‘อีสท์วอเตอร์’ ฟ้อง ‘ศาลปกครองกลาง’ ขอให้เพิกถอนคำสั่ง ‘กรมธนารักษ์’ ที่แจ้งให้ ‘EASTW’ ส่งมอบทรัพย์สินท่อส่งน้ำ ‘อีอีซี’ 2 ท่อ ‘หนองปลาไหล-หนองค้อ’ และ ‘หนองค้อ-แหลมฉบัง (ระยะที่ 2)’ อ้างเป็นคำสั่งที่มิชอบด้วยกฎหมาย
..................................
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อวันที่ 11 ม.ค.2566 ที่ผ่านมา บมจ.จัดการและพัฒนาทรัพยากรน้ำภาคตะวันออก (EASTW) หรือ อีสท์วอเตอร์ (ผู้ฟ้องคดี) ได้ยื่นฟ้องกรมธนารักษ์ (ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1) ,อธิบดีกรมธนารักษ์ (ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 2) และปลัดกระทรวงการคลัง (ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 3) ต่อศาลปกครองกลาง โดย อีสท์วอเตอร์ ขอให้ศาลฯมีคำพิพากษาหรือคำสั่งให้ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1-3 ดำเนินการใน 3 ประเด็น ได้แก่
1.ให้เพิกถอนคำสั่งของผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1 (กรมธนารักษ์) โดยผู้ถูกฟ้องคดีที่ 2 (อธิบดีกรมธนารักษ์) ตามหนังสือที่กค 0310/12271 ลงวันที่ 30 ก.ย.2565 ซึ่งแจ้งให้ผู้ฟ้องคดี (อีสท์วอเตอร์) ดำเนินการส่งมอบทรัพย์สินโครงการท่อส่งน้ำหนองปลาไหล-หนองค้อ และโครงการท่อส่งน้ำหนองค้อ-แหลมฉบัง (ระยะที่ 2)
2.ให้ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 3 (ปลัดกระทรวงการคลัง) ปฏิบัติหน้าที่ในฐานะผู้มีอำนาจพิจารณาอุทธรณ์ให้ถูกต้อง โดยดำเนินการเจรจาการส่งมอบทรัพย์สิน พร้อมแก้ไขปัญหาการส่งมอบทรัพย์สินต่างๆให้เสร็จสิ้นครบถ้วน โดยได้รับความเห็นชอบจากผู้ฟ้องคดี (อีสท์วอเตอร์) ตามมติคณะกรรมการที่ราชพัสดุ เมื่อวันที่ 14 มี.ค.2565
ทั้งนี้ หากผู้ถูกฟ้องคดีที่ 3 มีคำวินิจฉัยอุทธรณ์เป็นการยืนยันคำสั่งของผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1 โดยผู้ถูกฟ้องคดีที่ 2 ตามหนังสือที่กค 0310/12271 ลงวันที่ 30 ก.ย.2565 ซึ่งผู้ฟ้องคดีไม่เห็นด้วย ผู้ฟ้องคดีมีความประสงค์ที่จะขอให้ศาลเพิกถอนคำวินิจฉัยอุทธรณ์ของผู้ถูกฟ้องคดีที่ 3 ด้วย กรณีเทียบเคียงได้กับคำสั่งศาลปกครองสูงสุดที่ 249/2558
3.ให้ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1 (กรมธนารักษ์) งดเว้นการดำเนินการ ให้ผู้ฟ้องคดีส่งมอบทรัพย์สินโครงการท่อส่งน้ำหนองปลาไหล-หนองค้อ และโครงการท่อส่งน้ำหน้องค้อ-แหลมฉบัง (ระยะที่ 2) จนกว่าจะได้ดำเนินการให้ถูกต้องตามมติของคณะกรรมการที่ราชพัสดุ เมื่อวันที่ 14 มี.ค.2565
นอกจากนี้ อีสท์วอเตอร์ ยังได้ยื่นคำขอเกี่ยวกับวิธีการชั่วคราวก่อนการพิพากษาต่อศาลฯ ลงวันที่ 11 ม.ค.2566 ซึ่งต่อมาในวันที่ 4 ก.พ.2566 ศาลฯมีคำสั่งถึงอธิบดีกรมธนารักษ์ ทำคำชี้แจงคัดค้านคำขอเกี่ยวกับวิธีการชั่วคราวก่อนการพิพากษา พร้อมทั้งพยานหลักฐาน ส่งให้ศาลฯภายใน 15 วัน นับแต่วันได้รับคำสั่ง
สำหรับคดีนี้ อีสท์วอเตอร์ ฟ้องว่า อีสท์วอเตอร์ (ผู้ฟ้องคดี) เป็นผู้ได้รับความเดือดร้อนหรือเสียหาย หรืออาจจะเดือดร้อนหรือเสียหายโดยมิอาจหลีกเลี่ยงได้ อันเนื่องมาจากการกระทำหรืองดเว้นการกระทำของกรมธนารักษ์ (ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1) โดยอธิบดีกรมธนารักษ์ (ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 2) จากการใช้อำนาจตาม พ.ร.บ.ที่ราชพัสดุ พ.ศ.2562
แจ้งคำสั่งทางปกครองให้ผู้ฟ้องคดีส่งมอบคืนทรัพย์สินโครงการท่อส่งน้ำหนองปลาไหล-หนองค้อ และโครงการท่อส่งน้ำหนองค้อ-แหลมฉบัง (ระยะที่ 2) แก่ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1 ภายในกำหนด 60 วัน นับแต่วันที่ได้รับหนังสือแจ้งคำสั่งทางปกครอง ตามหนังสือผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1 ที่ กค 0310/12271 ลงวันที่ 30 ก.ย.2565 และการดำเนินการของผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1 ให้ผู้ฟ้องคดีส่งมอบคืนทรัพย์สินโครงการท่อส่งน้ำทั้งสองตามคำสั่งทางปกครองดังกล่าว
ต่อมา อีสท์วอเตอร์ (ผู้ฟ้องคดี) ได้รับหนังสือแจ้งคำสั่งทางปกครองข้างต้นจากกรมธนารักษ์ (ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1) โดยอธิบดีกรมธนารักษ์ (ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 2) เมื่อวันที่ 4 ต.ค.2565 และเห็นว่าเป็นคำสั่งทางปกครองของผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1 โดยผู้ถูกฟ้องคดีที่ 2 ที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย จึงได้ดำเนินการแก้ไขความเดือดร้อนหรือเสียหาย โดยใช้สิทธิอุทธรณ์คำสั่งทางปกครองพร้อมขอทุเลาการบังคับตามคำสั่งทางปกครองต่อผู้ถูกฟ้องคดีที่ 2
โดยอธิบดีกรมธนารักษ์ (ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 2) ได้รับคำอุทธรณ์จากผู้ฟ้องคดีเมื่อวันที่ 19 ต.ค.2565 ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 2 จึงมีหน้าที่ตามกฎหมายต้องพิจารณาคำอุทธรณ์และคำขอทุเลาการบังคับตามคำสั่งทางปกครองของผู้ฟ้องคดีให้เสร็จสิ้น พร้อมแจ้งให้ผู้ฟ้องคดีทราบ ภายในกำหนด 30 วัน นับแต่วันที่ได้รับคำอุทธรณ์จากผู้ฟ้องคดีกล่าวคือ ไม่เกินวันที่ 18 พ.ย.2565
ในกรณีที่อธิบดีกรมธนารักษ์ (ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 2) ไม่เห็นด้วยกับคำอุทธรณ์และคำขอทุเลาการบังคับตามคำสั่งทางปกครองของผู้ฟ้องคดี ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 2 ก็มีหน้าที่ตามกฎหมายต้องเร่งรายงานความเห็นพร้อมเหตุผลไปยังปลัดกระทรวงการคลัง (ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 3) ซึ่งเป็นผู้มีอำนาจพิจารณาคำอุทธรณ์ภายในกำหนด 30 วันนับแต่วันที่ได้รับคำอุทธรณ์จากผู้ฟ้องคดี กล่าวคือ ไม่เกินวันที่ 18 พ.ย.2565
และปลัดกระทรวงการคลัง (ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 3) มีหน้าที่ตามกฎหมายต้องพิจารณาคำอุทธรณ์ให้แล้วเสร็จภายใน 30 วัน นับแต่วันที่ได้รับรายงานจากผู้ถูกฟ้องคดีที่ 2 กล่าวคือ ภายในวันที่ 18 ธ.ค.2565 หากผู้ถูกฟ้องคดีที่ 3 มีเหตุจำเป็นไม่อาจพิจารณาคำอุทธรณ์และคำขอทุเลาการบังคับตามคำสั่งทางปกครองของผู้ฟ้องคดีให้แล้วเสร็จได้ภายในวันที่ 18 ธ.ค.2565
ปลัดกระทรวงการคลัง (ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 3) ก็มีหน้าที่ตามกฎหมายต้องแจ้งเหตุจำเป็นให้ผู้ฟ้องคดีทราบก่อนครบกำหนดระยะเวลาพิจารณาคำอุทธรณ์ดังกล่าว ซึ่งจะทำให้ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 3 ได้รับการขยายระยะเวลาตามกฎหมายในการพิจารณาคำอุทธรณ์ของผู้ฟ้องคดีอีกไม่เกิน 30 วันนับแต่วันครบกำหนดพิจารณาคำอุทธรณ์ กล่าวคือ ไม่เกินวันที่ 17 ม.ค.2566
อย่างไรก็ดี เมื่อนับระยะเวลาตั้งแต่วันที่กรมธนารักษ์ (ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1) ได้รับคำอุทธรณ์และคำขอทุเลาการบังคับตามคำสั่งทางปกครองจาก อีสท์วอเตอร์ (ผู้ฟ้องคดี) เมื่อวันที่ 19 ต.ค.2565 จนถึงวันที่ผู้ฟ้องคดียื่นคำฟ้องต่อศาลปกครองกลางเป็นคดีนี้ก็ผ่านไปนานรวม 84 วันแล้ว แต่ผู้ฟ้องคดียังมิได้รับแจ้งผลการพิจารณาคำอุทธรณ์และคำขอทุเลาการบังคับตามคำสั่งทางปกครองจากผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1 โดยผู้ถูกฟ้องคดีที่ 2 และจากผู้ถูกฟ้องคดีที่ 3
นอกจากนี้ ผู้ฟ้องคดีมิได้รับแจ้งเหตุจำเป็นจากผู้ถูกฟ้องคดีที่ 3 ที่ไม่อาจพิจารณาคำอุทธรณ์ของผู้ฟ้องคดีให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 18 ธ.ค.2565 อีกด้วย
ดังนั้น อีสท์วอเตอร์ (ผู้ฟ้องคดี) ไม่มีหนทางอื่นใดที่จะแก้ไขความเดือดร้อนหรือเสียหาย หรืออาจจะเดือดร้อนหรือเสียหายโดยมิอาจหลีกเลี่ยงได้ข้างต้น จึงจำเป็นต้องใช้สิทธิทางศาลฟ้องผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1 ถึงที่ 3 เป็นคดีนี้ เพื่อขอบารมีศาลในการพิจารณาให้ความเป็นธรรมแก่ผู้ฟ้องคดีจากการกระทำ หรืองดเว้นการกระทำทางปกครองของผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1 ถึงที่ 3 ที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย
โดยขอศาลได้โปรดมีคำพิพากษาหรือคำสั่งให้เพิกถอนคำสั่งทางปกครองของกรมธนารักษ์ (ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1) โดยอธิบดีกรมธนารักษ์ (ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 2) เพื่อให้คำสั่งทางปกครองที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายดังกล่าวไม่มีผลใดๆ ทางกฎหมาย พร้อมขอให้ศาลได้โปรดพิจารณามีคำสั่งให้ทุเลาการบังคับตามคำสั่งทางปกครองดังกล่าวในระหว่างการพิจารณาคดีของศาลแก่ผู้ฟ้องคดีด้วย
สำนักข่าวอิศรารายงานเพิ่มเติมว่า เมื่อวันที่ 26 ม.ค.ที่ผ่านมา อีสท์วอเตอร์ แจ้งตลาดหลักทรัพย์ฯ ว่าตามที่ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย สอบถามมายัง บริษัท จัดการและพัฒนาทรัพยากรน้ำภาคตะวันออก จำกัด (มหาชน) และขอให้บริษัทฯ ชี้แจงข้อเท็จจริงที่ปรากฎในข่าวเกี่ยวกับการส่งมอบทรัพย์สินให้กรมธนารักษ์ และกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) ตรวจสอบทรัพย์สินของโครงการบริหารและดำเนินการระบบท่อส่งน้ำสายหลักในภาคตะวันออก นั้น
บริษัทฯ ขอเรียนให้ทราบว่า การส่งมอบคืนทรัพย์สินซึ่งเป็นช่วงระยะเวลาเปลี่ยนผ่านไปยังผู้ประกอบการรายใหม่นั้น จำเป็นต้องมีการวางแผน และกำหนดแนวทางขั้นตอนการดำเนินการที่เห็นชอบร่วมกันทุกฝ่าย เพื่อมีให้เกิดปัญหาการเลือกปฏิบัติกับผู้ใช้น้ำกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งเป็นการเฉพาะ โดยบริษัทฯ คำนึงถึงและหลีกเลี่ยงมิให้ลูกค้าได้รับผลกระทบในช่วงเปลี่ยนผ่านนี้
อย่างไรก็ดี เมื่อกรมธนารักษ์ประสงค์ให้ส่งมอบทรัพย์สินโครงการท่อส่งน้ำหนองปลาไหล-หนองค้อ และหนองค้อ -แหลมฉบัง (ระยะที่ 2) ก่อน บริษัทฯ จึงจะต้องเตรียมทรัพย์สินในส่วนที่จะส่งมอบ และแยกดำเนินการและบริหารงานออกจากกัน บริษัทฯในฐานะที่เป็นผู้บริหารจัดการน้ำในพื้นที่ภาคตะวันออกมากว่า 30 ปี จึงมองเห็นถึงปัญหาที่จะเกิดขึ้นว่าผู้ใช้น้ำอาจจะได้รับผลกระทบ ซึ่งมิได้มีแค่เพียงผู้ใช้น้ำตามแนวเส้นท่อส่งน้ำของกระทรวงการคลังเท่านั้น แต่ยังมีผู้ใช้น้ำตามแนวเส้นท่อส่งน้ำของบริษัทฯ ด้วยเช่นกัน ปัจจุบันบริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการดำเนินการทางกฎหมาย
ส่วนประเด็นข่าวเรื่องการจ่ายค่าตอบแทนให้แก่ภาครัฐไม่ยุติธรรม ท่อส่งน้ำสายหลัก 2 เส้น ได้แก่ โครงการท่อส่งน้ำหนองค้อ-แหลมฉบัง (ระยะที่ 1) ที่จ่ายผลประโยชน์ให้แก่กรมธนารักษ์ ร้อยละ 1 และโครงการท่อส่งน้ำหนองค้อ-แหลมฉบัง (ระยะที่ 2) ที่จ่ายผลประโยชน์ให้แก่กรมธนารักษ์ ร้อยละ 7 นั้น
บริษัทฯขอเรียนว่า บริษัทฯได้ดำเนินการตามสัญญาทุกประการ สามารถตรวจสอบได้ รวมทั้งการนำส่งรายได้ให้ภาครัฐ และรายงานให้กรมธนารักษ์รับทราบทุกปี นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังให้ความร่วมมือในการให้ข้อมูลและจัดส่งเอกสารตามที่ DSI แจ้งมาเป็นที่เรียบร้อยตั้งแต่เดือน มิ.ย.2565
อ่านประกอบ :
ยังไม่ฟันธง‘ผิด-ไม่ผิด’! ‘ธนารักษ์’เร่งเก็บข้อมูล‘อีสท์วอเตอร์’ลักลอบเชื่อมท่อส่งน้ำ EEC
DSI จ่อฟัน‘อีสท์วอเตอร์’ลักลอบเชื่อมท่อส่งน้ำ EEC-‘สันติ’สั่งสอบจ่าย‘ค่าเช่า’ย้อนหลัง
อนุฤทธิ์ เกิดสินธ์ชัย : เล่าเบื้องหลัง‘วงษ์สยามฯ’ชนะประมูลท่อส่งน้ำ EEC 2.5 หมื่นล้าน
'ธนารักษ์-วงษ์สยามฯ'เซ็นสัญญาท่อส่งน้ำอีอีซี 2.5 หมื่นล.-จ่อลดค่าน้ำ'ปชช.-อุตสาหกรรม'
'ศาลปค.สูงสุด' สั่ง 'ยกเลิก' คำสั่งระงับเซ็นสัญญาท่อส่งน้ำ 'อีอีซี' 2.5 หมื่นล้าน
‘อัยการ’ ยื่นคำร้อง ‘ศาลปค.’ ขอยกเลิกคำสั่งระงับเซ็นสัญญาโครงการท่อส่งน้ำ EEC
‘ธนารักษ์’เตรียมถก‘อัยการ’หาช่องอุทธรณ์ หลัง‘ศาลปค.’สั่งระงับเซ็นสัญญาท่อส่งน้ำ EEC
เปิดคำสั่ง'ศาลปค.'! ระงับเซ็นสัญญาท่อส่งน้ำ EEC อ้างเหตุจ่าย'ค่าแรกเข้า'ขัดทีโออาร์
ยกเลิกรอบสอง! ‘ธนารักษ์’เลื่อนเซ็นสัญญาท่อส่งน้ำ EEC หลัง‘ศาลปค.’สั่งคุ้มครองชั่วคราวฯ
ผลสอบฯชี้ไม่มีอะไรผิดกม.! ‘ธนารักษ์’ยันเดินหน้าเซ็นสัญญาท่อส่งน้ำ‘อีอีซี’ 3 ส.ค.นี้