'สภาองค์กรของผู้บริโภค' ออกแถลงการณ์ฉบับที่ 5 เรียกร้องครม.ยุติต่อสัมปทาน 'สายสีเขียว' ล่วงหน้า 38 ปี พร้อมย้ำค่าโดยสารรถไฟฟ้า 25 บาททำได้จริง
..................
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อวันที่ 19 เม.ย. สภาองค์กรของผู้บริโภคได้ออกแถลงการณ์ฉบับที่ 5 โดยระบุว่า เรียกร้องให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) หยุดการต่อสัญญาสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีเขียวล่วงหน้า 38 ปี พร้อมยืนยันว่าการกำหนดอัตราค่าโดยสารรถไฟฟ้าสายสีเขียวในอัตราไม่เกิน 25 บาทตลอดส่วนทำได้จริง และเห็นว่าราคาค่าโดยสารรถไฟฟ้าทุกสายต้องถูกลงเพื่อให้ประชาชนสามารถเข้าถึงการใช้บริการรถไฟฟ้าซึ่งเป็นบริการขนส่งมวลชน
สำหรับแถลงการณ์ระบุว่า หลายคนตั้งคำถามสภาองค์กรของผู้บริโภคกับประเด็น '25 บาททำได้จริงหรือ?' ซึ่งเป็นราคาค่ารถไฟฟ้าสายสีเขียว ที่สภาองค์กรของผู้บริโภคเสนอต่อ กทม.และรัฐบาล แต่สภาองค์กรของผู้บริโภคขอถามกลับ '65 บาท ประชาชนจ่ายได้จริงหรือ? เมื่อสูงถึง 39.28% ของรายได้ขั้นต่ำหรือรัฐบาลพร้อมจะขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ'
"เมื่อปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ท่านนายกรัฐมนตรีได้แจ้งไว้ว่าจะนำเรื่องค่ารถไฟฟ้าสายสีเขียวที่เป็นข้อถกเถียงกันอยู่เข้าครม.เพื่อลงมติ ในขณะเดียวกันบริษัทบีทีเอสก็ออกคลิปทวงหนี้รัฐบาลออกอากาศ ขณะเดียวกัน ดร.สามารถ ราชพลสิทธิ์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ได้เขียนบทความแสดงความคิดเห็นเรื่องต้นทุนของรถไฟฟ้า และบริษัทกรุงเทพธนาคมของ กทม. ได้ออกมาโต้เรื่องราคาเช่นกัน
โดยภาพรวมสภาองค์กรของผู้บริโภคมองเห็นว่า เป็นกระบวนการที่ชี้ชวนและบังคับให้ประชาชนจำยอมรับราคา 65 บาทที่กทม.ตั้งไว้ มีเพียงคุณชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ที่ออกมาให้ข้อมูลหนี้ กทม. และเห็นว่า หลังปี 2572 ซึ่งหมดสัญญาสัมปทานแล้ว รายได้ต่างๆ ของรถไฟฟ้าสามารถใช้หนี้ได้สบาย แถมสามารถลดราคาให้ประชาชนได้อีก"แถลงการณ์ ระบุ
ทั้งนี้ สภาองค์กรของผู้บริโภค เรียกร้องให้รัฐบาลมีหลักการเบื้องต้นของการสร้างระบบรถไฟฟ้าเพื่อให้เป็นบริการขนส่งมวลชนในการสัญจรในกรุงเทพมหานคร ที่การจราจรกำลังทำให้เมืองเป็นอัมพาต สร้างมลพิษทางอากาศ และทำลายคุณภาพชีวิตของประชาชนและระบบเศรษฐกิจของชาติ แต่เมื่อราคารถไฟฟ้ามิได้ตั้งอยู่บนพื้นฐานความสามารถจ่ายได้จริงของประชาชนส่วนใหญ่ที่เป็นผู้สัญจรไปมา ระบบรถไฟฟ้าก็จะกลายเป็นสัญญลักษณ์ของความล้มเหลวของรัฐบาล สภาองค์กรของผู้บริโภค มีความเห็นโดยภาพรวมดังนี้
1.เสนอครม.ยุติการพิจารณาต่อสัญญาสัมปทานล่วงหน้าสายสีเขียว และกำหนดให้รถไฟฟ้าหลากสีเป็นบริการขนส่งมวลชนที่รัฐมีหน้าที่จัดบริการให้ประชาชนเข้าถึง พร้อมเร่งจัดทำราคารถไฟฟ้าสูงสุดที่ประชาชนสามารถจ่ายได้ต่อวัน ให้ทุกสายยุติเก็บค่าแรกเข้าที่ซ้ำซ้อน เพราะหากนำเรื่องนี้เข้าไปพิจารณา ประชาชนต้องจ่าย 65 บาทเป็นเวลา 38 ปี อย่างไม่มีทางหลีกเลี่ยงตามสัญญาสัมปทาน สายเกินไปที่จะทำให้ประชาชนได้ราคารถไฟฟ้าที่เป็นบริการขนส่งมวลชนจริง เหมือนกับประเทศอื่นๆ ที่เขาสามารถทำให้ประชาชนจ่ายค่ารถไฟฟ้าได้ไม่เกิน 10% ของรายได้ขั้นต่ำ เพื่อคุณภาพชีวิตของประชาชน ป้องกันปัญหามลภาวะและลดปัญหาการจราจรที่ติดขัดในกรุงเทพมหานคร
2.สภาองค์กรของผู้บริโภค เสนอให้หาวิธีการใหม่ในการทำสัญญาหรือการต่อสัญญาสัมปทานที่เกี่ยวข้องกับบริการขนส่งมวลชนหรือบริการสาธารณะ เช่น สายสีส้มที่กำลังจะดำเนินการประมูล ถึงเวลาต้องใช้วิธีการอื่นในการดำเนินการเพราะดูแลผลประโยชน์ของประชาชนทำได้จำกัด มีผลประโยชน์แอปแฝงมากมายถึงแม้จะใช้นักกฎหมายแผ่นดินก็ไม่อาจปกป้องผลประโยชน์ประชาชนได้ ดังรูปธรรมมากมายในอดีตและกำลังจะเกิดขึ้นในอนาคต หรือแม้แต่กรุงเทพมหานครยอมรับว่าได้ทำสัญญาจ้างเดินรถถึงปี 2585 เกินสัญญาสัมปทานหลักสายสีเขียวที่จะหมดในปี 2572 หากรัฐหรือ กทม.จะหักดิบไม่ต่อสัญญาจ้างบริหารกับ BTS เพื่อให้สิ้นสุดพร้อมกันในปี 2572 เลย แม้จะทำได้แต่ก็คงจะเกิดปัญหาฟ้องร้องกันตามมาแน่
3.เสนอให้ยึดหลักการบริการขนส่งมวลชนทุกคนต้องขึ้นได้และไม่ค้ากำไร ยืนยันว่า 25 บาททำได้จริง จากการให้สัมภาษณ์ของพล.ต.อ.อัศวินขวัญเมืองhttps://www.dailynews.co.th/economic/813193) ให้ข่าวว่า การกำหนดราคา 65 บาท กทม.จะได้ผลตอบแทน 240,000 ล้านบาท ตลอดสัมปทาน 30 ปี แต่จากการคาดการณ์ของกระทรวงคมนาคม หากใช้ราคา 49.83 บาท จะทำให้กทม.มีรายได้ 380,200 ล้านบาท ในระยะเวลา 30 ปี หากนำเงินจำนวนนี้ใช้หนี้เดิมในช่วง ปีพ.ศ. 2564-2572 ประมาณ 100,000 ล้านบาท กทม.ยังมีกำไรสูงถึง 280,200 ล้านบาท (380,200-100,000 = 280,200 ล้านบาท)
4.การเปิดเผยข้อมูลมากยิ่งขึ้นจะทำให้ราคารถไฟฟ้าถูกลง เช่น ค่าจ้างเดินรถควรมีราคาสูงสุดเท่าใด หากใช้ข้อมูลกระทรวงคมนาคม คำนวณค่าจ้างเดินรถ 30 ปี ไว้จำนวน 248,000 ล้านบาท หากคิดรวมค่าจ้างเดินรถเพิ่มอีก 8 ปี (2564-2572) ค่าจ้างเดินรถ ควรจะอยู่ที่ประมาณ 314,134 ล้านบาท ขณะที่คุณสามารถ ราชพลสิทธิ์ คิดค่าจ้างเดินรถ 38 ปี ในช่วงปี 2564-2602 รวมทั้งหมดประมาณ 841,000 ล้านบาท ทั้งที่ก่อนหน้านี้เคยให้สัมภาษณ์ว่ากทม.จ้างเดินรถแพงเฉลี่ยแล้วแพงกว่าที่รฟม.จ้างบริษัททางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพจำกัด(มหาชน)เดินรถไฟฟ้าสายสีม่วงอยู่ถึง 2 เท่า ในยุคผู้ว่าฯสุขุมพันธ์ เดือนสิงหาคมปี 2559 โดยบริษัทกรุงเทพธนาคมได้เริ่มทำสัญญาว่าจ้างบีทีเอสให้เดินรถทั้ง 2 สายเป็นเวลา 25 ปี มูลค่ากว่า 160,000 ล้านบาท ( https://themomentum.co/bts-skytrain-concession/ )
5.สภาองค์กรของผู้บริโภค สนับสนุนให้รัฐบาลแก้ปัญหาระยะยาวและมองรถไฟฟ้าหลากสีทั้งระบบ ต้องรวมทุกสาย ทุกส่วนต่อขยายเป็นระบบเดียวกับบริการขนส่งมวลชนอื่นๆ ทั้งสีน้ำเงิน สีม่วง สีชมพู สีแดง สีทองสีส้ม เช่น ตั้งบริษัท Joint venture ที่มิใช่การตั้งองค์กรใหม่ขึ้นมากินหัวคิว แบบที่ผ่านๆมา แต่เป็นการถือหุ้นร่วมกันระหว่างภาครัฐกับเอกชน แบ่งค่าใช้จ่ายและรายได้ร่วมกันทุกอย่าง ต้องรวมทุกสาย ทุกส่วนต่อขยายเป็นระบบเดียวกับบริการขนส่งมวลชนอื่นๆ ที่สำคัญต้องมีราคาที่ถูกลงทั้งระบบ
6.สภาองค์กรของผู้บริโภคเสนอให้บริหารจัดการรายได้ของรถไฟฟ้าทั้งระบบ ยืนยัน 25 บาท ตลอดสายทำได้จริง นอกจากรายได้จากค่าโดยสารแล้วยังมีรายได้อื่นๆ เช่น การพัฒนาอสังหาริมทรัพย์บริเวณรถไฟฟ้า การโฆษณา การจัดเก็บภาษีลาภลอยจากการพัฒนาที่ดิน หรือการจัดเก็บภาษีน้ำมันจากผู้ใช้รถยนต์โดยขึ้นภาษีน้ำมัน 20 สตางค์ต่อลิตร จะทำให้กทม.มีรายได้ประมาณ 6,500 ล้านบาทต่อปี (https://thaipublica.org/2016/11/oilfund-9-11-2559/)
"การจัดบริการขนส่งมวลชนเป็นพันธกิจของรัฐบาลที่มอบให้กทม. ดำเนินการแทน ซึ่งปฏิเสธไม่ได้ว่า ระบบรถไฟฟ้าเป็นบริการสาธารณะอย่างหนึ่งที่ต้องทำให้คนส่วนใหญ่เข้าถึงได้ จะนำเรื่องขาดแคลนงบประมาณมาเป็นข้ออ้างไม่ได้ เพราะมีวิธีหารายได้หลายๆทางที่จะนำมาชดเชยค่าใช้จ่ายที่ขาดทุนได้ตามตัวอย่างที่สภาองค์กรของผู้บริโภคยกมาให้เห็นเป็นรูปธรรมข้างต้นนี้" แถลงการณ์ระบุ
อ่านประกอบ :
ค่าก่อสร้างแพงกว่าสายสีเขียว 3 เท่า! รฟม.ยันค่าโดยสารรถไฟฟ้า'MRT' 4 สาย เหมาะสมแล้ว
'สภาฯผู้บริโภค' ยื่นหนังสือถึง 'ครม.' ค้านต่อสัมปทาน 'สายสีเขียว'-เปิดปชช.มีส่วนร่วม
แบกหนี้ไม่ไหว! ‘บีทีเอส’ ร่อนจม.แจงปัญหา ‘สายสีเขียว’-'สภาผู้บริโภคฯ'ค้านต่อสัมปทาน
'สายสีเขียว' ต่อคิวเข้าครม.! ‘บิ๊กตู่’ ย้ำค่าโดยสารต้องไม่สูงเกินไป-ขอบีทีเอสร่วมมือ
รอผลตรวจสอบป.ป.ช.! นายกฯเผยครม.ยังพิจารณาต่อสัมปทาน ‘สายสีเขียว’
50 บาทตลอดสาย! ‘คค.’ ชงตั้งกองทุนฯ ‘สายสีเขียว’-สภาผู้บริโภคฯชี้ลดได้อีก 50%
เลื่อนเก็บไปแล้ว! ศาลปค.ไม่รับคำขอ ‘ทุเลาบังคับ’ ประกาศฯขึ้นค่าโดยสาร ‘สายสีเขียว’
หนีกม.ร่วมทุน! อัด‘บิ๊กตู่’ต่อสัมปทาน‘สายสีเขียว’ ข้ามศตวรรษ’-‘บิ๊กป๊อก’ยันไร้ทุจริต
'บิ๊กตู่'ย้ำทุกฝ่ายหารือทางออกรถไฟฟ้าสายสีเขียว ขอบคุณ กทม.เลื่อนเก็บ 104 บาท
กทม.เลื่อนเก็บค่ารถไฟฟ้า'สายสีเขียว' 104 บาท หวั่นเป็นภาระประชาชนช่วงโควิด
ถูกกว่าสายสีเขียว! รฟม.แจงค่าโดยสารรถไฟฟ้า 'สายสีส้ม' ส่วนตะวันตก 15-45 บาท
แพงสวนทางรายได้ขั้นต่ำ! 'มพบ.'ค้านขึ้นค่าโดยสารสายสีเขียว 104 บาท-จี้นายกฯสั่งเบรก
ไม่ชี้นำ! ‘บิ๊กตู่’ ปัดตอบปมสายสีเขียว-‘บอสใหญ่บีทีเอส’ ร่อนหนังสือขอความเป็นธรรม
แบกขาดทุนปีละ 4 พันล.! กทม.ปรับค่าโดยสาร 'สายสีเขียว' ตลอดสายไม่เกิน 104 บาท
เปิดเงื่อนไขขยายสัมปทาน ‘สายสีเขียว’ 30 ปี-‘คมนาคม’ ร่อนหนังสือหนุน 3 ฉบับ ก่อนกลับลำ ‘ค้าน’
สร้างแล้วทุบทิ้งไม่ได้! ‘บิ๊กตู่’ เผยลดค่าตั๋วรถไฟฟ้า ‘สายสีเขียว’ ตลอดสาย อยู่ในขั้น 'เจรจา'
รุมค้านต่อสัญญาสายสีเขียว! วงเสวนาฯชี้มีเวลาอีก 9 ปี-จี้เปิดประมูลแข่งขันหลังหมดสัมปทาน
#กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage