ขมวดข้อสงสัย 4 เรื่อง : กรณีที่ดินมรดกโฉนด 14 ไร่ อ.ปราณบุรี 18 ล. - เงินให้กู้น้องชาย 15 ล. - คอนโดฯตัวเอง กับ น้องชาย 60.5 ล. - ธุรกิจ บ.น้ำมันรำข้าว บ.ออยล์ฟอร์ไลฟ์ในครอบครัว แคนดิเดตนายกฯ ‘พิธา ลิ้มเจริญรัตน์’ (ยัง) ไม่ตอบคำถามต่อสาธารณะ?
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รวบรวมเงื่อนปมที่ยังไม่มีความกระจ่างต่อกรณีการยื่นบัญชีรายการทรัพย์สินและหนี้สินของ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี และ ธุรกิจน้ำมันรำข้าวของครอบครัว ดังนี้
1.กรณีโฉนดที่ดิน 14 ไร่ อ.ปราณบุรี ทำไมแจ้ง ป.ป.ช. 18 ล้าน?
นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ตอนรับตำแหน่ง ส.ส. วันที่ 25 พ.ค.2562 ถือครองที่ดินตามโฉนดเลขที่ 13543 ในต.วังก์พง อ.ปราณบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ เนื้อที่ 14 ไร่ 62.7 ตารางวา มูลค่า 18 ล้านบาท
สำนักข่าวอิศราตรวจ สอบพบว่า เมื่อวันที่ 27 มี.ค.2566 นายพิธาจดทะเบียนขายที่ดินแปลงนี้ในราคา 6,500,000 บาท ( 6.5 ล้านบาท) ในขณะที่ราคาที่ดินที่เจ้าหน้าที่ประเมินราคาที่ดินแปลงนี้อยู่ที่ 8,777,185 บาท เท่ากับนายพิธาจดทะเบียนขายในราคาต่ำกว่าราคาประเมิน 2,277,185 บาท โดยนายพิธาอ้างว่าที่ดินบางส่วนมีสภาพเป็นบ่อน้ำ และต่ำกว่าราคาที่แจ้งในบัญชีทรัพย์สินถึง 11,500,000 บาท
ต่อมา สำนักข่าวอิศราตรวจสอบพบว่า ที่ดินแปลงนี้นายพิธาได้รับโอนมรดกจากนายพงษ์ศักดิ์ ลิ้มเจริญรัตน์ บิดา เมื่อวันที่ 10 เม.ย.2560 ในวันจดทะเบียนรับโอนมรดก นายพิธาระบุราคาประเมินอยู่ที่ 3,680,755 บาท ( 3.6 ล้านบาท) แต่นายพิธาแจ้งในบัญชีทรัพย์สินกรณีรับตำแหน่ง ส.ส. วันที่ 25 พ.ค.2562 มูลค่า 18 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นประมาณ 5 เท่าในช่วงไม่ถึง 2 ปี
นายพิธามีแรงจูงใจหรือเอาเกณฑ์มาตรฐานใดในการตีมูลค่าราคาที่ดินแล้วแจ้ง ป.ป.ช.ถึง 18 ล้านบาท ?
@ ปริศนา! ยกเลิกรังวัดสอบเขตโฉนดที่ดิน
นอกจากเงื่อนปมดังกล่าว สำนักข่าวอิศรา ตรวจสอบพบว่า ในวันจดทะเบียนรับโอนมรดก วันที่ 10 เม.ย.2560 นายพิธายื่นขอรังวัดสอบเขตโฉนดที่ดินต่อสำนักงานที่ดินประจวบคีรีขันธ์สาขาปราณบุรี วันที่ 9 มิ.ย.2560 นายพิธาได้มานำรังวัด และอ้างว่าที่ดินมีต้นไม้ใหญ่ขึ้นเต็มพื้นที่ ไม่สามารถนำรังวัดได้ ต้องใช้เครื่องจักร จึงทำบันทึกขอเลื่อนไปอีก 50 วัน หลังจากนั้นนายพิธาไม่ได้ติดต่อขอรังวัดสอบเขตโฉนดที่ดินอีกเลย เจ้าหน้าที่สำนักงานที่ดินได้ทำหนังสือแจ้งให้มานำรังวัดถึง 2 ครั้ง เมื่อวันที่ 27 ต.ค. 2563 และวันที่ 3 ธ.ค.2563 แต่นายพิธามิได้ไปติดต่อ ทำให้เจ้าหน้าที่ทำหนังสือแจ้งคำสั่งยกเลิกคำขอรังวัดสอบเขตโฉนดที่ดินของนายพิธาเมื่อวันที่ 14 ม.ค.2564
ทำให้เกิดข้อสงสัยว่าเหตุใดนายพิธายกเลิกขอรังวัดสอบเขตโฉนด และถ้าหากรังวัดฯ เนื้อที่ตามโฉนด จะครบ 14 ไร่ ตามหน้าโฉนดหรือไม่?
กระทั่ง นายพิธา ขายที่ดินแปลงนี้เมื่อ 27 มี.ค. 2566
2.กรณีปล่อยเงินกู้ให้น้องชาย 15 ล.
ในการยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินของนายพิธา กรณีพ้นตำแหน่ง ส.ส.บัญชีรายชื่อ เมื่อวันที่ 20 มี.ค. 2566 แจ้งมีทรัพย์สิน 85,023,720 บาท หนี้สิน 20,740,176 บาท รวมมีทรัพย์สินมากกว่าหนี้สิน 64,283,544 บาท เปรียบเทียบข้อมูลทรัพย์สินและหนี้สิน ที่แจ้งไว้กรณีเข้ารับตำแหน่ง ส.ส. วันที่ 25 พ.ค.2562 ระบุว่า มีทรัพย์สิน137,785,190.55 บาท หนี้สิน 22,954,064 บาท รวมมีทรัพย์สินมากกว่าหนี้สิน 114,831,126.85 บาท เปรียบเทียบการยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สิน 2 ครั้ง ทรัพย์สินลดลงไปจากเดิมหลายส่วน ซึ่งส่วนหนึ่งมาจากทรัพย์สินของอดีตภรรยา
ที่น่าสนใจการยื่นบัญชีฯครั้งที่ 2 นี้นายพิธาแจ้งมีเงินให้กู้ยืม จำนวน 15,000,000 บาท ผู้กู้คือ นายภาษิณ ลิ้มเจริญรัตน์ ‘น้องชาย’ ทำสัญญากู้ยืมเมื่อ 15 ธ.ค. 2563 ทำที่ ซอยพร้อมมิตร แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพมหานคร ลงวันที่ 15 ธันวาคม 2563 เพื่อไปชำระหนี้และ/หรือปลดเปลื้องภาระหนี้ผูกพันอื่นๆของผู้กู้ ที่มีผลต่อสถาบันการเงิน และ/หรือเจ้าหนี้อื่นๆตามกฎหมาย ปัจจุบันนายภาษิณได้รับเงินไปแล้ว กำหนดระยะเวลาการกู้ยืม 5 ปี คิดดอกเบี้ยเงินกู้ต่อกันในอัตราร้อยละ 2 (สอง) ต่อปีในต้นเงินกู้ดังกล่าว นับแต่วันทำสัญญาฉบับนี้เป็นต้นไปจนกว่าจะชำระสำเร็จ
กรณีดังกล่าวเมื่อพิจารณาจากเงินฝากพบว่า นายพิธายื่นบัญชีทรัพย์สินกรณีรับตำแหน่ง ส.ส. วันที่ 25 พ.ค. 2562 แจ้งว่ามีเงินสด 1,800,000 บาท และ เงินฝาก 2,706,859.21 บาท (ก่อนทำสัญญาปล่อยกู้ 15 ล้านบาท 1 ปีเศษ)
และกรณีพ้นตำแหน่ง ส.ส. 20 มี.ค. 2566 แจ้งว่า มีเงินสด 1,800,000 บาท (เท่าเดิม) และเงินฝาก 286,045.70 บาท
ข้อสงสัย
นายพิธา เอาแหล่งเงินจากไหนมาให้น้องชายกู้ยืม?
น้องชายนำเงินจำนวน 15 ล้านบาทไปใช้หนี้ เจ้าหนี้สถาบันการเงินหรือเจ้าหนี้รายใด?
3.กรณีคอนโดฯ 2 รายการ มูลค่า 60.5 ล้านบาท หายไปไหน?
@ กรณีเข้ารับตำแหน่ง ส.ส. 25 พ.ค.2562 นายพิธาแจ้งว่ามีโรงเรือนและสิ่งปลูกสร้าง มูลค่า 60,500,000 บาท จำนวน 3 รายการ ได้แก่
ลำดับที่ 1 ห้องชุดแขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพฯ มูลค่า 15 ล้านบาท ไม่ได้ระบุข้อมูลรายละเอียดตั้งอยู่บนโฉนดและวันเดือนปีที่ได้มา และปิดทับข้อมูลเลขที่ห้อง (นายพิธาหมายเหตุว่าเป็นของน้องชายแต่ผู้ยื่นพักอาศัย)
ลำดับที่ 2 ห้องชุดแขวงพระโขนง เขตคลองเตย กรุงเทพฯ มูลค่า 45 ล้านบาทไม่ได้ระบุข้อมูลตั้งอยู่บนโฉนดและวันเดือนปีที่ได้มา และปิดทับข้อมูลเลขที่ห้อง (นายพิธาหมายเหตุว่าเป็นของผู้ยื่น)
ลำดับที่ 3 บ้านเลขที่ (ปิดบังเลขที่) แขวงพระโขนง เขตคลองเตย กรุงเทพฯ ไม่ระบุมูลค่า (นายพิธาหมายเหตุว่าตั้งอยู่บนที่ดิน ทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ (ดูเอกสาร)
@ กรณีพ้นตำแหน่ง ส.ส. วันที่ 20 มี.ค. 2566 นายแจ้งว่ามีโรงเรือนและสิ่งปลูกสร้าง 1 รายการ มูลค่าปัจจุบัน 15,000,000 บาท เป็นห้องชุดในคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพฯ โดยปิดทับเลขที่ห้อง และไม่ได้หมายเหตุ รายละเอียด
เปรียบเทียบการยื่นบัญชีฯ 2 ครั้ง โรงเรือนและสิ่งปลูกสร้าง ‘ลดลง’ 2 รายการ จำนวน 45.5 ล้านบาท รายการที่ลดลง (หายไปจากบัญชีฯในครั้งล่าสุด) ได้แก่ รายการที่ 2 คือ ห้องชุดแขวงพระโขนง เขตคลองเตย กรุงเทพฯ มูลค่า 45.5 ล้านบาท และ รายการที่ 3 บ้านบนที่ดินทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ แขวงพระโขนง เขตคลองเตย กรุงเทพฯ เหลือเพียงห้องชุดในคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพฯ มูลค่า 15 ล้านบาทเท่านั้น
ข้อสังเกต
(1.) กรณีคอนโดฯของน้องชาย- ถ้าคอนโดฯที่แจ้งไว้ในบัญชีทรัพย์สินฯในปัจจุบัน คือรายการเดียวกับ ห้องชุดในคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพฯ มูลค่า 15 ล้านบาท ซึ่งก่อนหน้านี้แจ้งว่าเป็นของน้องชายแต่นายพิธาผู้ยื่น พักอาศัย แล้วนายพิธาเป็นเจ้าของได้อย่างไร น้องชาย ยกให้ หรือ ซื้อขาย ธุรกรรมเกิดขึ้นเมื่อไหร่ ?
(2.) กรณีห้องชุดแขวงพระโขนง เขตคลองเตย มูลค่า 45.5 ล้านบาท ที่หายไป
ข้อมูลที่อยู่ - นายพิธาแจ้งที่อยู่ในบัญชีทรัพย์สิน 2 ครั้งแตกต่างกัน - กรณีรับตำแหน่ง ส.ส. ปี 2562 แจ้งอยู่ที่ Silver Heritage Condominium สุขุมวิท 38 แขวงพระโขนง เขตคลองเตย กรุงเทพฯ และ ที่อยู่ครั้งล่าสุด ปี 2566 กรณีพ้นตำแหน่ง ส.ส. The Amethyst (หรือ ดิ แอมมิธิส) สุขุมวิท 39 ถนนสุขุมวิท แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพฯ (ที่อยู่นี้อาจเป็นคอนโดฯรายการที่แสดงในบัญชีฯระบุห้องชุดในคลองตันเหนือ มูลค่า 15 ล้านบาท ? )
ข้อมูลรายได้ -นายพิธาแจ้งในบัญชีฯครั้งล่าสุดกรณี พ้นตำแหน่ง ส.ส. มีรายได้จากการขายคอนโดปี 2563 จำนวน 13,673,506 บาท แต่ไม่ได้ระบุรายละเอียด
ถ้าคอนโดฯที่ถูกขาย คือ ห้องชุดแขวงพระโขนง เขตคลองเตย กรุงเทพฯ (ซึ่งนายพิธาแจ้งในบัญชีทรัพย์สินมูลค่า 45.5 ล้านบาท) เท่ากับขายในราคาต่ำกว่าที่แจ้ง ป.ป.ช. ถึง 31,826,494 บาท (ประมาณ 31.8 ล้านบาท ? ) จึงเกิดคำถามว่าเหตุใดจึงแจ้งในบัญชีทรัพย์สินในราคาสูง 45 ล้านบาท ? เหมือนกรณีโฉนดอ.ปราณบุรี
หากคอนโดฯที่ถูกขายไม่ใช่ห้องชุดแขวงพระโขนง แล้วเป็นคอนโดฯแห่งไหน?
และถ้าเป็นอย่างนั้น ห้องชุดแขวงพระโขนง มูลค่า 45.5 ล้านบาทที่เคยแจ้งในบัญชีทรัพย์สิน ก่อนหน้านี้ หายไปไหน ?
4.ประเด็นธุรกิจ บ.น้ำมันรำข้าว ครอบครัวพิธา ปัญหาหนี้สิน ‘อาร์นี่ โอตะวะ’ เป็นใครมาจากไหน ?
@ ขาดทุนต่อเนื่อง-เจ้าหนี้เพียบ
ประเด็นตรวจสอบข้อมูลเชิงลึกการดำเนินธุรกิจ บริษัท ออยล์ฟอร์ไลฟ์ จำกัด (ชื่อเดิมบริษัท ซีอีโอ อกริฟู้ด จำกัด) ธุรกิจครอบครัวนายพิธา
มีจุดเริ่มต้นมาจากข้อสังเกตคำให้สัมภาษณ์ของ เจ้าตัว ที่ระบุว่า หลังจากพ่อเสียชีวิต เข้าไปบริหารงาน ใช้เวลาเพียง 5 เดือนก็สามารถฟื้นฟูธุรกิจ จนมีกำไร ยอดขายเพิ่มขึ้นมาร้อยล้าน และพันล้าน “ตอนนี้เราส่งออกปีละเป็นพันล้านบาทแล้ว เราซื้อรำข้าวเพื่อผลิตวันละ 400 ตัน” (อ้างอิงhttps://www.thairath.co.th/news/society/1624091)
ข้อมูลจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้าระบุว่า บริษัทนี้ จดทะเบียน 10 ต.ค.2548 ทุนปัจจุบัน 98,039,200 บาท ที่ตั้งเลขที่ 55 อาคารมโนศิริกุล ชั้น 6 ห้อง 6/2 ถนนรัชดาภิเษก แขวงบางโพงพาง เขตยานนาวา กรุงเทพมหานคร (สำนักงานสาขา 135 หมู่ 4 ต.บ้านหม้อ อ.พรหมบุรี จ.สิงห์บุรี ) นายภาษิณ ลิ้มเจริญรัตน์ นายอาร์นี่ โอตะวะ ซาริมา นายประสพโชค สุขสมบูรณ์ เป็นกรรมการ บัญชีรายชื่อผู้ถือหุ้นล่าสุด 26 มิ.ย.22564 บริษัท พรพนา พาณิช จำกัด (บริษัทโฮลดิ้งของครอบครัวนายพิธา) และผู้ถือหุ้นคนสกุล ‘ลิ้มเจริญรัตน์’อีก 2 คน รวม 3 รายถือหุ้นใหญ่ 500,000 หุ้น ขณะที่ บริษัท โอตะวะโฮลดิ้งส์ จำกัด สิงคโปร์ถือ 480,392 หุ้น
นำส่งงบเงินปีล่าสุดรอบปีสิ้นสุด 31 ธ.ค.2562 งบกำไรขาดทุน รายได้รวม 106,064,719.91 บาท ขาดทุนสุทธิ 143,403,259.62 บาท งบดุล สินทรัพย์รวม 189,862,430.62 บาท หนี้สิน 564,793,791.41บาท ขาดทุนสะสม 424,931,360.79 บาท รวมหนี้สินและส่วนของผู้ถือหุ้น 189,862,430.62 บาท
อย่างไรก็ดี จากการสืบค้นข้อมูล บริษัท ซีอีโอ อกริฟู้ด จำกัด ก่อนที่จะเปลี่ยนเป็น บริษัท ออยล์ฟอร์ไลฟ์ จำกัด สำนักข่าวอิศรา พบว่า นายพิธา เข้าเป็นกรรมการในช่วง 5 ต.ค.2549 - 6 มี.ค.2560 นับตั้งแต่ช่วงปี 2559 - 2562 บริษัทฯ นำส่งงบการเงินแจ้งว่า มีการขาดทุนต่อเนื่อง นอกจากนี้ ยังมีข้อมูลในหมายเหตุงบการเงินเรื่องการให้เงินกู้ยืมแก่กรรมการจำนวนหลายสิบล้านบาท ไม่มีการคิดดอกเบี้ย ไม่มีหลักทรัพย์ค้ำประกันการกู้ยืม และมีการตัดจ่ายหนี้สูญดังกล่าวด้วย
ขณะที่ ในการแจ้งบัญชีทรัพย์สินและหนี้สิน ต่อ สำนักงาน ป.ป.ช. ของ นายพิธา เพิ่มเติม ช่วงดำรงตำแหน่ง ส.ส.พรรคอนาคตใหม่ เมื่อวันที่ 4 ต.ค.2562 ระบุว่ามีหนี้ค้ำประกัน-สัญญาจำนอง ที่เกี่ยวกับการทำธุรกิจของ บริษัท ซีอีโอ อกริฟู้ด จำกัด วงเงินกว่า 800 ล้านบาท , ช่วงพ้นตำแหน่ง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล เมื่อวันที่ 20 มี.ค. 2566 นายพิธา แจ้งข้อมูลหนี้ค้ำประกันเงินกู้ ของบริษัท ซีอีโอ อกริฟู้ด จำกัด ที่มีต่อธนาคาร ยูโอบี จำกัด (มหาชน) ในส่วนของตนเอง เป็นเงินจำนวน 19,932,762.02 บาท จากมูลหนี้ที่ต้องรับผิดชอบทั้งหมดจำนวน 59,794,286.08 บาท
เมื่อตรวจสอบข้อมูล กองฟื้นฟูกิจการลูกหนี้ กรมบังคับคดี พบว่า บริษัท ออยล์ฟอร์ไลฟ์ ได้พยายามแก้ไขปัญหาหนี้ด้วยการยื่นคำร้องต่อศาลล้มละลายกลาง เพื่อขอฟื้นฟูกิจการ 2 ครั้ง แต่บริษัทก็ได้ถอนคำร้องออกไปทั้ง 2 ครั้ง ครั้งสุดท้าย ระบุว่า มีเจ้าหนี้ 9 ราย (ยังไม่มีการเปิดเผยรายชื่อเจ้าหนี้เป็นทางการ)
ปัจจุบัน บริษัท ออยล์ฟอร์ไลฟ์ จำกัด กำลังถูกกรมสรรพากรตรวจสอบข้อมูล เมื่อวันที่ 24 ก.พ.2566 สำนักงานสรรพากรพื้นที่กรุงเทพมหานคร 23 ได้ทำหนังสือแจ้งถึง ผู้อำนวยการกองทะเบียนบริษัทมหาชนและธุรกิจพิเศษ กรมพัฒนาธุรกิจการค้า เพื่อแจ้งระงับการขีดชื่อออกจากทะเบียน และระงับการจดทะเบียนเสร็จการชำระบัญชี ราย บริษัท ออยล์ฟอร์ไลฟ์ จำกัด ขณะที่ กรมพัฒนาธุรกิจการค้า ได้ลงรับหนังสือฉบบับนี้ไว้เป็นทางการเมื่อวันที่ 1 มี.ค.2566
แต่ยังไม่มีข้อมูลเม็ดเงินภาษี ที่ บริษัท ออยล์ฟอร์ไลฟ์ จำกัด ถูกตรวจสอบจากสรรพากรว่ามีจำนวนเท่าไหร่ ?
@ อาร์นี่ โอตะวะ คิงส์ ออฟ บิทคอยน์? โผล่ถือหุ้นใหญ่
ในขณะที่ บริษัท ออยล์ฟอร์ไลฟ์ จำกัด ถูกตรวจสอบสถานะการดำเนินธุรกิจพบว่าประสบปัญหาขาดทุนอย่างมาก
สำนักข่าวอิศรา ขยายผลการตรวจสอบข้อมูล บริษัท โอตะวะโฮลดิ้งส์ จำกัด สัญชาติสิงคโปร์ ผู้ถือหุ้นใหญ่ บริษัท ออยล์ฟอร์ไลฟ์ จำกัด พบว่า บริษัท โอตะวะโฮลดิ้งส์ จำกัด จดทะเบียนจัดตั้งเมื่อวันที่ 23 ธ.ค. 2562 ตั้งที่อยู่เลขที่ 68 CIRCULAR ROAD เลขที่ #02-01, เลขไปรษณีย์ 049422 ประเทศสิงคโปร์ บริษัทฯ แจ้งว่า มีผู้บริหารทั้งสิ้น 4 ราย ทุนจดทะเบียนอยู่ที่ 2,500,001 ดอลลาร์สิงคโปร์ หรือ 64,456,979 บาท ระบุประเภทธุรกิจว่า เป็น Private Company Limited by Shares หรือ บริษัทที่ดําเนินธุรกิจภายในสิงคโปร์ ที่มีจํานวนผู้ถือหุ้นไม่เกิน 50 คน
จากการใช้โปรแกรม Google Maps สำรวจที่อยู่ 68 CIRCULAR ROAD 02-01 พบว่า มีลักษณะเป็นตึกแถวความสูงสามชั้น มีคาเฟ่และร้านอาหารหลายแห่งอยู่ในพื้นที่
ขณะที่ ช่วงเวลาที่ บริษัท โอตะวะโฮลดิ้งส์ จำกัด ปรากฏชื่อเข้ามาเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ใน บริษัท ออยล์ฟอร์ไลฟ์ จำกัด เกิดขึ้นหลังการจดทะเบียนจัดตั้ง บริษัท โอตะวะโฮลดิ้งส์ จำกัด แค่ 11วัน โดยการเข้าถือหุ้นใหญ่ดังกล่าว มีการจ่ายเงินชำระค่าหุ้น 2 ครั้ง รวมวงเงิน 48,039,200 บาท จำนวนหุ้น 480,392 หุ้น แบ่งเป็นหุ้นสามัญ 450,980 หุ้น , หุ้นบุริมสิทธิ 29,412 หุ้น
เมื่อสำนักข่าวอิศรา สืบค้นข้อมูลการจดทะเบียนจัดตั้ง บริษัท โอตะวะโฮลดิ้งส์ จำกัด ในประเทศสิงคโปร์ พบว่า นายอาร์นี่ โอตะวะ ซาริมา เป็นผู้ถือหุ้น
โดย นายอาร์นี่ โอตะวะ ซาริมา ปรากฏชื่อเข้ามาเป็น กรรมการ บริษัท ซีอีโอ อกริฟู้ด จำกัด ในช่วงเดือน ก.พ.2563 หลังจากที่ บริษัท โอตะวะโฮลดิ้งส์ จำกัด เข้ามาถือหุ้นใหญ่ บริษัท ซีอีโอ อกริฟู้ด จำกัด ในช่วงเดือนมกราคม 2563 แล้ว
นอกจากนี้ยังมีข้อสังเกตสำคัญว่า ในช่วงที่ นายอาร์นี่ โอตะวะ ซาริมา เข้ามาเป็นกรรมการ บริษัท ซีอีโอ อกริฟู้ด จำกัด มีอายุ 25 ปี แจ้งสัญชาติฟินแลนด์ และยังมีชื่อนามสกุล เป็นคนสัญชาติฟินแลนด์ เหมือนกับ นายอาร์นี่ โอตะวะ ซาริมา ที่เคยปรากฏข่าว ถูกฉ้อโกงบิทคอยน์ จากบุคคลกลุ่มหนึ่งในประเทศไทย มูลค่ากว่า 797 ล้านบาท มีชื่อเรียกขนานนามในหมู่นักค้าเงินดิจิทัล ว่า ‘คิงส์ ออฟ บิทคอยน์’ เพราะมีเหรียญบิทคอยน์ในความครอบครองในกระเป๋าเงินดิจิทัล คิดเป็นเงินไทยหลายหมื่นล้านบาท และได้มีการแปลงเงินบิทคอยน์เป็นเงินบาท เข้ามาลงทุนในประเทศไทยหลายในหลายธุรกิจ และมีแผนลงทุนอีกมากหมายตามคำเชิญชวนของผู้กว้างขวางในตลาดทุนไทยด้วย (อ้างอิงข้อมูลส่วนนี้ จาก https://hoonsmart.com/archives/20388)
จึงทำให้เกิดคำถามสำคัญ 4 ข้อหลัก คือ
1. นายอาร์นี่ โอตะวะ ซาริมา ที่ปรากฏชื่อเข้ามาเป็นกรรมการ บริษัท ออยล์ฟอร์ไลฟ์ จำกัด เป็นคนเดียวกับ นายอาร์นี่ โอตะวะ ซาริมา ที่ได้รับการขนานนามในหมู่นักค้าเงินดิจิทัล ว่า คิงส์ ออฟ บิทคอยน์ หรือไม่?
2. ถ้าใช่ (ข้อ 1)นายอาร์นี่ โอตะวะ ซาริมา มีเหตุผลอะไรถึงได้ตัดสินในเข้ามาลงทุนทำธุรกิจ ใน บริษัท ออยล์ฟอร์ไลฟ์ จำกัด ของครอบครัวนายพิธา ที่มีประสบปัญหาขาดทุนทางธุรกิจอย่างมาก
3. ถ้าใช่ (ข้อ 1.) นายอาร์นี่ โอตะวะ ซาริมา นำแหล่งเงินทุนจากไหน ไปใช้ในการจดทะเบียนตั้ง บริษัท โอตะวะโฮลดิ้งส์ จำกัด ในประเทศสิงคโปร์ และนำแหล่งเงินจากไหนมาใช้ในการเข้ามาถือหุ้นในบริษัท ซีอีโอ อกริฟู้ด จำกัด
4. ที่สำคัญผลตอบแทน ที่นายอาร์นี่ โอตะวะ ซาริมา และบริษัท โอตะวะโฮลดิ้งส์ จำกัด ได้รับจากการลงทุนครั้งนี้ คือ อะไร?
ทั้งหมดเป็นข้อสงสัยที่นายพิธายังไม่ชี้แจงต่อสาธารณะอย่างตรงไปตรงมา
เรื่องเกี่ยวกับกรณีที่ดิน-ทรัพย์สิน ของนายพิธา :
- เผยโฉมที่ดินแปลงงาม อ.ปราณบุรี 14 ไร่ 18 ล. ‘พิธา’ ติดคลอง 2 ด้าน
- ตามไปดูที่ดินแปลงงาม 'พิธา' 14 ไร่ อ.ปราณบุรี แจ้ง ป.ป.ช.18 ล. เพิ่งขายไป 6.5 ล.?
- ชัด! เปิดหนังสือสัญญาขายที่ดิน 14 ไร่ อ.ปราณบุรี ‘พิธา’ 6.5 ล.
- จดทะเบียนขายต่ำกว่าราคาประเมิน 2.2 ล.! ที่ดิน 14 ไร่ ปราณบุรี ‘พิธา’
- เปิดคำชี้แจง 'ผู้ซื้อ' ที่ดิน14ไร่ ‘พิธา’ 6.5 ล. ไฉนซื้อได้ต่ำกว่าราคาประเมิน?
- เปิดตัว‘ดนัย’ คนรับซื้อที่ดิน 14 ไร่ ปราณบุรี ‘พิธา’ กก.ถือหุ้น 6 บริษัท
- เปิดโฉนด 14 ไร่ ปราณบุรี ‘พิธา’ รับโอนมรดกจากพ่อ 10 เม.ย.2560 ไฉน! ไม่เหมือนหุ้นไอทีวี?
- ย้อนดูบัญชีฯ‘พิธา’137.7 ล.!คอนโดฯน้อง-รถเบนซ์แม่-ที่ดิน‘ทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์’
- เหลือ 85 ล.! ทรัพย์สิน 'พิธา' พ้น ส.ส. ให้น้องกู้ยืม 15 ล. มีใบจองรถ Tesla
- ปม ผจก.มรดก! ป.ป.ช.ขอเอกสาร 'พิธา' เพิ่ม-เจ้าตัวยื่นขยายระยะเวลา เดดไลน์ 23 ก.ค.
- 'เรืองไกร' จี้กกต.สอบปมความต่าง 'โอนหุ้น ITV-ขายที่ดินปราณบุรี' ของ 'พิธา'
- โชว์ข้อมูล เงินกู้ 15 ล้าน 'พิธา' ให้ 'น้องชาย' ยืมไปชำระหนี้ คิดดอกร้อยละ 2 ต่อปี
- ที่มาหนี้ค้ำประกัน 19.9 ล.'พิธา'! ธ.ยูโอบี แจ้งโนติส บ.น้ำมันรำข้าว ผิดนัดชำระหนี้ 59 ล.
- แกะรอย! คอนโดฯ ‘พิธา - น้องชาย’ 60.5 ล. หายไปไหน ?
- โชว์ภาพ! บ่อน้ำในที่ดิน 'พิธา' -ผู้ซื้อแจงรอบ 2 ปม'ไม่ครบโฉนด' เหตุลดราคาเหลือ 6.5 ล.
- เปิดแคชเชียร์เช็ค 6 ล. ค่าที่ดินปราณบุรี จ่าย‘พิธา’ อีก 5 แสน ‘เงินสด’
- พร้อมแจง ป.ป.ช. ‘พิธา’ ไม่ตอบ ‘อิศรา’ ปมขายที่ต่ำกว่าราคาประเมิน
- ที่ดิน 14 ไร่ปราณบุรี ‘พิธา’ แจ้งวันรับโอนมรดก 3.6 ล. ไฉนยื่น ป.ป.ช. 18 ล.?
- เงื่อนปม! ไฉน‘พิธา’ยกเลิกรังวัดโฉนดที่ดินปราณบุรี
เรื่องเกี่ยวกับกรณีหุ้นไอทีวี ของนายพิธา :
- เปิดข้อมูลประกอบพิจารณา'6 ข้อ' กรณีหุ้นไอทีวี ‘พิธา’
- จ่อยื่นศาลรธน.ตีความ!'เรืองไกร' ส่งหลักฐาน'พิธา' ปมถือหุ้น ITV ให้ กกต.เพิ่ม 2 รายการ
- 'เรืองไกร' ยื่นหลักฐาน 'พิธา' ปมถือหุ้น ITV เพิ่มให้ กกต.
- ดูชัด ๆ หุ้นITV ‘พิธา’ 42,000 หุ้น ปี 2551-2566 ไม่ระบุ ‘ผจก.กองมรดก’
- ‘เรืองไกร’ ยื่นหลักฐานเพิ่มปม ‘พิธา’ ถือหุ้น ITV เทียบกรณี ‘ธัญญ์วาริน’ พ้น ส.ส.
- พลิกคำพิพากษาศาล รธน.คดีหุ้นสื่อ ส.ส.‘ธัญญ์วาริน’ เพียง‘ถือ-ประกอบการ’ ไม่รอด
- ย้อนคำพิพากษา 4 คดีหุ้นสื่อในศาลฎีกาเทียบไอทีวี‘พิธา’: ถือ-หยุดกิจการ-ไม่จดเลิก ไม่รอด
- พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ : แจงยิบปมหุ้น ITV โอนให้ทายาทอื่นแล้ว มั่นใจพร้อมชี้แจง กกต.
- เปิดแบบนำส่งงบการเงิน ITV ปี 2558 -2565 ล่าสุดระบุชัด‘สื่อโทรทัศน์’ ก่อน‘พิธา’อ้างมีพิรุธ
- เป็นผอ.สนง.อินทัช! คนทำบัญชี ITV ยังไม่แจงปม'พิธา’ชี้พิรุธแบบส.บช.3 แก้ 'สื่อโทรทัศน์'
- ให้ถามอินทัช! ผู้สอบบัญชี ITV ก็ไม่แจงปม'พิธา’ชี้พิรุธแบบส.บช.3 แก้ 'สื่อโทรทัศน์'
- ‘สถานะ’ ไอทีวีปมหุ้น ‘พิธา’ ! หมายเหตุประกอบงบฯ ฉบับล่าสุด ชัด ‘ดำเนินการค้าตามปกติ’
- พลิกธุรกิจ ‘ภาษิณ ลิ้มเจริญรัตน์’ ตัวช่วย‘พิธา’รับโอนหุ้นร้อน ITV?
- เปิดชัดๆ รายละเอียดคำสั่งศาลแพ่ง ตั้ง 'พิธา' ผจก.มรดก ถือหุ้นไอทีวี ในบัญชีฯ แจ้ง ป.ป.ช.
- ดูชัด ๆ ‘วัตถุประสงค์’ 5 ใน 45 ข้อ ‘ไอทีวี’ จดแจ้งประกอบกิจการสื่อ
- ‘พิธา’ รับหุ้น บ.โฮลดิ้งจากบิดาปี 2553 โอนต่อให้แม่ปี 2561 ต่างจากปมไอทีวี?
- 'เรืองไกร' ยื่น กกต.จี้สอบ 'พิธา' ปมยื่นรายการทรัพย์มรดกที่ดิน ไฉนไม่เหมือนหุ้น ITV
เรื่องเกี่ยวข้องธุรกิจอื่นนายพิธา :
- แกะกระดุมธุรกิจ‘ทิม-พิธา’อดีตผู้บริหาร บ.น้ำมันรำข้าว ‘ของจริง’ในสภาฯ ?
- ที่แท้ ‘พิธา’โอนหุ้น น้ำมันรำให้แม่! ส่ง บอจ. 2 ครั้ง – แก้ไขวันลงทะเบียนใหม่
- แจ้งวัตถุประสงค์ทำสื่อ บ.โฮลดิ้ง‘พิธา’– แก้ไขบัญชีผู้ถือหุ้นหลังสมัคร ส.ส. โอนให้แม่
- เปิดธุรกิจสปา ‘พิธา-อดีต ภรรยา’ ที่มา ‘เรืองไกร’ยื่นสอบบัญชีทรัพย์สิน
- เปิดบริการอยู่! ตามไปดูธุรกิจสปา‘พิธา-อดีต ภรรยา’ ปม ‘เรืองไกร’ ยื่นสอบบัญชีทรัพย์สิน
- ตามส่อง บ.สิงคโปร์ ผู้ถือหุ้นใหญ่ บ.น้ำมันรำข้าว อดีตธุรกิจ 'พิธา' ใครเจ้าของตัวจริง?
- ข้อมูลใหม่! บ.สิงคโปร์ เข้าถือหุ้นใหญ่ บ.น้ำมันรำข้าว อดีตธุรกิจ'พิธา'หลังจัดตั้ง 11 วัน?
- เปิดชัด ๆ (2) เงื่อนปมหนี้ค้ำประกัน 800 ล้าน 'พิธา-ครอบครัว' ในบัญชีฯ แจ้ง ป.ป.ช.
- ข้อมูลใหม่! บ.น้ำมันรำข้าวครอบครัว'พิธา' ถูกสรรพากรสอบ แจ้งระงับขีดชื่อ-เสร็จชำระบัญชีแล้ว
- เปิดชัดๆ (3) ประกาศศาลล้มละลายฯ บ.น้ำมันรำข้าวครอบครัว 'พิธา' เคยยื่นขอฟื้นฟูกิจการจริง
- 'อาร์นี่ โอตะวะ'กก.บ.น้ำมันรำข้าวครอบครัว 'พิธา' ชื่อ-สัญชาติฟินแลนด์ เหมือน 'ราชาบิทคอยน์'
- หลักฐานสิงคโปร์ ชัด! 'อาร์นี่ โอตะวะ' เจ้าของหุ้นใหญ่ บ.น้ำมันรำข้าวครอบครัว 'พิธา'
- ปริศนาแหล่งเงิน?'อาร์นี่ โอตะวะ' ลงทุนบ.น้ำมันรำข้าวครอบครัว'พิธา'48 ล้าน-จ่ายสด 2.9 ล.