีทีเอสฟ้องต่อศาลคดีอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบ ซึ่งขณะนี้ยังอยู่ในระหว่างการพิจารณาของศาลฯ
รถไฟฟ้าสายสีส้มจะล่าช้ากว่าแผนกี่ปี?
ถึงเวลานี้พบว่าการประมูลรถไฟฟ้าสายสีส้มล่าช้ากว่าแผนไปแล้วประมาณ 1 ปี เนื่องจากการประมูลครั้งใหม่ยังไม่คืบ ทั้งนี้ การประมูลครั้งใหม่นั้น รฟม.ตัดสินใจใช้เกณฑ์ใหม่ ซึ่งพิจารณาข้อเสนอด้านเทคนิคพร้อมกับข้อเสนอด้านผลตอบแทน ใครได้คะแนนรวมสูงสุดก็จะชนะการประมูล ไม่ใช้เกณฑ์เดิมซึ่งต้องพิจารณาข้อเสนอด้านเทคนิคก่อน หากผู้ยื่นข้อเสนอผ่านเกณฑ์การพิจารณาด้านเทคนิค ก็จะพิจารณาข้อเสนอด้านผลตอบแทนต่อไป ใครเสนอผลตอบแทนสูงสุดก็จะชนะการประมูล
จากการตรวจสอบการประมูลโครงการขนาดใหญ่ของ รฟม. รวมทั้งของหน่วยงานอื่น เช่น การรถไฟแห่งประเทศไทย กรมทางหลวง การทางพิเศษแห่งประเทศไทย และสำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) พบว่า ตลอดระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมาหน่วยงานเหล่านี้ล้วนแล้วแต่เลือกใช้เกณฑ์เดิมกันทั้งนั้น กล่าวคือกรณีหาผู้ร่วมลงทุนจะตัดสินด้วยคะแนนด้านผลตอบแทน ส่วนกรณีหาผู้รับเหมาจะตัดสินด้วยคะแนนด้านราคา ทั้งนี้ ผู้ยื่นข้อเสนอจะต้องผ่านเกณฑ์การพิจารณาด้านเทคนิคก่อน เช่น
1.โครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยาย ช่วงหัวลำโพง-บางแคของ รฟม. ซึ่งต้องขุดอุโมงค์ลอดแม่น้ำเจ้าพระยา และโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพูและสายสีเหลืองของ รฟม. ซึ่งเป็นรถไฟฟ้ารางเดี่ยว (Monorail) ไม่เคยมีการก่อสร้างในประเทศไทยมาก่อน
2.โครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน ของการรถไฟฯ ซึ่งเป็นโครงการที่ต้องใช้เทคโนโลยีชั้นสูงที่ภาครัฐและภาคเอกชนในประเทศไทยไม่เคยมีประสบการณ์มาก่อน และใช้วงเงินลงทุนสูง
3.โครงการมอเตอร์เวย์หมายเลข 6 (บางปะอิน-นครราชสีมา) และหมายเลข 81 (บางใหญ่-กาญจนบุรี) ของกรมทางหลวง
4.โครงการทางด่วนสายพระราม 3-ดาวคะนอง-วงแหวนรอบนอกด้านตะวันตก ของการทางพิเศษฯ
5.โครงการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภาและเมืองการบินภาคตะวันออก โครงการพัฒนาท่าเรือแหลมฉบัง ระยะที่ 3 และโครงการพัฒนาท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุด ระยะที่ 3 ของสำนักงาน EEC
ดังนั้น การที่ รฟม.เลือกใช้เกณฑ์ใหม่ในการประมูลครั้งใหม่ อาจสุ่มเสี่ยงต่อการถูกร้องเรียน ซึ่งจะทำให้การเปิดให้บริการรถไฟฟ้าสายสีส้มล่าช้าออกไปอีก ประเมินว่าการเปิดให้บริการจะล่าช้ากว่าแผนอย่างน้อย 1 ปี ทั้งนี้ ตามแผนเดิม รฟม.ต้องการจะเปิดให้บริการรถไฟฟ้าสายสีส้มส่วนตะวันออก ช่วงศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย-มีนบุรี (สุวินทวงศ์) ในเดือนมีนาคม 2567 และจะเปิดให้บริการตลอดเส้นทาง ช่วงบางขุนนนท์-มีนบุรี (สุวินทวงศ์) ในเดือนกันยายน 2569
รถไฟฟ้าสายสีส้มส่วนตะวันออก ระยะทาง 22.5 กิโลเมตร อยู่ในระหว่างการก่อสร้างงานโยธา วงเงิน 82,907 ล้านบาท ซึ่งถึงวันนี้ (8 สิงหาคม 2564) มีความคืบหน้าประมาณ 85% ใกล้จะแล้วเสร็จ แต่ที่สำคัญ แม้จะสร้างเสร็จแล้วก็ไม่สามารถเปิดให้บริการตามแผนได้ คาดว่าจะล่าช้ากว่าแผนอย่างน้อย 1 ปี เนื่องจาก รฟม.ยังไม่สามารถหาผู้ประกอบการเดินรถได้ เพราะการหาผู้ประกอบการเดินรถถูกผูกรวมอยู่กับการหาผู้ร่วมลงทุน ซึ่งจะต้องมาทำการก่อสร้างส่วนตะวันตก และเดินรถตลอดเส้นทาง
การเปิดรถไฟฟ้าสายสีส้มล่าช้า จะทำให้ประเทศเสียหายเท่าไหร่?
รฟม.ได้ประเมินความเสียหายที่เกิดขึ้นกรณีเปิดให้บริการรถไฟฟ้าสายสีส้มส่วนตะวันออกล่าช้า พบว่าประเทศจะเสียหายสูงถึง 4.3 หมื่นล้านบาท/ปี ประกอบด้วย
1.ค่าดูแลรักษา (Care of Works) โครงสร้างงานโยธาส่วนตะวันออก 495 ล้านบาท/ปี
รฟม.จะต้องเสียค่าดูแลรักษาโครงสร้างงานโยธาส่วนตะวันออกซึ่งกำลังจะแล้วเสร็จ ประกอบด้วยสถานียกระดับ 7 สถานี เป็นเงิน 103 ล้านบาท/ปี และสถานีใต้ดิน 10 สถานี เป็นเงิน 392 ล้านบาท/ปี รวมเป็นเงิน 495 ล้านบาท/ปี
2.ค่าเสียโอกาสเก็บค่าโดยสารจากรถไฟฟ้าสายสีส้มส่วนตะวันออก 1,764 ล้านบาท/ปี
รฟม.ประเมินว่าจะเก็บค่าโดยสารส่วนตะวันออกในปีแรกที่เปิดให้บริการได้ 1,764 ล้านบาท/ปี ซึ่งถ้าเปิดช้าจะทำให้เสียโอกาสได้รับค่าโดยสารจำนวนนี้
3.ค่าสูญเสียทางเศรษฐกิจ 40,644 ล้านบาท/ปี
การเปิดรถไฟฟ้าสายสีส้มส่วนตะวันออกช้าจะทำให้ไม่สามารถบรรเทารถติดในพื้นที่ตามแนวเส้นทางและพื้นที่ที่เกี่ยวข้องได้ ส่งผลให้ผู้ใช้รถใช้ถนนต้องเสียเวลาในการเดินทาง รฟม.จึงได้ประเมินเวลาที่ต้องเสียไปเป็นจำนวนเงิน อีกทั้ง ผู้ใช้รถใช้ถนนต้องเสียค่าใช้จ่ายจากการใช้รถส่วนบุคคล เช่น ค่าน้ำมันเชื้อเพลิง และค่าซ่อมบำรุงรักษา เหล่านี้ถือว่าเป็นความสูญเสียทางเศรษฐกิจ ซึ่ง รฟม.ได้ประเมินพบว่าความสูญเสียทางเศรษฐกิจจากการเปิดรถไฟฟ้าสายสีส้มส่วนตะวันออกช้าจะมีมูลค่าสูงถึง 40,644 ล้านบาท/ปี
ใครต้องรับผิดชอบต่อความสูญเสียที่เกิดขึ้น?
ทั้งหมดนี้ จะเห็นได้ชัดว่า หาก รฟม. ไม่เปลี่ยนเกณฑ์ประมูล ก็จะไม่มีการเลื่อนการยื่นข้อเสนอ และในที่สุดจะไม่มีการล้มการประมูล การฟ้องร้องก็จะไม่เกิดขึ้น ดังนั้น ความล่าช้าในการเปิดให้บริการรถไฟฟ้าสายสีส้ม รฟม.จะโทษคนอื่นไม่ได้ นอกจากตัวเอง!
แล้วใครจะต้องรับผิดชอบต่อความสูญเสียที่เกิดขึ้นครับ?
