‘วงษ์สยามก่อสร้างฯ’ ทำหนังสือทวงค่าน้ำจาก ‘อีสท์วอเตอร์’ 7.6 ล้านบาท หลังพบมีส่งน้ำผ่าน ‘ท่อสายหลัก’ โครงการหนองปลาไหล-หนองค้อ โดยไม่ได้รับอนุญาต ด้าน EASTW รับส่งน้ำจริง แต่เป็นการดำเนินการ 'ด้านสังคม' เพื่อสนับสนุน ‘ชุมชน’ แก้ไขปัญหาขาดแคลนน้ำ พร้อมต่อรองขอคิดค่าน้ำที่ 9.50 บาท/ลบ.ม.
...................................
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อวันที่ 23 พ.ย.ที่ผ่านมา บริษัท วงษ์สยามก่อสร้าง จำกัด ได้ทำหนังสือถึง บมจ.จัดการและพัฒนาทรัพยากรน้ำภาคตะวันออก (EASTW) หรืออีสท์วอร์เตอร์ เรื่อง ขอให้ชำระค่าใช้จ่ายจากการรับน้ำผ่านท่อแยกจ่ายย่อยที่เชื่อมต่อจากระบบท่อส่งน้ำของโครงการหนองปลาไหล-หนองค้อ โดยไม่ได้รับอนุญาต โดยมีเนื้อหาว่า
ตามที่ บริษัท จัดการและพัฒนาทรัพยากรน้ำภาคตะวันออก จำกัด (มหาชน) (“บริษัท East Water”) ได้มีการรับน้ำจากระบบท่อส่งน้ำของโครงการหนองปลาไหล-หนองค้อ (“ท่อสายหลัก”) ซึ่งดำเนินการสูบจ่ายน้ำโดยบริษัท วงษ์สยามก่อสร้าง จำกัด (“บริษัทฯ”) ตั้งแต่วันที่ 12 เมษายน 2566 จนถึงปัจจุบัน
โดยการรับน้ำจะใช้ท่อแยกจ่ายน้ำดิบนิคมอุตสาหกรรม เหมราช อีสเทิร์นซีบอร์ด แห่งที่ 3 (“ท่อแยกจ่าย”) รับน้ำจากท่อสายหลัก บริเวณสี่แยกวัดเขาน้อย ซึ่งท่อแยกจ่ายดังกล่าวเป็นทรัพย์สินของ บริษัท East Water เพื่อลำเลียงน้ำไปส่งจ่ายให้แก่ นิคมอุตสาหกรรม เหมราช อีสเทิร์นซีบอร์ด แห่งที่ 3 ระยะทางจากจุดเชื่อมประสานระหว่างท่อหลักและพ่อแยกจ่ายประมาณ 10.45 กม. โดยในปัจจุบันบริษัทฯ ใช้มาตรวัดน้ำที่จุดปลายทางรับน้ำที่นิคมอุตสาหกรรม เหมราช อีสเทิร์นซีบอร์ด แห่งที่ 3 เป็นจุดตรวจสอบปริมาณการรับน้ำในการคำนวณค่าน้ำดิบ นั้น
ในการนี้ บริษัทฯ ได้มีการประสาน บริษัท East Water เพื่อให้ติดตั้งมาตรวัดน้ำที่ต้นทางของท่อแยกจ่าย โดยวาจามาโดยตลอด แต่บริษัท East Water ก็นิ่งเฉย ไม่ได้มีการติดตั้งมาตรวัดน้ำที่ต้นทางแต่อย่างใด และบริษัท East Water ก็มิได้แจ้งว่าจะรับน้ำเป็นระยะเวลายาวนานเท่าใด และจุดใดบ้างในท่อแยกจ่าย ซึ่งอาจจะเป็นเหตุให้ทรัพย์สินของกรมธนารักษ์ได้รับความเสียหาย โดยบริษัทฯ ก็ได้ประสานเรื่องการจัดทำสัญญาหรือการให้ลงนามในใบเสนอราคาเพื่อรับน้ำแบบรายเดือนแต่ก็ยังไม่มีความชัดเจน
ต่อมา จากการติดตามเรื่องปริมาณน้ำสูญเสียในระบบท่อ บริษัทฯ พบว่าในเดือนสิงหาคม 2566 เป็นต้นมา ปริมาณน้ำสูญเสียมีค่าสูงกว่าค่าเฉลี่ยอย่างผิดปกติ บริษัทฯ จึงได้ทำการสำรวจเรื่องน้ำสูญเสีย ซึ่งบริษัทฯ พบว่า ท่อแยกจ่ายดังกล่าว มีท่อแยกจ่ายน้ำย่อยไปยังองค์การบริหารส่วนตำบลตาสิทธิ์และท่อแยกจ่ายย่อย ไปยังองค์การบริหารส่วนตำบลหนองเสือช้าง โดยบริษัทฯ ได้ประสานขอข้อมูลการใช้น้ำจากฝ่ายปฏิบัติการและบริการลูกค้าของบริษัท East Water ของทั้ง 2 ท่อแยกจ่ายย่อย แต่ไม่ได้รับความร่วมมือแต่อย่างใด
ดังนั้น บริษัทฯ จึงขออ้างอิงปริมาณน้ำตามมาตรวัดน้ำที่ปรากฏ ณ วันที่เข้าสำรวจ เมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน 2566 และสรุปค่าใช้จ่ายรวม ดังนี้
1.ท่อแยกจ่ายน้ำย่อยไปยังองค์การบริหารส่วนตำบลตาสิทธิ์ ปริมาณน้ำ 59,283 ลบ.ม. (อ้างอิงจากเลขมาตรวัดน้ำเมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน 2566) ค่าใช้จ่าย 681,754.5 บาท
2.ท่อแยกจ่ายน้ำย่อยไปยังองค์การบริหารส่วนตำบลหนองเสือช้าง ปริมาณน้ำ 469,413 ลบ.ม. (อ้างอิงจากเลขมาตรวัดน้ำ เมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน 2566) ค่าใช้จ่าย 5,398,249.5 บาท
3.ค่าใช้จ่ายในการสำรวจ (เหมา) 500,000 บาท
4.ค่าปรับในการใช้น้ำโดยไม่ได้รับอนุญาต (เหมา) 1,000,000 บาท
รวมค่าใช้จ่าย 7,580,004.00
ดังนั้น จึงขอให้ท่านโปรดชำระค่าใช้จ่ายทั้งหมด ภายในวันที่ 15 ธันวาคม 2566 หากท่านมิได้ชำระภายในวันที่กำหนดดังกล่าว บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์คิดดอกเบี้ยผิดนัดในอัตราร้อยละ 15 ต่อปี ของค่าใช้จ่ายที่ท่านยังไม่ได้ชำระ นับตั้งแต่พ้นกำหนดเวลาดังกล่าว จนกว่าจะชำระให้แก่บริษัทฯ ครบถ้วน และ/หรือดำเนินการตามที่เห็นสมควรต่อไป จึงเรียนมาเพื่อโปรดพิจารณาดำเนินการโดยเร่งด่วนต่อไป
ขณะที่ล่าสุดเมื่อวันที่ 14 ธ.ค.ที่ผ่านมา อีสท์วอร์เตอร์ ทำหนังสือ เรื่อง ขอให้ชำระค่าใช้จ่ายจากการรับน้ำผ่านท่อแยกจ่ายย่อยที่เชื่อมต่อจากระบบท่อส่งน้ำของโครงการหนองปลาไหล-หนองค้อ โดยไม่ได้รับอนุญาต ถึงบริษัท วงษ์สยามก่อสร้างฯ โดยมีเนื้อหาว่า ตามที่ บริษัท วงษ์สยามก่อสร้าง จำกัด (“บริษัทวงษ์สยามฯ”) แจ้งว่าได้จ่ายน้ำจากระบบท่อส่งน้ำสายหลักหนองปลาไหล-หนองค้อ ส่งน้ำดิบให้นิคมอุตสาหกรรม เหมราช อีสเทิร์นซีบอร์ด แห่งที่ 3
และใช้มาตรวัดน้ำที่จุดปลายทางรับน้ำในการคำนวณค่าน้ำดิบ และได้มีการประสานบริษัทฯด้วยวาจา ให้บริษัทฯติดตั้งมาตรวัดน้ำที่ต้นทางของท่อแยกจ่าย แต่บริษัทฯนิ่งเฉยและมิได้แจ้งว่าจะรับน้ำเป็นระยะเวลายาวนานเท่าใด และจุดใดบ้างในท่อแยกจ่ายซึ่งอาจจะเป็นเหตุให้ทรัพย์สินของกรมธนารักษ์ได้รับความเสียหาย
ต่อมาบริษัทวงษ์สยามฯแจ้งว่า ได้ตรวจพบว่ามีท่อแยกจ่ายน้ำย่อยไปยังองค์การบริหารส่วนตำบลตาสิทธิ์ (“อบต.ตาสิทธิ์”) และไปยังองค์การบริหารส่วนตำบลหนองเสือช้าง (“อบต.หนองเสือช้าง”) โดยประสานขอข้อมูลการใช้น้ำของทั้งสองท่อย่อยแยกจ่ายแต่ไม่ได้รับความร่วมมือจากฝ่ายปฏิบัติการและบริการลูกค้าของบริษัทฯแต่อย่างใด จึงเข้าสำรวจและเรียกเก็บค่าใช้จ่ายรวม 7,580,004 บาท
โดยให้ชำระค่าใช้จ่ายทั้งหมด ภายในวันที่ 15 ธันวาคม 2566 หากมิได้ชำระภายในกำหนด จะขอสงวนสิทธิ์คิดดอกเบี้ยผิดนัดในอัตราร้อยละ 15 ต่อปี นั้น
บริษัทฯ ขอเรียนว่า การดำเนินการส่งจ่ายน้ำจากท่อบริษัทฯ ส่งน้ำไปยัง อบต.ตาสิทธิ์และ อบต.หนองเสือช้าง เป็นการดำเนินการด้านสังคมเพื่อสนับสนุนชุมชนแก้ไขปัญหาการขาดแคลนน้ำสำหรับอุปโภคบริโภค และเป็นบริการสาธารณะประโยชน์โดยไม่ได้มีการเรียกคิดค่าใช้จ่ายแต่อย่างใด เนื่องจาก อบต.ตาสิทธิ์และ อบต.หนองเสือช้าง ไม่มีสัญญาการใช้น้ำกับทางบริษัทฯ
อย่างไรก็ดี ประเด็นตามที่ท่านกล่าวอ้างว่าได้มี การประสานบริษัทฯด้วยวาจา ให้ติดตั้งมาตรวัดน้ำที่ต้นทางของท่อแยกจ่าย และบริษัทฯ นิ่งเฉยนั้น ไม่สอดคล้องตามข้อเท็จจริง ด้วยภายหลังจากที่บริษัทฯ ได้รับการประสานงาน ได้มีการนัดหมายร่วมกับเจ้าหน้าที่ของท่าน เพื่อการสำรวจหน้างาน ในวันที่ 26 ตุลาคม 2566 ในการพิจารณาจุดติดตั้งร่วมกัน โดยได้รับแจ้งว่าจะส่งข้อมูลจุดที่พิจารณาให้แก่บริษัทฯ
แต่ปัจจุบันยังไม่มีการจัดส่งข้อมูลดังกล่าวให้แต่อย่างใด รวมถึงการสอบถามข้อมูลการใช้น้ำที่มีการประสานงานส่วนตัว บริษัทฯได้แจ้งขอให้จัดทำหนังสือสอบถามเข้ามาเป็นทางการเนื่องจากเป็นข้อมูลส่วนบุคคลและไม่ได้เป็นคู่สัญญาใช้น้ำ
ดังนั้น บริษัทฯขอเรียนว่าบริษัทฯไม่ได้นิ่งเฉยและให้มีการขอข้อมูลที่เป็นทางการการใช้น้ำของ อบต.ตาสิทธิ์และ อบต.หนองเสือช้างมีการใช้น้ำมาก่อนการส่งมอบทรัพย์สินระบบท่อส่งน้ำหนองปลาไหล-หนองค้อ คืนกรมธนารักษ์เมื่อวันที่ 11 เมษายน 2566 ซึ่งทางบริษัทวงษ์สยามฯ ได้มีการแจ้งว่าการส่งมอบรับมอบทรัพย์สินดังกล่าวจะไม่ส่งผลกระทบกับผู้ใช้น้ำ โดยที่ผู้ใช้น้ำสามารถใช้น้ำได้อย่างต่อเนื่อง ดังนั้น ทาง อบต.ตาสิทธิ์และ อบต.หนองเสือช้าง จึงเป็นผู้ใช้น้ำเดิม ที่ทางบริษัทวงษ์สยามฯ จะต้องส่งน้ำให้อย่างต่อเนื่อง เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบกับผู้ใช้น้ำ มิได้เป็นผู้ใช้น้ำรายใหม่แต่อย่างใด
นอกจากนี้ เพื่อเป็นการช่วยตรวจสอบปริมาณการใช้น้ำของทั้งสองราย บริษัทฯได้สรุปปริมาณการใช้น้ำของ อบต.ตาสิทธิ์ และ อบต.หนองเสือช้าง ตั้งแต่วันที่ 11 เมษายน ถึงวันที่ 30 พฤศจิกายน 2566 เป็นปริมาณน้ำรวม 185,835 ลูกบาศก์เมตร รายละเอียดตามสิ่งที่ส่งมาด้วย 1. และให้ทาง อบต.ทั้งสองยืนยันปริมาณน้ำตามสิ่งที่ส่งมาด้วย 2.และ 3.
ดังนั้น เพื่อให้การส่งจ่ายน้ำโครงกรท่อส่งน้ำหนองปลาไหล-หนองค้อ มีความต่อเนื่อง และไม่ส่งผลกระทบต่อผู้ใช้น้ำ บริษัทฯ ขอให้ทางบริษัทวงษ์สยามก่อสร้างฯ เรียกเก็บค่าน้ำของ อบต.ตาสิทธิ์และ อบต.หนองเสือช้าง มาที่บริษัทฯ เป็นปริมาณการใช้น้ำตั้งแต่วันที่ 11 เมษายน ถึงวันที่ 30 พฤศจิกายน 2566 เป็นปริมาณน้ำรวม 185,835 ลูกบาศก็เมตร และเนื่องจากทาง อบต.นำน้ำดังกล่าวมาแก้ไขปัญหาการขาดแคลนน้ำสำหรับอุปโภคบริโภคและเป็นบริการสาธารณะ
จึงขออนุเคราะห์บริษัทวงษ์สยามฯคิดค่าน้ำดังกล่าวในอัตราสำหรับการอุปโภค-บริโภค ที่อัตรา 9.50 บาทต่อลูกบาศก์เมตร (อ้างอิงตามประกาศโครงสร้างราคาค่าน้ำดิบ บจ.วงษ์สยาม ณ วันที่ 22 มีนาคม 2566) หรือเป็นไปตามอัตราที่ท่านเห็นสมควรกำหนดเรียกเก็บเพื่อกิจการบริการสาธารณะ
พร้อมกันนี้ บริษัทฯใคร่ขอสงวนสิทธิ์ยกเว้นการชำระค่าใช้จ่ายในการสำรวจและค่าปรับในการใช้น้ำ โดยบริษัทฯ ยินดีจะชำระเงินค่าน้ำดิบให้แก่บริษัทวงษ์สยามฯ สำหรับการใช้น้ำของ อบต.ตาสิทธิ์ และ อบต.หนองเสือช้าง ในปริมาณการใช้น้ำตั้งแต่วันที่ 11 เมษายน ถึงวันที่ 30 พฤศจิกายน 2566 เป็นปริมาณน้ำรวม 185,835 ลูกบาศก์เมตร สำหรับปริมาณการใช้น้ำในเดือนถัดไป บริษัทฯจะประสานงานกับทาง อบต.เพื่อขอตัวเลขมาตรวัดน้ำทุกสิ้นเดือนเพื่อแจ้งบริษัทวงษ์สยาม ต่อไป
ทั้งนี้ หากบริษัทวงษ์สยามฯเห็นว่าการส่งจ่ายน้ำให้ท่อแยกจ่าย อบตตาสิทธิ์ และ อบต.หนองเสือช้าง อาจจะเป็นเหตุให้ทรัพย์สินของกรมธนารักษ์ได้รับความเสียหาย และขอให้แจ้งบริษัทฯ เพื่อจะได้ประสานงานกับทาง อบต.ตาสิทธิ์ และ อบต.หนองเสือช้าง เพื่อหยุดส่งจ่ายน้ำให้ท่อแยกจ่ายดังกล่าวต่อไป
จึงเรียนมาเพื่อขอยกเลิกใบแจ้งหนี้ตามเอกสารที่อ้างถึง และจัดส่งใบแจ้งหนี้ใหม่ที่คำนวณตามปริมาณน้ำที่ อบต.ใช้จริงตั้งแต่วันที่ 11 เมษายน ถึงวันที่ 30 พฤศจิกายน 2566 เป็นปริมาณน้ำรวม 185,835 ลูกบาศก์เมตร
รายงานข่าวแจ้งด้วยว่า เมื่อวันที่ 20 ธ.ค.2566 นายเด่นดวง เจริญทรัพย์ ในฐานะผู้รับมอบอำนาจจากบริษัท วงษ์สยามก่อสร้างฯ ได้เดินทางเข้าแจ้งความร้องทุกข์ค่อ สภ.ปลวกแดง จ.ระยอง กรณีอีสท์วอเตอร์มีการใช้น้ำของบริษัท วงษ์สยามก่อสร้างฯ โดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งเป็นการกระทำผิดฐานลักทรัพย์ และขอให้พนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายจนกว่าคดีจะถึงที่สุด
อ่านประกอบ :
ไม่เอื้อเอกชนรายใด-เป็นปย.แก่ราชการ! ‘ศาล ปค.กลาง’ยกฟ้อง คดีพิพาทล้มประมูลท่อส่งน้ำ EEC
เปิดมติ ครม.ยกเลิก‘ผูกขาด’บริหารน้ำพื้นที่ EEC-เปิดทาง‘วงษ์สยามฯ’ซื้อน้ำดิบจาก‘กรมชลฯ’
‘ตุลาการแถลงคดี’เห็นควร‘ยกฟ้อง’ คดีพิพาทล้มประมูลท่อส่งน้ำ EEC-ศาลฯนัดตัดสิน 28 ธ.ค.นี้
‘ศาล ปค.’นัดนั่งพิจารณาครั้งแรก คดี EASTW ฟ้อง‘บอร์ดคัดเลือกฯ’ปมล้มประมูลท่อน้ำEEC ปี 64
‘เศรษฐา’ กาวใจ ‘วงษ์สยาม-อีสท์วอเตอร์’ ปมท่อส่งน้ำอีอีซี
‘ศาล ปค.สูงสุด’ สั่งไม่รับคำฟ้อง ‘อีสท์วอเตอร์’ ปมร้องเพิกถอนผลประมูลท่อส่งน้ำ EEC
'ศาลปค.'ยกคำร้อง'อีสท์วอเตอร์' ขอทุเลาบังคับฯหนังสือ‘ธนารักษ์’เรียกคืน'ท่อส่งน้ำ' EEC
'อีสท์วอเตอร์'พร้อมคืน'ท่อส่งน้ำ'ให้'ธนารักษ์'-ห่วงเจรจาทรัพย์สิน'พื้นที่ทับซ้อน'ไม่ยุติ
บอกเลิกสัญญาแล้ว! ‘ธนารักษ์’ขีดเส้น‘อีสท์วอเตอร์’คืนท่อส่งน้ำอีอีซี ภายใน 11 เม.ย.นี้
'อีสท์วอเตอร์'ฟ้อง'ศาลปกครอง' ขอเพิกถอนคำสั่ง'ธนารักษ์'ให้ส่งมอบทรัพย์สิน'ท่อส่งน้ำ EEC'
ยังไม่ฟันธง‘ผิด-ไม่ผิด’! ‘ธนารักษ์’เร่งเก็บข้อมูล‘อีสท์วอเตอร์’ลักลอบเชื่อมท่อส่งน้ำ EEC
DSI จ่อฟัน‘อีสท์วอเตอร์’ลักลอบเชื่อมท่อส่งน้ำ EEC-‘สันติ’สั่งสอบจ่าย‘ค่าเช่า’ย้อนหลัง
อนุฤทธิ์ เกิดสินธ์ชัย : เล่าเบื้องหลัง‘วงษ์สยามฯ’ชนะประมูลท่อส่งน้ำ EEC 2.5 หมื่นล้าน
'ธนารักษ์-วงษ์สยามฯ'เซ็นสัญญาท่อส่งน้ำอีอีซี 2.5 หมื่นล.-จ่อลดค่าน้ำ'ปชช.-อุตสาหกรรม'
'ศาลปค.สูงสุด' สั่ง 'ยกเลิก' คำสั่งระงับเซ็นสัญญาท่อส่งน้ำ 'อีอีซี' 2.5 หมื่นล้าน
‘อัยการ’ ยื่นคำร้อง ‘ศาลปค.’ ขอยกเลิกคำสั่งระงับเซ็นสัญญาโครงการท่อส่งน้ำ EEC
‘ธนารักษ์’เตรียมถก‘อัยการ’หาช่องอุทธรณ์ หลัง‘ศาลปค.’สั่งระงับเซ็นสัญญาท่อส่งน้ำ EEC