อ้าง‘กปน.’ทำให้ล่าช้า! ‘มท.’สั่ง‘ผู้ว่าฯ’แจงปม‘เอกชน’ขอความเป็นธรรมงานสร้าง‘ถังเก็บน้ำฯ’

mwa 23 09 23 pic

‘เลขานุการฯ รมว.มหาดไทย’ สั่ง ‘ผู้ว่าฯกปน.’ แจงปม ‘เอกชน’ ร้อง ‘ขอความเป็นธรรม-ตรวจสอบการปฏิบัติงาน กปน.’ อ้างการกระทำของ ‘กปน.’ เป็นเหตุทำให้การก่อสร้างล่าช้า-เกิดความเสียหาย

.................................

สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อวันที่ 21 ก.ย.ที่ผ่านมา น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล เลขานุการ รมว.กระทรวงมหาดไทย ทำหนังสือด่วนที่สุด ที่ มท 0100/3223 ถึงผู้ว่าการการประปานครหลวง (กปน.) โดย ขอให้ กปน. รายงานกรณีที่ บริษัท วงษ์สยามก่อสร้าง จำกัด ร้องขอความเป็นธรรมในโครงการงานก่อสร้างถังเก็บน้ำใส ขนาด 20,000 ลูกบาศก์เมตร ที่สถานีสูบจ่ายน้ำลาดพร้าว พร้อมงานที่เกี่ยวข้องในโครงการปรับปรุงกิจการประปาแผนหลักครั้งที่ 9

“ตามที่ บริษัท วงษ์สยามก่อสร้าง จำกัด (“บริษัทฯ”) ได้เป็นผู้รับจ้างจากการประปานครหลวง (“กปน.”) ทำงาน “โครงการงานก่อสร้างถังเก็บน้ำใส ขนาด 20,000 ลูกบาศก์เมตร ที่สถานีสูบจ่ายน้ำลาดพร้าว พร้อมงานที่เกี่ยวข้องในโครงการปรับปรุงกิจการประปาแผนหลักครั้งที่ 9” (“โครงการ”) สัญญาจ้างเลขที่ G-LA-9 ลงวันที่ 16 มกราคม 2566 (“สัญญา”) โดยมีการส่งมอบพื้นที่และแจ้งเริ่มงานวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2566 สิ้นสุดสัญญาวันที่ 30 มีนาคม 2568 นั้น

ในการนี้ บริษัทฯ มีความประสงค์ขอความเป็นธรรมและขอให้ตรวจสอบการปฏิบัติงานของ กปน. ตามเอกสารที่แนบมาพร้อมนี้ จึงเรียนมาเพื่อโปรดพิจารณาดำเนินการ ทั้งนี้ ขอให้รายงานผลให้ทราบภายใน 7 วัน” หนังสือบันทึกข้อความด่วนที่สุด ที่ มท 0100/3223 ลงวันที่ 21 ก.ย.2566 ลงนามโดยน.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย (มท.) ระบุ

mwa 23 09 23 p1

รายงานข่าวแจ้งว่า เมื่อวันที่ 18 ก.ย.ที่ผ่านมา บริษัท วงษ์สยามก่อสร้าง จำกัด ทำหนังสือถึงกระทรวงมหาดไทย เรื่อง ขอความเป็นธรรมและขอให้ตรวจสอบการประปานครหลวง โดยมีเนื้อหาว่า

ตามที่บริษัท วงษ์สยามก่อสร้าง ได้เป็นผู้รับจ้างการประปานครหลวง (กปน.) ทำงาน “โครงการงานก่อสร้างถังเก็บน้ำใส ขนาด 20,000 ลูกบาศก์เมตร ที่สถานีสูบจ่ายน้ำลาดพร้าว พร้อมงานที่เกี่ยวข้องในโครงการปรับปรุงกิจการประปาแผนหลักครั้งที่ 9” สัญญาจ้าง เลขที่ G-LA-9ลงวันที่ 12 ม.ค.2566 โดยมีการส่งมอบพื้นที่และแจ้งเริ่มงานวันที่ 10 ก.พ.2566 สิ้นสุดสัญญาวันที่ 30 มี.ค.2568 นั้น

ภายหลังจากที่บริษัทฯ ลงนามในสัญญา กปน. ได้มีการส่งมอบพื้นที่และแจ้งเริ่มงานเรียบร้อยแล้ว บริษัทฯ จึงได้เร่งดำเนินการปฏิบัติตามเงื่อนไขในสัญญาทันที เพื่อไม่ให้งานล่าช้าและทำงานแล้วเสร็จภายในกำหนดระยะเวลาตามสัญญา จะได้ไม่เกิดความเสียหายใดๆ ที่จะกระทบต่อ กปน. และประชาชน โดยบริษัทฯยึดมั่นในวิสัยทัศน์ พันธกิจ และนโยบายคุณภาพของบริษัทฯ ที่ประสงค์ให้งานทุกงานที่บริษัทฯ รับผิดชอบต้องเป็นไปตามมาตรฐานสากล และมอบผลงานที่ดีที่สุดให้แก่ กปน.

แต่ปรากฎข้อเท็จจริงในการปฏิบัติงานตามสัญญาที่บริษัทฯ กลับพบปัญหาอุปสรรคในการดำเนินงานในประการที่น่าจะทำให้การดำเนินงานไม่สามารถบรรลุวัตถุประสงค์ตามเป้าหมาย โดยเหตุเกิดจากการกระทำการ และ/หรือกระทำการล่าช้าและ/หรือไม่กระทำการของ กปน. ในฐานะผู้ว่าจ้าง อันอาจทำให้งานตามสัญญาได้รับความล่าช้าและเกิดความเสียหายขึ้น ซึ่งย่อมส่งผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ โดยมิอาจหลีกเลี่ยงได้

ทั้งนี้ บริษัทฯ มีข้อสังเกตว่า ปัญหาและอุปสรรคที่บริษัทฯ พบในการดำเนินโครงการดังกล่าว อาจจะเป็นเพราะในขณะนี้บริษัทฯ และ กปน. กำลังมีข้อพิพาทซึ่งอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลปกครองกลาง และศาลอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง กรณีเสนอราคาต่อ กปน. ในโครงการประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์การจ้างก่อสร้างขยายกำลังการผลิตที่โรงงานผลิตน้ำมหาสวัสดิ์ขนาด 800,000 ลูกบาศก์เมตร/วัน พร้อมงานที่เกี่ยวข้อง สัญญา GE-MS5/6-9 อยู่ด้วยหรือไม่

บริษัทฯ จึงมีความประสงค์ขอความเป็นธรรมและขอให้ตรวจสอบการปฏิบัติงานของ กปน. ดังต่อไปนี้

1.บริษัทฯ ได้ทำเรื่องขออนุมัติใช้คอนกรีต ซึ่งเป็นวัสดุหลักที่ใช้ในการงานก่อสร้างต่อ กปน. ตั้งแต่วันที่ 23 มี.ค. 2566 ภายหลัง กปน. ได้รับเรื่องขออนุมัติจากบริษัทฯ เรียบร้อยแล้ว กปน. เพิกเฉย ไม่แจ้งกลับ หรือตอบกลับใดๆ เป็นระยะเวลาเกินสมควร และ กปน.ไม่มีการชี้แนะ แนะนำหรือให้แนวทางการปฏิบัติเกี่ยวกับเรื่องคอนกรีตแก่บริษัทฯ ตั้งแต่เริ่มโครงการ

แต่ปรากฎว่าวันที่ 12 ก.ย.2566 กปน. ได้มีหนังสือถึงบริษัทฯ แจ้งแนวทางการตรวจสอบคุณสมบัติของคอนกรีตต้องไม่เป็นพิษให้ทางบริษัทฯ เร่งดำเนินการ ซึ่งเป็นระยะเวลากว่า 170 วัน นับจากวันที่ทางบริษัทฯได้ขออนุมัติใช้งานคอนกรีตจาก กปน.

2.บริษัทฯ ได้ขออนุมัติใช้กรมธรรม์ประกันภัยโครงการ กับทางกปน. ตั้งแต่วันที่ 22 ก.พ.2566 ซึ่งในเงื่อนไขทั่วไปของสัญญาข้อ 23 (1) ระบุให้ “ผู้รับจ้างจะต้องจัดส่งต้นฉบับกรมธรรม์ประกันภัยถูกต้องและมีผลบังคับใช้แล้วก่อนการเบิกเงินค่าจ้างงวดที่ 1” แต่กว่าที่ กปน. จะได้อนุมัติร่างกรมธรรม์ให้ทางบริษัทฯ เวลาก็ได้ล่วงเลยจนมาถึงวันที่ 31 ส.ค. 2566 ซึ่งเป็นระยะเวลาถึง 190 วัน

ในช่วงเวลาระหว่างนั้นบริษัทฯ ได้มีภาระค่าใช้จ่ายในโครงการเป็นเงินมากกว่า 30 ล้านบาท โดยไม่สามารถเบิกค่างานได้ เนื่องจากติดข้อสัญญา เหตุเกิดจากความล่าช้าเกินสมควรของ กปน. เป็นเหตุให้บริษัทฯ ได้รับความเดือดร้อนเสียหายทั้งที่ กปน. สามารถหลีกเลี่ยงมิให้เกิดเหตุการณ์เช่นว่านั้นได้

3.บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ขยายระยะเวลาก่อสร้างและเรียกค่าเสียหาย เพื่อขอชดเชยความเสียหาย อันมีเหตุจาก กปน. ไม่ตอบกลับบริษัทฯ ภายในระยะเวลาอันสมควร และ/หรืออนุมัติคอนกรีตล่าช้า แต่ กปน.กลับแจ้งว่า บริษัทฯ ไม่สามารถสงวนสิทธิ์ขยายระยะเวลาก่อสร้าง และเรียกร้องค่าเสียหายใดๆ ทั้งยังต้องรับผิดในความล่าช้า และความเสียหายที่เกิดขึ้น

โดย กปน. มิได้พิจารณาว่าการปฏิบัติงานของ กปน. เป็นเหตุที่ทำให้งานก่อสร้างเกิดความล่าช้า การใช้สิทธิของกปน. จึงอาจเป็นการใช้สิทธิโดยไม่สุจริต เป็นการใช้สิทธิ ซึ่งมีแต่จะก่อให้เกิดความเสียหายแก่บริษัทฯ จึงเป็นการใช้สิทธิอันมิชอบด้วยกฎหมายและสัญญา

จากอุปสรรคและปัญหาที่บริษัทฯ ได้นำเรียนต่อท่านข้างต้น ย่อมเห็นได้ว่าการกระทำการ และ/หรือกระทำการล่าช้า และ/หรือไม่กระทำการของ กปน. ทำให้โครงการก่อสร้างล่าช้า ได้รับความเสียหาย ซึ่งเป็นผลให้เกิดความเสียหายแก่ กปน. เอง ทั้งที่ กปน. ในฐานะเจ้าของโครงการสามารถหลีกเลี่ยงได้ หรือบรรเทาผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้นได้ แต่ก็ไม่ดำเนินการแต่อย่างใด

นอกจากนี้ อุปสรรคและปัญหาของโครงการ ยังทำให้บริษัทฯ ได้รับผลกระทบทั้งต่อทรัพย์สิน ชื่อเสียง เกียรติยศ และความน่าเชื่อถือในการทำงานของบริษัทฯ อีกด้วย

“ในการนี้ เนื่องจากบริษัทฯ ได้พบเจอปัญหาและอุปสรรคในการทำงานอย่างที่ไม่ควรจะได้รับ ซึ่งบริษัทฯไม่คาดคิดมาก่อนว่า การมุ่งทำงานให้มีมาตรฐานที่ดีที่สุด จะได้รับการปฏิบัติที่ไม่มีความเป็นธรรมถึงเพียงนี้ ดังนั้น บริษัทฯ ไม่มีที่พึ่งอื่นใดที่จะบรรเทาความเสียหาย และขจัดอุปสรรคและปัญหาที่บริษัทฯ ได้รับในการทำงานโครงการนี้ได้

จึงขอความเป็นธรรมมายังท่าน ในฐานะที่ท่านกำกับดูแล กปน. เพื่อโปรดพิจารณาตรวจสอบการดำเนินการของ กปน. และให้ความเป็นธรรมแก่บริษัทฯ ต่อไป” หนังสือของบริษัท วงษ์สยามก่อสร้าง จำกัด ลงนามโดย นายอนุฤทธิ์ เกิดสินธ์ชัย กรรมการผู้จัดการ บริษัท วงษ์สยามก่อสร้าง ส่งถึงปลัดกระทรวงมหาดไทย ลงวันที่ 18 ก.ย.2566 ระบุ

สำนักข่าวอิศรารายงานเพิ่มเติมว่า เมื่อวันที่ 20 ก.ย.ที่ผ่านมา นายมานิต ปานเอม ผู้ว่าการการประปานครหลวง (กปน.) นำคณะผู้บริหาร กปน. ลงพื้นที่ติดตามความคืบหน้างานก่อสร้างถังเก็บน้ำใส ขนาด 20,000 ลูกบาศก์เมตร ที่สถานีสูบจ่ายน้ำลาดพร้าว พร้อมงานที่เกี่ยวข้อง (สัญญา G-LA-9) ในโครงการปรับปรุงกิจการประปาแผนหลัก ครั้งที่ 9 เพื่อสร้างเสถียรภาพความมั่นคงในการให้บริการน้ำประปาในอนาคต

ส่วนความคืบหน้าของโครงการนั้น ปัจจุบันมีความคืบหน้าไปแล้วกว่าร้อยละ 11.97 เร็วกว่าแผนงานร้อยละ 6.46 คาดว่าจะสามารถดำเนินการได้แล้วเสร็จทันตามกำหนดในเดือน มี.ค.2568 ทั้งนี้ เมื่อโครงการฯแล้วเสร็จ จะช่วยให้สถานีสูบจ่ายน้ำลาดพร้าว มีความสามารถในการเก็บสำรองน้ำประปา สำหรับกรณีฉุกเฉิน เพื่อป้อนให้แก่ลูกค้าในพื้นที่ของสำนักงานประปาสาขาลาดพร้าว สุขุมวิท และพญาไท เพิ่มขึ้นเป็น 70,000 ลูกบาศก์เมตร

mwa 23 09 23 2 (มานิต ปานเอม ผู้ว่าฯ กปน. (คนที่ 4 จากซ้าย) นำคณะผู้บริหาร กปน. ลงพื้นที่ติดตามความคืบหน้างานก่อสร้างถังเก็บน้ำใส ขนาด 20,000 ลูกบาศก์เมตร ที่สถานีสูบจ่ายน้ำลาดพร้าว เมื่อวันที่ 20 ก.ย.2566 ที่มาภาพ : กปน.)