สภากทม.พิจารณาญัตติระยะเวลาการแปรญัตติร่างข้อบัญญัติกรุงเทพมหานคร เรื่อง งบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 พ.ศ. …. โดยมีมติให้ระยะเวลาแปรญัตติเหลือ 5 วัน จากเดิมที่กำหนด 10 วัน
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า วันที่ 26 พฤศจิกายน 2567 นายสุรจิตต์ พงษ์สิงห์วิทยา ประธานสภากรุงเทพมหานคร เป็นประธานการประชุมสภากรุงเทพมหานคร (สภากทม.) สมัยประชุมวิสามัญ สมัยที่สาม (ครั้งที่ 2) ประจำปีพุทธศักราช 2567 โดยมี สมาชิกสภากรุงเทพมหานคร คณะผู้บริหารและหัวหน้าส่วนราชการกรุงเทพมหานคร ร่วมประชุม
นายนภาพล จีระกุล สมาชิกสภากรุงเทพมหานคร (สก.) เขตบางกอกน้อย ในฐานะประธานคณะกรรมการวิสามัญพิจารณาร่างข้อบัญญัติกรุงเทพมหานคร เรื่อง งบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 พ.ศ. …. ได้ยื่นญัตติ เรื่อง ขอให้สภากทม.ทบทวนมติที่ประชุมสภากรุงเทพมหานคร กรณีการกำหนดระยะเวลาการแปรญัตติร่างข้อบัญญัติกรุงเทพมหานคร เรื่อง งบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 พ.ศ. .... ว่า เนื่องจากคณะกรรมการวิสามัญงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 พ.ศ. .... ได้แปรญัตติเสร็จก่อนกำหนดระยะเวลาที่สภากรุงเทพมหานครกำหนด และคณะกรรมการวิสามัญฯ พิจารณาแล้วเห็นว่าหากใช้การแปรญัตติ 10 วันทำการคงเดิม อาจทำให้เกิดความล่าช้าและทำให้กรุงเทพมหานครเกิดความเสียหายอันเนื่องมาจากภาระดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้นทุกวัน จึงขอให้สภากทม.ทบทวนมติการแปรญัตติร่างข้อบัญญัติกรุงเทพมหานครจาก 10 วันทำการ เปลี่ยนเป็น 5 วัน เพื่อให้การพิจารณาร่างข้อบัญญัติกรุงเทพมหานครรวดเร็วมากยิ่งขึ้น
โดยที่ประชุมสภากทม.ได้มีมติเห็นชอบกำหนดระยะเวลาแปรญัตติร่างข้อบัญญัติกรุงเทพมหานคร เรื่อง งบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 พ.ศ. โดยกำหนดระยะเวลาการแปรญัตติ 5 วัน และกำหนดเวลาพิจารณาให้แล้วเสร็จภายใน 45 วัน
ผู้สื่อข่วรายงานว่า เมื่อวันที่ 22 พ.ย. 67 ที่ประชุมสภากทม. มีมติเห็นชอบร่างญัตติดังกล่าว จำนวน 37 คน พร้อมตั้งคณะกรรมการวิสามัญร่างข้อบัญญัติ กรุงเทพมหานคร เรื่องงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติม ประจำปี พ.ศ.2568 พ.ศ. … จำนวน 24 คน โดยใช้เวลาพิจารณา 45 วัน กำหนดแปรญัตติ 10 วัน
โดยข้อบัญญัติมีสาระสำคัญคือ เสนอขอตั้งงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 พ.ศ. ... จำนวน 14,549,503,800 บาท จากเงินสะสมจ่ายขาดของกรุงเทพมหานคร เนื่องจาก กทม.มีความประสงค์ชำระหนี้ค่าจ้างเดินรถและซ่อมบำรุงตามคำพิพากษาโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวของศาลปกครองสูงสุด
สำหรับยอดหนี้ที่จะต้องแบ่งชำระให้เอกชนมี 4 ส่วนดังนี้
1.ยอดหนี้ตามคำพิพากษาของศาลปกครองสูงสุด เมื่อวันที่ 26 ก.ค. 67 ที่ให้กทม.และเคทีร่วมกันชำระให้กับ BTS เป็นเงินจำนวนกว่า 11,755 ล้านบาท
2.ยอดหนี้ที่ BTS ได้ยื่นฟ้องต่อศาลปกครองกลาง เมื่อวันที่ 22 พ.ย.2565 ให้กทม. และบจ.กรุงเทพธนาคม (เคที) ชำระหนี้ค่าจ้างเดินรถและซ่อมบำรุงให้กับ BTS ของโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวในเส้นทางส่วนต่อขยายที่ 1 ช่วงส่วนต่อขยายสายสีสม สะพานตากสิน-บางหว้า และสายสุขุมวิท อ่อนนุช-แบริ่ง และส่วนต่อขยายที่ 2 ช่วงหมอชิต-สะพานใหม่-คูคต เป็นเงินจำนวนกว่า 11,811 ล้านบาท ซึ่งอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลปกครองกลาง
3.ยอดหนี้ค่าจ้างงานเดินรถและซ่อมบำรุงของโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวในเส้นทางส่วนต่อขยายที่ 1 และส่วนต่อขยายที่ 2 ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2565 ถึง มิถุนายน 2567 ที่ยังค้างชำระ เป็นเงินจำนวนกว่า 13,513 ล้านบาท
และ 4. ค่าจ้างงานเดินรถและซ่อมบำรุงของโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวในเส้นทางส่วนต่อขยายที่ 1 และส่วนต่อขยายที่ 2 ในอนาคต ตั้งแต่ปัจจุบันจนถึงสิ้นสุดสัมปทาน ปี พ.ศ. 2585 ที่จะหมดอายุสัญญาสัมปทาน
ทั้งนี้ กรุงเทพมหานคร และบริษัท กรุงเทพธนาคม จำกัด ยื่นคำขอให้ศาลพิจารณาพิพากษาหรือมีคำสั่งชี้ขาดคดีใหม่เมื่อวันที่ 22 ตุลาคม 2567 คดีหมายเลขดำดำที่ อ.2226/2565 คดีหมายเลขแดงที่ อ.725/2567 มีผลพิจารณาคดี ดังนี้
1. ศาลปกครองกลางได้มีคำสั่ง ไม่รับคำขอให้พิจารณาคดีใหม่ เนื่องจากไม่ต้องด้วยหลักเกณฑ์ที่จะขอให้ศาลปกครองพิจารณาพิพากษาหรือมีคำสังชี้ขาดคดีปคครองใหม่ ตามมาตร 75 วรรคหนึ่ง (1) และ (3) แห่งพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ. 2542 หนังสือแจ้งคำสั่งศาล คดีหมายเลขดำที่ พม. 76/2567 คดีหมายเลขแดงที่ พน. 92/2567 ลงวันที่ 5 พ.ย. 2567 และหนังสือแจ้งคำสั่งศาล คดีหมายเลขดำที่ พม. 81/2567 คดีหมายเลขแดงที่ ผม. 93/2567 ลงวันที่ 5 พ.ย. 2567
2. สำนักงานคดีปกครอง สำนักงานอัยการสูงสูงสด พิจารณาแล้วเห็นว่าคำสั่งศาลปกครองกลางในคดีหมายเลขลขดำที่ พบ. 81/2567 คดีหมายเลขแดงที่ พม. 93/2567 ดังกล่าว ชอบด้วยเหตุผลตามข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายแล้ว จึงควรไม่อุทธรณ์ หนังสือด่วนที่สุด ที่ อส 0042.2/2064 ลงวันที่ 7 พ.ย. 2567 เรื่อง แจ้งคำสั่งของศาลปกครอง
3. สำนักงานกฎหมายและคดี เห็นควรไม่อุทธรณ์ ตามควานเห็นของสำนักการจราจรและขนส่ง ซึ่งไม่มีความเห็นใดที่จะมาขัดหรือแย้งคำวินิจฉัยของศาลปกครองสงสูงสุดได้ ประกอบกับต้องเร่งรัดชำระหนี้ตามคำพิพากษาของศาลปกครองสูงสุด เพื่อมิให้เกิดภาระดอกเบี้ย ตามหนังสือด่วนที่สุด ที่ กท 0405/6695 ลงวันที่ 11 พ.ย. 2567 เรื่อง รายงานผลคดี ขออนุมัติไม่อุทธรณ์คำสั่งของศาลปกครองกลางฯ
อ่านประกอบ
- ชงสภากทม. ของบเพิ่มปี 68 วงเงิน 1.4 หมื่นล. จ่ายหนี้สายสีเขียว BTS
- กทม.-เคที-BTS จับมือตั้งคณะทำงานสางหนี้รถไฟฟ้าสายสีเขียว
- สภากทม.ยังไม่เห็นชอบควักเงินหมื่นล้านจ่ายหนี้ BTSC ตั้งกมธ.ศึกษา 30 วัน
- ‘ชัชชาติ’ ขอ 100 วันจ่ายหนี้ BTSC - ตอบรับแนวคิดซื้อคืนสัมปทานรถไฟฟ้า
- ‘ศาล ปค.สูงสุด’สั่ง‘กทม.’จ่ายค่าจ้างเดินรถ-ซ่อมบำรุง‘สายสีเขียว’ 1.2 หมื่นล้าน ให้ BTSC
- พลิกคดี‘หนี้สายสีเขียว’หมื่นล.!‘ศาลปค.สูงสุด’ชี้สัญญา‘ส่วนต่อขยาย’ไม่เข้าข่าย กม.ร่วมทุนฯ
- 'คีรี' นำทีม BTS แถลงจี้ กทม.รีบจ่ายหนี้เดินรถ 1.2 หมื่นล้าน
- BTSC ยื่นขอความเป็นธรรม 'อัยการฯ' สู้ข้อกล่าวหา ป.ป.ช.คดีสายสีเขียว
- ป.ป.ช.ให้ BTS ทำหนังสือชี้แจงปมจ้างเดินรถสายสีเขียว ก่อนส่งสำนวนให้อัยการฯ
- กรุงเทพธนาคม’ ขอ ป.ป.ช. กันเป็นพยาน คดีฮั้วจ้างเดินรถไฟฟ้าสายสีเขียว
- ‘คีรี’ เปิดใจ ป.ป.ช.แจ้งข้อหา BTS เหมือนถูกแกล้ง
- 'วัชรพล' สั่งสอบเอกสารแจ้งข้อกล่าวหาคดีรถไฟฟ้าสีเขียวหลุด-พนง.BTSC ยกพลจี้ถาม
- ‘บีทีเอส’แจงคดีสายสีเขียว! อ้างขอนัดหมายชี้แจงข้อกล่าวหา แต่กลับถูก'ป.ป.ช.'ชี้มูลฯก่อน
- เลขาฯป.ป.ช.คอนเฟิร์ม! ชี้มูลคดีรถไฟฟ้า'สายสีเขียว' ยังไม่รู้ผู้ถูกกล่าวหา 12 ราย ใครบ้าง
- 'สุขุมพันธ์-คีรี-พวก 10 ราย'โดนยกก๊วน! 'ป.ป.ช.'ชี้มูลฯคดีรถไฟฟ้า'สายสีเขียว'แล้ว
- ‘องค์คณะไต่สวน’ชง‘ป.ป.ช.’ชี้มูล‘สุขุมพันธ์-คีรี-BTSC’ คดีรถไฟฟ้า‘สายสีเขียว’
- ป.ป.ช.ตั้ง 7 ประเด็น สอบเพิ่ม คดี ‘สุขุมพันธุ์' จ้าง BTS เดินรถไฟฟ้าสายสีเขียว ปี 55