อ่านประกอบ :
‘ดีเอสไอ’ ส่งสำนวนคดี ‘รฟม.’ แก้ทีโออาร์รถไฟฟ้า ‘สายสีส้ม’ ให้ 'ป.ป.ช.' ไต่สวนฯ
‘บีทีเอส’ ขู่ฟ้องศาลปค.เพิกถอนประกาศ 'รฟม.' ล้มประมูล ‘สายสีส้ม’ ไม่ชอบ
ศาลปค.จำหน่ายคดีฟ้องเพิกถอน TOR สายสีส้ม-'คีรี' ร้อง'บิ๊กตู่'สั่งระงับประมูลรอบใหม่
วรวรรณ ธาราภูมิ : รถไฟฟ้าสายสีส้ม เอกชนซื้อซอง TOR แล้ว รัฐเปลี่ยนเงื่อนไขได้ด้วยหรือ?
เปิดคำฟ้องศาลทุจริตฯ! ‘บีทีเอส’กล่าวหา ‘ผู้ว่าฯรฟม.-พวก’ ผิดม.157-165 แก้TORสายสีส้ม
ชำแหละสายสีส้ม! ‘จิรายุ’ ร่าย 16 วันทันใจนาย-‘ศักดิ์สยาม’ถาม‘เอื้อประโยชน์ใคร’
โชว์ชัดๆ ‘ข้อดี-ข้อเสีย’! ก่อนรฟม.ล้มประมูล ‘สายสีส้ม’ โยน 'บิ๊กตู่' ชี้ขาดกติกาใหม่
รฟม.คาดประมูลรถไฟฟ้า ‘สายสีส้ม’ รอบใหม่ ใช้เวลา 6-8 เดือน
หวั่นโครงการล่าช้า! บอร์ดคัดเลือกฯ ล้มประมูล ‘สายสีส้ม’-รฟม.เร่งร่างทีโออาร์ใหม่
ชี้ขาดวันนี้! จับตาบอร์ดคัดเลือกฯล้มประมูล ‘สายสีส้ม’-ชงครม.รับทราบใช้กติกาใหม่
ร้าวลึก! 'บีทีเอส-ภูมิใจไทย' ขัดแย้ง 'สีส้ม' ลามสัมปทาน ‘สีเขียว’-เบรกต่อขยาย 'สีชมพู'
ทูลเกล้าถวายฎีกา! ‘ประธานบีทีเอส’ กรณีรฟม.แก้กติกาประมูลสาย ‘สีส้ม’
เบื้องลึก ‘รฟม.-บีทีเอส’ ร้องกันนัว เปลี่ยนตัว ‘ตุลาการ’ศาล ปค.คดีแก้ทีโออาร์สายสีส้ม
ศึกชิงสายสีส้ม 1.4 แสนล.เดือด! ‘บีทีเอส’ ร้องสอบวินัย 2 ตุลาการ-เพิกถอนกระบวนพิจารณา)
'ศาลปกครองสูงสุด' นัดไต่สวนคำร้อง คดี 'รฟม.' แก้ทีโออาร์รถไฟฟ้า ‘สายสีส้ม’
ยื่นซองข้อเสนอ 2 ราย! ‘BEM-กลุ่มบีเอสอาร์’ แข่งประมูลรถไฟฟ้า ‘สายสีส้ม’ 1.4 แสนล.
ห้ามใช้หลักเกณฑ์ใหม่ประมูลชั่วคราว! ศาลปค.สั่งคุ้มครองคดีรฟม.แก้ทีโออาร์รถไฟฟ้า 'สีส้ม'
ศาลฯไต่สวนนัดแรก 14 ต.ค.!คดี BTSC ฟ้อง ‘รฟม.’ แก้กติกาประมูลรถไฟฟ้าสาย 'สีส้ม' มิชอบ
รื้อกติกาทำเสียเปรียบ! บีทีเอสห่วงประมูล ‘สายสีส้ม’ ใช้ดุลพินิจมาก-ฟ้องศาลฯใช้TORเดิม
รื้อเกณฑ์ตัดสินประมูล ‘สายสีส้ม’ 1.4 แสนล. 'รฟม.' แหวก ‘กติกา’ รัฐร่วมทุนเอกชน
ครม.ไฟเขียวรถไฟฟ้าสายสีส้ม ‘บางขุนนนท์-มีนบุรี’ 1.42 แสนล.
ปิดดีลรถไฟฟ้า ‘สีส้ม’ ตะวันตก ‘ศักดิ์สยาม’ ชงสัญญาเดียว รัฐอุ้ม 10 ปี 9.6 หมื่นล.
# กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage/