ธปท.เผย‘หนี้ครัวเรือน’ไตรมาส 3/67 16.34 ล้านล. คิดเป็น 89%ต่อ GDP-‘เช่าซื้อรถ’หด 7.93%

bot 30 12 24 pic

‘ธปท.’ เผยสถิติ ‘หนี้สินครัวเรือน’ ไตรมาส 3/67 อยู่ที่ 16.34 ล้านล้าน เพิ่มขึ้น 0.74% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน แต่หดตัวเล็กน้อยเมื่อเทียบกับไตรมาส 2/67 ‘สินเชื่อเช่าซื้อรถฯ’ หดตัว 7.93% ขณะที่ ‘สินเชื่อบ้าน’ โต 2.49% พบเงินกู้ยืมจาก ‘ธนาคารพาณิชย์’ ลดลงจากปีก่อน 1.37 แสนล้าน หรือลดลง 2.15%

......................................

สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อวันที่ 30 ธ.ค.ที่ผ่านมา ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เผยแพร่ข้อมูลสถิติเงินให้กู้ยืมแก่ภาคครัวเรือน หรือหนี้สินครัวเรือน ณ สิ้นไตรมาส 3/2567 โดยหนี้สินครัวเรือนมีจำนวน 16,344,713 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 89% ต่อจีดีพี เพิ่มขึ้น 120,773 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 0.74% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน (3/2566) ที่หนี้สินครัวเรือนมีจำนวน 16,223,940 ล้านบาท หรือคิดเป็น 91% ต่อจีดีพี

อย่างไรก็ดี หากเปรียบเทียบหนี้สินครัวเรือน ณ สิ้นไตรมาส 3/2567 กับไตรมาสก่อน (2/2567) ที่หนี้สินครัวเรือนมีจำนวน 16,352,474 ล้านบาท (คิดเป็น 89.8% ต่อจีดีพี) พบว่าหนี้สินครัวเรือนมีจำนวนลดลง 7,761 ล้านบาท หรือลดลง 0.047%

ทั้งนี้ เมื่อพิจารณารายละเอียดเงินให้กู้ยืมแก่ภาคครัวเรือนจำแนกตามวัตถุประสงค์ พบว่า ณ สิ้นไตรมาส 3/2567 เงินกู้ยืมเพื่อซื้ออสังหาริมทรัพย์ มีจำนวน 5,609,226 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 136,473 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 2.49% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน (3/2566) ที่เงินกู้ยืมเพื่อซื้ออสังหาริมทรัพย์ มีจำนวน 5,472,753 ล้านบาท และเพิ่มขึ้น 38,009 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 0.68% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน (2/2567) ที่เงินกู้ยืมเพื่อซื้ออสังหาริมทรัพย์ มีจำนวน 5,571,217 ล้านบาท

ส่วนเงินกู้ซื้อหรือเช่าซื้อรถยนต์และรถจักรยานยนต์ มีจำนวน 1,666,042 ล้านบาท ลดลง 143,546 ล้านบาท หรือลดลง 7.93% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน (ไตรมาส 3/2566) ที่เงินกู้ซื้อหรือเช่าซื้อรถยนต์และรถจักรยานยนต์ มีจำนวน 1,809,588 ล้านบาท และลดลง 56,283 ล้านบาท หรือลดลง 3.267% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน (2/2567) ที่เงินกู้ซื้อหรือเช่าซื้อรถยนต์และรถจักรยานยนต์ มีจำนวน 1,722,325 ล้านบาท

สำหรับเงินกู้ยืมเพื่ออุปโภคบริโภคส่วนบุคคลอื่น มีจำนวน 4,584,555 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 150,913 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 3.40% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน (ไตรมาส 3/2566) ที่เงินกู้ยืมเพื่ออุปโภคบริโภคส่วนบุคคลอื่น มีจำนวน 4,433,642 ล้านบาท และเพิ่มขึ้น 20,922 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 0.458% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน (2/2567) ที่เงินกู้ยืมเพื่ออุปโภคบริโภคส่วนบุคคลอื่น มีจำนวน 4,563,633 ล้านบาท

ขณะที่เงินกู้ยืมเพื่อประกอบอาชีพ มีจำนวน 2,888,390 ล้านบาท ลดลง 21,258 ล้านบาท หรือลดลง 0.73% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน (ไตรมาส 3/2566) ที่เงินกู้ยืมเพื่อประกอบอาชีพมีจำนวน 2,909,648 ล้านบาท และเพิ่มขึ้น 952 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 0.03% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน (2/2567) ที่เงินกู้ยืมเพื่อประกอบอาชีพ มีจำนวน 2,887,438 ล้านบาท

bot 30 12 24 1

นอกจากนี้ เมื่อพิจารณาข้อมูลเงินให้กู้ยืมแก่ภาคครัวเรือน ณ สิ้นไตรมาส 3/2567 พบว่าหนี้สินครัวเรือนส่วนใหญ่ หรือ 13,121,758 ล้านบาท เป็นหนี้สินที่ครัวเรือนกู้ยืมจากสถาบันรับเงินฝาก ประกอบด้วย ธนาคารพาณิชย์ จำนวน 6,228,841 ล้านบาท ,สถาบันการเงินเฉพาะกิจที่รับฝากเงิน จำนวน 4,454,370 ล้านบาท ,สหกรณ์ออมทรัพย์ จำนวน 2,377,866 ล้านบาท และสถาบันรับฝากเงินอื่นๆ จำนวน 60,680 ล้านบาท

ขณะเดียวกัน เมื่อพิจารณาถึงหนี้สินที่ครัวเรือนกู้ยืมธนาคารพาณิชย์ที่มีจำนวน 6,228,841 ล้านบาท ณ สิ้นไตรมาส 3/2567 นั้น พบว่าลดลง 137,288 ล้านบาท หรือลดลง 2.156% เมื่อเทียบกับไตรมาส 3/2566 ที่หนี้สินที่ครัวเรือนกู้ยืมธนาคารพาณิชย์ที่มีจำนวน 6,366,129 ล้านบาท และลดลง 49,897 ล้านบาท หรือลดลง 0.79% เมื่อเทียบกับไตรมาส 2/2567 ที่หนี้สินที่ครัวเรือนกู้ยืมธนาคารพาณิชย์ที่มีจำนวน 6,278,738 ล้านบาท

ส่วนหนี้สินครัวเรือนที่กู้ยืมจากสถาบันการเงินอื่น มีจำนวน 2,490,761 ล้านบาท ประกอบด้วย บริษัทบัตรเครดิต ลิสซิ่ง และสินเชื่อส่วนบุคคล จำนวน 1,959,526 ล้านบาท , บริษัทประกันภัยและประกันชีวิต จำนวน 192,332 ล้านบาท ,บริษัทหลักทรัพย์ จำนวน 84,624 ล้านบาท ,ธุรกิจบริหารสินทรัพย์สถาบันการเงิน จำนวน 94,546 ล้านบาท ,โรงรับจำนำ จำนวน 101,406 ล้านบาท และสถาบันการเงินอื่นๆ จำนวน 58,326 ล้านบาท

bot 30 12 24 2