จำคุก 2 เดือน ให้รอลงโทษ ‘นันทนิตร’ สท.เมืองศิลา ขอนแก่น จงใจไม่ยื่นบัญชีทรัพย์สิน

picaaaayayyaya30 12 67

ศาลฎีกาฯพิพากษา ‘นันทนิตร ทองเมืองน้อย’ สท.เมืองศิลา เมืองขอนแก่น จงใจไม่ยื่นบัญชีทรัพย์สิน ป.ป.ช. กรณีพ้นตำแหน่ง ให้เพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งตลอดไป จำคุก 2 เดือน ปรับ 8,000 บาท รอลงโทษ 1 ปี พฤติการณ์ไม่มาแสดงตัว ออกหมายจับ พิจารณาคดีลับหลัง

สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org รายงานว่า เมื่อวันที่ 4 ธันวาคม 2567 ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง มีคำพิพากษาว่า นางสาวนันทนิตร ทองเมืองน้อย สมาชิกสภาเทศบาลเมืองศิลา อำเภอเมืองขอนแก่น จังหวัดขอนแก่น ผู้ถูกกล่าวหา จงใจไม่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (คณะกรรมการ ป.ป.ช.) ผู้ร้อง และมีพฤติการณ์อันควรเชื่อได้ว่ามีเจตนาไม่แสดงที่มาแห่งทรัพย์สินหรือหนี้สินกรณีพ้นจากตำแหน่งสมาชิกสภาเทศบาลเมืองศิลา อำเภอเมืองขอนแก่น จังหวัดขอนแก่น ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 114 วรรคสอง (1) ให้เพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งของผู้ถูกกล่าวหาตลอดไป ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 81 ประกอบมาตรา 114 วรรคสาม กับมีความผิดตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 167 จำคุก 2 เดือน และปรับ 8,000 บาท ไม่ปรากฏว่าผู้ถูกกล่าวหาเคยได้รับโทษจำคุกมาก่อน โทษจำคุกจึงให้รอการลงโทษไว้มีกำหนด 1 ปี รายละเอียดดังนี้

@เปิดคำพิพากษาฉบับเต็ม-หลบหนี ศาลออกหมายจับ

ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง วันที่ 4 เดือน ธันวาคม พุทธศักราช 2567 ระหว่าง คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ผู้ร้อง นางสาวนันทนิตร ทองเมืองน้อย ผู้ถูกกล่าวหา เรื่อง การแสดงบัญชีรายการทรัพย์สินและหนี้สิน

ผู้ร้องยื่นคำร้องขอให้วินิจฉัยว่า ผู้ถูกกล่าวหาซึ่งดำรงตำแหน่งสมาชิกสภาเทศบาลเมืองศิลา อำเภอเมืองขอนแก่น จังหวัดขอนแก่น จงใจไม่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบและมีพฤติการณ์อันควรเชื่อได้ว่ามีเจตนาไม่แสดงที่มาแห่งทรัพย์สินหรือหนี้สินนั้นต่อผู้ร้อง กรณีพ้นจากตำแหน่ง ขอให้เพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งของผู้ถูกกล่าวหากับขอให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 81, 114 วรรคสอง (1), 167 ประกอบมาตรา 188

ศาลมีคำสั่งประทับรับคำร้องไว้พิจารณากรณีไม่ปรากฏผู้ถูกกล่าวหาต่อหน้าศาล ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง พ.ศ. 2560 มาตรา 27 ศาลส่งหมายเรียกและสำเนาคำร้องให้ผู้ถูกกล่าวหาทราบโดยชอบแล้ว ผู้ถูกกล่าวหาไม่มาศาล ศาลออกหมายจับแล้ว ไม่สามารถจับตัวได้ภายในกำหนด จึงพิจารณาคดีโดยไม่ต้องกระทำต่อหน้าผู้ถูกกล่าวหา ตามมาตรา 28 ผู้ถูกกล่าวหาไม่มาศาลในวันนัดพิจารณาครั้งแรก ถือว่าผู้ถูกกล่าวหาให้การปฏิเสธ ตามมาตรา 33 วรรคสาม

@ไม่ยื่นกรณพ้นตำแหน่ง-ไม่ชี้แจงข้อกล่าวหา

พิเคราะห์พยานหลักฐานจากการไต่สวนของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรง ตำแหน่งทางการเมือง ประกอบสำนวนการไต่สวนของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติแล้ว ข้อเท็จจริงรับฟังได้ว่า ผู้ถูกกล่าวหาได้รับเลือกตั้งให้ดำรงตำแหน่งสมาชิกสภาเทศบาลเมืองศิลา อำเภอเมืองขอนแก่น จังหวัดขอนแก่น โดยปฏิญาณตนต่อที่ประชุมสภาเทศบาลเมืองศิลา เมื่อวันที่ 21 ธันวาคม 2555 ผู้ถูกกล่าวหายื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบต่อผู้ร้องกรณีเข้ารับตำแหน่งแล้ว ต่อมาผู้ถูกกล่าวหาพ้นจากตำแหน่งเมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2564 ผู้ถูกกล่าวหาจึงต้องยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินของตน คู่สมรสและบุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะต่อผู้ร้องกรณีพ้นจากตำแหน่ง ภายในวันที่ 2 เมษายน 2564 แต่ผู้ถูก กล่าวหาไม่ดำเนินการภายในระยะเวลาดังกล่าว ผู้ร้องจึงมีหนังสือแจ้งให้ผู้ถูกกล่าวหายื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบภายใน 30 วัน นับแต่วันที่ได้รับหนังสือ โดยฉบับแรกส่งไปที่บ้านเลขที่ 883 หมู่ที่ 3 ตำบลศิลา อำเภอเมืองขอนแก่น จังหวัดขอนแก่น ซึ่งเป็นที่อยู่ตามฐานข้อมูลการทะเบียนราษฎรของผู้ถูกกล่าวหา และฉบับที่สองส่งไปที่บ้านเลขที่ 994/39 หมู่ที่ 12 ตำบลศิลา อำเภอเมืองขอนแก่น จังหวัดขอนแก่น ซึ่งเป็นที่อยู่ตามที่ผู้ถูกกล่าวหาแจ้งไว้ในแบบบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินกรณีเข้ารับตำแหน่ง ปรากฏว่าส่งไม่ได้ทั้งสองฉบับโดยฉบับแรกไปรษณีย์ส่งคืนโดยแจ้งว่าไม่มีเลขที่บ้านตามที่จ่าหน้า ฉบับที่สองแจ้งว่าย้ายไม่ทราบที่อยู่ใหม่ ผู้ร้องมีหนังสือแจ้งให้ผู้ถูกกล่าวหาไปรับทราบข้อกล่าวหา โดยส่งไปที่บ้านเลขที่ 994/39 หมู่ที่ 12 ตำบลศิลา อำเภอเมืองขอนแก่น จังหวัดขอนแก่น แต่ไปรษณีย์ส่งไม่ได้โดยแจ้งว่าย้ายไม่ทราบที่อยู่ใหม่เช่นเดิม ต่อมาผู้ร้องมีหนังสือแจ้งข้อกล่าวหาให้ผู้ถูกกล่าวหาทราบทางไปรษณีย์ ลงทะเบียนตอบรับไปที่บ้านเลขที่ 883 หมู่ที่ 3 ตำบลศิลา อำเภอเมืองขอนแก่น จังหวัดขอนแก่น ไปรษณีย์ส่งไม่ได้โดยแจ้งว่านำจ่ายไม่สำเร็จเนื่องจากผู้รับไม่อยู่ในขณะนำจ่าย

@พฤติการณ์ชัดเปลี่ยนที่อยู่ ไปรษณีย์ส่งหนังสือไม่ได้

มีปัญหาที่ต้องวินิจฉัยว่า ผู้ถูกกล่าวหาจงใจไม่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบต่อผู้ร้อง และมีพฤติการณ์อันควรเชื่อได้ว่ามีเจตนาไม่แสดงที่มาแห่งทรัพย์สินหรือหนี้สิน กรณีพ้นจากตำแหน่งสมาชิกสภาเทศบาลเมืองศิลา อำเภอเมืองขอนแก่น จังหวัดขอนแก่น หรือไม่

เห็นว่า ผู้ถูกกล่าวหาได้รับเลือกตั้งให้ดำรงตำแหน่งสมาชิกสภาเทศบาลเมืองศิลา จึงเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 4 มีหน้าที่ต้องยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบของตน คู่สมรส และบุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะต่อผู้ร้อง ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 102 (9) และ มาตรา 105 และประกาศคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ เรื่อง กำหนด ตำแหน่งของผู้บริหารท้องถิ่น รองผู้บริหารท้องถิ่น ผู้ช่วยผู้บริหารท้องถิ่น และสมาชิกสภาท้องถิ่นขององค์การปกครองส่วนท้องถิ่น ที่ต้องยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินตามมาตรา 102 (9) พ.ศ. 2561 ซึ่งการยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินเป็นหน้าที่สำคัญของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ที่ต้องปฏิบัติ เพราะเป็นมาตรการในการตรวจสอบทรัพย์สินและหนี้สินของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง เพื่อให้เกิดการตรวจสอบผู้ใช้อำนาจรัฐ แต่ผู้ถูกกล่าวหากลับเพิกเฉยไม่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบกรณีพ้นจากตำแหน่งดังกล่าว ทั้ง ๆ ที่ผู้ถูกกล่าวหาเคยยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินกรณีเข้ารับตำแหน่งมาแล้ว อันเป็นข้อแสดงว่าผู้ถูกกล่าวหาทราบดีว่าตนมีหน้าที่ที่จะต้องยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินต่อผู้ร้องตามที่กฎหมายกำหนดบ่งชี้ให้เห็นว่าผู้ถูกกล่าวหาไม่ใส่ใจต่อหน้าที่อันสำคัญที่ต้องปฏิบัติตามกฎหมายโดยเคร่งครัด ประกอบกับผู้ร้องยังได้มีหนังสือแจ้งเตือนผู้ถูกกล่าวหาให้ดำเนินการภายในระยะเวลาที่กำหนด และต่อมามีหนังสือแจ้งให้ไปรับทราบข้อกล่าวหากับชี้แจงข้อเท็จจริง อันเป็นการเปิดโอกาสให้ผู้ถูกกล่าวหาชี้แจงเหตุผลเพื่อพิสูจน์เจตนาของตนได้ โดยส่งไปที่อยู่ตามฐานข้อมูลการทะเบียนราษฎรและที่อยู่ที่ผู้ถูกกล่าวหาให้ไว้ในบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินที่เคยยื่นกรณีเข้ารับตำแหน่ง ซึ่งผู้ถูกกล่าวหาก็มิได้โต้แย้งว่าที่อยู่ดังกล่าวมิใช่ภูมิลำเนาของตนหรือได้เปลี่ยนที่อยู่ใหม่ตั้งแต่เมื่อใด แต่ผู้ถูกกล่าวหากลับมิได้ชี้แจงแสดงเหตุผลใด ๆ ตลอดมา กรณีจึงไม่ปรากฏพฤติการณ์ใดอันจะทำให้เชื่อได้ว่าผู้ถูกกล่าวหามิได้มีเจตนาไม่แสดงที่มาแห่งทรัพย์สินหรือหนี้สิน จึงฟังได้ว่า ผู้ถูกกล่าวหาจงใจไม่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบต่อผู้ร้องภายในระยะเวลาที่กฎหมายกำหนดกรณีพ้นจากตำแหน่ง และมีพฤติการณ์อันควรเชื่อได้ว่ามีเจตนาไม่แสดงที่มาแห่งทรัพย์สินและหนี้สินกรณีพ้นจากตำแหน่ง ผู้ถูกกล่าวหาจึงต้องถูกเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งตลอดไปตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 81 ประกอบมาตรา 114 วรรคสาม ทั้งการกระทำของผู้ถูกกล่าวหายังเป็นความผิดฐานเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐจงใจไม่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบต่อผู้ร้อง และมีพฤติการณ์อันควรเชื่อได้ว่ามีเจตนาไม่แสดงที่มาแห่งทรัพย์สินและหนี้สิน กรณีพ้นจากตำแหน่ง ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 167 ด้วย

@ให้เพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง-จำคุก 2 เดือน ปรับ 8,000 บาท รอลงโทษ 1 ปี

พิพากษาว่า นางสาวนันทนิตร ทองเมืองน้อย ผู้ถูกกล่าวหา จงใจไม่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินต่อผู้ร้อง และมีพฤติการณ์อันควรเชื่อได้ว่ามีเจตนาไม่แสดงที่มาแห่งทรัพย์สินหรือหนี้สินกรณีพ้นจากตำแหน่งสมาชิกสภาเทศบาลเมืองศิลา อำเภอเมืองขอนแก่น จังหวัดขอนแก่น ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 114 วรรคสอง (1) ให้เพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งของผู้ถูกกล่าวหาตลอดไป ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 81 ประกอบมาตรา 114 วรรคสาม กับมีความผิดตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 167 จำคุก 2 เดือน และปรับ 8,000 บาท ไม่ปรากฏว่าผู้ถูกกล่าวหาเคยได้รับโทษจำคุกมาก่อน โทษจำคุกจึงให้รอการลงโทษไว้มีกำหนด 1 ปี ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 56 ไม่ชำระค่าปรับให้จัดการตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 29, 30.

(คดีหมายเลขแดงที่ อม.37/2567 วันที่ 4 ธ.ค. 2567)

sila kk 281224 pic1