'ชลน่าน'โชว์แผนผังรับส่วยบ่อนพนัน-ขบวนการลอบนำเข้าแรงงานต่างด้าว โยง 'บิ๊ก ป.1-ป.2' อ้างมีการปฏิรูประบบรับส่วยตั้งแต่รัฐประหารปี 57 'ประวิตร' โต้ไม่เคยเห็น ขอดูรายละเอียดก่อน 'บิ๊กตู่' ลั่น 3 ป.ไม่มีรับเงิน ไปพิสูจน์มา-ท้าฟ้องศาล - 'วิโรจน์' ส.ส.ก้าวไกล อภิปรายไม่ไว้ใจ 'บิ๊กตู่-อนุทิน' อัดแผนบริหารจัดการวัคซีนโควิดล่าช้า ซ้ำยังกระจุกตัวอยู่กับเอกชนรายเดียว ทำประชาชนมีความเสี่ยง
..........................................................................
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อวันที่ 17 ก.พ.2564 ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎรเพื่อพิจารณาญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล รวม 10 คน เป็นวันที่ 2
เมื่อช่วงเย็น นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน พรรคเพื่อไทย อภิปรายไม่ไว้วางใจ พล.อ.ประยุทธ์ และ พล.อ.ประวิตร ในประเด็นเกี่ยวกับการรับส่วยเรื่องบ่อนการพนัน และขบวนการลักลอบนำเข้าแรงงานต่างด้าว โดย นพ.ชลน่าน เปิดแผนผังโชว์ขบวนการเรียกรับเงิน อ้างถึง ‘บิ๊ก ป.1’ และ ‘บิ๊ก ป.2’ ที่เป็นตัวการ เรียกรับเงิน โดยดำเนินการปฏิรูประบบรับส่วย ภายหลังการรัฐประหาร เมื่อปี 2557 เป็นต้นมา มีตัวการสำคัญคือ ‘ดาบ จ.’ และกลุ่มเอกชนอื่น ๆ (ดูภาพประกอบ)
นพ.ชลน่าน กล่าวว่า การระบาดโควิด-19 ที่เกิดขึ้นระลอก 2 มีขบวนการค้าแรงงานเถื่อนข้ามชาติรับส่วยในพื้นที่ มี 12 กลุ่มอยู่ในกระบวนการรับส่วยแรงงานต่างด้าวเถื่อน แบ่งหน้าที่กันทำ มี ดาบ จ. เป็นหัวหน้าทีมเก็บส่วย กระจายส่งแรงงานต่างด้าวเถื่อนไปที่ 4 จังหวัด คือ กทม. สมุทรสาคร สมุทรปราการ สมุทรสงคราม และยังมีแก๊งส่วยคนจีน ขนคนจีนเข้ามาในไทย มี เจ๊ อ. เป็นหัวหน้าทีม ทั้งขบวนการแรงงานต่างด้าวเถื่อนและแก๊งส่วยคนจีน มีการเก็บส่วยส่งถึง บิ๊ก ป. ทำให้คดีต่าง ๆ แรงงานต่างด้าวเถื่อนที่ถูกจับเงียบหาย เพราะทำกันเป็นขบวนการ สะท้อนให้เห็นความปล่อยปละละเลยของระดับบนที่รู้เห็นเป็นใจ ช่วยให้คดีต่างๆ เงียบหาย และขบวนการเหล่านี้ยังอยู่ได้ สิ่งเหล่านี้เป็นภาพสะท้อนการปล่อยปละละเลย ไร้ความรับผิดชอบ พล.อ.ประยุทธ์ และ พล.อ.ประวิตร จะมีผลประโยชน์หรือไม่ ขอรอฟังคำชี้แจง
@‘บิ๊กป้อม’ขอตรวจสอบก่อนปม‘หมอชลน่าน’โชว์แผนผังรับส่วย
ต่อมาเมื่อเวลาประมาณ 17.30 น. พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ชี้แจงการอภิปรายดังกล่าว โดยใช้เวลาประมาณ 1 นาที ระบุว่า ไม่เคยเห็นแผนภูมิดังกล่าว (ที่ นพ.ชลน่าน นำมาขึ้นโชว์) ต้องขอตรวจสอบก่อน อย่างไรก็ดีเรื่องพวกนี้เป็นการทำงานของเจ้าหน้าที่ระดับล่าง ต้องขอเวลาก่อน หากได้รายละเอียดเรียบร้อยแล้วจะมาชี้แจงให้สมาชิกทราบ
พล.อ.ประวิตร กล่าวอีกว่า ส่วนการปฏิญาณรับธงชัยเฉลิมพลนั้น ที่กล่าวหาตนว่าไม่ได้กล่าวข้อความครบถ้วนเกี่ยวกับการถวายสัตย์ฯ ยืนยันว่าเป็นคนละกรณีกัน ข้อความต่างกัน ไม่เหมือนกัน เรื่องธงชัยเฉลิมพล ที่ตนนำทหารไปรับพระราชทานจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เป็นคนละเรื่อง
@‘บิ๊กตู่’ลั่น 3 ป.ไม่มีรับเงิน ไปพิสูจน์มา-ท้าฟ้องศาล
ต่อมาเวลาประมาณ 17.40 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ชี้แจงตอนหนึ่งยืนยันว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 มีหลายหน่วยงานดูแล เกี่ยวข้องกับหลายกระทรวง ทั้งฝ่ายความมั่นคง ฝ่ายปกครอง และฝ่ายสาธารณสุข ทั้งหมดมีอำนาจตามกฎหมายทั้งสิ้น
“ผมยืนยัน 3 ป. ไม่มีรับเงิน เดี๋ยวไปพิสูจน์มา หาประจักษ์พยานมา แล้วไปสู้กับผมในคดี ในนี้ท่านพูดได้ ผมก็พูดได้ แต่ผมต้องรักษากริยาของผม ผมรู้ว่าต้องการให้โมโห ยากฮะ ยาก บอกไว้ก่อน” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
@'วิโรจน์'อัดแผนบริหารวัคซีนโควิดฯล่าช้า-กระจุกเอกชนรายเดียว
เมื่อช่วงบ่าย นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ส.ส.ก้าวไกล อภิปรายไว้วางใจนายกรัฐมนตรี ถึงประเด็นที่เกี่ยวกับการบริหารวัคซีนโควิด ที่เอาชีวิตประชาชนมากระจุกความเสี่ยงกับวัคซีนยี่ห้อแอสตร้าเซนเนก้า เพียงรายเดียว อีกทั้งยังขาดความโปร่งใสและกลไกการตรวจสอบจนทำให้แผนการฉีดวัคซีนต้องล่าช้าออกไป โดยก่อนนห้านี้ที่ประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด (ศบค.) เมื่อวันที่ 24 ธ.ค.2563 มีมติให้จัดหาวัคซีนจากแหล่งอื่นอีก 30% และตกลงให้หาแบบทวิภาคีจากที่อื่น รวมถึงการร่วมมือกับ COVAX ดังนั้นไม่ได้มีคำแนะนำให้การจัดหาวัคซีนต้องกระจุกอยู่ที่บริษัทแอสตร้าเซเนก้าเท่านั้น
นายวิโรจน์ กล่าอวีกว่า วันนี้ขอตั้งคำถามว่าประเทศที่ฉีดวัคซีนแล้วจะเข้ามาประเทศที่ยังไม่ฉีดได้อย่างไร และเมื่อไม่ฉีดวัคซีนจะเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวอย่างไร จนถึงขณะนี้ยังไม่มีอะไรยืนยันว่าจะจัดหาวัคซีนเป็นไปตามแผนหรือฉีดได้เดือนละ 10 ล้านโดสตามที่มีการกล่าวไว้ก่อนหน้านี้หรือไม่
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในช่วงท้ายของการอภิปราย นายวิโรจน์ ได้กล่าวพาดพิงถึงการทำข้อตกลงร่วมกันของบริษัทแอสตร้าเซนเนก้า และ บริษัทสยามไบโอไซเอนซ์ จำกัด โดยเฉพาะการนำงบประมาณ 600 ล้านบาทไปใช้การผลิตวัคซีนของเอกชน ที่เห็นว่า การผลิตวัคซีนไม่ทำกำไรจะเกิดขึ้นเฉพาะช่วงแรก แต่หากการระบาดจบในปี 2565 จากนั้นจะเริ่มสามารถทำกำไรได้ ทั้งนี้ยังเรียกร้องให้มีการเปิดรายละเอียดสัญญาทั้งหมด
ทำให้ ส.ส.รัฐบาล ทั้งจากพรรคภูมิใจไทย และพรรคพลัปงระชารัฐ อาทิ นายไพบูลย์ นิติตะวัน , นายสิระ เจนจาคะ , น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ , นายศุภชัย ใจสมุทร ลุกขึ้นประท้วงประเด็นที่มีการพูดพาดพิงให้บริษัทเอกชนเกิดความเสียหาย ขณะที่นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ได้วินิจฉัยให้นายวิโรจน์ เอ่ยชือ่องค์กรได้แต่ต้องไม่ให้เกิดความเสียหาย
@'บิ๊กตู่'ย้ำฟังปัญหารอบด้าน ไม่ได้ทำงานอยู่กับหน้าจอ
ต่อมา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม กล่าวว่า จำเป็นต้องออกมาชี้แจงถึงคำอภิปรายที่มีการกล่าวหาหลายประการ ถึงการรับผิดชอบ ตัดสินใจ ใช้อำนาจ รวมถึงการใช้จ่ายไม่สุจริต ส่วนตัวคิดว่าข้อเท็จจริงมีอยู่แล้ว ไม่อยากจะต่อความยาวสาวความยืด เพราะไม่ใช่นักโต้วาที ทั้งนี้การบริหารเศรษฐกิจและโควิด เรารู้ถึงความเดือดร้อนของประชาชน ทั้งเอกชน ธุรกิจ คนมีรายได้น้อย ถ้าเป็นรัฐบาลอยู่ตรงนี้แล้วไม่รู้ คงเป็นไปไม่ได้ และอาจจะรู้มากกว่าผู้อภิปรายด้วย เพราะไม่ได้เปิดจากเว็บไซต์กูเกิ้ลอย่างเดียว แต่เชิญหลายหน่วยงานมาหารือร่วมกันด้วย
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ในช่วงที่ผ่านมา เราทำได้ดีกว่าหลายประเทศ แม้จะเผชิญความเดือดร้อนกันอยู่ แต่ต้องทำให้ดีขึ้น ทุกอย่างเกิดความร่วมมือทุกภาคส่วนก็น่าจะดีขึ้นในเร็ววัน
“ขอให้เห็นใจคนทำงาน ไม่ได้ทำงานเช้าชามเย็นชาม ไม่ได้ทำงานบนจออย่างเดียว ต้องฟังหมอ ฟังคนเกี่ยวข้องพูด ก็รับฟังมาจากทุกทีม ทั้งภาคธุรกิจเอกชนต่างๆ อะไรที่ทำให้เกิดปัญหา ขอร้องอย่าพูดอีกเลย” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
@'อนุทิน'ย้ำแผนฉีดวัคซีนคนไทยครอบคลุม ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง
ขณะที่ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.สาธารณสุข กล่าวว่า จริงๆ เตรียมข้อมูลไว้ว่าชี้แจงหลังจากสมาชิกอภิปรายเกี่ยวกับกระทรวงสาธารณสุขจนจบ แต่เมื่อเจอคำว่าสำเนียงส่อภาษา กริยาส่อสกุล แล้วมีคนที่เข้าคุณสมบัตินี้มาใช้ในสภาผู้แทนราษฎรอันทรงเกียรติแห่งนี้ มีการกล่าวโกหกคำโตเพื่อให้เกิดความสับสนกับประชาชน โดยเฉพาะเรื่องสุขภาพที่เป็นเรื่องสำคัญมาก จึงจำเป็นต้องชี้แจง เพราะแทนที่จะให้กำลังใจกัน แต่กลับนำข้อมูลที่หาตามโซเชียลมีเดียที่ไม่มีข้อเท็จจริงมาเผยแพร่
นายอนุทิน กล่าวยืนยันว่าภายในเดือน ก.พ. วัคซีนล็อตแรก 2 แสนโดสจะมาถึงไทย และจะพยายามฉีดให้เร็วที่สุด เดือน มี.ค.ล็อตที่สอง 8 แสนโดส ภายใน เม.ย.วัคซีนล็อตที่สามจะมาถึง 1 ล้านโดส ภายในปลายเดือน พ.ค. หรือต้นเดือน มิ.ย. วัคซีนที่ผลิตในไทย ยี่ห้อแอสตร้าเซนเนเก้า ไม่ใช่ยี่ห้อสยามไบโอไซเอนซ์ จะทำการส่งและฉีดให้คนไทย
“ขอเรียนว่าที่ผู้อภิปรายบอกว่าล่าช้า บอกว่าเราเอ้อระเหย ลอยชาย ขอให้พึงทราบว่า เมื่อมีโควิดเกิดขึ้น คำต่อไปในสมองผมก็คือวัคซีน นี่คือเหตุผลที่ผมต้องการสนับสนุนงบประมาณ เพื่อทำทุกวิถีทางในการจัดหาวัคซีน และทุกอย่างได้รับการสนับสนุนจาก ครม.เป็นอย่างดี” นายอนุทิน กล่าว
นายอนุทิน กล่าวอีกว่า วัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า เป็นวัคซีนร่วมผลิต ร่วมมือกับมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด ส่วนไทยกลุ่มธุรกิจที่ถือว่าใหญ่โตระดับโลก มีคอนเน็กชั่น คือ SCG กรุ๊ป เขาติดต่อกันเรื่องอะไร ไม่ใช่ธุระของตน แต่เขาประสานมาที่กระทรวงสาธารณสุข ประสานมาที่นายกรัฐมนตรีว่ามีเทคโนโลยีการผลิตวัคซีนที่ดูแล้วน่าจะเหมาะสมกับไทย ที่สำคัญเขาเชื่อว่าถ้าไทยจะเป็นฐานการผลิต วัคซีนนี้จะเป็นประโยชน์อย่างมากในการช่วยเหลือมนุษยชาติ นี่คือสิ่งที่เกิดขึ้นในเดือน ส.ค.-ก.ย.2563 ในช่วงที่ยังไม่มีทำวัคซีนได้สำเร็จ ขณะเดียวกันบรรดาแพทย์ระดับอาจารย์ก็ยืนยันว่าต้องเลือกทางนี้เพื่อประโยชน์สูงสุดของไทย
“เราต้องหาวัคซีนมาให้ประชาชน ได้อย่างครอบคลุม ไม่ทิ้งใครไว้เบื้องหลัง และต้องมาในเวลาเหมาะสม ช่วงเดือน ต.ค.-พ.ย. 2563 ไทยเป็นประเทศที่รับมือโควิดได้ดีเป็นอันดับต้นๆของโลก ฉะนั้นการที่วัคซีนมา มิ.ย.2564 ไม่ใช่สิ่งที่ควรจะต้องตกใจ เพราะเราได้คิดและดำเนินการอย่างรอบคอบ จนกระทั่งมีการระบาดระลอกสอง ทำให้เราต้องตัดสินนำวัคซีนจากจีนเข้ามาอยู่ในแผนด้วย” นายอนุทิน กล่าว
ก่อนหน้านี้ เมื่อเวลา 09.00 น. น.ส.จิราพร สินธุไพร ส.ส.เพื่อไทย อภิปรายประเด็นเกี่ยวกับเหมืองแร่ทองคำของบริษัท อัครา รีซอร์สเซส จำกัด (มหาชน) โดยทิ้งประเด็นว่า กรณีบริษัท อัคราฯ คือใบเสร็จความเสียหายชิ้นสำคัญที่ พล.อ.ประยุทธ์ จะต้องรับผิดชอบ นอกจากนี้ยังได้เปิดเผยเอกสารลับอ้างที่ปรึกษากฎหมายไทย บอกว่ามีแนวโน้มที่จะแพ้คดีสูงในชั้นอนุญาโตฯ
ขณะที่ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.อุตสาหกรรม ชี้แจงว่า ทุกอย่างทำตามขั้นตอน ไม่มีเอื้อประโยชน์ให้ใคร ส่วน พล.อ.ประยุทธ์ เตือนอย่าเอาข้อมูลในชั้นอนุญาโตฯมาพูด เพราะอาจเกรงอันตราย เนื่องจากยังอยู่ในขั้นตอนกฎหมาย
(ข่าวประกอบ : ฝ่ายค้านขุดเอกสารลับ!แนวโน้มไทยแพ้ค่าโง่ 2 หมื่นล.อัคราฯ ‘สุริยะ-บิ๊กตู่’ปัดเอื้อ ปย.)
นอกจากนี้ พล.อ.ประยุทธ์ ยังใช้เวลานานกว่า 1 ชั่วโมงในการชี้แจงประเด็นเกี่ยวกับขั้นตอนการจัดซื้อกล้องตรวจการณ์ ชุดทหารเกณฑ์ เรือดำน้ำ ที่ถูกอภิปรายโดย ส.ส.ก้าวไกลเมื่อวานนี้ โดยยืนยันว่า กระบวนการสืบราคา และจัดซื้อได้ดำเนินการตามขั้นตอนที่กฎหมายกำหนด
(ข่าวประกอบ : 'บิ๊กตู่'แจงจัดซื้อชุดทหาร-กล้องตรวจการณ์ แต่ไม่ตอบปมรถ ขส.ทบ.7 สัญญา 2.2 พันล.)
#กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage