"...ผู้ร้องยื่นคำร้องว่า ผู้ร้องเป็นบุตรโดยชอบด้วยกฎหมายของนายพงษ์ศักดิ์ ลิ้มเจริญรัตน์ ผู้ตาย การจัดการมรดกมีเหตุขัดข้องขอให้ศาลมีคำสั่งตั้งผู้ร้องเป็นผู้จัดการมรดกของผู้ตายศาลประกาศนัดไต่สวนตามระเบียบแล้ว ไม่มีผู้ใดคัดค้าน..."
กรณีประเด็นกล่าวหา นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้า พรรคก้าวไกล ว่าที่นายกรัฐมนตรีคนใหม่ ถือหุ้นบริษัท ไอทีวี จำกัด (มหาชน) 42,000 หุ้น มีคุณสมบัติต้องห้ามเป็นผู้สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส. ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 98 (3) บัญญัติห้ามมิให้บุคคลที่เป็นเจ้าของหรือผู้ถือหุ้นในกิจการหนังสือพิมพ์หรือสื่อมวลชนใด ๆ ลงสมัครรับเลือกตั้ง นั้น
หนึ่งในข้อมูลสำคัญ ที่ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ชี้แจงต่อสาธารณชนเป็นทางการเกี่ยวกับที่มาหุ้นไอทีวีจำนวนนี้ คือ เมื่อวันที่ 16 มีนาคม 2550 ศาลฯ มีคำสั่งแต่งตั้งให้เป็นผู้จัดการมรดกของบิดา และได้รับมอบหมายจากทายาทผู้มีสิทธิรับมรดกของบิดา ให้รับโอนหลักทรัพย์ ซึ่งหนึ่งในนั้นคือ หุ้น ITV อันเป็นกองมรดกถือครองไว้แทนทายาทเรื่อยมา โดยที่หุ้น ITV ไม่มีมูลค่าทางเศรษฐกิจอีกต่อไป และต่อมาปี 2557 หุ้น ITV ถูกตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเพิกถอนหุ้นสามัญออกจากตลาดหลักทรัพย์ อันเป็นผลให้ไม่สามารถซื้อขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ได้อีกต่อไป
ปัจจุบัน ได้โอนหุ้นไอทีวี ให้ทายาทอื่นแทนแล้ว (ทายาทที่ได้รับโอนหุ้น คือ นายภาษิณ ลิ้มเจริญรัตน์ น้องชาย โอนเมื่อวันที่ 25 พ.ค. 2566) หลังอ้างว่ามีขบวนการพยายามฟื้นคืนชีพไอทีวีจากที่สิ้นสุดความเป็นสื่อมวลชนไปแล้วตั้งแต่วันที่ 7 มี.ค. 2550 ให้กลับมาเป็นสื่ออีกครั้งเพื่อนำมาเป็นประเด็นขัดขวางมิให้เป็นนายกรัฐมนตรี
ขณะที่ นายนิวัฒน์ไชย เกษมมงคล เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนระบุว่า จากการตรวจสอบบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินของนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคและแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคก้าวไกล เมื่อครั้งเข้ารับตำแหน่ง ส.ส.เมื่อปี 2562 แล้ว พบว่ากรณีการถือหุ้นไอทีวี นายพิธาแนบเอกสารคำสั่งศาลว่าเป็นผู้จัดการมรดกมาด้วย ซึ่งเป็นเอกสารประมาณปี 2550 กว่าๆ ทั้งนี้ จะต้องตรวจสอบให้ชัดเจนก่อน ขณะนี้อยู่ระหว่างตรวจสอบเอกสารกับทางศาล
เลขาฯ ป.ป.ช. ยังระบุว่า ถ้าหากคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ต้องการข้อมูลเกี่ยวกับบัญชีทรัพย์สินของนายพิธาดังกล่าว ป.ป.ช.ก็พร้อมให้ข้อมูลเพราะเป็นสิ่งที่เปิดเผย อยู่แล้ว
ล่าสุด สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) ตรวจสอบข้อมูลเอกสารประกอบการยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินของนายพิธา ในช่วงเข้ารับตำแหน่งเป็น ส.ส.พรรคอนาคตใหม่ เกี่ยวกับข้อมูลคำสั่งศาลการเป็นผู้จัดการมรดก และการถือครองหุ้น ไอทีวี ของ นายพิธา
พบว่า นายพิธา ยื่นบัญชีทรัพย์สินตอนเป็น ส.ส.พรรคอนาคตใหม่ เมื่อวันที่ 28 ส.ค.2562
ต่อมาได้ยื่นบัญชีทรัพย์สินเพิ่มเติมสองครั้ง
ครั้งแรกเป็นการยื่นเพิ่มเมื่อวันที่ 6 ก.ย.2562 และยื่นเพิ่มอีกครั้ง ในวันที่ 4 ต.ค. 2562
สำหรับข้อมูลเกี่ยวกับคำสั่งศาลที่ให้นายพิธาเป็นผู้จัดการมรดก ปรากฏอยู่ในการยื่นบัญชีทรัพย์สินเพิ่มเติมต่อ ป.ป.ช.ครั้งที่สองเมื่อวันที่ 4 ต.ค. 2562
มีรายละเอียดดังนี้
นายพิธา ได้ให้เหตุผลในการยื่นบัญชีทรัพย์สินเพิ่มเติมว่าเพราะต้องตรวจสอบข้อมูล เนื่องจากทรัพย์สินบางส่วนได้รับจากการเป็นผู้จัดการมรดกจึงเพิ่งได้รับทราบข้อมูล และต้องตรวจสอบข้อมูล เพราะไม่ได้บริหารกิจการมา 3 ปี จึงไม่สามารถเข้าถึงข้อมูลของเอกชนได้ จึงทำให้ล่าช้าอีกทั้งเอกสารบางส่วนสูญหายต้องทำเรื่องขอจากสถาบันการเงิน ต้องใช้เวลาค้นหาและตรวจสอบเพื่อความถูกต้อง
สำหรับในส่วนของเอกสารเกี่ยวกับเงินลงทุนนั้นมีการระบุไว้ 3 รายการ ประกอบไปด้วย
1.บริษัท ไทยโรจน์ จำกัด จำนวนหุ้น 121 หุ้น มูลค่ารวมตามตราสาร 30,250 บาท
2.บริษัท ไอทีวี จำกัด (มหาชน) จำนวนหุ้น 42,000 หุ้น มูลค่าตามตราสาร 44,100 บาท
3.บริษัท สหวิริยาสตีลอินดัสตรี จำกัด (มหาชน) จำนวนหุ้น 830 หุ้น ตามตราสาร 4,150 บาท
โดยหุ้นทั้งสามรายการระบุว่าได้หุ้นมาเมื่อวันที่ 13 ก.พ.2556
นายพิธา ได้ระบุในหมายเหตุว่า ใน ลำดับที่ 1-3 การถือครองหุ้นดังกล่าว เป็นการถือครองแทนทายาทในฐานะผู้จัดการมรดกของบิดา
สำหรับรายละเอียดการเป็นผู้จัดการมรดกนั้น นายพิธา ได้แนบคำสั่งศาลแพ่งกรุงเทพใต้ ประกอบ
มีเนื้อหาในเอกสารดังนี้
ศาลแพ่งกรุงเทพใต้
วันที่ 16 เดือนมีนาคม พุทธศักราช 2550 ความ แพ่ง
ระหว่าง นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ผู้ร้อง
เรื่องขอตั้งผู้จัดการมรดก
ผู้ร้องยื่นคำร้องว่า ผู้ร้องเป็นบุตรโดยชอบด้วยกฎหมายของนายพงษ์ศักดิ์ ลิ้มเจริญรัตน์ ผู้ตาย การจัดการมรดกมีเหตุขัดข้องขอให้ศาลมีคำสั่งตั้งผู้ร้องเป็นผู้จัดการมรดกของผู้ตาย
ศาลประกาศนัดไต่สวนตามระเบียบแล้ว ไม่มีผู้ใดคัดค้าน
ทางไต่สวนผู้ร้องนำสืบฟังได้ว่า ผู้ร้องเป็นบุตรโดยชอบด้วยกฎหมายของผู้ตาย ตามเอกสาร ร.1 ทายาททั้งหมดปรากฏตามบัญชีเครือญาติ ร.5 ผู้ตายถึงแก่คววามตายเมื่อวันที่ 18 กันยายน 2549 ตามเอกสาร ร.3 ก่อนตายผู้ตายมีภูมิลำเนาอยู่บ้านเลขที่ (ข้อมูลปกปิด) ถนนวานิช 1 แขวงสัมพันธวงศ์ เขตสัมพันธวงศ์ กรุงเทพมหานครตามเอกสาร ร.4 ผู้ตายมีทรัพย์มรดกปรากฏตามบัญชีทรัพย์ ร.6 ซึ่งไม่ได้ทำพินัยกรรมไว้
การจัดการมรดกมีเหตุขัดข้อง ไม่สามารถแบ่งปันทรัพย์มรดกให้แก่ทายาทได้ จึงมาร้องขอเป็นคดีนี้ โดยทายาทคนอื่นให้ความยินยอมแล้ว ตามเอกสาร ร.7 ผู้ร้องไม่เป็นบุคคลเสมือนไร้ความสามารถ บุคคลวิกลจริต และบุคคลล้มละลาย
พิเคราะห์แล้วเห็นว่าผู้ร้องเป็นบุตรโดยชอบด้วยกฎหมายของผู้ตาย ผู้ร้องเป็นผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในทรัพย์มรดกของผู้ตาย และผู้ตายไม่ได้ทำพินัยกรรมหรือตั้งผู้จัดการมรดกไว้ การจัดการมรดกมีเหตุขัดข้อง ผู้ร้องไม่เป็นบุคคลต้องห้าม ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1718 ทั้งได้รับความยินยอมจากทายาทอื่นให้เป็นผู้จัดการมรดกแล้ว เห็นสมควรตั้งผู้ร้องเป็นผู้จัดการมรดกของผู้ตาย
จึงมีคำสั่งตั้งนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เป็นผู้จัดการมรดกของนายพงษ์ศักดิ์ ลิ้มเจริญรัตน์ ให้มีสิทธิและหน้าที่ตามกฎหมาย
ลงวันที่ 16 มี.ค. 2550
ขณะที่เอกสารเกี่ยวกับกรณีถือครองหุ้นไอทีวี ที่แจ้งต่อ ป.ป.ช. มีข้อมูลดังนี้
บริษัทหลักทรัพย์ ฟิลลิป (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน)
หนังสือรับรอง
โดยหนังสือรับรองฉบับนี้ บริษัทหลักทรัพย์ ฟิลลิป (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ขอรับรองว่า นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เปิดบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์กับทางบริษัทฯ เมื่อวันที่ 25 มิถุนายน 2546 โดยมีทรัพย์สินและหลักทรัพย์ฝากไว้กับทางบริษัทฯ คงเหลือ ณ วันที่ 25 พฤษภาคม 2562 ดังต่อไปนี้
1.บริษัท ไอทีวี จำกัด (มหาชน) จำนวนหุ้น 42,000 หุ้น ราคาตลาด 1.05 บาท มูลค่าตามราคาตลาด 44,100 บาท
หนังสือรับรองฉบับนี้ ออกให้ ณ วันที่ 25 กันยายน 2562
@ พิธา ลิ้มเจริญรัตน์
เหล่านี้ คือ รายละเอียดที่เกี่ยวกับการเป็นผู้จัดการมรดกของนายพิธา และข้อมูลเกี่ยวกับที่มาการถือครองหุ้นไอทีวี ที่ สำนักข่าวอิศรา สามารถสืบค้นได้จากบัญชีทรัพย์สินของ ป.ป.ช. ณ เวลานี้
ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรา รายงานเพิ่มเติมว่า สำหรับรายละเอียดการยื่นบัญชีทรัพย์สินในครั้งแรกเมื่อวันที่ 6 ก.ย. 2562 ตามที่ระบุในเอกสารใบปะหน้าของสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ระบุว่ามี 6 รายการได้แก่
1.แบบคำขอจำนวน 8 แผ่น
2.สำเนาบัญชีเงินฝากจำนวน 22 แผ่น
3.สำเนารายการเงินลงทุน 12 แผ่น
4.สำเนากรมธรรม์ 10 แผ่น
5.สำเนารายงานเงินกู้ 8 แผ่น
6.ภาพถ่ายสีของรายการทรัพย์สินอื่น 24 แผ่น
รวมยื่นเพิ่มเติมครั้งแรก 84 แผ่น
ส่วนรายละเอียดการยื่นบัญชีทรัพย์สินในครั้งสองเมื่อวันที่ 4 ต.ค. 2562 ตามที่ระบุในเอกสารใบปะหน้าของสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ระบุว่ามี 11 รายการได้แก่
1.แบบคำขอยื่นเอกสารเพิ่มเติม 4 แผ่น
2.แบบบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน 8 แผ่น
3.เอกสารประกอบคำขอจำนวน 4 แผ่น
4.สำเนาหนังสือขอตั้งผู้จัดการมรดกจำนวน 4 แผ่น
5.เอกสารประกอบเงินลงทุน สำเนาบัญชีรายชื่อผู้ถือหุ้นจำนวน 4 แผ่น
6.รายการเดินบัญชีจำนวน 2 แผ่น
7.หนังสือยืนยันยอดหลักทรัพย์จำนวน 2 แผ่น
8.ภาพถ่ายบัตรเครดิตจำนวน 4 แผ่น
9.True Money Account จำนวน 2 แผ่น
10.ภาพถ่ายคอนโดจำนวน 1 แผ่น
11.หนังสือสัญญาค้ำประกันและหนังสือสัญญาจำนอง จำนวน 48 แผ่น
รวมยื่นเพิ่มเติมครั้งที่สองจำนวน 83 แผ่น
ส่วนข้อมูลเชิงลึกอื่นๆ สำนักข่าวอิศรา จะติดตามมานำเสนอต่อไป
เรื่องเกี่ยวกับกรณีหุ้นไอทีวี ของนายพิธา :
- เปิดข้อมูลประกอบพิจารณา '6 ข้อ' กรณีหุ้นไอทีวี ‘พิธา’
- จ่อยื่นศาลรธน.ตีความ! 'เรืองไกร' ส่งหลักฐาน'พิธา' ปมถือหุ้น ITV ให้ กกต.เพิ่ม 2 รายการ
- 'เรืองไกร' ยื่นหลักฐาน 'พิธา' ปมถือหุ้น ITV เพิ่มให้ กกต.
- ดูชัด ๆ หุ้น ITV ‘พิธา’ 42,000 หุ้น ปี 2551-2566 ไม่ระบุ ‘ผจก.กองมรดก’
- ‘เรืองไกร’ ยื่นหลักฐานเพิ่มปม ‘พิธา’ ถือหุ้น ITV เทียบกรณี ‘ธัญญ์วาริน’ พ้น ส.ส.
- พลิกคำพิพากษาศาล รธน.คดีหุ้นสื่อ ส.ส.‘ธัญญ์วาริน’ เพียง‘ถือ-ประกอบการ’ ไม่รอด
- ย้อนคำพิพากษา 4 คดีหุ้นสื่อในศาลฎีกาเทียบไอทีวี‘พิธา’: ถือ-หยุดกิจการ-ไม่จดเลิก ไม่รอด
- พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ : แจงยิบปมหุ้น ITV โอนให้ทายาทอื่นแล้ว มั่นใจพร้อมชี้แจง กกต.
- เปิดแบบนำส่งงบการเงิน ITV ปี 2558 -2565 ล่าสุดระบุชัด‘สื่อโทรทัศน์’ ก่อน‘พิธา’อ้างมีพิรุธ
- เป็นผอ.สนง.อินทัช! คนทำบัญชี ITV ยังไม่แจงปม'พิธา’ชี้พิรุธแบบส.บช.3 แก้ 'สื่อโทรทัศน์'
- ให้ถามอินทัช! ผู้สอบบัญชี ITV ก็ไม่แจงปม'พิธา’ชี้พิรุธแบบส.บช.3 แก้ 'สื่อโทรทัศน์'
- ‘สถานะ’ ไอทีวีปมหุ้น ‘พิธา’ ! หมายเหตุประกอบงบฯ ฉบับล่าสุด ชัด ‘ดำเนินการค้าตามปกติ’
- พลิกธุรกิจ ‘ภาษิณ ลิ้มเจริญรัตน์’ ตัวช่วย‘พิธา’รับโอนหุ้นร้อน ITV?
เรื่องเกี่ยวข้องธุรกิจอื่นนายพิธา :
- แกะกระดุมธุรกิจ‘ทิม-พิธา’อดีตผู้บริหาร บ.น้ำมันรำข้าว ‘ของจริง’ในสภาฯ ?
- ที่แท้ ‘พิธา’โอนหุ้น น้ำมันรำให้แม่! ส่ง บอจ. 2 ครั้ง – แก้ไขวันลงทะเบียนใหม่
- แจ้งวัตถุประสงค์ทำสื่อ บ.โฮลดิ้ง‘พิธา’– แก้ไขบัญชีผู้ถือหุ้นหลังสมัคร ส.ส. โอนให้แม่
- เปิดธุรกิจสปา ‘พิธา-อดีต ภรรยา’ ที่มา ‘เรืองไกร’ยื่นสอบบัญชีทรัพย์สิน
- เปิดบริการอยู่! ตามไปดูธุรกิจสปา‘พิธา-อดีต ภรรยา’ ปม ‘เรืองไกร’ ยื่นสอบบัญชีทรัพย์สิน
- ตามส่อง บ.สิงคโปร์ ผู้ถือหุ้นใหญ่ บ.น้ำมันรำข้าว อดีตธุรกิจ 'พิธา' ใครเจ้าของตัวจริง?
- ข้อมูลใหม่! บ.สิงคโปร์ เข้าถือหุ้นใหญ่ บ.น้ำมันรำข้าว อดีตธุรกิจ'พิธา'หลังจัดตั้ง 11 วัน?