จบศึกซักฟอก!ฝ่ายค้านเปรียบ'จุรินทร์'เข้าไอซียูปมถุงมือยาง-ส่งสอบจริยธรรม 10 รมต.

จบศึกซักฟอก 4 วัน! 'บิ๊กตู่' ขอโทษเรื่องสมอง 84,000 เซลล์สานต่อทุกโครงการที่ดีกับประชาชน รับเป็น 'รบ.เวรี่กู้' ลั่นไม่ใช่ศัตรูใคร ลุยสอบเรื่องทุจริตต่อ - 'ชลน่าน' ตัวแทนฝ่ายค้านปิดอภิปราย-ลั่นมีใบเสร็จทางการเมือง ชี้ 4 ความผิดพลาด รบ.ประยุทธ์ ‘จุรินทร์’โดนหนักสุด เปรียบ รมต.เข้าไอซียู ปมถุงมือยาง 2 พันล. ‘2 ป.’โดนด้วยปมขุดคลอง อผศ.-ค่าโง่เหมืองทองอัคราฯ ‘ธรรมนัส’โดนอภิปรายแค่ 1 ประเด็นเรื่องที่ดิน ส.ป.ก. - นัดลงมติ 20 ก.พ. 10.30 น.

................................................

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 19 ก.พ. 2564 ที่รัฐสภา สภาผู้แทนราษฎร ดำเนินญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล รวม 10 ราย เป็นวันที่สุดท้าย โดยตั้งแต่เวลา 21.00 น. พล.อ.ประยุทธ์ ได้กล่าวช่วงท้ายในการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ต่อมาเวลาประมาณ 22.00 น. นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน พรรคเพื่อไทย ได้รับมอบหมายให้พูดปิดการอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งนี้

หลังจากนั้น เมื่อเวลา 23.12 น. นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร สั่งปิดการอภิปรายไม่ไว้วางใจ โดยกล่าวว่า ญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจสิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 151 ให้ ส.ส.ลงมติไว้วางใจ หรือไม่ไว้วางใจ โดยไม่ให้กระทำวันเดียวกับการอภิปรายสิ้นสุดลง เพราะฉะนั้นการลงมติได้หารือร่วมกันภายนอกแจ้งให้ทราบว่า ขอนัดหมายการลงมติในวันที่ 20 ก.พ. 2564 เวลา 10.30 น.

"ถือโอกาสสั้น ๆ ขอขอบคุณเพื่อนสมาชิกพรรคร่วมฝ่ายค้าน เพื่อนสมาชิกพรรคร่วมรัฐบาล คณะรัฐมนตรี เจ้าหน้าที่ทุกคน ล่ามมือ สื่อมวลชน โดยเฉพาะประชาชนเจ้าของอำนาจอธิปไตยที่ติดตามการปฏิบัติภารกิจของเรา ขอปิดประชุม" นายชวน กล่าว (อ่านรายละเอียดทุกข่าวในการอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งนี้ได้ท้ายข่าวนี้)

@'บิ๊กตู่'ขอโทษเรื่องสมอง 84,000 เซลล์

เมื่อเวลา 21.00 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม กล่าวในช่วงท้ายของการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ว่า ก่อนอื่นต้องกล่าวขอโทษ ครั้งหนึ่งที่เคยกล่าวว่าสมองมี 84,000 เซลล์ ตนพูดตกไป เพราะวันนั้นก็รีบๆ อยู่ด้วย ความจริงมีประมาณ 84,000 – 100,000 ล้านเซลล์ ขอโทษด้วยแล้วกัน ตนคงไม่น้อยไปกว่าท่านเรื่องสมอง แต่อาจจะมีผิดบ้าง ก็ขออภัย ในภาพรวมทางเศรษฐกิจเข้าใจถึงความห่วงใยของทุกคนในห้องนี้ โดยเฉพาะเรื่องเศรษฐกิจปากท้องของประชาชน สถานการณ์โควิดคงอยู่กับเราไปอีกระยะหนึ่ง มาตรการต่าง ๆ จะทยอยออกมาตามลำดับ ไม่ใช่เฉพาะประชาชน ต้องดูแลเอสเอ็มอี ซอฟต์โลน ผู้ประกอบการทุกรายที่ต้องดูแลลูกจ้างต่อไป แต่ละห่วงโซ่มีคนหลายสิบล้านคน

“ผมไม่อยากให้มีการเข้าใจผิดอีกต่อไปว่า ผมดูแลเฉพาะเจ้าสัว คนที่ได้ประโยชน์คือลูกจ้างพนักงาน เพื่อจะได้ไม่ลดการจ้างงาน” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

@ขอสานต่อทุกโครงการที่ดีกับประชาชน

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ท่านทราบดีอยู่แล้วว่าปี 2557 จีดีพี 1% มีวิกฤติประเทศทุกด้าน ก่อนที่จะเติบโตมาตามลำดับกระทั่งปี 2562 เกิดสงครามการค้าระหว่างประเทศ ทุกประเทศประสบปัญหาไปพร้อมกันลดลงเหลือเพียง 2.4% ส่วนปี 2563 ทั้งปี -6% ประเทศอื่นก็เช่นเดียวกับเรา บางประเทศก็หนักกว่าเรา เราไม่ได้เป็นประเทศที่ต่ำที่สุดในอาเซียน

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวด้วยว่า หลายโครงการที่ต้องดูแลประชาชนยังมีความจำเป็น บางโครงการที่ทำมาก่อนแล้วดี ก็ยินดีสานต่อ แต่ต้องพัฒนาให้ได้ประโยชน์มากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นโครงการหลักประกันสุขภาพ เพิ่มสิทธิประโยชน์ไปอีก 50 รายการ ให้บริการล้างไต ป่วยมะเร็งรักษาโรงพยาบาลไหนก็ได้ที่พร้อม ฯลฯ การช่วยเหลือเกษตรกรที่เคยทำไว้ ก็จะทำต่อ แต่ต้องดูเรื่องการปรับเปลี่ยนเป็นเกษตรแนวใหม่ ไม่ใช่เกษตรดั้งเดิม เช่นเดียวกับเรื่องค่าแรงขั้นต่ำยังอยู่ระหว่างการแก้ปัญหาอยู่ เนื่องจากเราขึ้นก้าวกระโดดไป ทำให้โรงงานปรับตัวไม่ทัน อุตสาหกรรมที่ใช้แรงงานเข้มข้นได้ย้ายฐานการผลิตไปในประเทศที่มีค่าแรงถูกกว่าไทย ก็เป็นเรื่องที่ต้องแก้ไขกันไป

“ปัญหาการลักลอบนำแรงงานต่างด้าวเข้ามา เรื่องทุจริตใครได้ประโยชน์ เป็นเรื่องที่ต้องสอบสวนดำเนินการตามกระบวนการยุติธรรม” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวด้วยว่า เรื่องการดูแลต่างๆ เราดูแลทั้งหมดอยู่แล้ว เช่น บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ได้ดูแลผู้มีรายได้น้อย อาจจะมีผู้ตกสำรวจบ้าง ก็มีการเปิดรับใหม่ตามระยะเวลาที่เหมาะสม เป็นการให้เงินตรงจุด คนลำบากมากต้องได้รับก่อน แต่ไม่ได้ให้ไปร่ำรวย ให้เพื่อครองชีพได้ เป็นหลักการสำคัญ เพราะโอกาสคือความเท่าเทียม ซึ่งรวมถึงมีอีกหลายโครงการที่รัฐได้ดำเนินการไปอย่างต่อเนื่องในช่วงที่ผ่านมา

“ส่วนเรื่องทุจริต อย่างไรก็มีคนทุจริต ยืนยันว่าตรวจสอบได้แน่นอน วันนี้เข้าสู่กระบวนการดำเนินคดีหลายราย ไม่ใช่ใครหรอก ก็คนฉลาดๆนี่ล่ะครับ ผมไม่เอ่ยดีกว่า” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

@ยอมรับเป็นรัฐบาล 'เวรี่กู้'

นายกรัฐมนตรี กล่าวอีกว่า ในการอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งนี้ ว่าตนล้มเหลว ไม่มีวิสัยทัศน์ ทำประเทศถอยหลัง ไม่มีใครอยากคบ อยากเรียนให้ทราบว่าต่างชาติมองไทยอย่างไรในห้วง 6 ปีที่ผ่านมา แบบนี้ไม่ได้ใช้เงินซื้อ ไม่ได้ให้เงินให้ทองเขา สื่อต่างชาติมองว่า ไทยเป็นประเทศที่ดีที่สุดในการเริ่มต้นธุรกิจปี 2563 และอันดับสองของประเทศที่ดีที่สุดต่อการลงทุน ขอเพียงแต่อย่าขัดแย้งกัน

"กราบเรียนให้เห็นภาพความจริง ความตั้งใจในการทำงาน เป็นสิ่งที่เกิดขึ้น หลายคนอาจจะไม่เห็น ที่ใช้เงินไปแล้วใช้ไปทำอะไรบ้าง หลายคนบอกว่าใช้เงินไม่เป็น ใช้เงินมาก กู้มาก แต่สิ่งที่เกิดที่ปรากฏ ชัดเจน คงไม่เปรียบเทียบกับรัฐบาลไหน แต่เราก็กู้มากขึ้นจริงๆ เป็นรัฐบาลเวรี่กู้ แต่เป็นเรื่องที่ทำความเข้าใจกันยาก ก็เห็นใจ เข้าใจ เราก็ต้องพยายามเข้าใจ สื่อสารถึงกันตลอดไป" นายกรัฐมนตรี กล่าว

@ไม่ใช่ศัตรูใคร รับเรื่องทุจริตลุยสอบสวนต่อ

พล.อ.ประยุทธ์ ชี้แจงว่า ตนไม่ใช่ศัตรูใคร เหมือนที่หลายคนพูดมา พยายามทำอย่างดีที่สุดให้ทุกคนเข้าใจ แต่การทำงานด้วยการพูดอย่างเดียวก็ไม่ได้ ต้องปฏิบัติไปด้วย เผชิญปัญหาไปด้วย อุปสรรคมากมาย เหมือนเราตียึดทีหมายอะไรสักอย่างมักจะมีข้าศึกระหว่างทางเสมอ ก็ต้องแก้ปัญหาตรงนี้ให้ได้ สิ่งที่จะแก้ได้คือการศึกษา การปฏิรูปการศึกษาต่อไป

"ผมไม่โกรธท่าน ไม่เกลียดท่าน เรื่องกฎหมายก็ว่ากันไป ที่ท่านพูดมาสักครู่ ไม่อยากจะไปพูดให้มีปัญหาอีก คงมีเท่านี้ครับ ผมไม่ได้ไปว่าใครเลย ยืนยันว่าหากได้มีโอกาส หรือไม่มีโอกาสก็แล้วแต่ ผมจะทำต่อไปในสิ่งที่ดีๆต่อไป จะได้เห็นผลเป็นรูปธรรม ใช้เวลาอีกสักระยะหนึ่ง สิ่งที่เราทำมา 4-5 ปีก็จะเกิดผลสัมฤทธิ์ขึ้น เราจะกลายเป็นประเทศที่เข้มแข็งในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า" พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวย้ำว่า ขอบคุณในคำแนะนำ จะรับไปปฏิบัติ รับไปแก้ไข ในอันที่เป็นประโยชน์กับประชาชน อะไรที่ไม่ชัดเจน อะไรทุจริตจะเร่งดำเนินการแก้ไข สอบสวนเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม

@ฝ่ายค้านปิดอภิปราย-ลั่นมีใบเสร็จทางการเมือง-หวังมีปรับ ครม.

ด้าน นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน พรรคเพื่อไทย ได้รับมอบหมายจากผู้นำฝ่ายค้าน (นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย) ให้พูดปิดการอภิปรายไม่ไว้วางใจ โดยกล่าวตอนหนึ่งว่า การอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งนี้เป็นการทำหน้าที่ตามบทบัญญัติตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 151 โดยเป็นมาตรการที่ถือว่ามีความจำเป็น และเป็นมาตรการเข้มข้นที่สุดในการควบคุมการบริหารราชการแผ่นดิน ทั้งนี้ตลอด 4 วันที่ผ่านมา กราบเรียนนายกรัฐมนตรี คณะรัฐมนตรี ด้วยความขอบคุณยิ่งที่ให้ความสนใจ ทำให้การอภิปรายครั้งนี้ให้เป็นไปตามรัฐธรรมนูญ แม้มีปัญหาอุปสรรคบ้าง ถือว่าเป็นเรื่องธรรมดา ไม่ว่าเป็นผู้อภิปราย หรือผู้ที่ลุกขึ้นมาทักท้วงข้อบังคับ ล้วนทำด้วยใจสุจริต การแสดงบางสิ่งบางอย่างอาจทำให้หลายคนไม่พอใจ ตนในฐานะได้รับมอบหมายจากผู้นำฝ่ายค้านต้องกราบขออภัย 

"แม้จะไม่มีใบเสร็จ แต่คำว่าใบเสร็จทางการเมือง แน่นอนคนส่วนใหญ่คาดหวังว่า ใบเสร็จคือใบเสร็จรับเงิน มันต้องเห็น มันไม่มีหรอก คนทุจริตที่ไหนจะออกใบเสร็จให้กันและกัน แต่มันก็ใบเสร็จที่เป็นบุคคลที่เราเรียกพยาน ใบเสร็จทางการเมืองที่ยิ่งใหญ่ที่สุดคือความเสียหายที่เกิดขึ้น ผลร้าย ผลกระทบที่เกิดขึ้น" นพ.ชลน่าน กล่าว

นพ.ชลน่าน กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ฝ่ายค้านยังมีความหวังถึงการปรับคณะรัฐมนตรี แม้หลายท่านจะผ่านการไว้วางใจ แต่คะแนนจะเพียงผ่านเท่านั้น เกินกึ่งเท่าสมาชิกที่มีอยู่ 244 เสียงแต่มันจะเป็นคะแนนที่ไปบีบให้ พล.อ.ประยุทธ์ กลับมามองว่า สิ่งที่ฝ่ายค้านพูด โอกาสเป็นของท่านแล้ว ที่จะปรับเปลี่ยนการทำงานของคณะรัฐมนตรีเพื่อบ้านเพื่อเมือง รัฐมนตรีถูกปรับออกอย่าน้อยใจ เป็นกลไกประชาธิปไตย ตามรัฐธรรมนูญ ออกเพราะสภาไม่ไว้วางใจมีศักดิ์มีศรีมาก

@สรุปอภิปราย 4 วัน ชี้ 4 ความผิดพลาด รบ.ประยุทธ์

นพ.ชลน่าน กล่าวถึงภาพรวมในการอภิปรายครั้งนี้ โดยสรุปการอภิปรายของฝ่ายค้านว่า เป็นยุทธการที่ชี้เป้า และดำเนินการถล่มยิงเป้าโดยผู้อภิปรายทั้ง 39 ราย ภาคภูมิใจว่าฝ่ายค้านทำหน้าที่ได้สมบูรณ์แบบ เตรียมพร้อม และมีข้อกล่าวหาชัดเจน ชี้ให้เห็นเรื่องของความผิดพลาดบกพร่องล้มเหลวตามข้อกล่าวหาได้อย่างชัดแจ้ง รวม 4 ประเด็นได้แก่ 1.เรื่องความผิดพลาดบกพร่อง ล้มเหลว ในการบริหารราชการแผ่นดิน 2.การทุจริตเอื้อประโยชน์ การปล่อยปละละเลยฉ้อฉลเอื้อพวกพ้อง 3.การกระทำผิดต่อกฎหมาย กระทำผิดต่อจริยธรรม กระทำผิดต่อเรื่องหลักนิติรัฐ นิติธรรม และเรื่องสิทธิมนุษยชน 4.การไม่ยึดมั่นในการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข และนอกจากไม่ยึดมั่นแล้ว ยังมีกลไกกระบวนการที่จะทำลายล้างทางการเมือง ทำลายการปกครองระบอบประชาธิปไตย นี่คือข้อกล่าวหาทั้งหมด

นพ.ชลน่าน กล่าวอีกว่า ส่วนสาเหตุโดยรวมที่นำไปสู่การอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งนี้ มีอย่างน้อย 6 ประเด็น ได้แก่ 1.เกิดจากวิธีคิด จิตสำนึก และลีลาชีวิต คุณลักษณะส่วนบุคคลของตัวท่านนายกรัฐมนตรี ในฐานะเป็นผู้นำของการบริหารราชการแผ่นดิน 2.เป็นเรื่องความเชื่อมั่น การยอมรับนับถือจากต่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็นสิ่งปรากฏชัดกับสายตาว่า เวลาผู้นำเราไปต่างประเทศ พฤติกรรมต่าง ๆ การให้ยอมรับเป็นอย่างไร จุดนี้เองมีรัฐมนตรีมาตอบแทน โดยเฉพาะ รมว.ต่างประเทศบอกว่า ได้รับการต้อนรับนับถืออย่างดียิ่ง แต่สิ่งเหล่านั้นไปตรวจสอบกันจริง ๆ มีบางประเทศเท่านั้น ประเทศใหญ่ ๆ ที่ยึดมั่นระบอบประชาธิปไตย คำนึงสิทธิเสรีภาพแทบหาไม่ได้

3.มูลเหตุสำคัญทำให้ล้มเหลวไร้ประสิทธิภาพ คือความรู้ความสามารถ ภูมิปัญญา วุฒิภาวะ ของตัวนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีที่ถูกกล่าวหา ไร้ประสิทธิภาพในการบริหารราชการแผ่นดิน 4.พูดกันมา เป็นทั้งเหตุทั้งผลทั้งแนวทาง คือเรื่องทุจริต แสวงหาผลประโยชน์ เอื้อประโยชน์ให้ตนเองและพวกพ้อง

5.จริยธรรม มาตรฐานจริยธรรมมีการพูดกันมาก ข้อกล่าวหามีเกือบทุกรัฐมนตรี เป็นประเด็นหนึ่งเราจะดำเนินการต่อหลังจบการอภิปราย คือส่งให้องค์กรที่เกี่ยวข้อง ได้พินิจพิจารณาวินิจฉัยดูว่า สิ่งทีเรากล่าวหาในสภาแห่งนี้ นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีหลายท่าน มีลักษณะของฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติมาตรฐานจริยธรรมฯร้ายแรงหรือไม่ 6.การไม่ยึดมั่นในการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ทำให้การเมืองล้มเหลว

“สิ่งสำคัญในการอภิปรายไม่ไว้วางใจ คำตอบสำคัญ ถ้าท่านไม่ตอบ พวกผมฐานะกล่าวหา ถือว่าท่านยอมรับ เป็นไปตามที่กล่าวหา ถ้าไม่ตอบ หรือตอบไม่มีน้ำหนักหลักฐานพยาน พวกผมถือว่าได้เปรียบ สิ่งที่กล่าวหาเป็นจริง เหมือนแนวทางแถลงปิดคดี” นพ.ชลน่าน กล่าว

@‘จุรินทร์’โดนหนักสุด เปรียบ รมต.เข้าไอซียู ปมถุงมือยาง 2 พันล.

สำหรับรัฐมนตรีที่ถูกฝ่ายค้านพูดถึงมากที่สุด ได้แก่ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.พาณิชย์ โดย นพ.ชลน่าน ระบุว่าเหมือนอยู่ใน ‘ไอซียู’ เนื่องจากภายหลังอภิปรายประเด็นสัญญาลวงถุงมือยางเสร็จสิ้น มีหลายคนถามหา รมว.พาณิชย์ไปไหน อีกหลายคนตอบว่าไปไอซียู แสดงว่ามีการตัดสินไปแล้ว จากการตอบชี้แจงของนายจุรินทร์

(อ่านประกอบ : สภาระอุ! หลักฐาน-คำชี้แจง'ประเสริฐ-จุรินทร์' ปมจัดซื้อถุงมือยาง)

นพ.ชลน่าน กล่าวอีกว่า ผู้อภิปรายประเด็นนี้ (นายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย) ชี้ให้เห็นว่า สิ่งที่กล่าวหา หลักฐานข้อมูลข้อเท็จจริงที่นำมาแสดง ไม่ว่าจะเป็นเอกสาร คลิปเสียง หรือภาพถ่ายที่ออกจากแอปพลิเคชั่นไลน์ การทุจริตถุงมือยาง การทำสัญญาลวง เพื่อจะเอาเงินขององค์การคลังสินค้า (อคส.) ออกมาใช้ 2 พันล้านบาท เพื่อจะไปจัดหาถุงมือยางส่งให้ผู้ที่สั่งซื้อมาจากต่างประเทศ 1.2 แสนล้านบาท กลไกตรงนี้ ผู้อภิปรายชี้ให้เห็นอย่างชัดเจนว่า มีความเชื่อมโยงเกี่ยวเนื่องกันอย่างไร ประเด็นที่ตั้งข้อกล่าวหาที่สำคัญที่สุดคือ ผู้ที่ทุจริต หรืออยู่ในกระบวนการทั้งหมด เป็นผู้ใกล้ชิด มีความสัมพันธ์กับรองนายกฯ และรัฐมนตรีอย่างแนบแน่น แถมเหตุการณ์เกิดในสมัยท่านดำรงตำแหน่งปัจจุบัน

“ท่านตอบชี้แจงมีอาการหลาย ๆ เรื่องที่ปรากฏมา ทำไมกระดาษที่ท่านถือมันสั่น ไม่สันนิษฐานว่าเกิดจากอะไร สื่อมวลชนนำไปขยายภาพมาก ประเด็นที่ท่านตอบ ทำให้ผมกล้าพูดว่าท่านอยู่ในไอซียู เพราะท่านยอมรับโดยสุจริตใจว่ามีการทุจริตจริง ท่านบอกว่า อภิปรายไม่ไว้วางใจประธานบอร์ด อคส. ไม่ไว้วางใจ ผอ.อคส และบอกว่าผมจะจัดการ ดำเนินการให้ถึงที่สุดในเรื่องของความผิดนั้น ๆ ท่านยอมรับว่ามีทุจริตจริง” นพ.ชลน่าน กล่าว

นพ.ชลน่าน กล่าวอีกว่า ที่สำคัญน่าเสียดาย เสียใจด้วย ไม่อยากได้ยินคำพูดจากปากท่านเลย ท่านเป็นรัฐมนตรี แต่บอกว่าเป็นแค่ไปรษณีย์ ถ้าตนเป็นนายกฯจะพิจารณาคนแรก รัฐบาลนี้คงไม่อยากเอารัฐมนตรีมาเป็นแค่ไปรษณีย์

“ท่านตอบชี้แจงไม่มีหลักฐานหรือไม่มีน้ำหนักแล้ว ศาลตัดสินเลย จำเป็นต้องจำคุกท่านตามคำกล่าวหา ถ้าคุกทางการเมืองคือการไม่ไว้วางใจ” นพ.ชลน่าน กล่าว

@‘2 ป.’โดนด้วยปมขุดคลอง อผศ.-ค่าโง่เหมืองทองอัคราฯ

ส่วนรัฐมนตรีคนอื่น ๆ ที่น่าสนใจ นพ.ชลน่าน ยกตัวอย่าง เช่น พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี กรณีถูกกล่าวหาสำคัญคือ ถูกพาดพิงเรื่องโครงการขุดลอกแหล่งน้ำขององค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึก (อผศ.) เมื่อปี 2558 ที่ พล.อ.ประวิตร ตอบว่า “ไม่รู้ ไม่เกี่ยวข้อง ไม่เกี่ยวกับผม” ยิ่งตอบแบบนี้ นี่คือการยอมจำนนต่อหลักฐาน ยอมจำนนต่อข้อกล่าวหา ตัดสินได้เลย แสดงว่ายอมรับ

ส่วน พล.อ.ประยุทธ์ ถูกกล่าวหาประเด็นหลักคือ กรณีถูกอภิปรายเรื่องใช้มาตรา 44 สมัยเป็นหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ยกเลิกสัมปทานเหมืองแร่งทองคำของบริษัท อัครา รีซอร์สเซส จำกัด (มหาชน) ในเครือบริษัท คิงส์เกตฯ สัญชาติออสเตรเลีย ส่งผลให้เกิดการฟ้องร้องกันในชั้นอนุญาโตตุลาการ และมีกระบวนการยกทรัพยากรที่ดินเพื่อแลกกับการถอนฟ้อง เป็นต้น (อ่านประกอบ : ฝ่ายค้านขุดเอกสารลับ!แนวโน้มไทยแพ้ค่าโง่ 2 หมื่นล.อัคราฯ ‘สุริยะ-บิ๊กตู่’ปัดเอื้อ ปย.)

นอกจากนี้ยังกล่าวหานายนิพนธ์ บุญญามณี กรณีถูกคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ชี้มูลความผิด ฐานละเลยต่อการปฏิบัติหน้าที่ กรณีไม่เบิกจ่ายเงินค่ารถอเนกประสงค์ 50 ล้านบาทเศษแก่เอกชน โดยหยิบยกข้อมูลจากสำนักข่าวอิศราด้วย (อ่านประกอบ : ก้าวไกลซัดปมไม่เบิกจ่ายค่ารถ 50 ล. ‘นิพนธ์’ยันมีหลักฐานฮั้ว-ขอความเป็นธรรม อสส.แล้ว)

@‘ธรรมนัส’โดนอภิปรายแค่ 1 ประเด็นเรื่องที่ดิน ส.ป.ก.

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการอภิปรายครั้งนี้มีเพียง ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์ เพียงรายเดียวเท่านั้น ที่ถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจเพียง 1 ครั้ง จากนายนิคม บุญวิเศษ หัวหน้าพรรคพลังปวงชนไทย เกี่ยวกับกรณีการจัดสรรที่ดินปฏิรูปเพื่อการเกษตรกรรม (ส.ป.ก.)

อ่านประกอบ : 

ก้าวไกลซัดปมไม่เบิกจ่ายค่ารถ 50 ล. ‘นิพนธ์’ยันมีหลักฐานฮั้ว-ขอความเป็นธรรม อสส.แล้ว

ชำแหละสายสีส้ม! ‘จิรายุ’ ร่าย 16 วันทันใจนาย-‘ศักดิ์สยาม’ถาม‘เอื้อประโยชน์ใคร’

'ก้าวไกล'ไล่บี้ รมว.ศึกษาปมอาหารกลางวันเด็ก-เจ้าตัวยันได้แค่ 21 บ.หวั่นภาระงบเพิ่ม

ซักฟอกถุงมือยางตั้งคนใกล้ชิด รมต.ทำสัญญาลวง 2 พันล.-'จุรินทร์'ส่ง ป.ป.ช.สอบแล้ว

บี้นายกฯเคลียร์ปมโซล่าร์เซลล์ กอ.รมน.ภ.3 ใช้งานไม่ได้-ป.ป.ช.แม่ฮ่องสอนสรุปผลแล้ว

‘ศักดิ์สยาม’ตั้ง กก.หาตัวผู้รับผิดชอบค่าโง่โฮปเวลล์ นัดถก 25 ก.พ.-แย้มคนเอี่ยวอื้อ

เสมือนรับหน้าที่ใหม่! '2ป.-วิษณุ'ยื่นบัญชีทรัพย์สินอีกรอบ หลังตั้งรัฐบาลปี 62

เงินชั่วไม่รับ! 'บิ๊กตู่'โต้ซักฟอกสั่งปราบบ่อนทั่ว ปท.-ไม่เคยได้ ปย.เรื่องตั้ง ตร.

รังเกียจคนหนีคดีไปต่างประเทศ! 'บิ๊กตู่'ยันไม่นิ่งนอนใจไล่จับ'บอส อยู่วิทยา'

ส.ส.ก้าวไกลใช้ข้อมูล'อิศรา'ซักฟอก'บิ๊กตู่'ปม ขส.ทบ.จัดซื้อรถ 7 สัญญา 2.2 พันล.

ฝ่ายค้านขุดเอกสารลับ!แนวโน้มไทยแพ้ค่าโง่ 2 หมื่นล.อัคราฯ ‘สุริยะ-บิ๊กตู่’ปัดเอื้อ ปย.

'บิ๊กตู่'แจงจัดซื้อชุดทหาร-กล้องตรวจการณ์ แต่ไม่ตอบปมรถ ขส.ทบ.7 สัญญา 2.2 พันล.

นายกฯลั่น 3 ป.ไม่มีรับเงิน-ท้าพิสูจน์ในศาล! 'ประวิตร'ขอตรวจสอบก่อนผังรับส่วย'ชลน่าน'

หนีกม.ร่วมทุน! อัด‘บิ๊กตู่’ต่อสัมปทาน‘สายสีเขียว’ ข้ามศตวรรษ’-‘บิ๊กป๊อก’ยันไร้ทุจริต

รบ.ยังไม่เสียสักบาท! ‘วิษณุ’สวนฝ่ายค้านแนวโน้มไทยแพ้ค่าโง่เหมืองอัคราฯแค่เฟกนิวส์

มหากาพย์ที่ดิน ‘เขากระโดง’ โยง ‘ศักดิ์สยาม-ญาติ’ มีบ้านพักบน ‘ที่หลวง

'ก้าวไกล'เปิดฉาก'ไอโอ'ปั่นข้อความ 5.8 หมื่นบัญชี 'โรม'อัดแต่งตั้ง ตร.ไม่เป็นธรรม

'ศรัณย์วุฒิ'โชว์หลักฐานซื้อรถบัสทหาร 2.2 พันล.-'บิ๊กตู่'แจงสั้น ๆ เป็นเรื่อง ขส.ทบ.

ช่วงโควิดฯซ่อมไม่ได้! รมช.กห. แจงปมโซล่าร์เซลล์ กอ.รมน.หลังฝ่ายค้านซัดล้มเหลว

'ก้าวไกล'เผยมีคนล็อบบี้เยียวยา‘เพลย์เวิร์ค-อสมท.’ นายกฯรับทราบส่ง 'ป.ป.ช.' แล้ว

ประชาภิปราย! ประมวลภาพ'ม็อบเฟสต์'ประท้วงหน้าสภา-ตร.เตรียม 12 กองร้อยรับมือ

# กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage/