“…พล.อ.ประยุทธ์ รู้ถึงการทุจริตที่เกิดขึ้นที่ อคส. และทราบดีว่ามีความเสียหายเกิดขึ้นจริง ในวงเงิน 2,000 ล้านบาท แต่กลับเพิกเฉยไม่ดำเนินการใดๆ จนเกิดความเสียหาย ไม่สามารถติดตามเงินคืนมาได้ ทำตัว “เอาหูไปนา เอาตาไปไร่ แต่ปากว่าตาขยิบ” รู้ว่านายจุรินทร์ มีส่วนเกี่ยวข้องกับการทุจริต แต่เกรงใจนายจุรินทร์ ไม่กล้าปลดนายจุรินทร์ ออกจากตำแหน่ง…”
......................................
สืบเนื่องจากกรณี แกนนำพรรคร่วมฝ่ายค้าน ยื่นคำร้องต่อ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ขอให้ไต่สวน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ในฐานะประธานกำกับดูแลรัฐวิสาหกิจ และ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกฯ และรมว.พาณิชย์ ในฐานะกำกับดูแลองค์การคลังสินค้า (อคส.)
ในข้อหาปล่อยปละละเลย ไม่ดำเนินการระงับยับยั้งความเสียหายที่เกิดขึ้นกับรัฐ โดยไม่อายัดเงิน 2,000 ล้านบาท กรณีการทุจริตจัดซื้อถุงมือยาง และยังทอดเวลาให้ผู้กระทำความผิดทำการฟอกเงิน ทำให้รัฐได้รับความเสียหาย นั้น (อ่านประกอบ : ฝ่ายค้านยื่น ป.ป.ช.สอบประยุทธ์-เอนก อนุมัติงบ 2 พัน ล.มิชอบ,จุรินทร์โดนปมถุงมือยางด้วย)
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) ขอนำเสนอสรุปสาระสำคัญของคำร้องในเรื่องดังกล่าว ซึ่งมีนายประเสริฐ จันทรรวงทอง ส.ส.นครราชสีมา พรรคเพื่อไทย เป็นผู้ยื่นคำร้อง สรุปได้ดังนี้
@กล่าวหา ‘จุรินทร์’ มีพฤติการณ์ ‘ทอดเวลา’ จนเกิดการทุจริต
ตามที่ข้าพเจ้า (นายประเสริฐ) ยื่นกล่าวหากรณีทุจริตจัดซื้อถุงมือยางขององค์การคลังสินค้า (อคส.) ต่อมา ป.ป.ช. มีมติเมื่อวันที่ 29 ต.ค.2563 มอบหมายให้คณะไต่สวนเบื้องต้น ดำเนินการไต่สวนเบื้องต้น กรณีกล่าวหา พ.ต.อ.รุ่งโรจน์ พุทธิยาวัฒน์ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งรักษาการแทนผู้อำนวยการ อคส. กับพวก ว่า กระทำความผิดฐานทุจริตต่อหน้าที่ หรือกระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ เป็นคดีหมายเลขดำที่ 02-1-715/2563
และตามบันทึกการแจ้งข้อกล่าวหา ปรากฏว่ามีการดำเนินคดีกับ นายสุชาติ เตชจักรเสมา (ประธานกรรมการองค์การคลังสินค้าขณะนั้น) กับพวก รวมอีกหลายคน เนื่องจาก “การกระทำและพฤติการณ์ของผู้ถูกกล่าวหาได้ร่วมกันในลักษณะแบ่งหน้าที่ และให้การช่วยเหลือสนับสนุนซึ่งกันและกันในการกระทำความผิด” นั้น
ข้าพเจ้าเห็นว่า กลุ่มผู้ถูกกล่าวหา ไม่สามารถกระทำความผิดสำเร็จได้ หาก พล.อ.ประยุทธ์ และนายจุรินทร์ ไม่ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ตามที่ข้าพเจ้ากล่าวหา โดยเฉพาะนายจุรินทร์ ที่มีการกระทำและพฤติการณ์พิเศษ แยบยล ใช้พฤติการณ์ “ทอดเวลา” เป็นอุบายปกปิดการกระทำความผิดได้อย่างแยบยล
กล่าวคือ อคส. โดยคณะกรรมการ อคส. มีมติในการประชุมครั้งที่ 4/2563 เมื่อวันที่ 29 ก.ค.2563 และครั้งที่ 5/2563 เมื่อวันที่ 26 ส.ค.2563 เห็นชอบให้นายเกรียงศักดิ์ ประทีปวิศรุต ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการ อคส. ซึ่งวันดังกล่าวเป็นวันเดียวกับวันที่ พ.ต.อ.รุ่งโรจน์ เสนอเรื่องการจัดซื้อขายถุงมือยางต่อที่ประชุมคณะกรรมการ อคส.
มีข้อสังเกตว่า นายสุชาติ เป็นผู้แจ้งให้ พ.ต.อ.รุ่งโรจน์ เก็บเรื่องนี้ไว้เป็นความลับ เพื่อ ‘รอรัฐมนตรีกดเดิน’ และนายสุชาติ เองย่อมรู้ว่า พ.ต.อ.รุ่งโรจน์ พ้นจากตำแหน่งผู้อำนวยการ อคส. แล้ว ดังนั้น การเสนอวาระดังกล่าว (การจัดซื้อขายถุงมือยาง) จึงอยู่ในวิสัยที่ต้องรอให้นายเกรียงศักดิ์ ผู้อำนวยการ อคส.คนใหม่ เป็นผู้ดำเนินการเสนอ
ในขณะที่นายจุรินทร์ฯ เองก็ทราบเรื่องการแต่งตั้งผู้อำนวยการ อคส. คนใหม่มาโดยตลอด โดยปรากฏข้อเท็จจริงว่า ในการประชุมคณะกรรมการ อคส. ครั้งที่ 5/2563 วันที่ 26 ส.ค.2563 วาระที่ 6 เรื่องอื่นๆ พ.ต.อ.รุ่งโรจน์ แจ้งที่ประชุมว่า “กำลังประสานขอประวัติอาชญากรรมของนายเกรียงศักดิ์”
พ.ต.อ.รุ่งโรจน์ ยังแจ้งในที่ประชุมอีกว่า “ได้นำเรียนให้ท่านเลขารัฐมนตรีกระทรวงพาณิชย์ทราบแล้ว และเลขารัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์รับว่าจะประสานให้มันเร็วขึ้น”
กระทั่งต่อมาในวันที่ 31 ส.ค.2563 นายจุรินทร์ ในฐานะ รมว.พาณิชย์ ได้ทำหนังสือ ด่วนที่สุด ที่ พณ 1040/219 เรื่อง แต่งตั้งผู้อำนวยการ อคส. เรียน เลขาธิการคณะรัฐมนตรี เพื่อกราบเรียนนายกฯ เพื่อเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) และ ครม.ได้มีมติเห็นชอบแต่งตั้งนายเกรียงศักดิ์ เป็นผู้อำนวยการ อคส.คนใหม่ เมื่อวันที่ 1 ก.ย.2563
แต่ปรากฏว่าในวันที่นายจุรินทร์ จัดทำหนังสือ (หนังสือ ด่วนที่สุด ที่ พณ 1040/219) เป็นวันเดียวกันกับวันที่นายสุชาติ และพ.ต.อ.รุ่งโรจน์ ร่วมกันจัดทำสัญญาซื้อขายถุงมือยางกับ บริษัท การ์เดียนโกลฟส์ จำกัด ทั้งๆที่ พ.ต.อ.รุ่งโรจน์ จะพ้นหน้าที่แล้ว และไม่อาจจะทำสัญญาสำเร็จได้ หากนายจุรินทร์ และนายสุชาติ ไม่สมยอมและรู้เห็นเป็นใจ
ขณะเดียวกัน เมื่อ ครม.ได้เห็นชอบแต่งตั้งนายเกรียงศักดิ์ เป็นผู้อำนวยการ อคส.คนใหม่ เมื่อวันที่ 1 ก.ย.2563 แล้ว นายจุรินทร์ และนายสุชาติ ยังคงปล่อยให้ พ.ต.อ.รุ่งโรจน์ จ่ายเงินจำนวน 2,000 ล้านบาท ให้กับบริษัท การ์เดียนโกลฟส์ จำกัด ในวันที่ 2 ก.ย.2563
ดังนั้น หากนายจุรินทร์ และนายสุชาติ ไม่รู้เห็นเป็นใจกับ พ.ต.อ.รุ่งโรจน์ แล้ว การทำสัญญาจัดซื้อถุงมือยางก็ดี รวมทั้งการจ่ายเงินจำนวน 2,000 ล้านบาทก็ดี พ.ต.อ.รุ่งโรจน์ ซึ่งอาจกล่าวได้ว่าพ้นจากตำแหน่งแล้ว เพียงรักษาการเท่านั้น ไม่อาจกระทำเรื่องทุจริตใหญ่โตเช่นนี้ได้
แต่การกระทำสำเร็จลงได้เป็นไป เพราะนายจุรินทร์ และนายสุชาติ ใช้วิธีการทอดเวลาให้ พ.ต.อ.รุ่งโรจน์ ลงนามในสัญญาซื้อขายถุงมือยาง และจ่ายเงิน 2,000 ล้านบาท จนสำเร็จแล้ว จากนั้นนายสุชาติ จึงมีคำสั่งองค์การคลังสินค้าที่ 209/2563 เรื่อง แต่งตั้งผู้อำนวยการ อคส. ในวันที่ 11 ก.ย.2563 โดยให้การแต่งตั้งมีผลตั้งแต่วันที่ 10 ก.ย.2563
“ข้าพเจ้า จึงขอตั้งเป็นข้อสังเกต ข้อพิรุธ และข้อระแวงสงสัยในเรื่องนี้ต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. ว่า ทั้งนายจุรินทร์ และนายสุชาติ รู้ดีว่า มีการแต่งตั้งผู้อำนวยการ อคส. คนใหม่แล้ว ตั้งแต่รายงานการประชุมคณะกรรมการ อคส. เมื่อวันที่ 29 ก.ค.2563 นายจุรินทร์ และนายสุชาติ หากมีความซื่อสัตย์ สุจริต ในการกำกับ ควบคุม ดูแล
ย่อมไม่ปล่อยให้ พ.ต.อ.รุ่งโรจน์ ลงนามในสัญญา ซึ่งมีมูลค่านับแสนล้านบาท และยอมให้ พ.ต.อ.รุ่งโรจน์ จ่ายเงิน 2,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นวิสัยที่ผู้บริหารทุกองค์กรพึงกระทำ แต่ในคดีนี้นายจุรินทร์ และนายสุชาติ คนสนิทของตน อาศัยช่วงเวลาที่ พ.ต.อ.รุ่งโรจน์ รักษาการแทนผู้อำนวยการ อคส. ในลักษณะแบ่งแยกหน้าที่กันกระทำการจนสำเร็จ
แล้วนายสุชาติ จึงออกคำสั่งองค์การคลังสินค้าที่ 209/2563เพื่อให้นายเกรียงศักดิ์ ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการ อคส. ตั้งแต่วันที่ 10 ก.ย.2563 จึงถือว่าทั้งนายจุรินทร์ และนายสุชาติ สมคบกันทอดเวลาการแต่งตั้งผู้อำนวยการ อคส. เพื่อให้ พ.ต.อ.รุ่งโรจน์ ลงนามในสัญญาและจ่ายเงินให้กับบริษัท การ์เดียนโกลฟส์ จำกัด จนสำเร็จ
แม้นายจุรินทร์ มาอ้างต่อสภาว่า ได้รับรายงานเรื่องการทุจริตในคดีนี้จากนายเกรียงศักดิ์ ผู้อำนวยการ อคส.คนใหม่ แต่มีข้อสังเกตว่านายจุรินทร์ ไม่ตอบชี้แจงว่า นายเกรียงศักดิ์ รายงานให้นายจุรินทร์ ทราบโดยวิธีใด และวันใด จึงเป็นเหตุให้นายจุรินทร์ รายงานเรื่องต่อพล.อ.ประยุทธ์ ซึ่งพฤติกรรมของนายจุรินทร์ ล้วนเป็นการผิดวิสัยอย่างยิ่ง” คำร้องระบุ
@กล่าวหา ‘บิ๊กตู่-จุรินทร์’ เพิกเฉยไม่ติดตามเงิน 2,000 ล้าน
นอกจากนี้ ข้าพเจ้า (นายประเสริฐ) มีข้อสังเกต ข้อพิรุธ และข้อระแวงสงสัย ซึ่งทำให้เห็นถึงข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการกระทำ และพฤติการณ์การกระทำของ พล.อ.ประยุทธ์ และนายจุรินทร์ ที่บ่งชี้ให้เห็นว่าบุคคลทั้งสอง ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบและโดยทุจริต ดังนี้
-พล.อ.ประยุทธ์ รู้ถึงการทุจริตที่เกิดขึ้นที่ อคส. และทราบดีว่ามีความเสียหายเกิดขึ้นจริง ในวงเงิน 2,000 ล้านบาท แต่กลับเพิกเฉยไม่ดำเนินการใดๆ จนเกิดความเสียหาย ไม่สามารถติดตามเงินคืนมาได้ ทำตัว “เอาหูไปนา เอาตาไปไร่ แต่ปากว่าตาขยิบ”
รู้ว่านายจุรินทร์ มีส่วนเกี่ยวข้องกับการทุจริต แต่เกรงใจนายจุรินทร์ ไม่กล้าปลดนายจุรินทร์ ออกจากตำแหน่ง เพราะหากปลด นายจุรินทร์แล้ว กลัวว่านายจุรินทร์ จะถอนตัวออกจากการร่วมรัฐบาล จะส่งผลกระทบต่อตำแหน่งนายกรัฐมนตรีที่ตนเป็นอยู่จะไม่มั่นคง จึงจำต้องปล่อยปละละเลย ไม่ใส่ใจในการทุจริตที่เกิดขึ้น
-มีพยานหลักฐานที่สนับสนุนว่า พล.อ.ประยุทธ์ รู้ถึงการทุจริตที่เกิดขึ้นใน อคส. ดังกล่าว ปรากฏตามคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ 31/2563 เรื่อง ให้เจ้าหน้าที่ของรัฐมาปฏิบัติหน้าที่ในกรอบอัตรากำลังชั่วคราวเป็นกรณีพิเศษโดยบรรจุแต่งตั้งเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ลงวันที่ 14 ก.ย.2563
โดยคำสั่งนายกรัฐมนตรี ที่ 31/2563 อ้างเหตุผลในการย้าย พ.ต.อ.รุ่งโรจน์ ระบุเหตุผลชัดแจ้งและย่อมแสดงว่า นายจุรินทร์ ได้รับทราบการทุจริตใน อคส. จากการกระทำของ พ.ต.อ.รุ่งโรจน์ กับพวก ให้กับ พล.อ.ประยุทธ์ ทราบอย่างแน่นอน มิฉะนั้น พล.อ.ประยุทธ์ ไม่ออกคำสั่งย้าย พ.ต.อ.รุ่งโรจน์ โดยใช้เหตุผลดังกล่าวข้างต้น
@ไม่เร่งอายัดเงินทุจริต-ปล่อย ‘การ์เดียนโกลฟส์’ ยักย้ายเงิน
-นายจุรินทร์ ย่อมทราบเรื่องการลงนามสัญญาจัดซื้อถุงมือยางและการรับแคชเชียร์เช็ค 2,000 ล้านบาท ในวันที่ 2 ก.ย.2563 แต่กลับทอดเวลาให้บริษัท การ์เดียนโกลฟส์ จำกัด ยักย้าย ถ่ายเท เงิน 2,000 ล้านบาท ในลักษณะเป็นการฟอกเงิน โดยไม่เร่งรีบกระทำการใดๆ เพื่อให้สามารถดำเนินการอายัดเงินที่ถูกทุจริตไป ส่งผลให้เกิดการความเสียหาย
กล่าวคือ มีการฟอกเงินจำนวน 2,000 ล้านบาท อย่างเปิดเผย โดยนับแต่วันที่ 2 ก.ย.2563 ซึ่งเป็นวันที่บริษัท การ์เดียนโกลฟส์ จำกัด ได้รับเงินจาก อคส. และนายจุรินทร์ ทราบเรื่องตั้งแต่ก่อนวันที่ 14 ก.ย.2563 แต่กลับมีการแจ้งเรื่องทุจริตดังกล่าวต่อ ป.ป.ช. เมื่อวันที่ 29 ก.ย.2563 ซึ่งเป็นเวลาภายหลังทราบเรื่องกว่า 2 สัปดาห์
อีกทั้งการที่ไม่รีบดำเนินการอายัดเงินในบัญชีให้ทันกับสถานการณ์ ทั้งๆที่มีเวลาเพียงพอในการดำเนินการ เป็นผลให้กลุ่มผู้ทุจริตสามารถดำเนินการฟอกเงินที่ได้ไปจาก อคส. และกระจายเงินไปเป็นประโยชน์แก่กลุ่มผู้ทุจริตในรูปแบบต่างๆ ในลักษณะปกปิด อำพราง ได้แก่
(1) มีการถอนเงินสด ระหว่างวันที่ 3 ก.ย.2563 ถึงวันที่ 3 พ.ย.2563 จำนวนเงิน 56.33 ล้านบาท จากธนาคารหลายแห่ง โดยเฉพาะในวันที่ 3 พ.ย.2563 มีการถอนเงินสด 33.84 ล้านบาท ทั้งๆที่เป็นช่วงเวลาภายหลังที่นายจุรินทร์ อ้างว่าได้มีการอายัดเงินดังกล่าวแล้ว
(2) มีการโอนเงินให้นิติบุคคลอย่างมีข้อพิรุธ และมีการเบิกถอนเงินไปเพื่อแบ่งปัน จำนวน 8 บริษัท ยอดเงิน 967.17 ล้านบาท เช่น บริษัท บ. ได้รับเงินโอนทุจริต 58.07 ล้านบาท จากบริษัท การ์เดียนโกลฟต์ จำกัด ทั้งๆที่ ไม่มีวัตถุประสงค์เกี่ยวกับการจัดซื้อถุงมือยางเลย
บริษัท จ. ได้รับเงินโอนทุจริต 273.46 ล้านบาท จากบริษัท การ์เดียน โกลฟต์ จำกัด ไม่มีวัตุประสงค์เกี่ยวกับการจัดซื้อถุงมือยางเลย และบริษัท บริษัท ว. ได้รับเงินโอนทุจริต 16.44 ล้านบาท สภาพบริษัทเป็น ทาวน์เฮ้าส์ ปัจจุบันบริษัทค้างชำระเงินภาษีอากร เป็นต้น
(3) มีการโอนเงินให้บุคคลต่างๆ จำนวนมากอย่างมีข้อพิรุธ จำนวนไม่น้อยกว่า 40 บัญชี ทั้งที่บุคคลต่างๆ ไม่อยู่ในสถานะที่จะรับเงินได้ และมีการถอนเงินไปเพื่อแบ่งปัน 151 ล้านบาท
ข้าพเจ้าขอเรียนว่าในการอภิปรายครั้งที่ผ่านมา ข้าพเจ้าได้อภิปรายพาดพิงถึงบุคคลคนหนึ่ง ชื่อนาย ศ. หรือ หรือ ‘เอี่ยว’ ซึ่งทำหน้าที่เป็นตัวกลาง ‘เชื่อม’ ระหว่างห้องประธาน อคส. กับ ‘บิ๊กในกระทรวงพาณิชย์’ และเป็นบุคคลที่คอยอำนวยการในวันที่ อคส. ทำสัญญาจัดซื้อถุงมือยางจากบริษัท การ์เดียนโกลฟส์ จำกัด ระหว่างวันที่ 25-31 ส.ค.2563
โดยข้าพเจ้าได้กล่าวโทษ นาย ศ. ต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. ไว้แล้ว แต่บัดนี้ข้าพเจ้า มีพยานหลักฐานสำคัญว่าภายหลังที่บริษัท การ์เดียนโกลฟส์ จำกัด ได้รับเงินจาก อคส. เพียง 8 วัน ได้มีการสั่งจ่ายเช็คจากบัญชีธนาคารของบริษัท การ์เดียนโกลฟส์ จำกัด ซึ่งเป็นเงินที่ได้จากการทุจริต ให้กับนาย ศ. จำนวน 19 ล้านบาทด้วย
นอกจากนี้ เพราะเหตุจากการที่ พล.อ.ประยุทธ์ และนายจุรินทร์ ไม่ใช้อำนาจหน้าที่ตามกฎหมาย ทำให้เงินที่ได้จากการทุจริตจัดซื้อถุงมือยางบางส่วน ถูกยักย้ายถ่ายเท เปลี่ยนแปลงสภาพ ซุกซ่อน ปกปิด อำพราง โดยนำไปใช้เพิ่มทุนของบริษัท การ์เดียนโกลฟส์ จำกัด จากเดิม 5 ล้านบาท เป็น 2,500 ล้านบาท ภายหลังได้รับเงินจากการทุจริตเพียง 12 วัน
@ขอ ป.ป.ช.ไต่สวน ‘ประยุทธ์-จุรินทร์’ กรณีละเว้นปฏิบัติหน้าที่
“ข้าพเจ้า (นายประเสริฐ) ขอเรียนว่า พล.อ.ประยุทธ์ ในฐานะนายกรัฐมนตรี หัวหน้าผู้บริหารราชการแผ่นดิน หากมีเจตนาที่จะระงับยับยั้งหรือแก้ปัญหา เพื่อมิให้มีการฟอกเงินจากการทุจริตกว่า 1,800 ล้านบาท ย่อมสามารถใช้อำนาจของตนตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542
ในฐานะเป็นประธานคณะกรรมการคดีพิเศษ (DSI) ตาม พ.ร.บ.การสอบสวนคดีพิเศษ พ.ศ. 2547 และคำสั่ง คสช. ที่ 38/2560 ที่แก้ไขเพิ่มเติม พ.ร.บ.ปปง. ว่าด้วยการปฏิบัติหน้าที่อย่างมีประสิทธิภาพ และรวดเร็วทันต่อสถานการณ์ ก็ควรที่จะรีบอายัดเงิน หรือระงับยับยั้งการเบิกจ่ายเงินในบัญชี 2,000 ล้านบาท เพื่อมิให้มีการฟอกเงินในรูปแบบต่างๆ ได้
แต่ระยะเวลาตั้งแต่ 14 ก.ย.2563 จนถึงปัจจุบันเป็นเวลาเกือบ 2 ปี ปรากฏความจริงว่า มีการฟอกเงินที่ทุจริต ปล่อยปละละเลยให้ผู้ทุจริตนำเงินหรือทรัพย์สินไปใช้ประโยชน์ในการกระทำความผิดต่อไปอีก
ข้าพเจ้าขอกราบเรียนว่า “การละเว้นก็ถือเป็นการทุจริต” พฤติกรรมตามที่ข้าพเจ้าได้กราบเรียนมาทั้งหมด จึงขอกล่าวหา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่
รู้เหตุแห่งความเสียหาย แต่จงใจ ไม่ระงับยับยั้งหรือแก้ไขปัญหา ให้ความเสียหายที่เกิดขึ้นกับหน่วยงานของรัฐ จำนวนเงินสูงถึง 2,000 ล้านบาท ปล่อยปละละเลยให้มีการฟอกเงินทั้งในประเทศและต่างประเทศ ทั้งที่เป็นนโยบายที่พลเอกประยุทธ์ฯ ได้แถลงต่อรัฐสภาว่าจะปราบปรามการทุจริต
ข้าพเจ้าขอกล่าวหา นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฐ์ รองนายกฯ และรมว.พาณิชย์ ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ พฤติกรรมที่แสดงออกไม่ว่าจะเป็นเรื่องการทอดเวลาให้เงิน 2,000 ล้านบาท ไปอยู่ในมือผู้ทุจริต ปล่อยให้นายสุชาติ ซึ่งเป็นอดีตลูกพรรค ดำรงตำแหน่ง ประธานกรรมการ อคส. จนครบวาระ
ปล่อยปละละเลย ไม่ตรวจสอบว่าเงินที่โกงตกอยู่ที่มือใคร และการดำเนินคดีทั้งทางแพ่งเพื่อเรียกเงินคืน กลับไปตกอยู่กับแพะที่เป็นเพียงเจ้าหน้าที่ตัวเล็กๆ 3 ราย ให้ต้องรับผิดชอบเงิน 2,000 ล้านบาท
ด้วยข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายทั้งหมดตามที่ข้าพเจ้าได้กล่าวมาข้างต้น ข้าพเจ้า ยังประโยชน์เพื่อความยุติธรรมให้มีการพิจารณาคดีนี้เป็นไปโดยถูกต้อง เที่ยงธรรม เปรียบเทียบตามนัยยะคำพิพากษาศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง คดีหมายเลขดำที่ อม.27/2558 คดีหมายเลขแดงที่ อม.60/2559
โดยมีสาระสำคัญในการไต่สวน คือ “กรรมเป็นเครื่องชี้เจตนา” นายจุรินทร์ และนายสุชาติ สร้างพฤติการณ์ซับซ้อน ซ่อนเงื่อน วางคน วางงาน โดยใช้บุคคลที่จะพ้นจากตำแหน่งและเป็นเพียงรักษาการแทนผู้อำนวยการองค์การคลังสินค้า เป็นผู้ลงนามในสัญญา และจ่ายเงินจำนวน 2,000 ล้านบาท จนเสร็จสิ้นแล้ว
จึงมีคำสั่งให้ผู้อำนวยการองค์การคลังสินค้าคนใหม่เข้าปฏิบัติหน้าที่ในวันที่ 10 ก.ย.2563 อันเป็นการทอดเวลาให้การทุจริตสำเร็จแล้ว จึงแต่งตั้งผู้อำนวยการองค์การคลังสินค้าคนใหม่มาปฏิบัติหน้าที่แล้ว นายจุรินทร์ จึงอาศัยเป็นข้ออ้างว่า ตนเพิ่งรู้การทุจริตซึ่งผิดวิสัยอย่างยิ่ง
ดังนั้น เพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรม คดีนี้ผู้กระทำความผิดมีการแบ่งแยกหน้าที่กันกระทำการอย่างแยบยล ข้าพเจ้าจึงขอให้คณะกรรมการ ป.ป.ช. ไต่สวนข้อเท็จจริงตามเอกสารที่อ้างถึงทุกรายการ รวมทั้งพยานหลักฐานตามสิ่งที่ส่งมาด้วยรวม 15 รายการ และพยานบุคคลที่เกี่ยวข้องกับเอกสารทั้งหมด จะทำให้คณะกรรมการ ป.ป.ช. ทราบพฤติการณ์การกระทำผิดของนายจุรินทร์ฯร่วมกับนายสุชาติฯ จริง
สำหรับ พล.อ.ประยุทธ์ ถือว่า ละเว้น ไม่ปฏิบัติตามนโยบายของรัฐบาลที่แถลงต่อรัฐสภา โดยทราบเรื่องการทุจริตจากนายจุรินทร์ ก่อนวันที่ 14 ก.ย.2563 พล.อ.ประยุทธ์ ไม่เร่งรีบที่จะหยุดความเสียหายโดยพลัน ในการอายัดเงิน หรือติดตามเงินที่ทุจริตคืน ทั้งที่มีหน้าที่และอำนาจในการสั่งการ แต่ปล่อยปละละเลย และละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ทำให้กลุ่มผู้ทุจริตกระทำการฟอกเงินทั้งในประเทศและต่างประเทศตามที่ได้กล่าวมาข้างต้น
ข้าพเจ้า จึงเรียนมาเพื่อให้คณะกรรมการ ป.ป.ช. ดำเนินการไต่สวน เพื่อปราบปรามการทุจริต และเนื่องจากคดีนี้เป็นการกล่าวหาบุคคลระดับนายกรัฐมนตรี และรองนายกรัฐมนตรี ข้าพเจ้า จึงขอให้คณะกรรมการ ป.ป.ช. ทั้งคณะเป็นองค์คณะผู้ไต่สวนคดีนี้ โดยเร่งด่วนต่อไป” หนังสือคำร้องของ ประเสริฐ ระบุ
เหล่านี้เป็นสาระสำคัญหนังสือคำร้องของ ‘ประเสริฐ จันทรรวงทอง’ ส.ส.นครราชสีมา พรรคเพื่อไทย ที่ยื่นขอให้ ป.ป.ช.ดำเนินการไต่สวนฯ ‘พล.อ.ประยุทธ์-จุรินทร์’ ว่า มีความผิดฐานปล่อยปละละเลย และละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ในกรณีทุจริต ‘จัดซื้อถุงมือยาง’ 2,000 ล้านบาท หรือไม่!
อ่านประกอบ :
- ฝ่ายค้านยื่น ป.ป.ช.สอบประยุทธ์-เอนก อนุมัติงบ 2 พัน ล.มิชอบ,จุรินทร์โดนปมถุงมือยางด้วย
-
ข้อมูลใหม่! เอกชนถูกปคบ.-อย.ทลายโกดัง ATKปลอม ใช้ที่อยู่เดียวบ.ขายถุงมือยางแสนล.อคส.
-
แห่งที่ห้า! บ.สงขลา รับเงิน 273.46 ล.คดีถุงมือยาง ผู้บริหารฯ แจงเสียหายระดับร้อยล้าน
-
ล่าข้ามปท.! แกะรอย บ.เกาหลีใต้ รับเงินคดีถุงมือยางการ์เดียนโกลฟส์มากสุด 301 ล.
-
แห่งสอง! เปิดตัว บ.พลังงานไอน้ำฯ ตึกแถว 4 ชั้น รับเงิน 58ล.คดีถุงมือยางการ์เดียนโกลฟส์
-
แห่งแรก! บ.คอนสตรัคชั่นฯ แจงรับเงิน120 ล.คดีถุงมือยาง ค่าสร้างรง.-โดนเบี้ยวสัญญาด้วย
-
เบื้องลึก! ข้อมูลใหม่ 'ประเสริฐ' แฉกลางสภาฯ เส้นทางเงินถุงมือยาง อคส.1.8 พันล.
-
มีชื่อบิ๊กในบอร์ด อคส.ด้วย! ป.ป.ช.ขีดเส้นสรุปสำนวนไต่สวนคดีถุงมือยางแสนล.ก่อนสิ้นปีนี้
-
เพิ่งจัดตั้ง 2 ด.เศษ! เปิดตัว บ.คู่สัญญาถุงมือยาง อคส.แสนล.-พ.ต.อ.รุ่งโรจน์ ยันทำถูกต้อง
-
โชว์ครบ 4 หน้า! สัญญาถุงมือยาง อคส.แสนล้าน-ข้อสังเกตหลักประกัน 200 ล.-ลูกค้าปริศนา?
-
แกะรอยเงิน 2 พันล.! อคส.จ่ายค่าถุงมือยาง บ.การ์เดียนโกลฟส์ งวดแรก อยู่ที่ไหน?
-
โพรไฟล์ชีวิต ‘พ.ต.อ.รุ่งโรจน์’ ผู้ลงนามสัญญาซื้อขายถุงมือยาง อคส.แสนล.
-
แฉเหตุ 'รุ่งโรจน์' กล้าทำสัญญาขายถุงมือยางแสนล.! มีบอร์ดอคส.-นักการเมือง ปชป.ดีลลูกค้าให้
-
'เอ็กซ์คลูซีฟ' เบื้องลึก บ.ขายถุงมือยาง อคส.แสนล.-1 ในผู้บริหารเคยโดนแจ้งความคดีฉ้อโกง?
-
พบเป็นโกดังเก็บสินค้าย่านนครปฐม! เผยโฉม บ.การ์เดียนโกลฟส์ฯ คู่สัญญาถุงมือยาง อคส.แสนล.
-
เปิดตัว คุณเอ็ม 'ธณรัสย์ หัดศรี' เจ้าของบ.การ์เดียนโกลฟส์ คู่สัญญาขายถุงมือยาง อคส.แสนล.
-
ภาพชุด 2! เปิดตัว 'คุณเอ็ม' เจ้าของบ.การ์เดียนโกลฟส์ คู่สัญญาขายถุงมือยาง อคส.แสนล.
-
'เอ็กซ์คลูซีฟ': เปิด 7 เอกชน จองซื้อถุงมือยาง อคส.แสนล.-บ.K สั่งล็อตใหญ่ 500 ล้านกล่อง
-
MR.Abdullah Pathan ตัวแทนลอว์เฟิร์มในสหรัฐฯ สั่งซื้อถุงมือยางแสนล.มีตัวตนจริงหรือไม่?
-
บ้าน 2 ชั้นย่านอุดมสุข! เปิดตัวบ.เคเค.ออยล์ ลูกค้ารายที่ 2 สั่งซื้อถุงมือยาง 1.1 หมื่นล.
-
คนชื่อแอร์แนะนำ! ผู้บริหารบ.เคเคออยล์ฯ แจงทำสัญญาซื้อถุงมือยาง 1.1หมื่นล.-มีลูกค้าจริง
-
รุ่นพี่ชื่อ'จ๋า'แนะนำ! เปิดตัวบ.ถนอมผลไม้ ลูกค้าอคส.รายที่ 3 ซื้อถุงมือยาง 1.1 หมื่นล.
-
รายที่4! เปิดตัว Galore ลูกค้า อคส. ซื้อถุงมือยาง2.2หมื่นล.-อยู่ฟลอริดา โชว์รายได้ 2 ล.
-
เจอแล้ว! บ.รายที่ 5 ซื้อถุงมือยาง2.1 หมื่นล.-แจ้งงบฯขาดทุน1.2 หมื่น-ยันมีลูกค้าตปท.จริง
-
ตามไปดู บ.รายที่ 6 ซื้อถุงมือยาง อคส.2.5 พันล. พบเป็นที่ตั้งลอว์เฟิร์มย่านรัชดา
-
ไม่รู้ตื้นลึกหนาบาง! ตัวแทน บ.ควีนฯ แจงเหตุสั่งซื้อถุงมือยาง 2.5 พันล.-คนใน.อคส.ชักชวน
-
เปิดตัว บ.รายที่ 7 ซื้อถุงมือยาง 2.5 พันล.-โอดเดือดร้อน ส่งของ รบ.ท้องถิ่นแคนาดาไม่ทัน
-
ล็อกเป้า 3 บ.จุดเริ่มต้นคดีถุงมือยางแสนล.! อคส.รอ DSI สอบปากคำจบตามเงินคืน 1.8 พันล.
-
โชว์ใบฝากเงิน 2 พันล.! อคส.จ่ายค่าถุงมือยาง บ.การ์เดียนฯ-เข้าบช.กสิกรไทย บิ๊กซีนครปฐม
-
เปิดเส้นทางเงิน 2 พันล.! อคส.จ่ายค่าถุงมือยาง บ.การ์เดียน- ณ 15 ก.ย. เหลือยอดแค่ 858 ล.
-
เผยโฉมบัญชี บ.การ์เดียนฯ รับเงิน อคส.จ่ายค่าถุงมือยาง 2 พันล.-ก่อน ป.ป.ช.สั่งอายัด
-
แฉบ.การ์เดียนฯ ชิงถอนเงินเกือบหมด! หลังสื่อตีข่าว ป.ป.ช. สั่งอายัดบัญชีถุงมือยาง 2 พันล.
-
ไม่เคยให้เงินใต้โต๊ะกับใคร! เปิดคำชี้แจง เจ้าของบ.การ์เดียนโกลฟส์ ปมขายถุงมือยางแสนล้าน
-
ต้องเอาเงินคืน!'จุรินทร์'ตอบปม อคส.ซื้อถุงมือยางแสนล้าน-ป.ป.ช.ระงับบัญชีแล้วบางส่วน
-
เบื้องลึก 'จุรินทร์' สั่งตามเงินคืน 2 พันล.! อคส.คุ้ยหลักฐานตปท.พิสูจน์MOUซื้อถุงมือยางแสนล.
-
ขมวดปม (1) ข้อสังเกตสร้างนิติกรรมสัญญา? เปิดโอกาสจัดซื้อถุงมือยางแสนล้าน
-
โชว์ครบ 3 หน้า แปลไทยแล้ว! สัญญาซื้อขายถุงมือยางแสนล. 'อคส.-ลอว์เฟิร์มสหรัฐฯ'
-
ผู้บริหารโดนคดีฉ้อโกงค่าอาหารที่พัก! ขมวดปม (2) ข้อมูลลับ 'การ์เดียนโกลฟส์'ในมือ อคส.
-
ขมวดปม (3) ข้อสังเกตสัญญาซื้อขายถุงมือยางแสนล. 'อคส.-การ์เดียนโกลฟส์' เอื้อปย.เอกชน
-
เปิดที่มาเงิน 2 พันล. อคส. จ่ายค่าถุงมือยาง 'ถอนจากบัญชีฝากประจำ' ไม่ขออนุญาตก.คลัง?
-
เปิดคำให้การ! เบื้องหลังมติถอนเงินบัญชีฝากประจำจ่ายถุงมือยาง 2 พันล.-ไม่ผ่านบอร์ด อคส.?
-
'เอ็กซ์คลูซีฟ' : 9 เงื่อนปม ป.ป.ช.ลุยสอบ อคส. ทำสัญญาจัดซื้อถุงมือยางแสนล้าน
-
สภาระอุ! หลักฐาน-คำชี้แจง'ประเสริฐ-จุรินทร์' ปมจัดซื้อถุงมือยาง
-
รอ ป.ป.ช.ชี้ขาดดีกว่า! 'รุ่งโรจน์' เมิน อคส.ชงผลสอบถุงมือยางแสนล.ให้ 'จุรินทร์'
-
ยังเปิดกิจการอยู่! โชว์ภาพล่าสุด บ.การ์เดียนโกลฟส์ คู่สัญญาขายถุงมือยาง อคส. แสนล.
-
ให้ปากคำ ป.ป.ช.แล้ว! ความเคลื่อนไหวล่าสุด บ.การ์เดียนฯ ขายถุงมือยางแสนล.
-
แฟ้มลับคดีถุงมือยางแสนล.(1) เปิดคำให้การ บ.การ์เดียนฯ จนท. 'ก.' มาดีลงานถึงที่
-
โวย อคส.ชวนมาซื้อแต่โดนคดีทุจริต! อนุฯ ป.ป.ช.แจ้งข้อหา จนท.รัฐ-เอกชนปมถุงมือยางแสนล.
-
ลับสุดยอด! ภาพชุด จนท.อคส. เปิดคลังรับสินค้า บ.การ์เดียนฯ จุดเริ่มต้นคดีถุงมือยางแสนล.
-
รีวิวครั้งแรก! เผยโฉมถุงมือยางแสนล้าน อคส.ทำสัญญาซื้อ บ.การ์เดียนฯ - ใครผลิต?
-
เบื้องหลัง! ภาพชุดเปิดคลังรับสินค้าถุงมือยางแสนล.- บิ๊ก อคส. สั่งจัดฉากโชว์ของตัวอย่าง?
-
คู่สัญญาถุงมือยางแสนล. 'อคส.' เปลี่ยนชื่อใหม่ - ออกสื่อPR.ข่าวแผนธุรกิจงานหมื่นตำแหน่ง
-
อคส. หัก บ.การ์เดียนฯ สั่งคืนถุงมือยางแสนล.! ‘อิศรา’ บุกคลังสินค้าขอดูของ จนท.ไม่ให้
-
ขอริบเงิน 2,000 ล.! บ.การ์เดียนฯ โต้กลับ อคส. ชิงบอกเลิกสัญญาถุงมือยางแสนล้าน
-
หลักฐานใหม่ 'ศรีตรัง-ซันไทย' ไม่รู้เรื่องถูกใช้เอกสารแนบทำสัญญาซื้อขายถุงมือยางแสนล.
-
เจาะผลสอบถุงมือยางแสนล.(1) เริ่มต้นห้อง บิ๊ก อคส.-นาย อ.จัดให้คำสั่งซื้อลอว์เฟิร์มสหรัฐ
-
เจาะผลสอบถุงมือยางแสนล.(2) บทบาทผู้บริหาร อคส.ปริศนา สั่งหาช่องทำสัญญา-จ่ายเงินสองพันล.
-
ถ้าบอกทุจริตจะสู้หัวชนฝา! ป.ป.ช. เรียก รุ่งโรจน์ แจ้งข้อกล่าวหาถุงมือยางแสนล. 28 พ.ค.
-
เผยหนังสือลับคดีถุงมือยางแสนล.! อนุฯ ไต่สวน ป.ป.ช. แจ้งขอหลักฐานแต่งตั้ง ปธ.บอร์ด อคส.
-
กลับไปใช้ชื่อเก่า! บ.การ์เดียนฯ ถุงมือแสนล. อคส.แจ้งเปลี่ยนรอบ2-ยังไม่โชว์งบการเงิน
-
พ.ต.อ.รุ่งโรจน์ ยื่นหนังสือลาออกแต่โดนเบรก - ขอแสดงความรับผิดชอบถุงมือยางแสนล.!
-
กางระเบียบ อคส.! ทางเดียว 'รุ่งโรจน์' ลาออกได้ ต้องเป็น 'ผู้บริสุทธิ์' คดีถุงมือยางแสนล.
-
ขีดเส้น 'รุ่งโรจน์' ให้ปากคำสอบวินัยร้ายแรงถุงมือยาง-ถ้าโดนไล่ออกเจอฟ้องคืนเงินด.หลักล้าน!
-
ระทึก! บอร์ด อคส. ทั้งคณะ จ่อโดนสอบความรับผิดทางละเมิดคดีถุงมือยางแสนล้าน
-
สรุปผลสอบคดีละเมิดถุงมือยาง โดนชี้ 7 ราย 'สุชาติ-รุ่งโรจน์-เกียรติขจร-มูรธาธร-จนท.อีก 3'
-
พ.ต.อ.รุ่งโรจน์ พุทธิยาวัฒน์ : The Last Dance ท่าที-แนวทางต่อสู้ คดีถุงมือยางแสนล.
-
'จุรินทร์'เผยผลสอบ กก.ลงโทษทางวินัยร้ายแรงไล่ออกราชการ 3 คนเอี่ยวคดีถุงมือยาง
-
เป็นทางการ! บอร์ด อคส. ลงมติไล่ออก 'รุ่งโรจน์-เกียรติขจร -มูรธาธร' คดีถุงมือยางแสนล.
-
'เอ็กซ์คลูซีฟ' เปิดสำนวน คกก.วินัยร้ายแรง มติเอกฉันท์ไล่ออก 'รุ่งโรจน์-พวก' คดีถุงมือยาง
-
โชว์คำสั่งไล่ออก จนท.อคส.คดีถุงมือยางแสนล.-กรณี 'รุ่งโรจน์' แจ้งปลัดสำนักนายกฯ แล้ว