“…เพื่อพิสูจน์ฐานะทางการเงินของ นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ และนายศุภวัฒน์ เกษมสุทธิ์ , บริษัท ศิลาชัยบุรีรัมย์ (1991) จำกัด ,ห้างหุ้นส่วนจำกัด บุรีเจริญคอนสตรัคชั่น ย้อนหลังตั้งแต่ก่อนเกิดเหตุ คือ ปี 2559 และขณะเกิดเหตุ 2560-2561 และหลังเกิดเหตุปี 2562 ถึง 2566 ว่า มีความสัมพันธ์ โอน-รับโอนเงิน และตรวจสอบเส้นทางการเงินว่า เงินค่าซื้อหุ้น จำนวน 3 ครั้ง มาจากผู้ใด…”
......................................
สืบเนื่องจากกรณีที่ ศาลรัฐธรรมนูญ มีมติเอกฉันท์รับคำร้องกรณีความเป็นรัฐมนตรีของ นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (5) ประกอบมาตรา 187 หรือไม่ (เรื่องพิจารณาที่ 8/2566) และมีมติให้นายศักดิ์สยามหยุดปฏิบัติหน้าที่รัฐมนตรี ตั้งแต่วันที่ 3 มี.ค.2566 จนกว่าศาลฯจะวินิจฉัย
ต่อมานายศักดิ์สยาม ในฐานะผู้ถูกร้อง ได้ส่งเอกสารและพยานหลักฐานต่างๆชี้แจงต่อศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อหักล้างข้อกล่าวหา ขณะเดียวกัน ศาลรัฐธรรมนูญได้ขอให้บุคคลที่เกี่ยวข้องจัดส่งเอกสารหลักฐานเพิ่มเติมต่อศาลฯ นั้น (อ่านประกอบ : ศาลรธน.ให้ผู้เกี่ยวข้องคดี 'ศักดิ์สยาม' ถือหุ้นบุรีเจริญฯ ส่งหลักฐานเพิ่ม)
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อวันที่ 28 มิ.ย.2566 นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ในฐานะผู้เข้าชื่อเสนอคำร้องฯ ได้ยื่น ‘บัญชีระบุพยานบุคคล’ และ ‘บัญชีระบุพยานเอกสาร’ รวม 31 รายการ ต่อศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อประกอบการวินิจฉัยในเรื่องพิจารณาที่ 8/2566 มีรายละเอียด ดังนี้
@ขอหลักฐานพิสูจน์ฐานะการเงิน'ศักดิ์สยาม-ศุภวัฒน์'
บัญชีระบุพยานบุคคล จำนวน 22 ปาก
ลำดับ 1 พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคประชาชาติ
เหตุผลความจำเป็น
เนื่องจากเป็นผู้อภิปรายในเรื่องนี้ที่มีหลักฐานมีมูลน่าเชื่อ การโอนหุ้นของนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ ให้กับนายศุภวัฒน์ เกษมสุทธิ์ เป็นเจตนาลวงและหรือนิติกรรมอำพรางโดยเจตนาที่แท้จริง นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ ไม่ได้ต้องการโอนให้จริง เป็นเพียงให้นายศุภวัฒน์ ถือหุ้นแทน 119,499,000 หุ้น ดังนั้น นายศักดิ์สยาม จึงคงไว้ซึ่งหุ้น
เมื่อได้ตรวจสอบคำชี้แจงข้อกล่าวหาของนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ ซึ่งยื่นให้กับศาลรัฐธรรมนูญ เมื่อวันที่ 10 เม.ย.2566 พบว่า การโอนชำระค่าหุ้นของนายศุภวัฒน์เกษมสุทธิ์ มิได้เป็นเงินของนายศุภวัฒน์ เกษมสุทธิ์ แต่อย่างใด และเชื่อว่าเป็นเงินมาจากนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ และการซื้อขายไม่มีสัญญาจะซื้อจะขายหุ้นฯ สำหรับรายละเอียดจะได้นำเสนอต่อศาลรัฐธรรมนูญ ต่อไป
เพื่อพิสูจน์แผนการจัดการหุ้นของนายศักดิ์สยามฯ เกี่ยวกับการถือหุ้นตั้งแต่ น.ส.ปาริชาติ ขันเสน ในช่วงปี 2545และเงินค่าหุ้น 25,000,000 บาท ซึ่งชำระเป็นเงินสด
สัญญากู้ที่นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ ชี้แจงจำนวนเงิน ขัดแย้งกับงบการเงินของ บริษัท ศิลาชัยบุรีรัมย์ (1991) จำกัด ในปี 2559 สัญญากู้ 144 ล้านบาท แต่ในงบการเงิน 68 ล้านบาท
เมื่อฟังได้ว่า นายศุภวัฒน์ ถือหุ้นแทน 119,499,000 หุ้น ดังนั้น นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ จึงคงไว้ซึ่งหุ้น และเป็นเจ้าของห้างหุ้นส่วนจำกัด บุรีเจริญคอนสตรัคชั่น จึงทำให้นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ เป็นคู่สัญญากับรัฐ
ลำดับ 2 นางสาว ก.
เหตุผลความจำเป็น
เนื่องจากเป็นผู้ช่วยของ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง ตรวจสอบบัญชีนิติบุคคล, งบการเงิน, ภาษีและการเงิน, บัญชีธนาคารและเส้นทางการเงิน และการทำสัญญาเงินกู้ ของนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ และนายศุภวัฒน์ เกษมสุทธิ์, บริษัท ศิลาชัยบุรีรัมย์ (1991) จำกัด, ห้างหุ้นส่วนจำกัด บุรีเจริญคอนสตรัคชั่น มีมูลน่าเชื่อว่า นายศุภวัฒน์ เกษมสุทธิ์ ไม่มีทรัพย์สิน ก่อนที่จะมีการซื้อขายหุ้น เมื่อวันที่ 2 ส.ค.2560
ลำดับ 3 นายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล
เหตุผลความจำเป็น
เนื่องจากเป็นผู้ตรวจสอบเกี่ยวกับสัญญากู้ยืมเงินของนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ และนายศุภวัฒน์ เกษมสุทธิ์ ,บริษัท ศิลาชัยบุรีรัมย์ (1991) จำกัด ,ห้างหุ้นส่วนจำกัด บุรีเจริญคอนสตรัคชั่น และเรื่องปกปิดบัญชีสินทรัพย์ และบัญชีหนี้สิน ตั้งแต่ปี 2558 ถึง 2565
ลำดับ 4 นายเทพสุ บวรโชติดารา เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน
เหตุผลความจำเป็น
เนื่องจาก สำนักงาน ป.ป.ง. เป็นผู้ดูแลระบบฐานข้อมูลทางการเงิน (ระบบ AMLO Electronic Report Ses หรือ AERS หรือ ERS) เพื่อพิสูจน์ฐานะทางการเงินของ นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ และนายศุภวัฒน์ เกษมสุทธิ์ , บริษัท ศิลาชัยบุรีรัมย์ (1991) จำกัด ,ห้างหุ้นส่วนจำกัด บุรีเจริญคอนสตรัคชั่น ย้อนหลังตั้งแต่ก่อนเกิดเหตุ คือ ปี 2559 และขณะเกิดเหตุ 2560-2561 และหลังเกิดเหตุปี 2562 ถึง 2566 ว่า มีความสัมพันธ์ โอน-รับโอนเงิน และตรวจสอบเส้นทางการเงินว่า เงินค่าซื้อหุ้น จำนวน 3 ครั้ง มาจากผู้ใด
ลำดับ 5 นางกุลณี อิศดิศัย อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์
เหตุผลความจำเป็น
เนื่องจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เกี่ยวข้องในการรับจดทะเบียน บริษัท ศิลาชัยบุรีรัมย์ (1991) จำกัด , ห้างหุ้นส่วนจำกัด บุรีเจริญคอนสตรัคชั่น และเพื่อยืนยันการเปลี่ยนแปลงกรรมการ, หุ้นส่วนผู้จัดการ, ผู้ถือหุ้น, หุ้นส่วน, งบการเงิน, การเพิ่มทุน, การลดทุน, ที่ตั้งสำนักงานตั้งแต่ปีที่เริ่มก่อตั้งกิจการ ถึง ปี 2565
ลำดับ 6 นายลวรณ แสงสนิท อธิบดีกรมสรรพกร
เหตุผลความจำเป็น
เนื่องจากกรมสรรพกร เกี่ยวข้องกับประเด็นเรื่องหลักเกณฑ์คำนวณที่ถือเป็นรายได้และหลักเกณฑ์การชำระภาษี การยกเว้นภาษี ของนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ และนายศุภวัฒน์ เกษมสุทธิ์, บริษัท ศิลาชัยบุรีรัมย์ (1991) จำกัด, ห้างหุ้นส่วนจำกัด บุรีเจริญคอนสตรัคชั่น ย้อนหลังตั้งแต่ก่อนเกิดเหตุ คือ ปี 2557 ถึง 2559 และขณะเกิดเหตุ 2560-2561และหลังเกิดเหตุ ปี 2562 ถึง 2566
ลำดับ 7 ผู้จัดการธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน) สาขา บางบัวทอง
เหตุผลความจำเป็น
เนื่องจากนายศุภวัฒน์ เกษมสุทธิ์ เปิดบัญชีธนาคาร ไว้กับ ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน) ซึ่งใช้ในการโอน - รับโอนเงิน ในการซื้อขายหุ้นและถ่ายโอนเงินไปมาระหว่างหลายบัญชี และให้การรับรองรายการเดินบัญชีดังกล่าว
ลำดับ 8 ผู้จัดการธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน) สาขา ตลาดบางบัวทอง
เหตุผลความจำเป็น
เนื่องจากนายศุภวัฒน์ เกษมสุทธิ์ เปิดบัญชีธนาคาร ไว้กับ ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน) ซึ่งใช้ในการโอน - รับโอนเงิน ในการซื้อขายหุ้นและถ่ายโอนเงินไปมาระหว่างหลายบัญชี และให้การรับรองรายการเดินบัญชีดังกล่าว
ลำดับ 9 ผู้จัดการธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน) สาขา บุรีรัมย์
เหตุผลความจำเป็น
เนื่องจากนายศุภวัฒน์ เกษมสุทธิ์ และนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ บริษัท ศิลาชัยบุรีรัมย์ (1991) จำกัด, ห้างหุ้นส่วนจำกัด บุรีเจริญคอนสตรัคชั่น เปิดบัญชีธนาคาร ไว้กับธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน) ซึ่งใช้ในการโอน-รับโอนเงิน ในการซื้อขายหุ้นและถ่ายโอนเงินไปมาระหว่างหลายบัญชี และให้การรับรองรายการเดินบัญชีดังกล่าว
ลำดับ 10 ผู้จัดการธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน) สาขา ตลาดบางใหญ่
เหตุผลความจำเป็น
เนื่องจากนายศุภวัฒน์ เกษมสุทธิ์ เปิดบัญชีธนาคาร ไว้กับธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน) ซึ่งใช้ในการโอน - รับโอนเงิน ในการซื้อขายหุ้นและถ่ายโอนเงินไปมาระหว่างหลายบัญชี และให้การรับรองรายการเดินบัญชีดังกล่าว
ลำดับ 11 ผู้จัดการธนาคารออมสิน สาขา แคราย
เหตุผลความจำเป็น
เนื่องจากนายศุภวัฒน์ เกษมสุทธิ์ ได้นำเงินไปซื้อสลากออมสินและนำมาแสดงว่า มีฐานะทางการเงิน ก่อนซื้อหุ้นจากนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ
ลำดับ 12 ผู้จัดการธนาคารออมสิน สาขา บางบัวทอง
เหตุผลความจำเป็น
เนื่องจากนายศุภวัฒน์ เกษมสุทธิ์ ได้นำเงินไปซื้อสลากออมสินและนำมาแสดงว่า มีฐานะทางการเงิน ก่อนซื้อหุ้นจากนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ
ลำดับ 13 ผู้จัดการธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) สาขารัตนาธิเบศร์ บางใหญ่
เหตุผลความจำเป็น
เนื่องจากนายศุภวัฒน์ เกษมสุทธิ์ ได้นำมาแสดงว่า มีฐานะทางการเงิน ก่อนซื้อหุ้นจากนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ
ลำดับ 14 ผู้จัดการธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) สาขาบางบัวทอง
เหตุผลความจำเป็น
เนื่องจากนายศุภวัฒน์ เกษมสุทธิ์ ได้นำมาแสดงว่า มีฐานะทางการเงิน ก่อนซื้อหุ้นจากนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ
ลำดับ 15 น.ส.อัญชลี ปรุตรัมย์
เหตุผลความจำเป็น
เนื่องจากเป็นผู้รับทำบัญชี ให้กับบริษัท ศิลาชัยบุรีรัมย์ (1991) จำกัด, ห้างหุ้นส่วน จำกัด บุรีเจริญคอนสตรัคชั่น ปี 2564 ถึง 2565
ลำดับ 16 นางกอบกุล ถีระวงษ์
เหตุผลความจำเป็น
เนื่องจากเป็นผู้สอบบัญชี ให้กับ บริษัท ศิลาชัยบุรีรัมย์ (1991) จำกัด, ห้างหุ้นส่วนจำกัด บุรีเจริญคอนสตรัคชั่น ปี 2560 ถึง 2565
ลำดับ 17 นายสกลชัย ลิมป์สีสวรรค์
เหตุผลความจำเป็น
เนื่องจากผู้ตรวจสอบสถานที่ตั้งบริษัท /ห้างหุ้นส่วน และอสังหาริมทรัพย์ต่างๆ ของนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ
ลำดับ 18 กรรมการผู้จัดการธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน) สำนักงานใหญ่
เหตุผลความจำเป็น
เนื่องจากเป็นผู้ออกหนังสือค้ำประกันซองให้กับ บริษัท ศิลาชัยบุรีรัมย์ (1991) จำกัด , ห้างหุ้นส่วนจำกัด บุรีเจริญคอนสตรัคชั่น เพื่อพิสูจน์และอธิบายการขอหลักประกันซอง
ลำดับ 19 กรรมการผู้จัดการ บริษัท หลักทรัพย์จัดการกองทุน ธนชาต จำกัด
เหตุความจำเป็น
เนื่องจาก เป็นเจ้าของบัญชี กองทุนของตลาดเงิน นายศุภวัฒน์ เกษมสุทธิ์ และนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ
ลำดับ 20 น.ส.จริยา จริตรัมย์
เหตุผลความจำเป็น
เนื่องจากเป็นผู้รับทำบัญชี ให้กับ บริษัท ศิลาชัยบุรีรัมย์ (1991) จำกัด ในปี 2557 ถึง 2559
ลำดับ 21 น.ส.เรื่องฤทัย เย้ยรัมย์
เหตุผลความจำเป็น
เนื่องจากเป็นผู้รับทำบัญชี ให้กับ ห้างหุ้นส่วนจำกัด บุรีเจริญคอนสตรัคชั่น ในปี 2561 และ 2563
ลำดับ 22 น.ส.ฐิติมา เกลาพิมาย
เหตุผลความจำเป็น
เนื่องจากเป็นผู้รับทำบัญชี ให้กับ บริษัท ศิลาชัยบุรีรัมย์ (1991) จำกัด, ห้างหุ้นส่วนจำกัด บุรีเจริญคอนสตรัคชั่น ในปี 2560 ถึง 2565
@ยื่นพยานเอกสาร 19 รายการ-ขอหลักฐานภาษี'ศักดิ์สยาม'
บัญชีระบุพยานเอกสาร จำนวน 19 รายการ
ลำดับที่ 1 ชื่อพยานเอกสาร เอกสารการเปิดบัญชีและรายการธุรกรรมการเงิน การซื้อขายกองทุนเปิดธนชาต บัญชีเลขที่ 0013004263 และอื่นๆ (ที่เกี่ยวข้อง) ของบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ธนชาต จำกัด ที่นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ และนายศุภวัฒน์เกษมสุทธิ์ ได้ทำธุรกรรมการเงิน การซื้อขายไว้กับบริษัท หลักทรัพย์จัดการกองทุน ธนชาต จำกัด และอื่นๆ (ที่เกี่ยวข้อง) ที่เป็นเจ้าของบัญชีกองทุน ตั้งแต่เปิดบัญชีจนถึงปัจจุบัน
ชื่อของผู้ครอบครอง บริษัท หลักทรัพย์จัดการกองทุน ธนชาต จำกัด
เหตุความจำเป็น
เนื่องจากเป็นเจ้าของบัญชีกองทุนเปิดธนชาต เลขที่ 0013004263 โดยเฉพาะที่มีนายศุภวัฒน์ เกษมสุทธิ์ และนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ เกี่ยวกับการซื้อขายกองทุนที่เป็นหลักฐานให้ทราบถึงเงื่อนไขการซื้อ การขายกองทุน ที่มาของเงินที่ซื้อและขายกองทุน ผลกำไร ที่ได้จากการลงทุน
เพื่อดูว่า เงินที่ซื้อและขายของนายศุภวัฒน์ เกษมสุทธิ์ และนายศักดิ์สยาม ชิดชอบมาจากไหน ลงทุนเพื่อกำไร หรือเพียงเพื่อต้องการใส่เงินเข้าไปในระบบ แล้วถอนออกและสามารถอ้างได้ว่าเงินมีแหล่งมีมา ตลอดจนจำนวนการซื้อการขายกองทุนของลูกค้า รายงานข้อมูลการแสดงตน Kyc ของลูกค้าเป็นอย่างไร
พฤติกรรมของนายศุภวัฒน์ เกษมสุทธิ์ และนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ เป็นปกติทั่วไปเหมือนลูกค้าคนอื่นไหม ตั้งแต่เป็นลูกค้ากองทุน ธนชาต นายศุภวัฒน์ เกษมสุทธิ์ และนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ มาทำการซื้อขายมาแล้วกี่ครั้ง
ลำดับ 2 ชื่อพยานเอกสาร ข้อมูลการจดทะเบียนนิติบุคคล บริษัท ศิลาชัยบุรีรัมย์ (1991) จำกัด, ห้างหุ้นส่วนจำกัด บุรีเจริญคอนสตรัคชั่น ตั้งแต่ปี 2550 ถึง 2565
ชื่อของผู้ครอบครอง กรมพัฒนาธุรกิจการค้า
เหตุผลความจำเป็น
เนื่องจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เกี่ยวข้องในการรับจดทะเบียน บริษัท ศิลาชัยบุรีรัมย์ (1991) จำกัด , ห้างหุ้นส่วนจำกัด บุรีเจริญคอนสตรัคชั่น และเพื่อยืนยันการเปลี่ยนแปลงกรรมการ, หุ้นส่วนผู้จัดการ, ผู้ถือหุ้น, งบการเงิน , การเพิ่มทุน
ลำดับ 3 ชื่อพยานเอกสาร ข้อมูลการเสียภาษีบุคคลธรรมดาและนิติบุคคล ของนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ และนายศุภวัฒน์ เกษมสุทธิ์, บริษัท ศิลาชัยบุรีรัมย์ (1991) จำกัด, ห้างหุ้นส่วนจำกัด บุรีเจริญคอนสตรัคชั่น ตั้งแต่ ปี 2550 ถึง 2565
ชื่อของผู้ครอบครอง กรมสรรพากร
เหตุผลความจำเป็น
เนื่องจากกรมสรรพกร เกี่ยวข้องกับประเด็นเรื่องหลักเกณฑ์คำนวณที่ถือเป็นรายได้ และหลักเกณฑ์การชำระภาษี การยกเว้นภาษีของนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ และนายศุภวัฒน์ เกษมสุทธิ์, บริษัท ศิลาชัยบุรีรัมย์ (1991) จำกัด, ห้างหุ้นส่วนจำกัด บุรีเจริญคอนสตรัคชั่น ย้อนหลังตั้งแต่ก่อนเกิดเหตุ คือ ปี 2559 และขณะเกิดเหตุ 2560-2561 และหลังเกิดเหตุ ปี 2562 ถึง 2566
