'ศักดิ์สยาม' ร่ายยาวแจง 4 ปมถูกซักฟอก ยันที่ดิน 'เขากระโดง' ต้องรอคำวินิจฉัยศาล ย้ำไม่เกี่ยวข้องกับ หจก.บุรีเจริญ ตั้งแต่ปี 2561 โชว์หลักฐานซื้อขายหุ้นรับเงิน 3 ครั้ง 119 ล. ไล่ ‘ก้าวไกล’ ไปถามเอกชนเพิ่ม หลังยังข้องใจงบการเงิน
เมื่อเวลา 11.40 น. นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม ชี้แจงกรณีที่ถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจโดยสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) รวม 6 คน ว่า มีประเด็นที่จะต้องชี้แจง รวม 4 ประเด็น คือ 1.ประเด็นเขากระโดง 2.ประเด็นขายหุ้น หจก.บุรีเจริญ ว่าเป็นนิติกรรมอำพราง 3.ประเด็นการจัดงบประมาณของกรมทางหลวง และกรมทางหลวงชนบทไปที่ จ.บุรีรัมย์มากผิดปกติ และ 4.ประเด็นการวางแผน MR map เป็นการลงทุนโครงการที่ซ้ำซ้อน
ที่ดิน‘เขากระโดง’ต้องรอคำวินิจฉัยศาล
นายศักดิ์สยาม กล่าวว่า สำหรับประเด็นที่ดินเขากระโดง มีคำถามว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ไม่มีการเพิกถอนโฉนด ทั้งที่มีคำพิพากษา โดยจงใจไม่ให้ความร่วมมือกับกรมที่ดิน รวมถึง ข้อกล่าวหาที่บอกว่าที่ดินเขากระโดงเป็นของตระกูลชิดชอบนั้น ขอยืนยันว่า ไม่เคยแทรกแซงการทำงานของหน่วยงานภายใต้สังกัด และสั่งการให้ทำตามขั้นตอนมาโดยตลอด เรื่องนี้ได้ชี้แจงในการอภิปรายมาแล้วหลายครั้งว่า ตนเป็นเพียงผู้อาศัยในพื้นที่ เพราะทุกอย่างต้องอยู่ในกระบวนการพิสูจน์สิทธิ์ และดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย
ในฐานะ รมว.คมนาคม ได้สั่งการตามหนังสือเลขที่ คค. 0202/กม 689 ลงวันที่ 21 ก.ค.2564 เพื่อให้ รฟท.ดำเนินการแก้ปัญหาที่ดินบริเวณเขากระโดง และให้ติดตามความก้าวหน้า ทำตามกฎหมาย ปฏิบัติด้วยความเท่าเทียม เสมอภาค โปร่งใส
นายศักดิ์สยาม กล่าวย้ำว่า ในฐานะที่ รฟท.เป็นหน่วยงานรัฐ การที่จะให้ไปฟ้องร้องกับประชาชนที่มีเอกสารสิทธิ์ที่ออกโดยชอบซึ่งออกโดยหน่วยงานของรัฐเช่นกัน ถือว่าไม่เป็นธรรมกับประชาชน แต่สิ่งที่ รฟท.ต้องทำ คือ การพิสูจน์สิทธิ์ รฟท.เชื่อว่าการออกเอกสารสิทธิ์ของกรมที่ดินมีความคลาดเคลื่อน จึงขอให้กรมที่ดินพิจารณาตามกรอบอำนาจหน้าที่ตามกฎหมาย เพื่อเพิกถอนเอกสารสิทธิ์ทับซ้อนในที่ดิน รฟท. และได้มีคำร้องไปที่ศาลปกครอง เพื่อให้มีกระบวนการวินิจฉัยเรื่องนี้ เมื่อเรื่องอยู่ในกระบวนการยุติธรรม จึงต้องรอคำวินิจฉัยของศาล ต้องพึงระวังเรื่องก้าวล่วงการพิจารณา และสุ่มเสี่ยงต่อการละเมิดอำนาจศาล
ส่วนกรณีที่มีการพาดพิงถึงบุคคลที่ตนเคารพ คือ นายชัย ชิดชอบ ผู้เป็นบิดา ว่า เคยไปเช่าที่ดิน รฟท. เมื่อปี 2516 เป็นละแปลงกับโฉนดเลขที่ 3466 ซึ่งเป็นที่ตั้งของบริษัท ศิลาชัย บุรีรัมย์ (1991) จำกัด
สำหรับประเด็นที่ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชาติ กล่าวหาว่าเมื่อศาลฎีกามีคำพิพากษาว่า กรรมสิทธิ์ที่ดินบริเวณเขากระโดงเป็นของ รฟท. ก็สามารถนำผลคำพิพากษาไปใช้ต่อบุคคลภายนอกตามกฎหมาย ต้องเรียนว่า มาตรา 145 ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง ไม่สามารถบังคับใช้กับที่ดินแปลงที่ไม่อยู่ในคำพิพากษาได้ ส่วนกรณีที่ดินของ นายเอ ที่กล่าวหาว่ามีการหน่วงเวลาไม่ให้บังคับคดี ขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินการของกรมบังคับคดี รฟท.ก็ต้องรอตามขั้นตอนของกฎหมาย ไม่มีการละเว้น หรือเลือกปฏิบัติกับใคร
- รุมซักฟอก'ศักดิ์สยาม'อ้างใช้นอมินีถือหุ้น หจก.บุรีเจริญฯ รับงานรัฐ
- ข้อมูลใหม่! โฉนด 12 แปลง 179 ไร่ ออกทับที่ดินรถไฟ‘เขากระโดง’ โยงเครือญาติตระกูล‘ชิดชอบ’
โชว์หลักฐานซื้อขายหุ้น หจก.บุรีเจริญ รับเงิน 3 ครั้ง 119 ล.
นายศักดิ์สยาม กล่าวถึงประเด็นการขายหุ้น หจก.บุรีเจริญ ว่าเป็นนิติกรรมอำพราง ที่ระบุว่าไม่มีหลักฐานในการชำระเงินจริงนั้น ขอยืนยันว่า เรื่องนี้มีการซื้อขายกันจริงกับ นายศุภวัฒน์ เกษมสุทธิ์ ซึ่งเป็นเพื่อนของตน ตั้งแต่วันที่ 16 ม.ค.2561 ได้โอนเงินเสร็จเรียบร้อย มีหลักฐานยืนยันจากธนาคารธนชาต สาขาบุรีรัมย์ รับโอนรวม 3 ครั้ง วงเงิน 119.50 ล้านบาท แบ่งเป็นวันที่ 2 ส.ค.2560 จำนวนน 35 ล้านบาท , วันที่ 5 ก.ย.2560 จำนวน 35 ล้านบาท และวันที่ 5 ม.ค.2561 จำนวน 49.50 ล้านบาท เรื่องนี้มีการซื้อขายจริง มีการเปลี่ยนหนังสือรับรองของกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เมื่อวันที่ 28 มี.ค.2561 แสดงให้เห็นว่าตนไม่ได้เกี่ยวข้องกับ หจก.บุรีเจริญ อีกเลย
“ดังนั้นสิ่งที่ผู้ถือหุ้น หรือ หจก.บุรีเจริญ ไปดำเนินธุรกิจ ดำเนินธุรกรรมอะไรก็เป็นเรื่องของเขา ผมไม่ได้เข้าไปเกี่ยวข้อง ถ้าสงสัยอะไรก็คงต้องไปสอบถามกับ หจก.บุรีเจริญ” นายศักดิ์สยาม กล่าว
ส่วนข้อซักถามว่าการซื้อขายหุ้นครั้งนี้ไม่ได้ยื่นหลักฐานไปยังกรมพัฒนาธุรกิจการค้า นายศักดิ์สยาม กล่าวว่า เป็นไปตามหลักเกณฑ์กรมพัฒนาธุรกิจการค้าว่า กรณีที่ต้องยื่นมีเรื่องเดียวคือ กรณีที่มีการเพิ่มเงินลงทุน ส่วนที่มีการโอนหุ้นซื้อขายถูกต้อง ไม่ต้องยื่น แต่ก็มีหลักฐานอย่างที่เห็นทั้งหมด ก็ต้องเรียนว่า ตั้งแต่ 28 มี.ค.2561 ตนจึงไม่เกี่ยวข้องกับ หจก.บุรีเจริญ แต่อย่างใด
“เงินที่ได้รับจากการขายหุ้นนั้น เป็นเรื่องส่วนตัวของผมที่จะนำไปใช้อะไร ซึ่งคิดว่าคงไม่ต้องมารายงานต่อท่านสมาชิก” นายศักดิ์สยาม กล่าว
นายศักดิ์สยาม กล่าวด้วยว่า ส่วนประเด็นที่ไม่มีการรายงานทรัพย์สินต่อ ป.ป.ช. สำหรับผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ขอเรียนว่าเป็นกิจกรรมที่เกิดขึ้นตั้งแต่ยังไม่เข้าสู่ตำแหน่ง เนื่องจากตนเข้าสู่ตำแหน่ง ส.ส.เมื่อวันที่ 5 พ.ค.2562 ตามกฎหมายต้องแจ้งบัญชีทรัพย์สินที่มี ณ ขณะนั้นภายใน 30 วัน ซึ่งได้ดำเนินการเรียบร้อย ส่วนเรื่องที่เกิดขึ้นก่อน ไม่ได้อยู่ในบังคับที่จะต้องชี้แจง
‘ก้าวไกล’ ข้องใจงบการเงิน ไล่ถาม หจก.บุรีเจริญ เอง
ต่อมานายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล อภิปรายเพิ่มเติมว่า มีเรื่องที่นายศักดิ์สยามยังตอบคำถามไม่ครบถ้วน ซึ่งตนไม่ขอยุ่งว่า นายศักดิ์สยามขายกิจการราคาเท่าไร สมเหตุสมผลหรือไม่ หรือโอนเงินก่อนได้หุ้น 5 เดือนก็คิดว่าประชาชนตัดสินได้เอง แต่มีคำถามเดียวคือ นายศักดิ์สยามบอกว่าเงินที่ได้จากการขายหุ้นเอาไปใช้จ่ายส่วนตัว ซึ่งเป็นเรื่องส่วนตัว แต่ในงบการเงินปี 2560 ของ หจก.บุรีเจริญ ระบุว่ามีเงินให้หุ้นส่วนผู้จัดการกู้ยืม 69 ล้านบาท แต่งบการเงินปี 2561 หนี้ยังอยู่คงเดิม แต่ชื่อหุ้นส่วนมันเปลี่ยนไป จึงอยากรู้ว่านายศักดิ์ได้โอนหนี้ไปด้วยหรือไม่ ถ้าโอนหนี้ไปด้วยก็ต้องเสียภาษี เพราะถ้าไม่ได้จ่ายเงิน ก็จะกลายเป็นกำไร ดังนั้น ถ้าไม่โอนหนี้ก็ต้องโผล่ในบัญชีทรัพย์สิน หรือถ้าบอกว่าเอาเงินที่ได้จากการขายหุ้นไปใช้หนี้แล้ว ทำไมงบการเงินปี 2561 หนี้ยังอยู่ 69 ล้านบาทเท่าเดิม
เช่นเดียวกับ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชาติ อภิปรายเพิ่มเติมว่า ประเด็นที่นายศักดิ์สยามชี้แจงเรื่องการเงิน โดยรับมาก่อนวันโอนหุ้นประมาณ 20 วัน แต่ในวันที่ไปจดทะเบียน มีช่องเกี่ยวกับการเพิ่มทุน ลดทุน ซึ่งต้องมีหลักฐานแสดง แต่ปรากฏว่าไม่มี อันนี้เป็นข้อกฎหมายที่จะถือว่าหุ้นไม่ได้โอนกัน
ทั้งนี้ นายศักดิ์สยาม ชี้แจงอีกครั้งว่า เรื่องงบดุล เป็นเรื่องของ หจก.บุรีเจริญ เพราะตนได้ขายหุ้นไปตั้งแต่ปี 2560 ดังนั้นเรื่องที่ดำเนินการต่อไป หากมีเรื่องสงสัยต้องไปถามเพิ่มกับ หจก.บุรีเจริญ
‘คมนาคม’ไม่มีฮั้วประมูล-ปัดเทงบลงบุรีรัมย์
นอกจากนี้ นายศักดิ์สยาม กล่าวถึงงานของกระทรวงคมนาคม ที่มีกาประมูลในลักษณะฮั้วประมูล ขอยืนยันว่าไม่มีโอกาสที่จะเป็นอย่างนั้น และไม่เป็นความจริง เพราะตั้งแต่เข้ารับตำแหน่ง ก็กำชับ 4 หลักการให้ข้าราชการยึดถือ คือ ทำตามกฎหมาย ตามมติคณะรัฐมนตรี เป็นไปตามหลักธรรมาภิบาล และรับฟังความเห็นประชาชน
ส่วนประเด็นที่มีการกล่าวหาว่ามีการจัดงบประมาณของกระทรวงลงพื้นที่ จ.บุรีรัมย์ จำนวนมาก ขอยืนยันว่า การของบประมาณของกระทรวงคมนาคม เราขอไปมากทุกปี แต่ได้รับการจัดสรรไม่เกิน 1 ใน 3 กรมทางหลวงและกรมทางหลวงชนบท จะเสนอโครงการที่มีความพร้อมและผ่านการศึกษามาอย่างดี เรื่องนี้เป็นไปตามกระบวนการ สั่งไม่ได้ ส่วนที่อภิปรายว่างบประมาณลง จ.บุรีรัมย์ แบบกระจุกตัว ขอเรียนว่า 10 ปีที่ผ่านมา มีงบประมาณกรมทางหลวง กรมทางหลวงชนบท ไม่ได้มากกว่าจังหวัดอื่น เมื่อเทียบกับ พระนครศรีอยุธยา นครราชสีมา นครปฐม ก็ได้รับการจัดสรรมากว่า บุรีรัมย์ ทั้งนี้ในอดีตจังหวัดภาคอีสานได้รับงบน้อย ทำให้เกิดความเหลื่อมล้ำในการพัฒนา เคยเรียนแล้วว่า บุรีรัมย์ มีการพัฒนาโดยภาคเอกชน ทำให้เกิดการสร้างงาน การท่องเที่ยวมากมาย จึงต้องสร้างระบบคมนาคมรองรับสิ่งเหล่านี้ และเกิดก่อนที่ตนเข้ามารับตำแหน่งด้วยซ้ำ
“ส่วนที่มีการตั้งข้อสังเกตว่า มีการฮั้วประมูลงานในบุรีรัมย์นั้น เมื่อดูตารางคู่สัญญาจะพบว่ามี 35 บริษัทที่ได้งาน อย่างนี้ต้องถามเหมือนกันว่า ถ้าฮั้วจริง ทำไมบริษัทที่ได้งานมี 35 บริษัท น่าจะมีแค่ 1-2 บริษัทเท่านั้น ดังนั้นเราสั่งการให้ทำตามกฎหมายชัดเจน” นายศักดิ์สยาม กล่าว
นายศักดิ์สยาม กล่าวต่อไปว่า ส่วนประเด็นการอภิปรายว่า MR-MAP เป็นการลงทุนโครงการซ้ำซ้อน ขอเรียนว่าแผนแม่บท MR-MAP มีกรอบแนวคิดเพื่อแก้ปัญหาของประเทศในระบบคมนาคมขนส่ง สร้างโอกาสสร้างโครงสร้างพื้นฐานอย่างเป็นระบบเชื่อมภูมิภาค รวมถึงวางรากฐานที่ถูกต้องแก่ประเทศไทยอย่างเป็นระบบ ก็อยากจะเชิญ นายสุรเชษฐ์ ประวีณวงศ์วุฒิ ส.ส.ก้าวไกล ที่อภิปรายเรื่องนี้ ไปหารือร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่กระทรวงคมนาคมด้วย
“เมื่อวานนี้ผมนั่งฟังสมาชิกอภิปรายกล่าวหาผม 4 ชั่วโมงกว่า ไม่ว่าจะเรื่องที่ดินรถไฟ เรื่องขายหุ้น หจก.บุรีเจริญ หรือเรื่องการจัดสรรงบประมาณ รวมถึง MR-MAP อยากให้สมาชิกดูให้ครบถ้วนก่อนอภิปราย เพราะเวลาอภิปรายไปแล้ว ประชาชนฟังทั้งประเทศ เมื่อข้อมูลไม่สมบูรณ์จะทำให้เกิดความเสียหายหลายส่วน” นายศักดิ์สยาม
อ่านประกอบ :
- ข้อมูลใหม่! โฉนด 12 แปลง 179 ไร่ ออกทับที่ดินรถไฟ‘เขากระโดง’ โยงเครือญาติตระกูล‘ชิดชอบ’
- อภิปรายไม่ไว้วางใจ : รุมซักฟอก'ศักดิ์สยาม'อ้างใช้นอมินีถือหุ้น หจก.บุรีเจริญฯ รับงานรัฐ
- คำชี้แจง ‘ผู้ว่าฯรฟท.’ กรณีเพิกถอนโฉนด ‘เขากระโดง’-‘ในยุคผม...ผมไม่ฟ้องประชาชน’
- ไม่อยากระรานประชาชน! ‘ผู้ว่าฯรฟท.’ แจงเหตุเมินไล่ฟ้องเพิกถอนโฉนด ‘เขากระโดง’ รายแปลง
- ยื่น‘กมธ.ป.ป.ช.’สอบจริยธรรม 2 รมต. ไม่เพิกถอนโฉนดเขากระโดง-ใช้ที่ดินหลวงเพื่อปย.ส่วนตน
- คดีที่ 3! ศาลฎีกาย้ำ'เขากระโดง'ที่ดินรถไฟฯ 'ทวี'ข้องใจฟ้องชาวบ้าน ไม่แตะ'ชิดชอบ'?
- เปิดคำฟ้อง 'รฟท.'! ให้ 'กรมที่ดิน' เพิกถอนโฉนด 'เขากระโดง'-ชดใช้ 707 ล้าน
- โชว์แผนที่ 3 ฉบับ! ที่ดินรถไฟ ‘เขากระโดง’ ก่อน ‘กรมที่ดิน’ ตั้ง ‘กก.ตรวจสอบแนวเขตฯ’
- (คลิป) ความในใจคนนามสกุล ‘ชิดชอบ’ ปมรุกที่ดินรถไฟ ‘เขากระโดง’
- ถูกโยงทุกครั้งที่มี‘ตำแหน่ง’! ปมรุกที่ดินรถไฟ‘เขากระโดง’ ความในใจคนนามสกุล‘ชิดชอบ’
- 'นิพนธ์'เผยกรมที่ดิน-รฟท.ตั้ง กก.สอบแนวเขต 5,083 ไร่ แก้ปมแผนที่ทับซ้อน'เขากระโดง'
- ‘รฟท.’ จ่อยื่นฟ้อง ‘ศาลปกครอง’ สั่ง ‘กรมที่ดิน’ เพิกถอนโฉนดที่ดินแยก ‘เขากระโดง’
- ‘ศุภวัฒน์-หจก.บุรีเจริญฯ’ 2 ตัวละครมหากาพย์ ‘เขากระโดง’ บริจาค ภท. ปี 62 รวม 7.5 ล.
- เปิดละเอียด! ข้อกล่าวหา’ศักดิ์สยาม-อนุพงษ์’ เอื้อพวกพ้อง-ไม่ถอนโฉนดรุก ‘เขากระโดง’
- ออกไปนานแล้ว! 'ศักดิ์สยาม' แจงสัมพันธ์ หจก.บุรีเจริญฯ ปมที่ดิน ‘เขากระโดง’
- ‘ศุภวัฒน์-หจก.บุรีเจริญฯ’ 2 ตัวละครมหากาพย์ ‘เขากระโดง’ บริจาค ภท. ปี 62 รวม 7.5 ล.
- คำพิพากษาศาลฎีกาชี้ชัด! ‘เขากระโดง’ที่ดินรถไฟ สะเทือน‘ช้างอารีน่า-บุรีรัมย์คาสเซิล’
- 23 ปียังไม่เพิกถอนโฉนด! เปิดบันทึกกฤษฎีกาชี้ชัด ‘เขากระโดง’ 5 พันไร่ ที่ดินรถไฟ
- พลิกแฟ้มป.ป.ช.! สั่งถอนโฉนดตระกูล ‘ชิดชอบ’ ทับที่ดินรถไฟ ‘เขากระโดง’
- ได้งาน คค.7 ปีหลังสุด 1.9 พันล.! หจก.บุรีเจริญฯของ‘ตัวละครสำคัญ’มหากาพย์‘เขากระโดง’
- เปิดตัว ‘ศุภวัฒน์’ คู่พิพาทที่รถไฟ ‘เขากระโดง’-บริจาค ภท.-‘ศักดิ์สยาม’ เคยเป็นกุนซือ
- มหากาพย์ที่ดิน ‘เขากระโดง’ โยง ‘ศักดิ์สยาม-ญาติ’ มีบ้านพักบน ‘ที่หลวง’