‘สันติ’ เผยฝ่ายกฎหมาย ‘กรมธนารักษ์’ เตรียมหารือ ‘อัยการ’ หาช่องทางยื่นอุทธรณ์ หลัง ‘ศาลปกครอง’ มีคำสั่งระงับการลงนามสัญญาโครงการท่อส่งน้ำ EEC
..................................
จากกรณีที่ศาลปกครองกลางมีคำสั่งทุเลาการบังคับการดำเนินการตามประกาศเชิญชวนเอกชนเพื่อบริหารและดำเนินกิจการระบบท่อส่งน้ำสายหลักในภาคตะวันออก ฉบับลงวันที่ 10 ก.ย.2564 ซึ่งมีผลเป็นการระงับการดำเนินการลงนามในสัญญาโครงการบริหารและดำเนินการกิจการระบบท่อส่งน้ำภาคตะวันออก ระหว่างกรมธนารักษ์ และบริษัท วงษ์สยามก่อสร้าง จำกัด ไว้เป็นการชั่วคราวก่อนการพิพากษาหรือมีคำสั่งชี้ขาดคดี หรือจนกว่าศาลจะมีคำสั่งเป็นอย่างอื่น นั้น
ล่าสุด นายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.คลัง ในฐานะประธานคณะกรรมการที่ราชพัสดุ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีดังกล่าว ว่า ขณะนี้ทางกรมธนารักษ์กำลังศึกษาสิ่งที่ บมจ.จัดการและพัฒนาทรัพยากรน้ำภาคตะวันออก (EASTW) หรืออีสท์วอเตอร์ ร้องไปยังศาลปกครอง เช่น ศึกษาว่ามีการร้องในเรื่องใด และถูกต้องหรือไม่ พร้อมทั้งจะพิจารณาจัดทำคำแก้ข้อกล่าวหาก่อนยื่นอุทธรณ์ขึ้นไป เพื่อให้ศาลฯเปลี่ยนหรือวินิจฉัยคำสั่งอีกครั้งหนึ่ง
“จะมีการหารือกันของฝ่ายกฎหมาย ทั้งกับอัยการและฝ่ายกฎหมายของธนารักษ์ รวมทั้งอธิบดีกรมธนารักษ์ด้วย ซึ่งกำลังประสานกันอยู่ และน่าจะหารือกันเร็วที่สุด” นายสันติ กล่าว
นายสันติ กล่าวต่อว่า ในเร็วๆนี้ กรมธนารักษ์จะลงพื้นที่ตรวจสอบรายการทรัพย์สินที่เกี่ยวข้องกับระบบท่อส่งน้ำสายหลักในภาคตะวันออก ซึ่งเป็นกรรมสิทธิ์ของกรมธนารักษ์ รวมถึงลงไปดูการใช้ประโยชน์ในทรัพย์สินต่างๆ เนื่องจากสัญญาที่กรมธนารักษ์มอบหมายให้อีสท์วอเตอร์ เป็นผู้บริหารระบบท่อส่งน้ำสายหลักในภาคตะวันออก เป็นเวลา 30 ปีนั้น ใกล้สิ้นสุดสัญญาแล้ว จึงต้องลงไปตรวจสอบเพื่อให้เกิดความพร้อมในการถ่ายโอนและไม่กระทบต่อผู้ใช้น้ำในพื้นที่ EEC
นายสันติ ยังระบุว่า สำหรับท่อส่งน้ำในโครงการระบบท่อส่งน้ำภาคตะวันออกนั้น มีท่อส่งน้ำที่อีสท์วอเตอร์ทำสัญญาเช่ากับกรมธนารักษ์ 1 โครงการ คือ ท่อส่งน้ำดอกกราย ซึ่งจะสิ้นสุดสัญญาวันที่ 31 ธ.ค.2566 ส่วนอีก 2 โครงการ คือ ท่อส่งน้ำหนองปลาไหล-หนองค้อ และท่อส่งน้ำหนองค้อ-แหลมฉบับ ระยะที่ 2 ไม่มีสัญญาเช่า และกรมธนารักษ์มอบหมายให้อีสท์วอเตอร์บริหารไปพลางก่อน ซึ่งขณะนี้กรมธนารักษ์ได้บอกเลิกและให้อีสท์วอเตอร์ส่งมอบท่อคืนแล้ว
“ในระหว่างที่ยังมีปัญหาในเรื่องศาลฯอยู่ ธนารักษ์ก็ชอบที่จะเข้าไปตรวจสอบท่อต่างๆ โดยเฉพาะท่อที่กรมธนารักษ์ได้ยุติในการให้อีสท์วอเตอร์ไปบริหารชั่วคราวไปแล้ว ก่อนจะเอามาบริหารจัดการ เพื่อให้ทันกับการเปลี่ยนผ่านในการบริหารท่อส่งน้ำในภาคตะวันออกให้มีประสิทธิภาพ และทำให้ผู้ใช้น้ำ ไม่ว่าจะเป็นภาคอุตสาหกรรม และผู้อุปโภคบริโภค มีความมั่นใจว่า การเปลี่ยนผ่านครั้งนี้จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้ผู้ใช้น้ำในภาคตะวันออก” นายสันติ กล่าว
นายสันติ ยืนยันว่า การให้เอกชนรายใหม่เข้ามาดำเนินการโครงการบริหารและดำเนินการกิจการระบบท่อส่งน้ำภาคตะวันออก จะไม่ทำให้ค่าน้ำแพงขึ้น เนื่องจากในสัญญาฉบับใหม่จะกำหนดให้เอกชนคิดอัตราค่าน้ำได้สูงสุดไม่เกิน 10.98 บาท/ลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม.) ตลอดระยะเวลาสัญญา 30 ปี ดังนั้น ผู้ใช้น้ำจึงไม่ต้องกังวลว่าราคาค่าน้ำจะเพิ่มขึ้น ขณะที่อัตราค่าน้ำในสัญญาใหม่ที่กำหนดไว้ที่ 10.98 บาท/ลบ.ม. เป็นอัตราค่าน้ำที่ต่ำกว่าอัตราค่าน้ำในปัจจุบัน
อ่านประกอบ :
เปิดคำสั่ง'ศาลปค.'! ระงับเซ็นสัญญาท่อส่งน้ำ EEC อ้างเหตุจ่าย'ค่าแรกเข้า'ขัดทีโออาร์
ยกเลิกรอบสอง! ‘ธนารักษ์’เลื่อนเซ็นสัญญาท่อส่งน้ำ EEC หลัง‘ศาลปค.’สั่งคุ้มครองชั่วคราวฯ
ผลสอบฯชี้ไม่มีอะไรผิดกม.! ‘ธนารักษ์’ยันเดินหน้าเซ็นสัญญาท่อส่งน้ำ‘อีอีซี’ 3 ส.ค.นี้
'ยุทธพงศ์' เล็งยื่น ป.ป.ช.เอาผิด รมว.-รมช.คลัง ประมูลโครงการท่อส่งน้ำ EEC ไม่เป็นธรรม
‘กรมธนารักษ์’แจ้ง‘วงษ์สยามฯ’เซ็นสัญญาท่อส่งน้ำ‘อีอีซี’ 3 ส.ค.นี้ พร้อมวางเงิน 743 ล.
อภิปรายไม่ไว้วางใจ :‘ยุทธพงศ์’ อัดท่อส่งน้ำอีอีซี เอื้อเอกชน ‘สันติ’ โต้ทำตามผลศึกษา-คำสั่งศาล
‘วงษ์สยามก่อสร้างฯ’ยื่นหนังสือร้อง‘บิ๊กตู่’ ขอให้สั่งการเร่งรัดเซ็นสัญญาท่อส่งน้ำ EEC
เปิดงบ ‘วงษ์สยามฯ’ พบปี 64 กำไร 289 ล้าน โตพุ่ง 517% ก่อนจี้รัฐเซ็นสัญญาท่อส่งน้ำ EEC
ผลสอบ'ท่อส่งน้ำอีอีซี'เบื้องต้นไม่พบผิดปกติ'สันติ'ย้ำไม่มีใครสั่ง'คลัง'ให้เซ็นสัญญาได้