ลำดับ 4 ชื่อพยานเอกสาร เอกสารบัญชีธนาคารทุกบัญชี ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน) และหรือธนาคารทหารไทยธนชาติ จำกัด (มหาชน) ของนายศุภวัฒน์ เกษมสุทธิ์, นายศักดิ์ สยาม ชิดชอบ, บริษัท ศิลาชัยบุรีรัมย์ (1991) จำกัด ห้างหุ้นส่วนจำกัด บุรีเจริญคอนสตรัคชั่น ตั้งแต่เปิดบัญชีจนถึงปัจจุบัน (ทุกบัญชี)
ชื่อของผู้ครอบครอง ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน) สาขา บางบัวทอง
เหตุผลความจำเป็น
เนื่องจากนายศุภวัฒน์ เกษมสุทธิ์ เปิดบัญชีธนาคาร ไว้กับ ธนาคารธนขาต จำกัด (มหาชน) ซึ่งใช้ในการโอน - รับโอนเงิน ในการซื้อขายหุ้นและถ่ายโอนเงินไปมาระหว่างหลายบัญชี และให้การรับรองรายการเดินบัญชีดังกล่าวและธุรกรรมกรรม และขอไฟล์เอกสารดังกล่าว
ลำดับ 5 ชื่อพยานเอกสาร เอกสารบัญชีธนาคารธนชาต จำกัด(มหาชน) สาขา ตลาดบางบัวทอง ของนายศุภวัฒน์ เกษมสุทธิ์ ตั้งแต่เปิดบัญชี จนถึงปัจจุบัน (ทุกบัญชี)
ชื่อของผู้ครอบครอง ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน) สาขา ตลาดบางบัวทอง
เหตุผลความจำเป็น
เนื่องจากนายศุภวัฒน์ เกษมสุทธิ์ เปิดบัญชีธนาคาร ไว้กับธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน) ซึ่งใช้ในการโอน- รับโอนเงิน ในการซื้อขายหุ้นและถ่ายโอนเงินไปมาระหว่างหลายบัญชี และให้การรับรองรายการเดินบัญชีดังกล่าว
ลำดับ 6 ชื่อพยานเอกสาร เอกสารบัญชีธนาคารธนขาต จำกัด (มหาขน) สาขา บุรีรัมย์ ตั้งแต่วันเปิดบัญชีจนถึงปัจจุบัน (ทุกบัญชี)
ชื่อของผู้ครอบครอง ธนาคารธนซาต จำกัด (มหาชน) สาขา บุรีรัมย์
เหตุผลความจำเป็น
เนื่องจากนายศุภวัฒน์ เกษมสุทธิ์ และนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ บริษัท ศิลาชัยบุรีรัมย์ (1991) จำกัด, ท้างหุ้นส่วนจำกัด บุรีเจริญคอนสตรัคชั่น เปิดบัญชีธนาคาร ไว้กับ ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน) ซึ่งใช้ในการโอน-รับโอนเงิน ในการซื้อขายหุ้นและถ่ายโอนเงินไปมาระหว่างหลายบัญชี และให้การรับรองรายการเดินบัญชีดังกล่าว
ลำดับ 7 ชื่อพยานเอกสาร เอกสารบัญชีธนาคารธนชาต จำกัด (มหาซน) สาขา ตลาดบางใหญ่ ตั้งแต่วันเปิดบัญชีจนถึงปัจจุบัน (ทุกบัญชี)
ชื่อของผู้ครอบครอง ธนาคารธนชาต จำกัด(มหาชน) สาขา ตลาดบางใหญ่
เหตุผลความจำเป็น
เนื่องจากนายศุภวัฒน์ เกษมสุทธิ์ เปิดบัญชีธนาคาร ไว้กับ ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน) ซึ่งใช้ในการโอน - รับโอนเงิน ในการซื้อขายหุ้นและถ่ายโอนเงินไปมาระหว่างหลายบัญชี และให้การรับรองรายการเดินบัญชีดังกล่าว
ลำดับ 8 ชื่อพยานเอกสาร เอกสารสลากออมสิน ธนาคารออมสิน สาขา แคราย
ชื่อของผู้ครอบครอง ธนาคารออมสิน สาขา แคราย
เหตุผลความจำเป็น
เนื่องจากนายศุภวัฒน์ เกษมสุทธิ์ ได้นำเงินไปซื้อสลากออมสินและนำมาแสดงว่ามีฐานะทางการเงิน ก่อนซื้อหุ้นจากนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ
ลำดับ 9 ชื่อพยานเอกสาร เอกสารสลากออมสิน สาขา บางบัวทอง ตั้งแต่วันเปิดบัญชีจนถึงปัจจุบัน (ทุกบัญชี)
ชื่อของผู้ครอบครอง ธนาคารออมสิน สาขา บางบัวทอง
เหตุผลความจำเป็น
เนื่องจากนายศุภวัฒน์ เกษมสุทธิ์ ได้นำเงินไปซื้อสลากออมสินและนำมาแสดงว่ามีฐานะทางการเงิน ก่อนซื้อหุ้นจากนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ
ลำดับ 10 ชื่อพยานเอกสาร เอกสารบัญชีธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) ตั้งแต่วันเปิดบัญชีจนถึงปัจจุบัน (ทุกบัญชี)
ชื่อของผู้ครอบครอง ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน)
เหตุผลความจำเป็น
เนื่องจากนายศุภวัฒน์ เกษมสุทธิ์ ได้นำมาแสดงว่า มีฐานะทางการเงิน ก่อนซื้อหุ้นจากนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ
ลำดับ 11 ชื่อพยานเอกสาร เอกสารบัญชีธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) ตั้งแต่วันเปิดบัญชีจนถึงปัจจุบัน (ทุกบัญชี)
ชื่อของผู้ครอบครอง ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน)
เหตุผลความจำเป็น
เนื่องจากนายศุภวัฒน์ เกษมสุทธิ์ ได้นำมาแสดงว่า มีฐานะทางการเงิน ก่อนซื้อหุ้นจากนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ
ลำดับ 12 ชื่อพยานเอกสาร เอกสารหนังสือค้ำประกันซอง และหลักประกันวงเงิน ของห้างหุ้นส่วนจำกัด บุรีเจริญคอนสตรัคชั่น และบริษัท ศิลาชัยบุรีรัมย์ (1991) จำกัด ตั้งแต่วันทำสัญญาจนถึงปัจจุบัน
ชื่อของผู้ครอบครอง ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน)
เหตุผลความจำเป็น
เนื่องจากเป็นผู้ออกหนังสือค้ำประกันซองให้กับ บริษัท ศิลาชัยบุรีรัมย์ (1991) จำกัด, ห้างหุ้นส่วนจำกัด บุรีเจริญคอนสตรัคชั่น เพื่อพิสูจน์และอธิบายการขอหลักประกันซอง
ลำดับ 13 ชื่อพยานเอกสาร ข้อมูลทางการเงิน (ระบบ AMLO Electronic Report Ses หรือ AERS หรือ ERS) ของนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ และนายศุภวัฒน์ เกษมสุทธิ์ ตั้งแต่ปี 2555 ถึงปี 2556
ชื่อของผู้ครอบครอง สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน
เหตุผลความจำเป็น
เนื่องจาก สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน เป็นผู้ดูแลระบบฐานข้อมูลทางการเงิน (ระบบ AMLO Electronic Report Ses หรือ AERS หรือ ERS) เพื่อพิสูจน์ฐานะทางการเงินของ นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ และนายศุภวัฒน์ เกษมสุทธิ์, บริษัท ศิลาชัยบุรีรัมย์ (1991) จำกัด, ห้างหุ้นส่วนจำกัด บุรีเจริญคอนสตรัคชั่น ย้อนหลังตั้งแต่ก่อนเกิดเหตุ คือ ปี 2559 และขณะเกิดเหตุ 2560-2561 และหลังเกิดเหตุ ปี 2562 ถึง 2566 ว่า มีความสัมพันธ์ โอน-รับโอนเงิน และ ตรวจสอบเส้นทางการเงินว่า เงินค่าซื้อหุ้น จำนวน 3 ครั้ง มาจากผู้ใด
ลำดับ 14 ชื่อพยานเอกสาร เอกสารบัญชีธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) ของนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ และนายศุภวัฒน์ เกษมสุทธิ์ ตั้งแต่วันเปิดบัญชีจนถึงปัจจุบัน (ทุกบัญชี)
ชื่อของผู้ครอบครอง ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน)
เหตุผลความจำเป็น
เนื่องจากนายศุภวัฒน์ เกษมสุทธิ์ ได้นำมาแสดงว่ามีฐานะทางการเงิน ก่อนซื้อหุ้นจากนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ
ลำดับ 15 ชื่อพยานเอกสาร เอกสารกระดาษทำการผู้สอบบัญชี และเอกสารที่เกี่ยวข้องกับการตรวจสอบบัญชี รับเงินเพิ่มทุน, ลดทุน, การกู้ยืมเงินของนายศุภวัฒน์ เกษมสุทธิ์ และนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ ของบริษัท ศิลาชัยบุรีรัมย์ (๑๙๙๑) จำกัด และห้างหุ้นส่วนจำกัด บุรีเจริญคอนสตรัคชั่น เช่น ใบเสร็จรับเงิน ใบสำคัญรับ ใบสำคัญจ่าย สมุดรายวัน บัญชีแยกประเภท สำเนาใบโอนเงิน สำเนาเช็ค ตั้งแต่ปี 2557 ถึง 2565
ชื่อของผู้ครอบครอง นางกอบกุล ถีระวงษ์
เหตุผลความจำเป็น
เนื่องจากนางกอบกุล ถีระวงษ์ เป็นผู้สอบบัญชีให้กับบริษัท ศิลาชัยบุรีรัมย์ (1991) จำกัด , ห้างหุ้นส่วนจำกัด บุรีเจริญคอนสตรัคชั่น
ลำดับ 16 ชื่อพยานเอกสาร เอกสารที่เกี่ยวข้องกับการบันทึกบัญชี รับเงินเพิ่มทุน , ลดทุน , การกู้ยืมเงินของนายศุภวัฒน์ เกษมสุทธิ์ และ นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ ของบริษัท ศิลาชัยบุรีรัมย์ (1991) จำกัด และห้างหุ้นส่วนจำกัด บุรีเจริญคอนสตรัคชั่น เช่น ใบเสร็จรับเงิน ใบสำคัญรับ ใบสำคัญจ่าย สมุดรายวัน บัญชีแยกประเภท สำเนาใบโอนเงิน สำเนาเช็ค ตั้งแต่ปี 2551 และ 2563
ชื่อของผู้ครอบครอง น.ส.เฟื่องฤทัย เย้ยรัมย์
เหตุผลความจำเป็น
เนื่องจาก น.ส.เฟื่องฤทัย เย้ยรัมย์ เป็นผู้ทำบัญชีให้กับบริษัท ศิลาชัยบุรีรัมย์ (1991) จำกัด ในปี 2563 และเป็นผู้ทำบัญชีให้กับห้างหุ้นส่วนจำกัด บุรีเจริญคอนสตรัคชั่น ในปี 2561 และ 2563
ลำดับ 17 ชื่อพยานเอกสาร เอกสารที่เกี่ยวข้องกับการบันทึกบัญชี รับเงินเพิ่มทุน , ลดทุน , การกู้ยืมเงินของนายศุภวัฒน์ เกษมสุทธิ์ และ นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ ของบริษัท ศิลาชัยบุรีรัมย์ (1991) จำกัด และห้างหุ้นส่วนจำกัด บุรีเจริญคอนสตรัคชั่น เช่น ใบเสร็จรับเงิน ใบสำคัญรับ ใบสำคัญจ่าย สมุดรายวัน บัญชีแยกประเภท สำเนาใบโอนเงิน สำเนาเช็ค ตั้งแต่ปี 2560 ถึงปี 2564
ชื่อของผู้ครอบครอง น.ส.ฐิติมา เกลาพิมัย
เหตุผลความจำเป็น
เนื่องจาก น.ส.ฐิติมา เกลาพิมัย เป็นผู้ทำบัญชีให้กับห้างหุ้นส่วนจำกัด บุรีเจริญคอนสตรัคชั่น ในปี 2562 และเป็นผู้ทำบัญชีให้กับบริษัท ศิลาชัยบุรีรัมย์ (1991) จำกัด ปี 2560 ถึงปี 2564
ลำดับ 18 ชื่อพยานเอกสาร เอกสารที่เกี่ยวข้องกับการบันทึกบัญชี รับเงินเพิ่มทุน , ลดทุน , การกู้ยืมเงินของนายศุภวัฒน์ เกษมสุทธิ์ และ นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ ของห้างหุ้นส่วนจำกัด บุรีเจริญคอนสตรัคชั่นเช่น ใบเสร็จรับเงิน ใบสำคัญรับ ใบสำคัญจ่าย สมุดรายวัน บัญชี แยกประเภท สำเนาใบโอนเงิน สำเนาเช็ค ตั้งแต่ปี 2564 ถึงปี 2565
ชื่อของผู้ครอบครอง น.ส.อัญชลี ปรุตรัมย์
เหตุผลความจำเป็น
เนื่องจาก น.ส.อัญชลี ปรุตรัมย์ เป็นผู้ทำบัญชีให้กับห้างหุ้นส่วนจำกัด บุรีเจริญคอนสตรัคชั่น ในปี 2564 ถึง 2565
ลำดับ 19 ชื่อพยานเอกสาร เอกสารที่เกี่ยวข้องกับการบันทึกบัญชี การกู้ยืมเงินของนายศุภวัฒน์ฯและ นายศักดิ์สยามฯ ของบริษัท ศิลาชัยฯ เช่น ใบเสร็จรับเงิน ใบสำคัญรับ ใบสำคัญจ่าย สมุดรายวัน บัญชีแยกประเภท สำเนาใบโอนเงิน สำเนาเช็ค ตั้งแต่ปี 2557 ถึงปี 2559
ชื่อของผู้ครอบครอง นางสาวจริยา จริตรัมย์
เหตุผลความจำเป็น
เนื่องจาก น.ส.จริยา จริตรัมย์ เป็นผู้ทำบัญชีให้กับ บริษัท ศิลาชัยฯ ในปี 2557 ถึง 2559
เหล่านี้เป็น ‘บัญชีระบุพยานบุคคล’ และ ‘บัญชีระบุพยานเอกสาร’ รวม 31 รายการ ที่ นพ.ชลน่าน ในฐานะผู้เข้าชื่อเสนอคำร้องฯ ได้ยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อประกอบการวินิจฉัยในกรณีนายศักดิ์สยาม (ผู้ถูกร้อง) ยังคงไว้ซึ่งหุ้นส่วนและยังคงเป็นผู้ถือหุ้นและเจ้าของ หจก.บุรีเจริญคอนสตรัคชั่น อย่างแท้จริง ซึ่งจะทำให้ผู้ถูกร้องเข้าไปเกี่ยวข้องกับการบริหารจัดการหุ้นหรือกิจการของ หจก.
เป็นการกระทำอันเป็นการต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 187 ประกอบ พ.ร.บ.การจัดการหุ้นส่วนและหุ้นของรัฐมนตรี พ.ศ. 2543 มาตรา 4 (1) เป็นเหตุให้ความเป็นรัฐมนตรีของนายศักดิ์สยาม สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญฯ หรือไม่
ส่วนบทสรุปในคดีนี้จะเป็นอย่างไร ยังคงต้องติดตามกันต่อไป!
อ่านประกอบ
- 'ก้าวไกล'ร้อง'ป.ป.ช'สอบ‘ศักดิ์สยาม’ซุกหนี้'หจก.บุรีเจริญฯ'38 ล.-พบพิรุธเอกสารยื่นศาล รธน.
- ย้อนไทม์ไลน์ ปมถือหุ้นรับเหมา‘ศักดิ์สยาม’ ก่อนศาล รธน.สั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่
- เอื้องบบุรีรัมย์-เอี่ยวผู้รับเหมา! พรรคร่วมฝ่ายค้าน ลุยยื่นคำร้องถอดถอน 'ศักดิ์สยาม'
- คลี่12ปมส่อขายหุ้นให้นอมินี! เปิดคำร้องส่ง'ศาล รธน.'วินิจฉัย'ศักดิ์สยาม'พ้น‘รมต.’หรือไม่
- ภูมิใจไทย อัดฝ่ายค้าน ถอดถอน ‘ศักดิ์สยาม’ ใช้สิทธิไม่สุจริต - เป็นเกมการเมือง
- ยื่น ป.ป.ช.ฟัน'ศักดิ์สยาม' 3 เรื่อง! 'ทวี'แนะปมเขากระโดง ส่งศาลฎีกาสอบจริยธรรมทันที
- หจก.บุรีเจริญฯ สินทรัพย์ 205 ล้าน ไฉน!‘ศักดิ์สยาม’ ขายให้เพื่อน 119 ล.
- ย้อนดูข้อมูลอิศรา คุ้ย 'หจก.บุรีเจริญฯ' ก่อน ก้าวไกล อภิปรายไม่ไว้วางใจ 'ศักดิ์สยาม'
- คุ้ยทรัพย์สิน ส.ส.‘ศักดิ์สยาม’! ใช้ที่อยู่เดียว หจก.บุรีเจริญฯ 25 วันก่อนเปลี่ยน?
- เจาะ 4 โครงการทำถนน คค.-หจก.รับเหมาฯคดีเขากระโดงคว้างาน 122 ล.คู่เทียบเดิม?
- โชว์สัญญาจัดจ้าง! หจก.รับเหมาฯคดีเขากระโดง ใช้ที่อยู่‘ศักดิ์สยาม’คว้างานรัฐ 1.2 พันล.
- หจก.บุรีเจริญฯใช้บ้าน‘ศักดิ์สยาม’เป็นที่ตั้ง-แจ้งเปลี่ยนก่อนนั่ง รมว.คมนาคม 23 วัน
- โชว์สัญญาโอนหุ้น หจก.บุรีเจริญฯ‘ศักดิ์สยาม-ศุภวัฒน์’ 119.4 ล.-ไม่ระบุจ่ายเงินหรือไม่?
- ปี 58‘ศักดิ์สยาม’คัมแบ็กหุ้นใหญ่ หจก.บุรีเจริญฯ เพิ่มทุน 119.5 ล.-โอนเกลี้ยงปี 61
- เจาะ หจก.บุรีเจริญฯ‘ศักดิ์สยาม-เพิ่มพูน’ ร่วมก่อตั้ง-ลงหุ้นปี 39 ก่อนไขก๊อกปี 40
- เปิดละเอียด! ข้อกล่าวหา’ศักดิ์สยาม-อนุพงษ์’ เอื้อพวกพ้อง-ไม่ถอนโฉนดรุก ‘เขากระโดง’
- ฝ่ายค้านยื่น ป.ป.ช.สอบอีก 2 รมต. ที่ดินเขากระโดง ‘ศักดิ์สยาม’-‘นิพนธ์’โดนนิคมฯจะนะ
- ออกไปนานแล้ว! 'ศักดิ์สยาม' แจงสัมพันธ์ หจก.บุรีเจริญฯ ปมที่ดิน ‘เขากระโดง’
- ‘ศุภวัฒน์-หจก.บุรีเจริญฯ’ 2 ตัวละครมหากาพย์ ‘เขากระโดง’ บริจาค ภท. ปี 62 รวม 7.5 ล.
- คำพิพากษาศาลฎีกาชี้ชัด! ‘เขากระโดง’ที่ดินรถไฟ สะเทือน‘ช้างอารีน่า-บุรีรัมย์คาสเซิล’
- 23 ปียังไม่เพิกถอนโฉนด! เปิดบันทึกกฤษฎีกาชี้ชัด ‘เขากระโดง’ 5 พันไร่ ที่ดินรถไฟ
- พลิกแฟ้มป.ป.ช.! สั่งถอนโฉนดตระกูล ‘ชิดชอบ’ ทับที่ดินรถไฟ ‘เขากระโดง’
- ได้งาน คค.7 ปีหลังสุด 1.9 พันล.! หจก.บุรีเจริญฯของ‘ตัวละครสำคัญ’มหากาพย์‘เขากระโดง’
- เปิดตัว ‘ศุภวัฒน์’ คู่พิพาทที่รถไฟ ‘เขากระโดง’-บริจาค ภท.-‘ศักดิ์สยาม’ เคยเป็นกุนซือ
- ควันหลงซักฟอก! 'ประเสริฐ'ร้อง ป.ป.ช.10 มี.ค.เอาผิด'บิ๊กตู่-จุรินทร์'คดีถุงมือยาง
- มหากาพย์ที่ดิน ‘เขากระโดง’ โยง ‘ศักดิ์สยาม-ญาติ’ มีบ้านพักบน ‘ที่หลวง’