‘สันติ-ธนารักษ์-ดีเอสไอ’ ลงพื้นที่ตรวจสอบโครงการท่อส่งน้ำ EEC พบ ‘อีสท์วอเตอร์’ ลักลอบเชื่อมท่อส่งน้ำ EEC สั่งตรวจสอบการจ่าย ‘ค่าเช่า’ ย้อนหลัง คาด ‘ดีเอสไอ’ ใช้เวลา 3 เดือน รวบรวมพยานหลักฐาน ก่อนดำเนินคดี
.............................................
เมื่อวันที่ 23 ม.ค. นายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.คลัง ,อธิบดีกรมธนารักษ์ ,ผู้แทนจากกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) และผู้บริหารบริษัท วงษ์สยามก่อสร้าง จำกัด ลงพื้นที่ จ.ระยอง และ จ.ชลบุรี เพื่อตรวจสอบทรัพย์สินของโครงการบริหารและดำเนินกิจการระบบท่อส่งน้ำสายหลักในภาคตะวันออก ในพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ซึ่ง บมจ.จัดการและพัฒนาทรัพยากรน้ำภาคตะวันออก (EASTW) หรือ อีสท์วอเตอร์ ต้องส่งมอบคืนกรมธนารักษ์ ก่อนจะส่งมอบให้บริษัท วงษ์สยามก่อสร้าง จํากัด ผู้บริหารโครงการฯรายใหม่
ทั้งนี้ นายสันติ ได้เดินทางไปยังจุดแรก คือ สถานีสูบน้ำดิบหนองปลาไหล จ.ระยอง ซึ่งเป็นหนึ่งในทรัพย์สินที่ อีสท์วอเตอร์ ต้องส่งมอบคืนให้แก่กรมธนารักษ์ พบว่าสถานีสูบน้ำดิบดังกล่าวไม่มีการเดินเครื่องสูบน้ำแล้ว แต่ปรากฎว่าระบบท่อของโครงการฯยังมีการส่งน้ำดิบให้กับลูกค้าของอีสท์วอเตอร์อย่างต่อเนื่อง โดยอีสต์วอเตอร์ชี้แจงว่า มีการส่งน้ำดิบจากโรงสูบน้ำของอีสท์วอเตอร์มายังท่อของกรมธนารักษ์ก่อนส่งให้ลูกค้า
หลังจากนั้น นายสันติและกรมธนารักษ์ เดินทางไปตรวจสอบพื้นที่โครงการสถานีอาคารพักน้ำบอน จ.ชลบุรี ซึ่งเป็นจุดรับน้ำของท่อหนองปลาไหล-หนองค้อ จากนั้นนายสันติและคณะ ได้เข้าตรวจสอบจุดเชื่อมต่อท่อส่งน้ำดิบ 2 จุด คือ จุดจ่ายน้ำดิบของอีสท์วอเตอร์ที่จ่ายให้กับลูกค้าซึ่งอยู่ใกล้กับนิคมอุตสาหกรรมปิ่นทอง อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี และสถานีจ่ายน้ำให้ลูกค้าของการประปาส่วน ภูมิภาค (กปภ.) แหลมฉบัง อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี
นายสันติ ให้สัมภาษณ์ระหว่างการลงพื้นที่ว่า การเดินทางมาในครั้งนี้ เพื่อตรวจสอบสถานีสูบน้ำดิบหนองปลาไหล ซึ่งเป็นสถานีต้นทางในการสูบน้ำดิบและจ่ายน้ำให้โรงงานอุตสาหกรรมในภาคตะวันออกและประชาชนในพื้นที่ ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่า โรงสูบน้ำหลักทั้ง 3 โรง มีความมั่นคงและมีความเรียบร้อยดี ทำให้มั่นใจว่าในช่วงที่มีการเปลี่ยนผ่านผู้บริหารโครงการฯรายเดิมจาก อีสท์วอเตอร์ ไปยังผู้บริหารรายใหม่ คือ วงษ์สยามก่อสร้าง จะไม่เกิดปัญหา
อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบท่อน้ำในโครงการท่อส่งน้ำหนองค้อ-แหลมฉบัง (ระยะที่ 2) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของท่อย่อยเส้นที่ 1 โครงการดอกกราย พบว่ามีลักลอบเชื่อมต่อท่อส่งน้ำโครงการหนองค้อ-แหลมฉบัง (ระยะที่ 2) และท่อน้ำโครงการท่อส่งน้ำหนองค้อ-แหลมฉบัง (ระยะที่ 1) อีกทั้งพบว่ามีใช้มิเตอร์ตัวเดียวกันด้วย ทั้งๆที่ท่อส่งน้ำทั้ง 2 เส้นดังกล่าว อีสท์วอเตอร์ต้องจ่ายผลประโยชน์ตอบแทนให้กรมธนารักษ์ในอัตราที่ไม่เท่ากัน
“โครงการท่อส่งน้ำหนองค้อ-แหลมฉบัง (ระยะที่1) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโครงการย่อยในเส้นที่ 1 โครงการดอกกราย จุดนี้พบความผิดปกติ มีการแอบเชื่อมต่อท่อที่จ่ายผลประโยชน์ให้รัฐไม่เท่ากัน คือ มีการลักลอบเชื่อมท่อเส้นที่ 3 คือ โครงการท่อส่งน้ำหนองค้อ-แหลมฉบัง (ระยะที่ 2) ซึ่งจ่ายค่าตอบแทน 7% กับท่อเส้นแรก (ท่อส่งน้ำหนองค้อ-แหลมฉบัง (ระยะที่1)) ที่ต้องจ่ายค่าตอบแทน 1% และยังพบว่ามีการใช้มิเตอร์น้ำตัวเดียวกันด้วย” นายสันติ กล่าว
นายสันติ ย้ำอีกว่า “วันนี้เจ้าหน้าที่มาตรวจแล้ว พบมีการเชื่อมท่อที่อีสท์วอเตอร์ต้องจ่ายผลประโยชน์ให้กับรัฐ 1% กับท่อที่ต้องจ่ายให้กับรัฐ 7% คือ มีการส่งน้ำผ่านเข้าไปในเครื่อง แล้วรวมเป็นท่อเดียวกัน และออกมาเป็นมิเตอร์เดียว ซึ่งการรวมท่อ 1% กับท่อ 7% นั้น ผลประโยชน์ที่ต้องส่งให้รัฐจะต้องสูงต่ำไม่เท่ากัน
อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้คงต้องให้เจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบอีกครั้งว่า ท่อที่รวมกัน แล้วส่งน้ำออกไปท่อเดียวเลยนั้น ผลประโยชน์ที่ส่งให้รัฐ มีการส่งที่ 1% หรือส่งที่ 7% ซึ่งถ้าคิดแบบธรรมชาติคนทั่วไปแล้ว กรณีที่เอาท่อที่ต้องจ่าย 1% ไปรวมกับท่อที่ต้องจ่าย 7% คุณ (อีสท์วอเตอร์) ก็ต้องจ่ายให้รัฐ 7% เดี๋ยวถ้าไปตรวจสอบแล้ว พบว่าเขาจ่ายให้รัฐ 1% ก็ต้องไปคิดค่าเสียหายย้อนหลัง แต่ต้องไปตรวจสอบก่อน”
เมื่อถามว่า กรณีนี้เป็นการทุจริตหรือไม่ นายสันติ ตอบว่า “ก็ช่วยกันคิด ฝากผู้สื่อข่าวคิดด้วยครับ” พร้อมทั้งระบุว่า ขณะนี้ทางกรมสอบสวนคดีพิเศษกำลังรวบรวมหลักฐานที่เกี่ยวข้องจากหลายหน่วยงาน เพื่อดำเนินคดีต่อไป และอาจรับเป็นคดีพิเศษก็ได้ โดยใช้เวลารวบรวมพยานหลักฐานไม่เกิน 3 เดือน อย่างไรก็ดี แม้จะอยู่ระหว่างการเตรียมดำเนินคดีกับอีสท์วอเตอร์ กรณีการเชื่อมต่อท่อไม่ถูกต้อง แต่จะต้องเร่งรัดให้มีการส่งมอบท่อโดยเร็ว
นายสันติ ระบุด้วยว่า การลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบทรัพย์ในโครงการฯครั้งนี้ เจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบและมารายงานให้ทราบ แต่จะตรวจสอบเท่านี้ไม่ได้ โดยจะต้องตรวจระบบบัญชีด้วยว่า อีสท์วอเตอร์จ่ายผลตอบแทนให้รัฐเท่าไหร่ และค่าน้ำที่เก็บจากชาวบ้านเป็นเท่าไหร่ ก็จะรู้ว่าการจ่ายผลตอบแทนถูกต้องหรือไม่
ด้าน นายเชิดชาย ปิติวัชรากุล กรรมการผู้อํานวยการใหญ่ อีสท์วอเตอร์ กล่าวว่า กรณีที่กรมธนารักษ์จะตัดแยกระบบท่อส่งน้ำ และแยกระบบการบริหารท่อส่งน้ำออกจากกันนั้น อีสท์วอเตอร์มองว่าอาจจะเกิดปัญหาขึ้นได้ เนื่องจากจะทำให้การส่งน้ำและการผันน้ำมีประสิทธิภาพไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป
อ่านประกอบ :
อนุฤทธิ์ เกิดสินธ์ชัย : เล่าเบื้องหลัง‘วงษ์สยามฯ’ชนะประมูลท่อส่งน้ำ EEC 2.5 หมื่นล้าน
'ธนารักษ์-วงษ์สยามฯ'เซ็นสัญญาท่อส่งน้ำอีอีซี 2.5 หมื่นล.-จ่อลดค่าน้ำ'ปชช.-อุตสาหกรรม'
'ศาลปค.สูงสุด' สั่ง 'ยกเลิก' คำสั่งระงับเซ็นสัญญาท่อส่งน้ำ 'อีอีซี' 2.5 หมื่นล้าน
‘อัยการ’ ยื่นคำร้อง ‘ศาลปค.’ ขอยกเลิกคำสั่งระงับเซ็นสัญญาโครงการท่อส่งน้ำ EEC
‘ธนารักษ์’เตรียมถก‘อัยการ’หาช่องอุทธรณ์ หลัง‘ศาลปค.’สั่งระงับเซ็นสัญญาท่อส่งน้ำ EEC
เปิดคำสั่ง'ศาลปค.'! ระงับเซ็นสัญญาท่อส่งน้ำ EEC อ้างเหตุจ่าย'ค่าแรกเข้า'ขัดทีโออาร์
ยกเลิกรอบสอง! ‘ธนารักษ์’เลื่อนเซ็นสัญญาท่อส่งน้ำ EEC หลัง‘ศาลปค.’สั่งคุ้มครองชั่วคราวฯ
ผลสอบฯชี้ไม่มีอะไรผิดกม.! ‘ธนารักษ์’ยันเดินหน้าเซ็นสัญญาท่อส่งน้ำ‘อีอีซี’ 3 ส.ค.นี้
'ยุทธพงศ์' เล็งยื่น ป.ป.ช.เอาผิด รมว.-รมช.คลัง ประมูลโครงการท่อส่งน้ำ EEC ไม่เป็นธรรม
‘กรมธนารักษ์’แจ้ง‘วงษ์สยามฯ’เซ็นสัญญาท่อส่งน้ำ‘อีอีซี’ 3 ส.ค.นี้ พร้อมวางเงิน 743 ล.
อภิปรายไม่ไว้วางใจ :‘ยุทธพงศ์’ อัดท่อส่งน้ำอีอีซี เอื้อเอกชน ‘สันติ’ โต้ทำตามผลศึกษา-คำสั่งศาล