"...หลังจากพ่อเสียชีวิต เข้าไปบริหารงาน ใช้เวลาเพียง 5 เดือนก็สามารถฟื้นฟูธุรกิจ จนมีกำไร ยอดขายเพิ่มขึ้นมาร้อยล้าน และพันล้าน “ตอนนี้เราส่งออกปีละเป็นพันล้านบาทแล้ว เราซื้อรำข้าวเพื่อผลิตวันละ 400 ตัน..."
ในการตรวจสอบข้อมูลเอกสารประกอบการยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินของ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ว่าที่นายกรัฐมนตรีคนใหม่ ที่แจ้งเพิ่มเติมต่อสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เพื่อพิสูจน์ข้อเท็จจริงการถือหุ้นบริษัท ไอทีวี จำกัด (มหาชน) 42,000 หุ้น ในฐานะผู้จัดการมรดกตามคำสั่งศาล ที่อยู่ในความสนใจของสาธารณชนในขณะนี้
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานไปแล้วว่า นายพิธา ยื่นบัญชีทรัพย์สินตอนเป็น ส.ส.พรรคอนาคตใหม่ เมื่อวันที่ 28 ส.ค.2562 ต่อมาได้ยื่นบัญชีทรัพย์สินเพิ่มเติมสองครั้ง ครั้งแรกเป็นการยื่นเพิ่มเมื่อวันที่ 6 ก.ย.2562 และยื่นเพิ่มอีกครั้ง ในวันที่ 4 ต.ค. 2562 สำหรับข้อมูลเกี่ยวกับคำสั่งศาลที่ให้นายพิธาเป็นผู้จัดการมรดก ปรากฏอยู่ในการยื่นบัญชีทรัพย์สินเพิ่มเติมต่อ ป.ป.ช.ครั้งที่สองเมื่อวันที่ 4 ต.ค. 2562
โดย นายพิธา ให้เหตุผลในการยื่นบัญชีทรัพย์สินเพิ่มเติมว่าเพราะต้องตรวจสอบข้อมูล เนื่องจากทรัพย์สินบางส่วนได้รับจากการเป็นผู้จัดการมรดกจึงเพิ่งได้รับทราบข้อมูล และต้องตรวจสอบข้อมูล เพราะไม่ได้บริหารกิจการมา 3 ปี จึงไม่สามารถเข้าถึงข้อมูลของเอกชนได้ จึงทำให้ล่าช้าอีกทั้งเอกสารบางส่วนสูญหายต้องทำเรื่องขอจากสถาบันการเงิน ต้องใช้เวลาค้นหาและตรวจสอบเพื่อความถูกต้อง
อย่างไรก็ดี ในการยื่นข้อมูลเอกสารประกอบการยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินของนายพิธา เพิ่มเติม ต่อสำนักงาน ป.ป.ช. ทั้ง 2 ครั้ง มีการแจ้งข้อมูลเกี่ยวกับหนี้สินรวมอยู่ด้วย ดังนี้
@ ในการยื่นข้อมูลเพิ่มเติมครั้งแรก วันที่ 6 ก.ย.2562
นายพิธา ยื่นสำเนาเงินกู้จำนวน 8 แผ่น ประกอบรายละเอียดเรื่องการจำนองและเงินกู้ จำนวน 3 รายการ คือ
1.หนังสือสัญญา จำนองกรรมสิทธิ์ห้องชุดเป็นประกัน โฉนดเลขที่ 8574 อาคารชุดซิลเวอร์ เฮอริเทจ คอนโดมเนียม โดยมีคู่สัญญา ได้แก่ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ และบุคคลที่ถูกปกปิดชื่อ เป็นผู้จำนอง กับธนาคารยูโอบี จำกัด (มหาชน) เป็นผู้รับจำนอง โดยผู้จำนองตกลงจำนองห้องชุดดังกล่าวแก่ผู้รับจำนองเป็นเงิน 25 ล้านบาทถ้วน ลงวันที่หนังสือสัญญา 23 เม.ย.2557
2.หนังสือสัญญากู้เงินมีชื่อนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เป็นผู้กู้ กับธนาคารยูโอบี จำกัด (มหาชน) ผู้ให้กู้ มูลค่าการกู้เงิน 25 ล้านบาท จุดประสงค์เพื่อชำระที่อยู่อาศัย วันที่ทำสัญญากู้เงิน 22 เม.ย. 2557
3.หนังสือตรวจสอบหนี้ชำระคงเหลือระหว่างนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ กับธนคารยูโอบีฯ ระบุมูลค่าหนี้ในจำนวนเงินต้นอยู่ที่ 21,847,748.92 บาท ดอกเบี้ยอยู่ที่ 81,496.65 บาท วันที่หนังสือระบุวันที่ 21 ส.ค. 2562
@ ในการยื่นข้อมูลเพิ่มเติมครั้งสอง วันที่ 4 ต.ค.2562 นายพิธา ยื่นข้อมูลเกี่ยวกับหนังสือสัญญาค้ำประกันและหนังสือสัญญาจำนอง จำนวน 48 แผ่น ประกอบรายละเอียดจำนวน 14 รายการ ดังนี้
(1.) หนังสือสัญญาค้ำประกันลงวันที่ 6 ก.ย. 2555 โดยมีผู้ค้ำประกันได้แก่ 1.นายแสง ลิ้มเจริญรัตน์ 2.นายภาษิณ ลิ้มเจริญรัตน์ 3.นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ทำสัญญากับธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) เนื่องจากกรณีที่ธนาคารได้ให้การสนับสนุนทางการเงินแก่ บริษัท ซีอีโอ อกริฟู้ด จำกัด ในรูปแบบของสินเชื่อประเภทเงินกู้ ปรากฏตามสัญญากู้เงินลงวันที่ 6 ก.ย. 2555 จำนวนเงิน 40 ล้านบาท
(2.) หนังสือสัญญาค้ำประกันลงวันที่ 9 ม.ค. 2555 โดยมีผู้ค้ำประกันได้แก่ 1.นายแสง ลิ้มเจริญรัตน์ 2.นายภาษิณ ลิ้มเจริญรัตน์ 3.นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ทำสัญญากับธนาคารกสิกรไทย เนื่องจากกรณีที่ธนาคารได้ให้การสนับสนุนทางการเงินแก่บริษัท ซีอีโอ อกริฟู้ด จำกัด ในรูปแบบของสินเชื่อประเภทเงินกู้ระยะสั้น ปรากฏตามสัญญารับชำระหนี้ลงวันที่ 9 ม.ค. 2555 จำนวนเงิน 180 ล้านบาท
(3.) หนังสือสัญญาค้ำประกันลงวันที่ 9 ม.ค. 2555 โดยมีผู้ค้ำประกันได้แก่ 1.นายแสง ลิ้มเจริญรัตน์ 2.นายภาษิณ ลิ้มเจริญรัตน์ 3.นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ทำสัญญากับธนาคารกสิกรไทย เนื่องจากกรณีที่ธนาคารได้ให้การสนับสนุนทางการเงินแก่บริษัท ซีอีโอ อกริฟู้ด จำกัด ในรูปแบบของสินเชื่อประเภทกู้เบิกเงินเกินบัญชี ปรากฏตามหนังสือสัญญากู้เบิกเงินเกินบัญชีลงวันที่ 9 ม.ค. 2555 จำนวนเงิน 30 ล้านบาท
(4.) หนังสือสัญญาค้ำประกันลงวันที่ 25 ก.ค.2557 โดยมีผู้ค้ำประกันได้แก่ 1.นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ 2.นายแสง ลิ้มเจริญรัตน์ 3.นายภาษิณ ลิ้มเจริญรัตน์ ทำสัญญากับธนาคารกสิกรไทย เนื่องจากกรณีที่ธนาคารได้ให้การสนับสนุนทางการเงินแก่บริษัท ซีอีโอ อกริฟู้ด จำกัด ในรูปแบบของสินเชื่อประเภทเงินกู้ ปรากฏตามสัญญากู้เงินลงวันที่ 25 ก.ค.2557 จำนวนเงิน 80 ล้านบาท
เปิดเลตเตอร์ออฟเครดิตภายในประเทศและทำทรัสต์รีซีท ตามบันทึกข้อตกลงการใช้สินเชื่อ (มีหลักประกัน) ลงวันที่ 25 ก.ค. 2557 วงเงิน 65 ล้านบาท โดยผู้ค้ำประกันยินยอมเข้าค้ำประกันการชำระหนี้ของลูกหนี้ภายในวงเงิน 145 ล้านบาท รวมไปถึงยอมรับผิดรวมทั้งดอกเบี้ย/ค่าธรรมเนียมอื่นๆอันเกิดจากสัญญา
(5.) หนังสือสัญญาจำนองเครื่องจักร ระบบกลั่นน้ำมันรำข้าว ผู้จำนองชื่อบริษัท ซีอีโอ อกริฟู้ด จำกัด ผู้รับจำนองชื่อ บริษัท ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) ลงวันที่ 4 เม.ย.2559 มูลค่าจำนองที่ผู้จำนองตกลง 100 ล้านบาท
(6.) หนังสือสัญญาต่อท้ายสัญญาจำนองเครื่องจักร ในข้อ 5 ทำขึ้นเมื่อวันที่ 27 เม.ย.2559
(7.) หนังสือสัญญาจำนองเครื่องจักร,ถังเก็บน้ำมัน เครื่องทำน้ำเย็น,เครื่องกรองฯ ผู้จำนองชื่อบริษัท ซีอีโอ อกริฟู้ด จำกัด ผู้รับจำนองชื่อ บริษัท ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) ลงวันที่ 15 ธ.ค.2557 มูลค่าจำนองที่ผู้จำนองตกลง 38 ล้านบาท
(8.) หนังสือสัญญาต่อท้ายสัญญาจำนองเครื่องจักร ในข้อ 7 ทำขึ้นเมื่อวันที่ 16 ม.ค.2558
(9.) หนังสือสัญญาจำนองเครื่องจักร,รถตักล้อยาง, หม้อน้ำ,เครื่องบรรจุ,เครื่องบด,เครื่องคัดแยก,เครื่องเก็บตัวอย่าง ผู้จำนองชื่อบริษัท ซีอีโอ อกริฟู้ด จำกัด ผู้รับจำนองชื่อ บริษัท ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) ลงวันที่ 26 พ.ย.2557 มูลค่าจำนองที่ผู้จำนองตกลง 15,320,040 บาท
(10.) หนังสือสัญญาต่อท้ายสัญญาจำนองเครื่องจักร ในข้อ 9 ทำขึ้นเมื่อวันที่ 26 พ.ย.2557
(11.) หนังสือสัญญาจำนองเครื่องจักร หม้อแปลงไฟฟ้า,เครื่องทำความสะอาดรำข้าว,ชุดเก็บและลำเลียง ผู้จำนองชื่อบริษัท ซีอีโอ อกริฟู้ด จำกัด ผู้รับจำนองชื่อ บริษัท ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) ลงวันที่ 19 ม.ค.2555 มูลค่าจำนองที่ผู้จำนองตกลง 200 ล้านบาท
(12.) หนังสือสัญญาต่อท้ายสัญญาจำนองเครื่องจักร ในข้อ 11 (ไม่ระบุวันที่ทำสัญญา)
(13.) หนังสือสัญญาจำนองที่ดิน ผู้จำนองชื่อบริษัท ซีอีโอ อกริฟู้ด จำกัด,นายแสง ลิ้มเจริญรัตน์และนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ผู้รับจำนองชื่อ บริษัท ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) ลงวันที่ 9 ม.ค.2555 มูลค่าจำนองที่ผู้จำนองตกลง 100 ล้านบาท สำหรับรายละเอียดที่ดินนั้นพบว่าเป็นที่ดินสี่โฉนดได้แก่โฉนดเลขที่ 5638,6964,7577,10836เลขที่ดิน 154,188,131,289 ที่ดินอยู่ที่ ต.บ้านหม้อ อ.พรหมบุรี จ.สิงห์บุรี
(14.) หนังสือสัญญาต่อท้ายสัญญาจำนองที่ดิน ในข้อ 13 ทำขึ้นเมื่อวันที่ 9 ม.ค.2555
โฟกัสข้อมูล เกี่ยวกับหนังสือสัญญาค้ำประกันและหนังสือสัญญาจำนอง ที่ นายพิธา ยื่นเพิ่มเติมต่อ สำนักงาน ป.ป.ช. ครั้งที่สอง พบข้อสังเกตสำคัญดังนี้
หนึ่ง
หากพิจารณาข้อมูลเกี่ยวกับหนังสือสัญญาค้ำประกัน ที่นายพิธาแจ้งไว้ จะพบว่า หนังสือสัญญาค้ำประกัน ที่เกี่ยวกับเรื่องการกู้เงิน รายการที่ 1- 4 มีวงเงินมากกว่า 400 ล้านขึ้นไป , หนังสือสัญญาจำนอง ที่เกี่ยวกับ เครื่องจักร , ที่ดิน มีวงเงินอยู่ที่ 400 ล้านบาท ขึ้นไป วงเงินรวม 2 ส่วน ยอดอยู่ที่ 800 กว่าล้านบาท
สอง
ธนาคารที่เกี่ยวข้อง คือ ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน)
สาม
หนังสือสัญญาค้ำประกัน และ สัญญาจำนอง ล้วนเกี่ยวกับการทำธุรกิจของ บริษัท ซีอีโอ อกริฟู้ด จำกัด
สำหรับข้อมูลเกี่ยวกับ บริษัท ซีอีโอ อกริฟู้ด จำกัด ปัจจุบันเปลี่ยนชื่อเป็น บริษัท ออยล์ฟอร์ไลฟ์ จำกัด ผู้ผลิตและส่งออกน้ำมันดิบจากรำข้าว สำนักข่าวอิศรา เคยรายงานไปแล้วว่า นายพิธา เป็นกรรมการในช่วง 5 ต.ค.2549 - 6 มี.ค.2560
ข้อมูลจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้าบริษัทนี้จดทะเบียน 10 ต.ค.2548 ทุน 98,039,200 บาท ที่ตั้งเลขที่ 55 อาคารมโนศิริกุล ชั้น 6 ห้อง 6/2 ถนนรัชดาภิเษก แขวงบางโพงพาง เขตยานนาวา กรุงเทพมหานคร (สำนักงานสาขา 135 หมู่ 4 ต.บ้านหม้อ อ.พรหมบุรี จ.สิงห์บุรี ) นายภาษิณ ลิ้มเจริญรัตน์ นายอาร์นี่ โอตะวะ ซาริมา นายประสพโชค สุขสมบูรณ์ เป็นกรรมการ
บัญชีรายชื่อผู้ถือหุ้นล่าสุด 26 มิ.ย.2564 บริษัท พรพนา พาณิช จำกัด (บริษัทโฮลดิ้งของครอบครัวนายพิธา) และผู้ถือหุ้นคนสกุล ‘ลิ้มเจริญรัตน์’อีก 2 คน รวม 3 รายถือหุ้นใหญ่ 500,000 หุ้น ขณะที่ บริษัท โอตะวะโฮลดิ้งส์ จำกัด สิงคโปร์ถือ 480,392 หุ้น
นำส่งงบเงินปีล่าสุดรอบปีสิ้นสุด 31 ธ.ค.2562 งบกำไรขาดทุน รายได้รวม 106,064,719.91 บาท ขาดทุนสุทธิ 143,403,259.62 บาท งบดุล สินทรัพย์รวม 189,862,430.62 บาท หนี้สิน 564,793,791.41บาท ขาดทุนสะสม 424,931,360.79 บาท รวมหนี้สินและส่วนของผู้ถือหุ้น 189,862,430.62 บาท
ขณะที่ สำนักข่าวอิศรา สืบค้นฐานข้อมูลในต่างประเทศ พบว่า บริษัท โอตะวะโฮลดิ้งส์ จำกัด หรือ ชื่อภาษาอังกฤษว่า OTAVA HOLDINGS PTE. LTD ผู้ถือหุ้นใหญ่ ปัจจุบัน จดทะเบียนจัดตั้งเมื่อวันที่ 23 ธ.ค. 2562 ตั้งที่อยู่เลขที่ 68 CIRCULAR ROAD เลขที่ #02-01, เลขไปรษณีย์ 049422 ประเทศสิงคโปร์ มีผู้บริหารทั้งสิ้น 4 ราย ทุนจดทะเบียนอยู่ที่ 2,500,001 ดอลลาร์สิงคโปร์ หรือ 64,456,979 บาท ระบุประเภทธุรกิจว่า เป็น Private Company Limited by Shares หรือ บริษัทที่ดําเนินธุรกิจภายในสิงคโปร์ ที่มีจํานวนผู้ถือหุ้นไม่เกิน 50 คน เมื่อใช้โปรแกรม Google Maps สำรวจที่อยู่ 68 CIRCULAR ROAD 02-01 เพิ่มเติม พบว่า มีลักษณะเป็นตึกแถวความสูงสามชั้น มีคาเฟ่และร้านอาหารหลายแห่งอยู่ในพื้นที่
แต่ในฐานข้อมูลสืบค้นบริษัทต่างประเทศ ที่สำนักข่าวอิศรา ใช้ตรวจสอบ บริษัท โอตะวะโฮลดิ้งส์ จำกัด มิได้มีการเปิดเผยข้อมูลว่า ผู้บริหาร 4 ราย เป็นใครบ้าง
แต่จากการตรวจสอบสำเนาบัญชีรายชื่อผู้ถือหุ้น แบบ บอจ.5 ของ บริษัท ซีอีโอ อกริฟู้ด จำกัด (ก่อนเปลี่ยนชื่อใหม่เป็น บริษัท ออยล์ฟอร์ไลฟ์ จำกัด) ที่มีการนำส่งให้กรมพัฒนาธุรกิจการค้า ซึ่งปรากฏชื่อ บริษัท โอตะวะโฮลดิ้งส์ จำกัด เข้ามาถือหุ้นใหญ่ 480,392 หุ้น ครั้งแรก เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 3 มกราคม 2563 หนังสือนำส่งลงวันที่ 13 มกราคม 2563
เมื่อเปรียบเทียบช่วงเวลาการจดทะเบียนจัดตั้ง บริษัท โอตะวะโฮลดิ้งส์ จำกัด สัญชาติสิงคโปร์ ที่ปรากฏอยู่ในฐานข้อมูลสืบค้นบริษัทในสิงคโปร์ คือ วันที่ 23 ธ.ค. 2562 เท่ากับว่า บริษัท โอตะวะโฮลดิ้งส์ จำกัด สัญชาติสิงคโปร์ ปรากฏชื่อเข้ามาเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ในบริษัท ออยล์ฟอร์ไลฟ์ จำกัด หลังการจดทะเบียนจัดตั้งเมื่อวันที่ 23 ธ.ค.2562 แค่ 11 วันเท่านั้น (นับจาก 24 ธ.ค.2562 - 3 ม.ค.2563)
- ตามส่อง บ.สิงคโปร์ ผู้ถือหุ้นใหญ่ บ.น้ำมันรำข้าว อดีตธุรกิจ 'พิธา' ใครเจ้าของตัวจริง?
- ข้อมูลใหม่! บ.สิงคโปร์ เข้าถือหุ้นใหญ่ บ.น้ำมันรำข้าว อดีตธุรกิจ'พิธา'หลังจัดตั้ง 11 วัน?
จากข้อมูลทั้งหมด จึงมีคำถามสำคัญเกิดขึ้น 2 ประการ คือ
1. ปัจจุบันสถานะ สัญญาค้ำประกัน และ สัญญาจำนอง ทั้งหมด เป็นอย่างไร? การลาออกจากบริษัท ของนายพิธา มีผลต่อหนี้ค้ำประกันต่างๆ หรือไม่ ? ขณะที่มีรายงานข่าวว่าปัจจุบัน บริษัท ออยล์ฟอร์ไลฟ์ จำกัด อยู่ระหว่างยื่นคำร้องต่อศาลล้มละลายกลาง เพื่อขอฟื้นฟูกิจการ หลังจากถูกเจ้าหนี้สถาบันการเงินหลายแห่งยื่นฟ้องทวงหนี้ (อ้างอิง https://www.thansettakij.com/thailand-elections/election-monitor/567394) ซึ่งในมาตรา 98 รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 กำหนดข้อห้ามบุคคลล้มละลาย มิให้ใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้ง เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ไว้ด้วย
2. บริษัท โอตะวะโฮลดิ้งส์ จำกัด สัญชาติสิงคโปร์ ผู้ถือหุ้นใหญ่ รับทราบข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องหนี้สินเหล่านี้หรือไม่ ทำไมถึงตัดสินใจเข้ามาลงทุนในบริษัทแห่งนี้
ขณะที่ เจ้าตัวเคยให้สัมภาษณ์ไทยรัฐว่า หลังจากพ่อเสียชีวิต เข้าไปบริหารงาน ใช้เวลาเพียง 5 เดือนก็สามารถฟื้นฟูธุรกิจ จนมีกำไร ยอดขายเพิ่มขึ้นมาร้อยล้าน และพันล้าน “ตอนนี้เราส่งออกปีละเป็นพันล้านบาทแล้ว เราซื้อรำข้าวเพื่อผลิตวันละ 400 ตัน” (อ้างอิงhttps://www.thairath.co.th/news/society/1624091)
ข้อเท็จจริงเรื่องนี้เป็นอย่างไร คงต้องรอให้นายพิธา ออกมาชี้แจงแถลงต่อสาธารณชนเป็นทางการอีกครั้ง
เรื่องเกี่ยวกับกรณีหุ้นไอทีวี ของนายพิธา :
- เปิดข้อมูลประกอบพิจารณา '6 ข้อ' กรณีหุ้นไอทีวี ‘พิธา’
- จ่อยื่นศาลรธน.ตีความ! 'เรืองไกร' ส่งหลักฐาน'พิธา' ปมถือหุ้น ITV ให้ กกต.เพิ่ม 2 รายการ
- 'เรืองไกร' ยื่นหลักฐาน 'พิธา' ปมถือหุ้น ITV เพิ่มให้ กกต.
- ดูชัด ๆ หุ้น ITV ‘พิธา’ 42,000 หุ้น ปี 2551-2566 ไม่ระบุ ‘ผจก.กองมรดก’
- ‘เรืองไกร’ ยื่นหลักฐานเพิ่มปม ‘พิธา’ ถือหุ้น ITV เทียบกรณี ‘ธัญญ์วาริน’ พ้น ส.ส.
- พลิกคำพิพากษาศาล รธน.คดีหุ้นสื่อ ส.ส.‘ธัญญ์วาริน’ เพียง‘ถือ-ประกอบการ’ ไม่รอด
- ย้อนคำพิพากษา 4 คดีหุ้นสื่อในศาลฎีกาเทียบไอทีวี‘พิธา’: ถือ-หยุดกิจการ-ไม่จดเลิก ไม่รอด
- พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ : แจงยิบปมหุ้น ITV โอนให้ทายาทอื่นแล้ว มั่นใจพร้อมชี้แจง กกต.
- เปิดแบบนำส่งงบการเงิน ITV ปี 2558 -2565 ล่าสุดระบุชัด‘สื่อโทรทัศน์’ ก่อน‘พิธา’อ้างมีพิรุธ
- เป็นผอ.สนง.อินทัช! คนทำบัญชี ITV ยังไม่แจงปม'พิธา’ชี้พิรุธแบบส.บช.3 แก้ 'สื่อโทรทัศน์'
- ให้ถามอินทัช! ผู้สอบบัญชี ITV ก็ไม่แจงปม'พิธา’ชี้พิรุธแบบส.บช.3 แก้ 'สื่อโทรทัศน์'
- ‘สถานะ’ ไอทีวีปมหุ้น ‘พิธา’ ! หมายเหตุประกอบงบฯ ฉบับล่าสุด ชัด ‘ดำเนินการค้าตามปกติ’
- พลิกธุรกิจ ‘ภาษิณ ลิ้มเจริญรัตน์’ ตัวช่วย‘พิธา’รับโอนหุ้นร้อน ITV?
- เปิดชัดๆ รายละเอียดคำสั่งศาลแพ่ง ตั้ง 'พิธา' ผจก.มรดก ถือหุ้นไอทีวี ในบัญชีฯ แจ้ง ป.ป.ช.
- ดูชัด ๆ ‘วัตถุประสงค์’ 5 ใน 45 ข้อ ‘ไอทีวี’ จดแจ้งประกอบกิจการสื่อ
เรื่องเกี่ยวข้องธุรกิจอื่นนายพิธา :
- แกะกระดุมธุรกิจ‘ทิม-พิธา’อดีตผู้บริหาร บ.น้ำมันรำข้าว ‘ของจริง’ในสภาฯ ?
- ที่แท้ ‘พิธา’โอนหุ้น น้ำมันรำให้แม่! ส่ง บอจ. 2 ครั้ง – แก้ไขวันลงทะเบียนใหม่
- แจ้งวัตถุประสงค์ทำสื่อ บ.โฮลดิ้ง‘พิธา’– แก้ไขบัญชีผู้ถือหุ้นหลังสมัคร ส.ส. โอนให้แม่
- เปิดธุรกิจสปา ‘พิธา-อดีต ภรรยา’ ที่มา ‘เรืองไกร’ยื่นสอบบัญชีทรัพย์สิน
- เปิดบริการอยู่! ตามไปดูธุรกิจสปา‘พิธา-อดีต ภรรยา’ ปม ‘เรืองไกร’ ยื่นสอบบัญชีทรัพย์สิน
- ตามส่อง บ.สิงคโปร์ ผู้ถือหุ้นใหญ่ บ.น้ำมันรำข้าว อดีตธุรกิจ 'พิธา' ใครเจ้าของตัวจริง?
- ข้อมูลใหม่! บ.สิงคโปร์ เข้าถือหุ้นใหญ่ บ.น้ำมันรำข้าว อดีตธุรกิจ'พิธา'หลังจัดตั้ง 11 วัน?