ธปท.เผยหนี้ครัวเรือนไตรมาส 2/67 ทรงตัว 16.32 ล้านล.-สินเชื่ออสังหาฯโต-‘เช่าซื้อรถ’ร่วง

bot 02 10 24 pic

‘แบงก์ชาติ’ เปิดสถิติ ‘หนี้ครัวเรือน’ ไตรมาส 2/67 อยู่ที่ 16.32 ล้านล้าน เพิ่มขึ้น 1.31% เมื่อเทียบกับปีก่อน แต่ลดลงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับไตรมาส 1/67 พบสินเชื่อ ‘อสังหาฯ’ ยังเติบโตได้ ส่วนสินเชื่อ ‘เช่าซื้อรถ’ ร่วง 5.7% เมื่อเทียบกับไตรมาส 2/66

..........................................

สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อวันที่ 30 ก.ย.ที่ผ่านมา ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เผยแพร่ข้อมูลสถิติเงินให้กู้ยืมแก่ภาคครัวเรือน หรือหนี้สินครัวเรือน ณ สิ้นไตรมาส 2/2567 โดยหนี้สินครัวเรือนมีจำนวน 16,322,005 ล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วน 89.6% ต่อจีดีพี เพิ่มขึ้น 212,102 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 1.31% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน (2/2566) ที่หนี้สินครัวเรือนมีจำนวน 16,109,903 ล้านบาท หรือคิดเป็น 90.9% ต่อจีดีพี

อย่างไรก็ดี หากเปรียบเทียบหนี้สินครัวเรือน ณ สิ้นไตรมาส 2/2567 กับไตรมาสก่อน (1/2567) ที่หนี้สินครัวเรือนมีจำนวน 16,357,268 ล้านบาท (คิดเป็น 90.7% ต่อจีดีพี) พบว่าหนี้สินครัวเรือนมีจำนวนลดลง 35,264 ล้านบาท หรือลดลง 0.215%

ทั้งนี้ เมื่อพิจารณารายละเอียดเงินให้กู้ยืมแก่ภาคครัวเรือนจำแนกตามวัตถุประสงค์ พบว่า ณ สิ้นไตรมาส 2/2567 เงินกู้ยืมเพื่อซื้ออสังหาริมทรัพย์ มีจำนวน 5,572,206 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 162,228 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 2.998% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน (2/2566) ที่เงินกู้ยืมเพื่อซื้ออสังหาริมทรัพย์ มีจำนวน 5,409,978 ล้านบาท และเพิ่มขึ้น 31,731 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 0.57% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน (1/2567) ที่เงินกู้ยืมเพื่อซื้ออสังหาริมทรัพย์ มีจำนวน 5,540,493 ล้านบาท

ส่วนเงินกู้ซื้อหรือเช่าซื้อรถยนต์และรถจักรยานยนต์ มีจำนวน 1,722,399 ล้านบาท ลดลง 105,437 ล้านบาท หรือลดลง 5.768% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน (ไตรมาส 2/2566) ที่เงินกู้ซื้อหรือเช่าซื้อรถยนต์และรถจักรยานยนต์ มีจำนวน 1,827,836 ล้านบาท และลดลง 43,068 ล้านบาท หรือลดลง 2.439% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน (1/2567) ที่เงินกู้ซื้อหรือเช่าซื้อรถยนต์และรถจักรยานยนต์ มีจำนวน 1,765,467 ล้านบาท

สำหรับเงินกู้ยืมเพื่ออุปโภคบริโภคส่วนบุคคลอื่น มีจำนวน 4,554,702 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 180,731 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 4.132% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน (ไตรมาส 2/2566) ที่เงินกู้ยืมเพื่ออุปโภคบริโภคส่วนบุคคลอื่น มีจำนวน 4,373,971 ล้านบาท และเพิ่มขึ้น 33,292 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 0.736% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน (1/2567) ที่เงินกู้ยืมเพื่ออุปโภคบริโภคส่วนบุคคลอื่น มีจำนวน 4,521,410 ล้านบาท

ขณะที่เงินกู้ยืมเพื่อประกอบอาชีพ มีจำนวน 2,878,731 ล้านบาท ลดลง 12,075 ล้านบาท หรือลดลง 0.417% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน (ไตรมาส 2/2566) ที่เงินกู้ยืมเพื่อประกอบอาชีพมีจำนวน 2,890,806 ล้านบาท และลดลง 41,180 ล้านบาท หรือลดลง 1.41% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน (1/2567) ที่เงินกู้ยืมเพื่อประกอบอาชีพ มีจำนวน 2,919,911 ล้านบาท

bot 02 10 24 1 1

นอกจากนี้ เมื่อข้อมูลเงินให้กู้ยืมแก่ภาคครัวเรือน ณ สิ้นไตรมาส 2/2567 พบว่าหนี้สินครัวเรือนส่วนใหญ่ หรือ 13,118,756 ล้านบาท เป็นหนี้สินที่ครัวเรือนกู้ยืมจากสถาบันรับเงินฝาก ประกอบด้วย ธนาคารพาณิชย์ จำนวน 6,278,738 ล้านบาท ,สถาบันการเงินเฉพาะกิจที่รับฝากเงิน จำนวน 4,423,520 ล้านบาท ,สหกรณ์ออมทรัพย์ จำนวน 2,355,840 ล้านบาท และสถาบันรับฝากเงินอื่นๆ จำนวน 60,658 ล้านบาท

ทั้งนี้ เมื่อพิจารณาถึงหนี้สินที่ครัวเรือนกู้ยืมธนาคารพาณิชย์ที่มีจำนวน 6,278,738 ล้านบาท ในช่วงไตรมาส 2/2567 นั้น พบว่าลดลง 73,516 ล้านบาท หรือลดลง 1.157% เมื่อเทียบกับไตรมาส 2/2566 ที่หนี้สินที่ครัวเรือนกู้ยืมธนาคารพาณิชย์ที่มีจำนวน 6,352,254 ล้านบาท และลดลง 54,614 ล้านบาท หรือลดลง 0.862% เมื่อเทียบกับไตรมาส 1/2567 ที่หนี้สินที่ครัวเรือนกู้ยืมธนาคารพาณิชย์ที่มีจำนวน 6,333,352 ล้านบาท

ส่วนหนี้สินครัวเรือนที่กู้ยืมจากสถาบันการเงินอื่น มีจำนวน 2,470,411ล้านบาท ประกอบด้วย บริษัทบัตรเครดิต ลิสซิ่ง และสินเชื่อส่วนบุคคล จำนวน 1,941,483 ล้านบาท , บริษัทประกันภัยและประกันชีวิต จำนวน 187,080 ล้านบาท ,บริษัทหลักทรัพย์ จำนวน 91,562 ล้านบาท , ธุรกิจบริหารสินทรัพย์สถาบันการเงิน จำนวน 95,495 ล้านบาท ,โรงรับจำนำ จำนวน 97,821 ล้านบาท และสถาบันการเงินอื่นๆ จำนวน 56,970 ล้านบาท

bot 02 10 24 2