
“…จากตารางเปรียบเทียบประมาณการผลประโยชน์ตอบแทนก่อน-หลังการแก้ไขสัญญาฯ ของ ทอท. ในข้างต้น จะเห็นได้ว่า รัฐอาจจะต้องแบกรับความเสี่ยงที่จะสูญเสียรายได้จากการปรับลดค่าผลประโยชน์ตอบแทนให้กับบริษัทคู่สัญญา เป็นเงินจำนวนประมาณ 18,021,536,596 บาท/ปี หรือคิดเป็นจำนวนประมาณ 180,000 ล้านบาท ตลอดอายุสัญญา 10 ปี (รวมทั้ง 3 สัญญา)…”
........................................
สืบเนื่องจากกรณีที่เมื่อวันที่ 2 ธ.ค.2568 คณะกรรมการ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. ได้มีมติเห็นชอบผลการเจรจาเพื่อหาข้อตกลงในการแก้ไขปัญหาการประกอบกิจการจำหน่ายสินค้าปลอดอากร ณ ท่าอากาศยานที่อยู่ในความรับผิดชอบของ ทอท. ทั้ง 5 แห่ง ประกอบด้วย
ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (ทสภ.) ท่าอากาศยานดอนเมือง (ทดม.) ท่าอากาศยานภูเก็ต (ทภก.) ท่าอากาศยานเชียงใหม่ (ทชม.) และท่าอากาศยานหาดใหญ่ (ทหญ.) ของคณะทำงานเจรจาเพื่อหาข้อตกลงในการแก้ไขปัญหาการประกอบกิจการจำหน่ายสินค้าปลอดอากร ณ ท่าอากาศยานที่อยู่ในความรับผิดชอบของ ทอท.
พร้อมทั้งอนุมัติให้ ทอท. แก้ไขสัญญาอนุญาตให้ประกอบกิจการจำหน่ายสินค้าปลอดอากร ณ ท่าอากาศยานที่อยู่ในความรับผิดชอบของ ทอท.ทั้ง 5 แห่งดังกล่าว ตามผลการเจรจาของคณะทำงานเจรจาฯ ต่อไป (อ่านประกอบ : บอร์ดทอท.เคาะแก้สัญญาดิวตี้ฟรีสนามบิน 5 แห่ง - ครม.รับทราบ ป.ป.ช.ส่งข้อเสนอแนะ)
อย่างไรก็ดี ในวันเดียวกัน (2 ธ.ค.) คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติรับทราบ ‘ข้อเสนอแนะเพื่อป้องกันการทุจริต กรณีศึกษาการแก้ไขสัญญางานให้สิทธิประกอบกิจการจำหน่ายสินค้าปลอดอากรและงานให้สิทธิประกอบกิจการบริหารจัดการกิจกรรมเชิงพาณิชย์ภายในอาคารผู้โดยสารให้กับคู่สัญญาของ ทอท.’ ตามที่ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เสนอ
โดย ครม. มอบหมายให้กระทรวงการคลัง เป็นหน่วยงานหลักรับเรื่องนี้ไปพิจารณาร่วมกับกระทรวงคมนาคม สำนักงานอัยการสูงสุด และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ได้ข้อยุติ และให้กระทรวงการคลังสรุปผลการพิจารณา ผลการดำเนินการในภาพรวม แล้วส่งให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี เพื่อนำเสนอ ครม. ต่อไป นั้น (อ่านประกอบ : เปิดข้อเสนอ ป.ป.ช.สกัดทุจริตแก้สัญญาดิวตี้ฟรี ต้องไม่เอื้อ'บางราย'-ทำตามกม.วินัยการเงินฯ)
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) พบว่า จากรายงาน ‘ข้อเสนอแนะเพื่อป้องกันการทุจริต กรณีศึกษาการแก้ไขสัญญางานให้สิทธิประกอบกิจการจำหน่ายสินค้าปลอดอากรและงานให้สิทธิประกอบกิจการบริหารจัดการกิจกรรมเชิงพาณิชย์ภายในอาคารผู้โดยสารให้กับคู่สัญญาของ ทอท.’ ของ ป.ป.ช. ที่เสนอ ครม. นั้น
รายงานฉบับดังกล่าว ได้นำเสนอผลศึกษาฯเกี่ยวกับผลกระทบจากการแก้ไขสัญญางานให้สิทธิประกอบกิจการจำหน่ายสินค้าปลอดอากร และงานให้สิทธิประกอบกิจการบริหารจัดการกิจกรรมเชิงพาณิชย์ภายในอาคารผู้โดยสาร ของ ทอท. ในช่วงปี 2563 เพื่อช่วยเหลือเอกชนคู่สัญญา คือ ‘กลุ่มคิงเพาเวอร์’ อันเป็นผลสืบเนื่องจากสถานการณ์โควิด-19
โดยผลการศึกษาฯพบว่า ในการแก้ไขสัญญางานให้สิทธิประกอบกิจการจำหน่ายสินค้าปลอดอากร และงานให้สิทธิประกอบกิจการบริหารจัดการกิจกรรมเชิงพาณิชย์ฯ รวม 3 สัญญา ในครั้งนั้น ทำให้รัฐอาจจะต้องแบกรับความเสี่ยงที่จะสูญเสียรายได้จากการปรับลดค่าผลประโยชน์ตอบแทนให้กับบริษัทคู่สัญญา เป็นเงิน 18,021 บาท/ปี หรือ 1.8 แสนล้านบาท ตลอดอายุสัญญา 10 ปี มีรายละเอียด ดังนี้
@กลุ่ม‘คิงเพาเวอร์’ชนะประมูล‘ดิวตี้ฟรี-บริหารพื้นที่ฯ’ 3 สัญญา
สัญญางานให้สิทธิประกอบกิจการจำหน่ายสินค้าปลอดอากร และงานให้สิทธิประกอบกิจการบริหารจัดการกิจกรรมเชิงพาณิชย์ภายในอาคารผู้โดยสาร ของบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด มหาชน (ทอท.)
-เมื่อวันที่ 29 มี.ค.2562 ทอท. ได้ออกประกาศ 2 ฉบับ ผ่านเว็บไซต์ของ ทอท.
โดยฉบับแรก ได้ประกาศเชิญชวนผู้ที่สนใจเข้าร่วมประมูลสิทธิประกอบกิจการจำหน่ายสินค้าปลอดอากร ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ และฉบับที่ 2 ประกาศเชิญชวนผู้ที่สนใจเข้าร่วมประมูลสิทธิประกอบกิจการบริหารจัดการกิจกรรมเชิงพาณิชย์ภายในอาคารผู้โดยสาร ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ
และวันที่ 1 เม.ย.2562 ทอท. ได้เผยแพร่ประกาศเพิ่มเติมอีก 1 ฉบับ คือ ประกาศเชิญชวนผู้ที่สนใจเข้าร่วมประมูลสิทธิประกอบกิจการจำหน่ายสินค้าปลอดอากร ณ ท่าอากาศยานภูเก็ต ท่าอากาศยานเชียงใหม่ และท่าอากาศยานหาดใหญ่
-ต่อมา เมื่อวันที่ 18 เม.ย.2562 คณะกรรมการนโยบายการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน หรือ คณะกรรมการ PPP มีมติว่า กิจการจำหน่ายสินค้าปลอดอากร (Duty Free) ไม่ถือว่าเป็นกิจการเกี่ยวเนื่องที่จำเป็น จึงไม่ต้องดำเนินการภายใต้ พ.ร.บ.การร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน พ.ศ.2562 แต่เป็นการดำเนินการเชิงพาณิชย์ของ ทอท. ดังนั้น จึงสามารถดำเนินการประมูลต่อไปได้
-ทอท.ได้มีกำหนดการนำเสนอข้อเสนอทางเทคนิคโครงการให้สิทธิประกอบกิจการจำหน่ายสินค้าปลอดอากร (Duty Free) ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ในวันที่ 27-28 พ.ค.2562 และกำหนดการนำเสนอข้อเสนอทางเทคนิคโครงการให้สิทธิประกอบกิจการบริหารจัดการกิจกรรมเชิงพาณิชย์ภายในอาคารผู้โดยสาร ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ในวันที่ 29- 30 พ.ค.2562
-ทอท.ประกาศผลคะแนนสูงสุดของผู้ชนะการประมูลโครงการให้สิทธิประกอบกิจการจำหน่ายสินค้าปลอดอากร ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ และโครงการให้สิทธิประกอบกิจการบริหารจัดการกิจกรรมเชิงพาณิชย์ ภายในอาคารผู้โดยสาร ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เมื่อวันที่ 31 พ.ค.2562
-ทอท.กำหนดการนำเสนอข้อเสนอทางเทคนิคโครงการให้สิทธิประกอบกิจการจำหน่ายสินค้าปลอดอากร ณ ท่าอากาศยานภูเก็ต ท่าอากาศยานเชียงใหม่ และท่าอากาศยานหาดใหญ่ ในวันที่ 5 มิ.ย.2562 และประกาศผลคะแนนสูงสุดของผู้ชนะโครงการฯ ในวันที่ 10 มิ.ย.2562
-วันที่ 19 มิ.ย.2562 คณะกรรมการ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) (ทอท.) มีมติอนุมัติผลการประมูลให้สิทธิเอกชนประกอบกิจการ จำนวน 3 โครงการ ดังนี้
(1) โครงการให้สิทธิประกอบกิจการจำหน่ายสินค้าปลอดอากร ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ผู้ชนะ คือ บริษัท คิงเพาเวอร์ ดิวตี้ฟรี จำกัด
(2) โครงการให้สิทธิประกอบกิจการบริหารจัดการกิจกรรมเชิงพาณิชย์ ภายในอาคารผู้โดยสาร ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ผู้ชนะ คือ บริษัท คิงเพาเวอร์ สุวรรณภูมิ จำกัด
(3) โครงการให้สิทธิประกอบกิจการจำหน่ายสินค้าปลอดอากร ณ ท่าอากาศยานภูเก็ต ท่าอากาศยานเชียงใหม่ และท่าอากาศยานหาดใหญ่ ผู้ชนะ คือ บริษัท คิงเพาเวอร์ ดิวตี้ฟรี จำกัด
-กำหนดลงนามในสัญญาในเดือน ก.ค.2562
ทั้งนี้ จากการศึกษาพบว่า ทั้ง 3 สัญญามีรายละเอียดที่สำคัญ ดังนี้
(1) สัญญาอนุญาตให้ประกอบกิจการจำหน่ายสินค้าปลอดอากร ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ สัญญาที่ ทสภ. (CM) DF-1-20/2562 ลงวันที่ 4 ก.ค.2562 ทอท. ทำสัญญาอนุญาตให้บริษัท คิง เพาเวอร์ ดิวตี้ฟรี จำกัด (KPD) ประกอบกิจการจาหน่ายสินค้าปลอดอากร ณ ภายในอาคารผู้โดยสาร ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ มีอายุสัญญา 10 ปี 6 เดือน ระหว่างวันที่ 28 ก.ย.2563 ถึง 31 มี.ค.2574
ในสัญญากำหนดให้ KPD ชำระค่าผลประโยชน์ตอบแทนให้ ทอท. เป็นรายเดือนในอัตราร้อยละ 20 ของยอดรายได้จากการประกอบกิจการในรอบเดือนนั้นๆ ก่อนหักค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น หรือตามจำนวนเงินค่าผลประโยชน์ตอบแทนขั้นต่ำรายเดือนเฉลี่ยตามจำนวนเงินค่าผลประโยชน์ตอบแทนขั้นต่ำรายปี (Minimum guarantee) โดยในปีแรกเป็นเงินจานวน 15,419 ล้านบาท แล้วแต่จำนวนใดจะสูงกว่า
(2) สัญญาอนุญาตให้ KPD ประกอบกิจการจำหน่ายสินค้าปลอดอากร ณ ท่าอากาศยานภูเก็ต เชียงใหม่และหาดใหญ่ สัญญาที่ ทอท. DF-1-02/2562 ลงวันที่ 4 ก.ค.2562 มีอายุสัญญา 10 ปี 6 เดือน ระหว่างวันที่ 28 ก.ย.2563 ถึง 31 มี.ค.2574
ในสัญญากำหนดให้ KPD ชำระค่าผลประโยชน์ตอบแทนให้ ทอท. เป็นรายเดือน ในอัตราร้อยละ 20 ของยอดรายได้จากการประกอบกิจการในรอบเดือนนั้นๆ ก่อนหักค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น หรือตามจำนวนเงินค่าผลประโยชน์ตอบแทนขั้นต่ำรายเดือนเฉลี่ยตามจำนวนเงินค่าผลประโยชน์ตอบแทนขั้นต่ำรายปี (Minimum guarantee) โดยในปีแรกเป็นเงินจานวน 2,331 ล้านบาท แล้วแต่จำนวนใดจะสูงกว่า
(3) สัญญาอนุญาตให้บริษัทคิงเพาเวอร์ สุวรรณภูมิ จำกัด (KPS) ประกอบกิจการบริหารจัดการกิจกรรมเชิงพาณิชย์ ภายในอาคารผู้โดยสาร ณ ท่าอากาศสุวรรณภูมิ สัญญาที่ ทสภ.(CM) MC-1-21/2562 ลงวันที่ 4 ก.ค.2562 ทอท. ทำสัญญาอนุญาตให้ KPS ประกอบกิจการบริหารจัดการกิจกรรมเชิงพาณิชย์ ภายในอาคารผู้โดยสาร ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ มีอายุสัญญา 10 ปี 6 เดือน ระหว่างวันที่ 28 ก.ย.2563 ถึง 31 มี.ค.2574
ในสัญญากำหนดให้ KPS ชำระค่าผลประโยชน์ตอบแทนให้ ทอท. เป็นรายเดือน ในอัตราร้อยละ 15 ของยอดรายได้จากการประกอบกิจการในรอบเดือนนั้นๆ ก่อนหักค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น หรือตามจำนวนเงินค่าผลประโยชน์ตอบแทนขั้นต่ำรายเดือนเฉลี่ยตามจำนวนเงินค่าผลประโยชน์ตอบแทนขั้นต่ำรายปี (Minimum guarantee) โดยในปีแรกเป็นเงินจานวน 5,798 ล้านบาท แล้วแต่จำนวนใดจะสูงกว่า

จากตารางในข้างต้น มีคำอธิบายเพิ่มเติม ดังนี้
1.ผลตอบแทนรายปีของสัญญาฉบับเดิม เป็นประมาณการรายได้ที่ ทอท. จะได้รับในปี 2563
2.ผลประโยชน์ตอบแทน (ร้อยละ) เป็นการเรียกเก็บผลประโยชน์ตอบแทนรายเดือนในอัตราร้อยละของรายได้จากการประกอบกิจการในรอบเดือนก่อนหักค่าใช้จ่าย
3.ผลตอบแทนขั้นต่ำตลอดสัญญา (ฉบับเดิม) เป็นการคำนวนเบื้องต้นโดยนำตัวเลขประมาณการผลตอบแทนล่าสุดคูณกับอายุสัญญา 14 ปี
4.ในการเรียกเก็บผลประโยชน์ตอบแทนตามสัญญา จะเลือกระหว่างอัตราผลตอบแทนรายเดือนร้อยละ 15-20 หรือค่าตอบแทนขั้นต่ำที่คู่สัญญาเสนอ โดย ทอท. จะปรับค่าผลตอบแทนขั้นต่ำรายปีเพิ่มขึ้นให้สอดคล้องกับอัตราเงินเฟ้อ และอัตราการเติบโตของจำนวนผู้โดยสาร
@‘ทอท.’แก้ 3 สัญญาอุ้ม‘เอกชน’ รัฐสูญรายได้ 1.8 แสนล.
รายละเอียดการแก้ไขสัญญางานให้สิทธิประกอบกิจการจำหน่ายสินค้าปลอดอากร และงานให้สิทธิประกอบกิจการบริหารจัดการกิจกรรมเชิงพาณิชย์ภายในอาคารผู้โดยสาร ของบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด มหาชน (ทอท.)
-หลังจากการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ในช่วงเดือน ม.ค.2563 ในการประชุมคณะกรรมการ ทอท. ครั้งที่ 3/2563 เมื่อวันที่ 19 ก.พ.2563 ที่ประชุมมีมติอนุมัติแนวทางให้ความช่วยเหลือผู้ประกอบการ ณ ท่าอากาศยานของ ทอท. ทั้ง 6 แห่ง เนื่องจากได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19)
โดยปรับลดค่าผลประโยชน์ตอบแทนคงที่รายเดือน ตั้งแต่วันที่ 1 ก.พ.2563 ถึง 31 ม.ค.2564 ในอัตราร้อยละ 20 และสำหรับสัญญาที่เรียกเก็บค่าผลประโยชน์ตอบแทนในอัตราร้อยละ และมีการกำหนดค่าผลประโยชน์ตอบแทนขั้นต่ำรายเดือนหรือรายปี ให้เรียกเก็บเฉพาะค่าผลประโยชน์ตอบแทนในอัตราร้อยละ ตั้งแต่วันที่ 1 ก.พ.2563 ถึงวันที่ 31 มี.ค. 2565 (และต่อมาได้ขยายระยะเวลามาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการและสายการบิน เป็นสิ้นสุด ณ วัน ที่ 31 มี.ค.2566 คณะกรรมการ ทอท. ครั้งที่ 14/2564 เมื่อวันที่ 25 พ.ย.2564)
-คณะกรรมการ ทอท. ในการประชุมครั้งที่ 7/2563 เมื่อวันที่ 17 มิ.ย.2563 มีมติให้ขยายระยะเวลาปรับปรุงตกแต่งพื้นที่ให้กับผู้รับสัมปทานออกไปอีก 1 ปี ทำให้ ทอท. ไม่สามารถเรียกเก็บค่าเช่าได้ และมีมติให้ขยายอายุสัญญาสัมปทานงานให้สิทธิประกอบกิจการจำหน่ายสินค้าปลอดอากร ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ท่าอากาศยานภูเก็ต ท่าอากาศยานเชียงใหม่ และท่าอากาศยานหาดใหญ่
และงานให้สิทธิประกอบกิจการบริหารจัดการกิจกรรมเชิงพาณิชย์ภายในอาคารผู้โดยสาร ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ของบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด มหาชน (ทอท.) จากเดิมสิ้นสุดในปี 2574 เป็น 2575
-คณะกรรมการ ทอท. ในการประชุมครั้งที่ 8/2563 เมื่อวันที่ 29 ก.ค.2563 ที่ประชุมมีมติอนุมัติให้เรียกเก็บค่าผลประโยชน์ตอบแทนขั้นต่ำของสัญญาอนุญาตให้ประกอบกิจการจำหน่ายสินค้าปลอดอากร ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ สัญญาอนุญาตให้ประกอบกิจการจำหน่ายสินค้าปลอดอากร ณ ท่าอากาศยานภูเก็ต ท่าอากาศยานเชียงใหม่ และท่าอากาศยานหาดใหญ่
และสัญญาอนุญาตให้ประกอบกิจการบริหารจัดการกิจกรรมเชิงพาณิชย์ภายในอาคารผู้โดยสาร ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ภายหลังสิ้นสุดมาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการตามมติคณะกรรมการ ทอท. ครั้งที่ 3/2563
โดยพิจารณาจากค่าผลประโยชน์ตอบแทนขั้นต่ำต่อผู้โดยสาร (Sharing Per Head) และจำนวนผู้โดยสารที่เกิดขึ้นจริง ไปจนกว่าจำนวนผู้โดยสารจริงของ ทอท. มีจำนวนเท่ากับหรือมากกว่าจำนวนผู้โดยสารตามประมาณการของบริษัท คิง เพาเวอร์ ดิวตี้ฟรี จำกัด (KPD) หรือบริษัท คิง เพาเวอร์ สุวรรณภูมิ จำกัด (KPS) แล้วแต่กรณี ในปี 2564 ที่อ้างอิงจากเอกสารการประมูล
โดยในปีถัดไปจากวรรคแรก ทอท. จะเรียกเก็บค่าผลประโยชน์ตอบแทนขั้นต่ำ โดยใช้สูตรการคำนวณ MAG(i) (พิจารณาจากอัตราการเจริญเติบโตของผู้โดยสารประกอบกับอัตราเงินเฟ้อของปีปฏิทินก่อนหน้า)
จากข้อมูลข้างต้น จะเห็นได้ว่าการแก้ไขสัญญางานให้สิทธิประกอบกิจการจาหน่ายสินค้าปลอดอากร และงานให้สิทธิประกอบกิจการบริหารจัดการกิจกรรมเชิงพาณิชย์ภายในอาคารผู้โดยสารของบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด มหาชน (ทอท.) เป็นการดำเนินการโดยเสนอเรื่องต่อคณะกรรมการ ทอท. เพื่อพิจารณาอนุมัติ
และได้ดำเนินการแก้ไขสัญญา โดยอาศัยมติที่ประชุมคณะกรรมการ ทอท. ซึ่งเป็นการปรับเปลี่ยนการคำนวณผลประโยชน์ตอบแทนขั้นต่ำ ที่แตกต่างจากเงื่อนไขที่กำหนดใน TOR และในสัญญาฉบับก่อนแก้ไข รวมถึงการขยายระยะเวลาของสัญญาด้วย

การเปรียบเทียบประมาณการผลประโยชน์ตอบแทนก่อน–หลังการแก้ไขสัญญางานให้สิทธิประกอบกิจการจำหน่ายสินค้าปลอดอากร และงานให้สิทธิประกอบกิจการบริหารจัดการกิจกรรมเชิงพาณิชย์ภายในอาคารผู้โดยสาร ของบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด มหาชน (ทอท.)

จากตารางเปรียบเทียบประมาณการผลประโยชน์ตอบแทนก่อน-หลังการแก้ไขสัญญาฯ ของ ทอท. ในข้างต้น จะเห็นได้ว่า รัฐอาจจะต้องแบกรับความเสี่ยงที่จะสูญเสียรายได้จากการปรับลดค่าผลประโยชน์ตอบแทนให้กับบริษัทคู่สัญญา เป็นเงินจำนวนประมาณ 18,021,536,596 บาท/ปี หรือคิดเป็นจำนวนประมาณ 180,000 ล้านบาท ตลอดอายุสัญญา 10 ปี (รวมทั้ง 3 สัญญา)
เหล่านี้เป็นรายละเอียดผลการศึกษาฯของ ‘ป.ป.ช.’ กรณีการแก้ไขสัญญางานให้สิทธิประกอบกิจการจำหน่ายสินค้าปลอดอากร และงานให้สิทธิประกอบกิจการบริหารจัดการกิจกรรมเชิงพาณิชย์ภายในอาคารผู้โดยสาร ของ ทอท. เพื่อช่วยเหลือ ‘เอกชนคู่สัญญา’ ในช่วงปี 2563 ซึ่งทำให้รัฐสูญเสียรายได้ 1.8 แสนล้านบาท ตลอดอายุสัญญา 10 ปี
และต้องติดตามกันต่อไปว่า ในการแก้ไขสัญญางานให้สิทธิประกอบกิจการจำหน่ายสินค้าปลอดอากร และงานให้สิทธิประกอบกิจการบริหารจัดการกิจกรรมเชิงพาณิชย์ภายในอาคารผู้โดยสาร ‘รอบ 2’ เพื่อช่วยเหลือ ‘กลุ่มคิงเพาเวอร์’ ซึ่ง บอร์ด ทอท. มีมติเห็นชอบไปเมื่อวันที่ 2 ธ.ค.2568 นั้น รัฐจะต้องแบกรับความเสี่ยงที่จะสูญเสียรายได้อีกเท่าไหร่!
อ่านประกอบ :
เปิดข้อเสนอ ป.ป.ช.สกัดทุจริตแก้สัญญาดิวตี้ฟรี ต้องไม่เอื้อ'บางราย'-ทำตามกม.วินัยการเงินฯ
บอร์ดทอท.เคาะแก้สัญญาดิวตี้ฟรีสนามบิน 5 แห่ง - ครม.รับทราบ ป.ป.ช.ส่งข้อเสนอแนะ
จ่อสรุปผลการศึกษา ‘ปัญหาดิวตี้ฟรี คิงเพาเวอร์’ ก.ย.นี้ ยันถ้าประมูลใหม่ยึดประโยชน์ ทอท. สูงสุด
เสียปย. 1.8 หมื่นล./ปี! ทอท.โชว์ผลกระทบแก้สัญญา‘ดิวตี้ฟรี’ปี 63 ก่อนอุ้ม‘คิงเพาเวอร์’รอบ2
ทอท.แจ้งตลาดหลักทรัพย์ฯ‘คิงเพาเวอร์’ขอเลิกดิวตี้ฟรี 5 สนามบิน รวม‘สุวรรณภูมิ-ดอนเมือง’
คิงเพาเวอร์ขอเลิกสัญญาดิวตี้ฟรี 3 สนามบินทอท. ‘ภูเก็ต-เชียงใหม่-หาดใหญ่’
‘ป.ป.ช.’ตั้ง‘คกก.ไต่สวน’ ปม‘ทอท.’แก้สัญญา‘ดิวตี้ฟรี-พื้นที่พาณิชย์’ส่อเอื้อ‘คิงเพาเวอร์’
ครม.รับทราบแนวทางยกเลิก‘ดิวตี้ฟรี’ขาเข้า กระตุ้น'นักท่องเที่ยว'จับจ่ายใช้สอยในประเทศ
'ชาญชัย'อุทธรณ์คดีฟ้อง'ทอท.'ปมแก้ไขสัญญาดิวตี้ฟรี หลัง'ศาลคดีทุจริตฯ'ชี้ไม่ใช่ผู้เสียหาย
ไม่ใช่ผู้เสียหาย! 'ศาลอาญาคดีทุจริตฯ'ยกฟ้องคดี'ทอท.'แก้สัญญาดิวตี้ฟรี-'ชาญชัย'จ่ออุทธรณ์
พลิกคำแถลงฯ‘อัยการ’แก้ต่าง คดีฟ้อง‘ทอท.’แก้สัญญา‘ดิวตี้ฟรี’มิชอบ ก่อนศาลฯนัดชี้มูล ก.พ.66
‘ศาลคดีทุจริตฯ’นัดชี้มูล คดี‘ทอท.’แก้สัญญา‘ดิวตี้ฟรี-พื้นที่เชิงพาณิชย์’ 28 ก.พ.ปีหน้า
ศาลคดีทุจริตฯ นัดสืบพยานปาก 'ผู้แทน สศค.' คดี 'ทอท.' แก้สัญญา' ดิวตี้ฟรี 7 ธ.ค.นี้
'ศาลคดีทุจริตฯ'นัด'พยานปากสุดท้าย'ไต่สวนมูลฟ้อง คดี'ทอท.'แก้สัญญา'ดิวตี้ฟรี' ต.ค.นี้
ย้อนบันทึก'บอร์ด ทอท.' ต่อเวลาอุ้ม'สายการบิน-ดิวตี้ฟรี' พยุงรายได้ปี 65 แตะ 2 หมื่นล.
'ศาลคดีทุจริตฯ'แจ้ง'ผู้ตรวจการแผ่นดิน'ส่งผู้แทนเบิกความเป็นพยาน คดีแก้สัญญา'ดิวตี้ฟรี'
ศาลคดีทุจริตฯ เรียก 5 หน่วยงาน ให้ข้อเท็จจริง คดีฟ้อง'ทอท.'แก้สัญญา'ดิวตี้ฟรี'มิชอบ
เป็นอำนาจบอร์ด! 'ทอท.' ย้ำแก้สัญญา ‘ดิวตี้ฟรี’ ไม่เข้าข่ายพ.ร.บ.วินัยการเงินการคลังฯ
‘สคร.กลับลำ! ร่อนหนังสือแจ้ง‘ทอท.’แก้สัญญาดิวตี้ฟรี ไม่เข้าข่าย พ.ร.บ.วินัยการเงินฯ
'ศาลอุทธรณ์' พิพากษากลับ ยกฟ้อง ‘ชาญชัย’ คดีหมิ่นประมาท ‘คิงเพาเวอร์’
‘สคร.’ร่อน‘หนังสือลับ’สั่ง‘ทอท.’แจงปมแก้ไขสัญญา‘ดิวตี้ฟรี-บริหารพื้นที่เชิงพาณิชย์’
เลื่อนนัดสืบพยานฝ่ายโจทก์! คดี‘ชาญชัย’ฟ้อง‘ทอท.’แก้สัญญา'ดิวตี้ฟรี'เสียหาย 4.2 หมื่นล.

Isranews Agency | สำนักข่าวอิศรา