‘ศาลปกครองกลาง’ ยกฟ้อง คดี ‘อีสท์วอเตอร์’ ฟ้อง ‘บอร์ดคัดเลือกฯ-กรมธนารักษ์’ ปมล้มประมูลท่อส่งน้ำ EEC ปี 64 โดยไม่ชอบ ชี้ไม่พบลักษณะการเอื้อประโยชน์ให้แก่เอกชนรายใดรายหนึ่ง-เป็นประโยชน์แก่ทางราชการ
.....................................
เมื่อวันที่ 28 ธ.ค. ศาลปกครองกลางอ่านคำพิพากษาในคดีหมายเลขดำที่ 1746/2564 คดีหมายเลขแดงที่ 2637/2566 ระหว่าง บริษัท จัดการและพัฒนาทรัพยากรน้ำภาคตะวันออก จำกัด (มหาชน) หรือ อีสท์วอเตอร์ (ผู้ฟ้องคดี) บริษัท วงษ์สยามก่อสร้าง จำกัด (ผู้ร้องสอด) คณะกรรมการคัดเลือกเอกชนในการจัดให้เช่า/บริหารระบบท่อส่งน้ำสายหลักในภาคตะวันออก (ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1) กรมธนารักษ์ (ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 2) และคณะกรรมการที่ราชพัสดุ (ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 3)
โดยศาลมีคำพิพากษายกฟ้อง โดยวินิจฉัยว่า ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 2 มีอำนาจในการจัดทำร่างประกาศเชิญชวนให้เอกชนเข้าร่วมโครงการ ร่างเอกสารสำหรับการคัดเลือกเอกชน และร่างสัญญา เสนอผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1 ตรวจพิจารณา และมีอำนาจในการกำหนดข้อสงวนสิทธิ์ที่จะเปลี่ยนแปลง แก้ไข เพิ่มเติม ยกเลิกประกาศเชิญชวน เอกสารสำหรับการคัดเลือกเอกชน การยกเลิกการคัดเลือกเอกชน และการสงวนสิทธิ์อื่นที่เกี่ยวข้อง รวมถึงการกำหนดข้อสงวนสิทธิ์ไม่ได้เป็นการขัดต่อหลักการที่บัญญัติไว้ในพระราชบัญญัติการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน พ.ศ.2562
การที่ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1 และผู้ถูกฟ้องคดีที่ 2 กำหนดข้อสงวนสิทธิ์ไว้ในเอกสารสำหรับการคัดเลือกเอกชนแนบท้ายประกาศเชิญชวนฉบับลงวันที่ 16 ก.ค.2564 จึงเป็นการกำหนดไว้โดยชอบด้วยกฎหมายแล้ว
และต้องถือว่า การที่ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1 มีมติในการประชุมครั้งที่ 6/2564 เมื่อวันที่ 24 ส.ค.2564 ยกเลิกการคัดเลือกเอกชนตามประกาศเชิญชวนเพื่อบริหารและดำเนินกิจการระบบท่อส่งน้ำสายหลักในภาคตะวันออก ลงวันที่ 16 ก.ค.2564 เป็นการกระทำไปโดยอาศัยอำนาจตามที่กฎหมายบัญญัติไว้ และเป็นการใช้ดุลพินิจให้บรรลุวัตถุประสงค์เพื่อให้เกิดประโยชน์แก่ทางราชการมากที่สุดตามที่บัญญัติไว้ในมาตรา 27 แห่ง พ.ร.บ.ที่ราชพัสดุ พ.ศ.2562 และข้อ 34 (1) ของกฎกระทรวงการจัดหาประโยชน์ที่ราชพัสดุ พ.ศ.2564 แล้ว
ประกาศเชิญชวนเอกชนเพื่อบริหารและดำเนินกิจการระบบท่อส่งน้ำสายหลักในภาคตะวันออก ลงวันที่ 10 ก.ย.2564 ได้ดำเนินการตามรูปแบบ ขั้นตอน และวิธีการที่ พ.ร.บ.ที่ราชพัสดุ พ.ศ.2562 และกฎกระทรวงการจัดหาประโยชน์ที่ราชพัสดุ พ.ศ.2564 กำหนดไว้แล้ว
สำหรับกรณีที่เนื้อหาของประกาศเชิญชวน ฉบับลงวันที่ 10 ก.ย.2564 และเอกสารสำหรับการคัดเลือกเอกชน มีการเปลี่ยนแปลงจากประกาศเชิญชวน ฉบับลงวันที่ 16 ก.ค.2564 ไม่มีผลกระทบต่อผู้ยื่นข้อเสนอที่จะทำให้เกิดความไม่เป็นธรรมกับผู้ฟ้องคดีหรือผู้ยื่นข้อเสนอรายอื่น ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 2 มีดุลพินิจในการกำหนดคุณสมบัติของผู้ยื่นข้อเสนอได้ตามที่เห็นสมควร โดยคำนึงถึงความโปร่งใส ตรวจสอบได้ ปราศจากการมีส่วนได้เสีย และเป็นไปเพื่อประโยชน์แก่ทางราชการ ให้สอดคล้องกับวัตถุประสงค์ของการจัดหาประโยชน์ที่ราชพัสดุ
แม้จะฟังว่าการปรับเกณฑ์คุณสมบัติผู้เข้าร่วมคัดเลือกจะเป็นการลดทอนให้ด้อยลงหรือไม่ก็ตาม แต่เมื่อผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1 และผู้ถูกฟ้องคดีที่ 2 กำหนดหลักเกณฑ์และคุณสมบัติดังกล่าวโดยพิจารณาแล้วว่า เป็นไปเพื่อพิจารณาความสามารถและความเป็นไปได้จริงของผู้ยื่นข้อเสนอที่จะสามารถดำเนินการบริหารโครงการไปได้ตลอดอายุสัญญา ไม่ละทิ้งไปจนอาจทำให้ผู้ประกอบการได้รับความเดือดร้อนเสียหาย มีมาตรฐานอ้างอิง มีเกณฑ์การพิจารณาให้คะแนนที่ชัดเจนเหมาะสมขึ้น สามารถตรวจสอบได้ โดยไม่ปรากฏว่ามีส่วนได้เสียในการกำหนดเกณฑ์เพื่อดำเนินการคัดเลือกเอกชน และเป็นไปเพื่อให้เกิดประโยชน์แก่ทางราชการมากที่สุด
จึงเป็นการใช้ดุลพินิจในการกำหนดคุณสมบัติผู้ยื่นข้อเสนอ และเกณฑ์การพิจารณาคัดเลือกเอกชนตามความเหมาะสมและความจำเป็นแห่งกรณีเพื่อประโยชน์แก่ทางราชการ ไม่มีลักษณะเป็นการเอื้อประโยชน์แก่เอกชนรายใดรายหนึ่งเป็นการเฉพาะเจาะจงที่จะทำให้เป็นการเลือกปฏิบัติที่ไม่เป็นธรรม
เมื่อผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1 มีมติในการประชุมครั้งที่ 2/2564 เมื่อวันที่ 29 ก.ย.2564 ให้ผู้ร้องสอด เป็นผู้ได้รับการคัดเลือกเพื่อบริหารและดำเนินกิจการระบบท่อส่งน้ำสายหลักในภาคตะวันออก และได้เจรจากับผู้ร้องสอดเพื่อตกลงในเงื่อนไขสำคัญของสัญญาตามมติในการประชุมครั้งที่ 2/2564 เมื่อวันที่ 3 พ.ย.2564 แล้วนำเสนอให้ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 3 พิจารณาให้ความเห็นชอบตามอำนาจหน้าที่แล้ว
ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 3 มีมติในการประชุมครั้งที่ 2/2565 เมื่อวันที่ 14 มี.ค.2565 เห็นชอบการดำเนินการ ผลการคัดเลือกผู้ร้องสอดเป็นคู่สัญญาในการบริหารและดำเนินกิจการระบบท่อส่งน้ำสายหลักในภาคตะวันออก จึงเป็นไปตามหน้าที่และอำนาจตามข้อ 34 ประกอบข้อ 32 ของกฎกระทรวงการจัดหาประโยชน์ที่ราชพัสดุ พ.ศ.2564 กำหนดไว้แล้ว โดยไม่มีเหตุที่จะรับฟังว่าเป็นการไม่ชอบด้วยกฎหมายในลักษณะใด
และเมื่อผู้ถูกฟ้องคดีทั้งสามดำเนินการโดยชอบด้วยกฎหมายแล้ว จึงไม่มีเหตุที่จะเพิกถอนสัญญาโครงการบริหารและดำเนินกิจการระบบท่อส่งน้ำสายหลักในภาคตะวันออก ลงวันที่ 23 ก.ย.2565 ที่ทำขึ้นระหว่างกระทรวงการคลังกับผู้ร้องสอด
สำหรับคดีนี้ผู้ฟ้องคดี (อีสท์วอเตอร์) ฟ้องว่า คณะกรรมการคัดเลือกเอกชนในการจัดให้เช่า/บริหารระบบท่อส่งน้ำสายหลักในภาคตะวันออก ที่ 1 กับพวกรวม 2 คน (ผู้ถูกฟ้องคดี) กระทำการไม่ชอบด้วยกฎหมาย กรณีผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1 มีมติแจ้งยกเลิกการคัดเลือกเอกชนตามประกาศเชิญชวนเอกชนเพื่อบริหารและดำเนินการระบบท่อส่งน้ำสายหลักในภาคตะวันออก ลงวันที่ 16 ก.ค.2564 และมีประกาศลงวันที่ 10 ก.ย.2564 เชิญชวนเอกชนเพื่อบริหารและดำเนินการระบบท่อส่งน้ำสายหลักในภาคตะวันออก ซึ่งผู้ฟ้องคดีเห็นว่าไม่ชอบด้วยกฎหมาย ทำให้ผู้ฟ้องคดีได้รับความเดือดร้อนเสียหาย จึงนำคดีมาฟ้อง
อ่านประกอบ :
เปิดมติ ครม.ยกเลิก‘ผูกขาด’บริหารน้ำพื้นที่ EEC-เปิดทาง‘วงษ์สยามฯ’ซื้อน้ำดิบจาก‘กรมชลฯ’
‘ตุลาการแถลงคดี’เห็นควร‘ยกฟ้อง’ คดีพิพาทล้มประมูลท่อส่งน้ำ EEC-ศาลฯนัดตัดสิน 28 ธ.ค.นี้
‘ศาล ปค.’นัดนั่งพิจารณาครั้งแรก คดี EASTW ฟ้อง‘บอร์ดคัดเลือกฯ’ปมล้มประมูลท่อน้ำEEC ปี 64
‘เศรษฐา’ กาวใจ ‘วงษ์สยาม-อีสท์วอเตอร์’ ปมท่อส่งน้ำอีอีซี
‘ศาล ปค.สูงสุด’ สั่งไม่รับคำฟ้อง ‘อีสท์วอเตอร์’ ปมร้องเพิกถอนผลประมูลท่อส่งน้ำ EEC
'ศาลปค.'ยกคำร้อง'อีสท์วอเตอร์' ขอทุเลาบังคับฯหนังสือ‘ธนารักษ์’เรียกคืน'ท่อส่งน้ำ' EEC
'อีสท์วอเตอร์'พร้อมคืน'ท่อส่งน้ำ'ให้'ธนารักษ์'-ห่วงเจรจาทรัพย์สิน'พื้นที่ทับซ้อน'ไม่ยุติ
บอกเลิกสัญญาแล้ว! ‘ธนารักษ์’ขีดเส้น‘อีสท์วอเตอร์’คืนท่อส่งน้ำอีอีซี ภายใน 11 เม.ย.นี้
'อีสท์วอเตอร์'ฟ้อง'ศาลปกครอง' ขอเพิกถอนคำสั่ง'ธนารักษ์'ให้ส่งมอบทรัพย์สิน'ท่อส่งน้ำ EEC'
ยังไม่ฟันธง‘ผิด-ไม่ผิด’! ‘ธนารักษ์’เร่งเก็บข้อมูล‘อีสท์วอเตอร์’ลักลอบเชื่อมท่อส่งน้ำ EEC
DSI จ่อฟัน‘อีสท์วอเตอร์’ลักลอบเชื่อมท่อส่งน้ำ EEC-‘สันติ’สั่งสอบจ่าย‘ค่าเช่า’ย้อนหลัง
อนุฤทธิ์ เกิดสินธ์ชัย : เล่าเบื้องหลัง‘วงษ์สยามฯ’ชนะประมูลท่อส่งน้ำ EEC 2.5 หมื่นล้าน
'ธนารักษ์-วงษ์สยามฯ'เซ็นสัญญาท่อส่งน้ำอีอีซี 2.5 หมื่นล.-จ่อลดค่าน้ำ'ปชช.-อุตสาหกรรม'
'ศาลปค.สูงสุด' สั่ง 'ยกเลิก' คำสั่งระงับเซ็นสัญญาท่อส่งน้ำ 'อีอีซี' 2.5 หมื่นล้าน
‘อัยการ’ ยื่นคำร้อง ‘ศาลปค.’ ขอยกเลิกคำสั่งระงับเซ็นสัญญาโครงการท่อส่งน้ำ EEC
‘ธนารักษ์’เตรียมถก‘อัยการ’หาช่องอุทธรณ์ หลัง‘ศาลปค.’สั่งระงับเซ็นสัญญาท่อส่งน้ำ EEC