
"อัยการได้รับอนุมัติจากศาลให้ยึดอสังหาริมทรัพย์ 18 แห่ง ซึ่งรวมถึงอพาร์ตเมนต์หรูหรา 11 แห่งและที่จอดรถ 48 คันในโครงการ Peace Palace ที่หรูหราบนถนน Heping East Road ของไทเป มูลค่า 3.81 พันล้านดอลลาร์ไต้หวัน (3,919,968,030 บาท) เพื่อป้องกันการเคลื่อนย้ายทรัพย์สิน"
ส่องคดีทุจริตโลก สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) สัปดาห์นี้จะขอกลับไปนำเสนอความคืบหน้าของหลายประเทศในการสืบสวนเกี่ยวกับกลุ่มบริษัทปรินซ์กรุ๊ปของนายเฉิน จื้อ กันอีกครั้งหนึ่ง หลังจากที่นายเฉินออกมากล่าวยืนยันว่าตัวเองไมไ่ด้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการฉ้อโกงตามที่ทางการสหรัฐอเมริกากล่าวหา
โดยสำนักข่าวเอเชีย ไฟแนนเชียลได้มีการทำสรุปรายละเอียดเอาไว้ดังนี้
การเคลื่อนไหวของเจ้าหน้าที่กระทรวงการคลังสหรัฐฯ และอังกฤษในการคว่ำบาตรปรินซ์กรุ๊ปและประกาศให้เป็นองค์กรอาชญากรข้ามชาติกระตุ้นให้เกิดการยึดทรัพย์สินจำนวนมากในประเทศต่างๆ ทั่วเอเชียและส่วนอื่นๆ ของโลก
การประกาศร่วมกันในช่วงกลางเดือนตุลาคมนี้ได้รับการยกย่องจากเจ้าหน้าที่สืบสวนที่สืบสวนการแพร่กระจายของศูนย์หลอกลวงที่น่าตกใจในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อย่างไรก็ตาม การประกาศดังกล่าวยังนำไปสู่คำถามว่าเหตุใดหน่วยงานด้านการเงินในสหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร สิงคโปร์ ไต้หวัน และไทย จึงใช้เวลานานมากในการเปิดโปงกลุ่มที่ปัจจุบันถูกขนานนามว่าเป็นหนึ่งในองค์กรอาชญากรรมที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย
ด้านสำนักข่าว Radio Free Asia ได้เริ่มตั้งข้อสงสัยเกี่ยวกับกิจกรรมทางอาญาของกลุ่มนี้เป็นครั้งแรกในเดือนกุมภาพันธ์ 2567
เฉิน จื้อ ประธานบริษัทปรินซ์ กรุ๊ป วัย 37 ปี ชาวจีนที่ย้ายจากมณฑลฝูเจี้ยนมายังกรุงพนมเปญเมื่อประมาณ 15 ปีก่อน ถูกกล่าวหาว่าสร้างกลุ่มบริษัทมูลค่า 6 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา โดยอาศัยการฉ้อโกงทางออนไลน์ เช่น การหลอกลวงทางเพศ ซึ่งกระทำโดยทาสที่ถูกหลอกให้ทำงานในสถานที่หลอกลวงทางเพศในกัมพูชา คำฟ้องที่ยื่นในสหรัฐอเมริกากล่าวหาว่าเฉินเคยโอ้อวดว่าการหลอกลวง "ฆ่าหมู" ของเขาทำเงินได้ 30 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (971,849,409 บาท) ต่อวัน
ธุรกิจขนาดมหึมาที่ปริ๊นซกรุ๊ปถูกกล่าวหาว่ามีส่วนเกี่ยวข้อง ตั้งแต่บริษัทสองแห่งที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกง ไปจนถึงสำนักงานครอบครัวในสิงคโปร์ อาคารสำนักงาน และอสังหาริมทรัพย์หรูหราในเมืองต่างๆ เช่น ลอนดอน ไทเป และโตเกียว นอกจากนี้ยังมีห้างสรรพสินค้า ธนาคาร คาสิโน โรงแรม ร้านอาหาร เครื่องบินส่วนตัวและเรือในสถานที่ที่ห่างไกลอย่างประเทศปาเลาและวานูอาตูในแปซิฟิก ทำให้เกิดคำถามว่าเฉินได้รับการสนับสนุนจากหน่วยงานหรือเจ้าหน้าที่จีนหรือไม่
รายงานข่าวในไต้หวันระบุว่าสำนักงานความมั่นคงแห่งชาติของไต้หวันกล่าวหาว่าปรินซ์กรุ๊ป (Prince Group) มีส่วนเกี่ยวข้องกับกิจกรรม "แนวร่วมชาวจีน" ในกัมพูชา และได้ช่วยมอบเงินช่วยเหลือกว่าครึ่งหนึ่งจากทั้งหมด 260 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (8,422,694,878 บาท) ให้แก่กัมพูชาในปี 2018
ผู้สืบสวนชาวไต้หวันรายงานว่าได้ค้นพบความเชื่อมโยงกับกลุ่มอาชญากรขนาดใหญ่ และพบว่าผู้บริหารระดับสูงของปรินซ์กรุ๊ควบคุมหรือมีส่วนเกี่ยวข้องกับบริษัท 23 แห่ง
เมื่อวันที่ 14 ตุลาคม สำนักงานควบคุมทรัพย์สินต่างประเทศ (OFAC) ของสหรัฐอเมริกาได้ออกมาตรการคว่ำบาตรต่อนิติบุคคลและบุคคล 146 ราย ตัวเลขดังกล่าวเพียงอย่างเดียวก็แสดงให้เห็นถึงจำนวนเงินมหาศาลที่ปรินซ์กรุ๊ป สามารถสร้างรายได้ขึ้นมา
ข่าวการดำเนินการกับปริ๊นซ์กรุ๊ปในต่างแดน (อ้างอิงวิดีโอจากสำนักข่าว BNC)
@ทรัพย์สินถูกยึดในหลายเมืองทั่วเอเชีย
ในช่วงห้าสัปดาห์นับตั้งแต่นั้นมา เจ้าหน้าที่ในฮ่องกง สิงคโปร์ เกาหลีใต้ ไต้หวัน และไทย ได้ดำเนินการประเมินและอายัดทรัพย์สินที่ต้องสงสัยว่าเป็นของเฉินจื้อหรือกลุ่มปรินซ์ มูลค่ารวมเกือบ 700 ล้านดอลลาร์ (22,651,998,950 บาท)
ในฮ่องกง เจ้าหน้าที่ได้อายัดทรัพย์สินมูลค่า 353.5 ล้านดอลลาร์ (11,439,260,000 บาท) ขณะที่ตำรวจในสิงคโปร์ยึดเงินสดและทรัพย์สินมูลค่า 115 ล้านดอลลาร์ (3,721,400,000 บาท)
ในเกาหลีใต้ ทางการได้อายัดเงินทุนในธนาคาร 5 แห่ง มูลค่ารวม 90,000 ล้านวอน (1,976,782,500 บาท)
และในไต้หวัน ได้มีการจัดตั้งหน่วยเฉพาะกิจขึ้นเมื่อวันที่ 15 ตุลาคม เพื่อติดตามทรัพย์สินและกระแสเงินทุนของปรินซ์กรุ๊ป ส่งผลให้ตำรวจเข้าตรวจค้นสถานที่ 47 แห่ง ซึ่งถูกกล่าวหาว่าเชื่อมโยงกับสมาชิกระดับสูงของปรินซ์กรุ๊ปและบริษัทที่เกี่ยวข้องในไทเป สำนักงานอัยการเขตไทเประบุว่ามีผู้ต้องสงสัยถูกควบคุมตัวประมาณ 25 คน
หนังสือพิมพ์ Taipei Times รายงานว่า "อัยการได้รับอนุมัติจากศาลให้ยึดอสังหาริมทรัพย์ 18 แห่ง ซึ่งรวมถึงอพาร์ตเมนต์หรูหรา 11 แห่งและที่จอดรถ 48 คันในโครงการ Peace Palace ที่หรูหราบนถนน Heping East Road ของไทเป มูลค่า 3.81 พันล้านดอลลาร์ไต้หวัน (3,919,968,030 บาท) เพื่อป้องกันการเคลื่อนย้ายทรัพย์สิน"
นอกจากนี้ ยังยึดรถยนต์หรูจำนวน 26 คัน รวมถึงรุ่น Rolls-Royce, Ferrari และ Lamborghini มูลค่ารวม 477.58 ล้านดอลลาร์ไต้หวัน (491,617,986 บาท) และบัญชีธนาคาร 60 บัญชีที่มีเงิน 235.87 ล้านดอลลาร์ไต้หวัน (242,825,334 บาท)อีกด้วย
ในญี่ปุ่น เฉิน จื้อ ยังเป็นเจ้าของคอนโดมิเนียมหรูในโตเกียวด้วย ตามรายงานของ สำนักข่าวเคียวโดะไทม์ส ระบุว่า นายเฉินได้จดทะเบียนที่พักอาศัยครั้งแรกใกล้กับสำนักงานใหญ่ของปรินซ์ โฮลดิ้ง กรุ๊ป ในกรุงพนมเปญ แต่ในปี 2567 เขาได้เปลี่ยนที่อยู่เป็นคอนโดมิเนียมหรูในเขตมินาโตะของโตเกียว หลังจากตั้งสำนักงานปรินซ์ กรุ๊ป ในเขตชิโยดะ
สองวันหลังจากที่สหรัฐฯ ประกาศใช้มาตรการคว่ำบาตร ญี่ปุ่นได้เพิ่มข้อกำหนดสำหรับชาวต่างชาติที่เข้าประเทศด้วยวีซ่าผู้จัดการธุรกิจ รวมถึงเพิ่มเงินลงทุนขั้นต่ำจาก 5 ล้านเยนเป็น 30 ล้านเยน มีรายงานว่าบริษัทของเฉินมีทุนจดทะเบียน 5 ล้านเยน
นายเฉิน จื้อ หัวหน้ากลุ่มอาชญากรไซเบอร์ซึ่งนายฮุนเซน อดีตนายกรัฐมนตรี กัมพูชาผู้ครองอำนาจมายาวนานให้การยอมรับ มีรายงานว่าเขาเดินทางไปเยือนญี่ปุ่นบ่อยครั้ง อย่างไรก็ตาม “ไม่มีผู้อยู่อาศัยในคอนโดมิเนียมที่โตเกียวติดต่อมายังสำนักข่าว เมื่อสำนักข่าวได้ลงพื้นที่”
@กลุ่มนี้เติบโตใหญ่โตและหนีรอดจากการก่ออาชญากรรมมาได้นานได้อย่างไร?
นายมาร์ติน เพอร์บริก นักวิเคราะห์อาชญากรรมชาวเอเชีย กล่าวว่า“คำตอบน่าจะเกี่ยวข้องกับการทุจริตในหมู่เจ้าหน้าที่รัฐ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกัมพูชา ไต้หวัน และไทย เช่นเดียวกับความล้มเหลวของระบบบังคับใช้กฎหมายต่อต้านการฟอกเงินในเอเชีย”
เขากล่าวว่าตามคำฟ้องของกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ กล่าวหาว่านายเฉินและผู้สมรู้ร่วมคิดของเขา "ใช้อิทธิพลทางการเมืองเพื่อปกป้องปฏิบัติการหลอกลวงจากหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายในหลายประเทศ รวมถึงจากกระทรวงความมั่นคงสาธารณะของจีน (MPS) และกระทรวงความมั่นคงแห่งรัฐ (MSS)" และยังกล่าวอีกว่า "ผู้บริหารของปรินซ์กรุ๊ปได้ติดสินบนเจ้าหน้าที่ของรัฐเพื่อขอข้อมูลจากเจ้าหน้าที่ล่วงหน้าก่อนที่หน่วยงานบังคับใช้กฎหมายจะเข้าตรวจค้นสถานที่หลอกลวงของปริ๊นซ์กรุ๊ป"
สื่อจากไต้หวันวิเคราะห์ว่าการระเบิด KK Park เป็นเรื่องหลอกลวงของรัฐบาลทหารเมียนมาหรือไม่ (อ้างอิงวิดีโอจาก Taiwan EBC News)
@การทำลาย KK Park
ที่ประเทศไทย เจ้าหน้าที่ตำรวจยังได้ตรวจสอบทรัพย์สินที่เกี่ยวข้องกับปริ๊นซ์กรุ๊ป แม้ว่ารัฐบาลใหม่ของอนุทิน ชาญวีรกูล จะต้องทำงานหนักในการรับมือกับวิกฤตที่คุกรุ่นอยู่ที่ชายแดนกัมพูชา และศูนย์กลางการหลอกลวงที่อยู่บริเวณชายแดนตะวันตกเฉียงเหนือติดกับเมียนมา
สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองได้เพิ่มความพยายามในการสกัดกั้นชาวต่างชาติที่เดินทางเข้าประเทศไม่ให้ถูกจ้างงานในศูนย์โทรศัพท์หลอกลวงในประเทศเพื่อนบ้าน
เรื่องนี้เกิดขึ้นหลังจากที่มีชาวต่างชาติจำนวนมากหลบหนีออกจากเมียนมาหลังจากการทำลายล้างศูนย์ KK Park ซึ่งเป็นศูนย์รวมการหลอกลวงในเมืองเมียวดี
นี่เป็นหนึ่งในหลายๆ การตอบสนอง ที่ตามมาหลังจากหลายชาติดำเนินการกับปริ๊นซ์กรุ๊ป
ซึ่งนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่รู้สึกว่าการดำเนินการที่เห็นเหล่านี้เป็นการแสดงทางการเมือง ส่วนหนึ่งเป็นเพราะประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ขู่ว่าจะเก็บภาษีนำเข้าประเทศต่างๆ ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ขณะที่ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีนขึ้นชื่อเรื่องความเกลียดชังศูนย์หลอกลวง โดยเฉพาะศูนย์ที่ดำเนินการโดยอาชญากรชาวจีนที่มุุ่งเป้าไปยังชาวจีนด้วยกัน
พล.อ.อาวุโสมิน อ่อง หล่าย มีเหตุผลมากมายในการแสดงความจงรักภักดีต่อประธานาธิบดีสี เนื่องจากจีนเป็นผู้จัดหาอาวุธรายใหญ่เป็นอันดับสองของเมียนมา รองจากรัสเซีย โดยจัดหาโดรนประมาณ 3,000 ลำ รวมถึงเครื่องบินขับไล่ที่โจมตีหมู่บ้านในทั่วภาคเหนือของประเทศ
ผู้นำเมียนมายังถูกกดดันจากรัฐบาลสหรัฐอเมริกา เกาหลีใต้ และไทย ให้ควบคุมกลุ่มที่เกี่ยวข้องกับการฟอกเงิน การพนันผิดกฎหมาย และการค้ามนุษย์ และเขาจะจัดการเลือกตั้งในเร็วๆ นี้ เพื่อพยายามทำให้การเข้ายึดอำนาจทางทหารของเขาดูมีความชอบธรรมมากยิ่งขึ้น
เย็นวันที่ 24 ตุลาคมในอีกไม่กี่วันต่อมา ก็มีการนำอาวุธหนักเข้ามาร่วมปฏิบัติการด้วย ภายในต้นเดือนพฤศจิกายน มีรายงานว่าอาคาร 101 หลังในฐานปฏิบัติการอาชญากรรมไซเบอร์ถูกทำลาย และอีกสี่สิบกว่าหลังก็ถูกทำลายในเวลาต่อมา
ในสัปดาห์สุดท้ายของเดือนตุลาคม การกระทำของกองทัพทำให้ “มิจฉาชีพ” กว่า 1,500 คน จากหลากหลายสัญชาติ หลบหนีข้ามแม่น้ำกลับเข้าประเทศไทย ส่วนใหญ่เป็นชาวอินเดีย (465 คน) รองลงมาคือชาวแอฟริกัน (270 คน) ชาวฟิลิปปินส์ (220 คน) และชาวจีน (187 คน)
สองสัปดาห์ที่แล้ว มีผู้ต้องสงสัยชาวอินเดียกว่า 240 คน ถูกส่งตัวกลับบ้านด้วยเครื่องบินทหารอินเดีย มีรายงานว่าเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองของไทยได้สอบปากคำผู้ต้องสงสัยทั้งหมดแล้ว ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้นำข้อมูลไบโอเมตริกซ์ของพวกเขาไปใช้เพื่อป้องกันไม่ให้พวกเขากลับเข้าประเทศไทยโดยใช้ข้อมูลปลอม
@การพิพากษาประหารชีวิตมาเฟียจีน
ขณะที่ประเทศจีนศาลในเมืองเซินเจิ้นตัดสินประหารชีวิตสมาชิกระดับสูง 5 คนของกลุ่มมาเฟียจีนที่เมียนมาเมื่อต้นเดือนพฤศจิกายน
สมาชิกและผู้เกี่ยวข้องจากตระกูลไป๋ประมาณ 21 คน ซึ่งก้าวขึ้นสู่อำนาจในช่วงปี ค.ศ.2000 และแปลงสภาพเมื่องเล่าก่าย เมืองยากจนทางตอนเหนือของเมียนมา ให้กลายเป็นคาสิโนและศูนย์กลางการฉ้อโกง ถูกตัดสินว่ามีความผิดฐานฉ้อโกง ฆ่าคน ทำร้ายร่างกาย และอาชญากรรมอื่นๆ ตามรายงานสื่อของรัฐที่เผยแพร่บนเว็บไซต์ศาลประชาชนกลางเซินเจิ้น
มีรายงานว่าพวกเขาเข้าสู่กิจกรรมการหลอกลวงในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา และมีส่วนในการค้ามนุษย์ชาวจีนและแรงงานอื่น ๆ หลายพันคน โดยแรงงานเหล่านี้ก็ถูกบังคับให้ฉ้อโกงผู้อื่นด้วยกิจกรรมทางอาญาที่มีมูลค่า 29,000 ล้านหยวนจีน (132,086,822,000 บาท) ตามรายงานของ BBC
เจ้าหน้าที่กล่าวว่า กลุ่มตระกูลไป๋ซึ่งมีกองกำลังติดอาวุธของตนเอง ได้จัดตั้งสถานที่ 41 แห่งเพื่อใช้เป็นที่ตั้งคาสิโนและปฏิบัติการหลอกลวงทางไซเบอร์ พวกเขาถูกกล่าวหาว่าทำให้ชาวจีนเสียชีวิต 6 ราย ฆ่าตัวตาย 1 ราย และบาดเจ็บอีกหลายราย
และก่อนหน้านี้ในเดือนกันยายน ศาลจีนอีกแห่งได้ตัดสินประหารชีวิตสมาชิกตระกูลหมิง ซึ่งมีส่วนในกิจกรรมที่เล่าก่ายอีกจำนวน 11 คน
เรียบเรียงจาก:https://www.asiafinancial.com/states-seize-prince-group-assets-amid-hunt-for-scam-billionaire
- ส่องคดีทุจริตโลก: บ.จีนประวัติฉาว พัวพันไชน่าเรลเวย์ ประกวดราคาถนนมอนเตเนโกร 2.2หมื่น ล.
- ส่องคดีทุจริตโลก: เปิดโปงขบวนการใช้เพจเฟซบุ๊กปลอม หลอกขายบัตรโดยสาร จารกรรมข้อมูลส่วนตัว
- ส่องคดีทุจริตโลก: บ.สิงคโปร์เคยรับงานรัฐ ส่อพัวพัน CEO ปรินซ์ กรุ๊ป ถูกสหรัฐฯคว่ำบาตร
- ส่องคดีทุจริตโลก:CEO บ.เกมมือถือ-เหล็กฮ่องกงลาออก หลังสหรัฐฯระบุพัวพัน ปรินซ์ กรุ๊ป
- ส่องคดีทุจริตโลก:เปิดโปงเครือข่าย บ.ปรินซ์กรุ๊ป ซื้ออสังหาฯดูไบ-ลอนดอน มูลค่านับพัน ล.
- ส่องคดีทุจริตโลก: ฟิลิปปินส์สอบ 421 โครงการจัดการน้ำท่วมทิพย์ พบหลายแห่งสร้างผิดสถานที่
- ส่องคดีทุจริตโลก:อัยการยุโรปแฉทีมสอบสวนถูกข่มขู่ หลังจี้ถามสภากรีซ เหตุยักยอกเงิน EU
- ส่องคดีทุจริตโลก: ป.ป.ช.บังกลาเทศ แฉอดีต รมต.ฟอกเงิน ซุกทรัพย์สินหลาย ปท.รวมไทย-กัมพูชา
- ส่องคดีทุจริตโลก: รมต.ยธ.เลบานอน ย้ำสอบระเบิดปี 63 คืบหน้ามาก หลังเจ้าของเรือเพิ่งถูกจับ
- ส่องคดีทุจริตโลก: ข่าวสอบโครงการน้ำท่วมเป็นเหตุ เกาหลีใต้ระงับเงินกู้ฟิลิปปินส์ หมื่น ล.
- ส่องคดีทุจริตโลก: ป.ป.ช.อินโดฯเดินหน้าสอบขบวนการโกงโควตาพิธีฮัจญ์ ทำรัฐเสียหาย 1.9 พันล.
- ส่องคดีทุจริตโลก:เปิดโปงซัพพลายเออร์จีนเทาปริศนา ส่งอิฐปลอม ให้ บ.ฮ่องกง สร้างสถานีรถไฟ
- ส่องคดีทุจริตโลก:รบ.ฮ่องกง ทำสัญญาฉาว 221 ล. จัดหาน้ำดื่มด้อยคุณภาพจากจีนแผ่นดินใหญ่
- ส่องคดีทุจริตโลก:โปแลนด์สอบ บ.ที่ปรึกษาปริศนา ออกใบแจ้งหนี้นำเข้าอาวุธเกาหลีเป็นเท็จ
- ส่องคดีทุจริตโลก: หัวหน้าฝ่ายการตลาด บ.แม่ AI DeepSeek ร่วมขบวนการโกงคอมมิชชั่นร้อย ล.
- ส่องคดีทุจริตโลก:แฉฮุน เซน เซ็น ทิ้งทวนนายกฯยกอุทยานเฉียดพันเฮกตาร์ให้ลูกคนใกล้ชิดบริหาร
- ส่องคดีทุจริตโลก:อัยการเกาหลีสอบคดีสินบน ปธน.ยุน โยงโครงการก่อสร้างที่กัมพูชา
- ส่องคดีทุจริตโลก: ป.ป.ช.มาเลย์เข้าสอบ บ.ผลิตชิป Nvidia ลักลอบขนเศษเหล็กเข้าจีน-อินเดีย
- ส่องคดีทุจริตโลก:กห.ออสซี่อ้างไม่เข้าข่ายขัดกันแห่งผล ปย.เหตุ จนท.รับงาน บ.คู่สัญญาเรือรบ
- ส่องคดีทุจริตโลก: โรมาเนียรวบขบวนการปลอมโพรไฟล์บริษัท รับงานรัฐใช้งบ EU ร่วม 3.8 พันล.
- ส่องคดีทุจริตโลก: เปิดโปงเอกชน มท.1กัมพูชาถือหุ้น โยงคาสิโน-ลงทุนเกาะปาเลา 3.2 หมื่น ล.
- ส่องคดีทุจริตโลก:ตีแผ่เว็บคริปโตฯหลาน 'ฮุน เซน' เชื่อมโยงฟอกเงินเกาหลีเหนือพัน ล.
- ส่องคดีทุจริตโลก: จนท.USAID-เอกชน สมคบขบวนการสินบนตั้งแต่ปี 56 ได้สัญญารัฐ 1.7 หมื่นล.
- ส่องคดีทุจริตโลก: ทวิตเตอร์ส่อโดนสอบ เหตุรับเงินผู้ก่อการร้าย ใช้งานบริการยืนยันตัวตน
- ส่องคดีทุจริตโลก: ข้อพิรุธจัดซื้ออาหารเด็กลัตเวีย ใช้วิธีจับสลาก เลือกผู้ชนะประวัติฉาว
- ส่องคดีทุจริตโลก:ผู้รับเหมาแฟลตฮ่องกง 2 หมื่นล. จ่ายสินบนหัวหน้างานแลกใช้เหล็กด้อยคุณภาพ
- ส่องคดีทุจริตโลก: นักธุรกิจฉาวพัวพัน 'ทรัมป์' เอี่ยวลงทุนศูนย์ข้อมูล TikTok ที่ฟินแลนด์
- ส่องคดีทุจริตโลก:บ.ออฟชอร์จ่ายให้! ลูกขุนคลังเซอร์เบียเรียน รร.นานาชาติ ค่าเทอมหลัก ล.
- ส่องคดีทุจริตโลก:ข้อครหา บ.จีน ส่งเอกสารปลอม เข้าประมูลเทคนิค โรงไฟฟ้าพลังงานน้ำที่เนปาล
- ส่องคดีทุจริตโลก: เปิดประวัติคาร์ดินัลโดนคดีการเงิน อ้างมีสิทธิ์โหวตโป๊ปพระองค์ใหม่
- ส่องคดีทุจริตโลก: รัฐสภาเนปาลสอบ จนท.เอื้อประโยชน์ บ.จีน หนีภาษี-ย้อมแมวสนามบิน 7พันล.
- ส่องคดีทุจริตโลก: ธนาคารชั้นนำสวิสถูกสอบ เหตุทำธุรกรรมกับลูกค้าความเสี่ยงสูง 1,400 บัญชี
- ส่องคดีทุจริตโลก:ข้อพิรุธไชน่า เรลเวย์ อินเตอร์ฯ ใช้นอมินีรับสัญญารถไฟแอฟริกาใต้หมื่น ล.
- ส่องคดีทุจริตโลก: แอฟริกาใต้จ้างเอกชนจีนมีประวัติโดนขึ้นบัญชีดำในต่างแดน สร้างถนน
- ส่องคดีทุจริตโลก:ย้อนรอย บ.จีนจ้างแฟนเก่าอดีต ปธน.โบลิเวียนั่งบริหาร รับสัญญารัฐหมื่นล.
- ส่องคดีทุจริตโลก:ป.ป.ช.อินโดฯ เดินหน้าสอบบิ๊กธนาคาร เอี่ยวจ่ายคอมมิชชั่น บ.โฆษณา 449 ล.
- ส่องคดีทุจริตโลก: รัฐวิสาหกิจจีนประวัติฉาว ทำสัญญาสร้างเขื่อน 1.8 หมื่นล. ที่ฮอนดูรัส
- ส่องคดีทุจริตโลก:เช็กเกียสั่งสอบ 17 ผู้ต้องหา เอี่ยวกินเปอร์เซ็นต์สัญญา รพ.มูลค่าพัน ล.
- ส่องคดีทุจริตโลก:กห.ออสซี่ทำสัญญาหมื่นล.เอกชนถูกสอบฮั้วราคาอุปกรณ์-บริการฐานทัพทหาร
- ส่องคดีทุจริตโลก:สภายูเครนผ่านร่าง กม.ซื้อเครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์ 2 หมื่นล.ส่อไม่โปร่งใส
- ส่องคดีทุจริตโลก:NGO ฉ้อโกงเงิน USAIDนับร้อยล้าน-ยักยอกอาหารผู้ลี้ภัยขายผู้ก่อการร้าย
- ส่องคดีทุจริตโลก:บ.สิงคโปร์ค้าน้ำมันให้กองทัพเมียนมา ก่ออาชญากรรมสงคราม ทำรายได้ พันล.
- ส่องคดีทุจริตโลก:ซาอุฯเดินหน้าสัญญาซื้ออาวุธรัสเซีย 7.7 หมื่นล.แม้ถูกคว่ำบาตรปมบุกยูเครน
- ส่องคดีทุจริตโลก:ก.คลังสหรัฐฯ คว่ำบาตรธนาคารคีร์กีซ เหตุช่วยแบงก์รัสเซียเลี่ยงคว่ำบาตร
- ส่องคดีทุจริตโลก: CEO กรมน้ำฯแอลเอ บริหารงานล้มเหลว? ต้นเหตุหัวดับเพลิงไม่ทำงานช่วงไฟป่า
- ส่องคดีทุจริตโลก:แฉแผนทรมาน ปธ.กกต.เกาหลีฯช่วงอัยการศึก บังคับประกาศเหตุโกงเลือกตั้ง สส.

Isranews Agency | สำนักข่าวอิศรา