ข้อตกลงการซื้อตึกทั้งหมดจะทำให้วาติกันเสียเงินเพิ่มไปอีกหลายร้อยล้านยูโร กรณีนี้ทำให้เกิดการสอบสวนการดำเนินงานของพระคาร์ดินัลเบชชูและพนักงานของวาติกันที่เกี่ยวข้องกับการทำข้อตกลงกับกองทุนของนักธุรกิจอิตาลีในปี 2557
ส่องคดีทุจริตโลก สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) สัปดาห์นี้ขอนำเสนอประวัติพระคาร์ดินัล องค์หนึ่งซึ่งมีประวัติไม่โปร่งใส แต่ว่าพยายามจะเข้ามามีบทบาทเพื่อจะเลือกพระสันตะปาปาพระองค์ใหม่ แทน สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส สิ้นพระชนม์ด้วยพระชนมายุ 88 พรรษา เมื่อวันที่ 21 เม.ย.ที่ผ่านมา
โดยหลังจากงานพิธีปลงพระศพสมเด็จพระสันตะปาปา ขั้นตอนถัดไปก็คือว่าพระคาร์ดินัลทั่วโลกจะต้องมาชุมนุมกันเพื่อเลือกสมเด็จพระสันตะปาปาองค์ใหม่ ซึ่งหนึ่งในนั้นก็จะมีพระคาร์ดินัลโจวันนี แอนเจโล่ เบชชู (Cardinal Giovanni Angelo Becciu) ที่อ้างตัวว่ามีสิทธิในการเข้าร่วมชุมนุมนี้ด้วย
อย่างไรก็ตาม พระคาร์ดินัลเบชชูนั้นเป็นผู้ที่ถูกวาติกันตัดสินว่ามีความผิดจากพฤติการณ์อาชญากรรมทางการเงิน ซึ่งตัวพระคาร์ดินัลเองก็ยังยืนยันว่าตัวเองสามารถเข้าร่วมชุมนุมที่กำลังจะมาถึงเพื่อตัดสินว่าใครจะมาแทนที่สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส
ทั้งนี้ย้อนไปในปี 2563 ในช่วงเวลาที่สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิสยังทรงมีพระชนม์ชีพอยู่ พระองค์ได้เคยขอให้พระคาร์ดินัลเบชชูทิ้งสมณศักดิ์และละทิ้งสิทธิพิเศษทั้งหมดของการเป็นพระคาร์ดินัลที่วาติกัน หลังจากที่ตัวพระคาร์ดินัลเบชชูถูกกล่าวหาว่ามีส่วนในการยักยอกเงินและการฉ้อโกง และต่อมาในปี 2566 พระคาร์ดินัลเบชชูก็ได้ถูกตัดสินว่ามีความผิดจริงและถูกตัดสินจำคุก 5 ปีครึ่ง
ทว่าหลังจากมีคำตัดสิน พระคาร์ดินัลเบชชูก็ได้พยายามออกมายืนยันว่าตัวพระองค์บริสุทธิ์ และล่าสุดในวันที่ 22 เม.ย. พระคาร์ดินัลเบชชูก็ได้ให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์ Sardinian ว่าแม้ว่าสำนักสื่อของศาสนจักรจะระบุว่าตัวพระคาร์ดินัลเบชชูไม่มีสิทธิเป็นผู้มีสิทธิลงคะแนนเสียงเลือกตั้งในการประชุมที่จะมาถึงนี้ “แต่ก็ไม่มีเจตจํานงที่ชัดเจนที่จะกีดกันข้าพเจ้าจากการประชุมหรือมีคําขอให้ข้าพเจ้าสละสิทธิ์อย่างชัดเจนเป็นลายลักษณ์อักษร”
สำหรับประวัติเกี่ยวข้องกับพระคาร์ดินัลเบชชูนั้นมีดังต่อไปนี้
@พระคาร์ดินัลเบชชูเคยดำรงตำแหน่งสูงสุด 2 ตำแหน่งที่วาติกันก่อนจะถูกตัดสินว่ามีความผิด
พระเบชชูมีส่วนร่วมกับวาติกันตั้งแต่ปี 2543 และในปี 2554 สมเด็จพระสันตะปาปาเบเนดิกต์ที่ 16 ได้แต่งตั้งให้พระเบชชูทำหน้าที่เป็นเลขาธิการแห่งรัฐ ซึ่งตำแหน่งนี้คล้ายกับหัวหน้าคณะบริหาร หรือก็คือนี่ส่งผลทำให้พระเบชชูกลายเป็นบุคคลที่ทรงอำนาจอันดับสามในวาติกัน
ต่อมาในปี 2561 สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิสก็ได้แต่งตั้งให้พระเบชชูขึ้นดำรงตำแหน่งเป็นพระคาร์ดินัล จากนั้นจึงแต่งตั้งให้พระคาร์ดินัลเบชชูเป็นสมณมนตรีในสมณกระทรวงว่าด้วยการแต่งตั้งนักบุญ (Congregation for the Causes of Saints) ซึ่งเป็นอีกตำแหน่งที่ทรงอำนาจ และส่งผลทำให้พระองค์มีบทบาทในการแต่งตั้งนักบุญของวาติกัน
ข่าวการจำคุกพระคาร์ดินัลเบชชู 5 ปีครึ่ง (อ้างอิงวิดีโอจาก EWTN)
@การสละสิทธิ์คาร์ดินัลในปี 2563 หลังจากถูกกล่าวหาว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องอื้อฉาวทางการเงิน
ทว่าในเดือน ก.ย. 2563 วาติกันออกแถลงการณ์ระบุว่าสมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิสได้ทรงยอมรับการลาออกของพระคาร์ดินัลเบชชูซึ่งลาออกจากตำแหน่งสมณมนตรีในสมณกระทรวงว่าด้วยการแต่งตั้งนักบุญ และขอสละสิทธ์ที่เกี่ยวข้องกับพระคาร์ดินัล
โดยวาติกันระบุว่าพระคาร์ดินัลเบชชูนั้นเป็น “พระคาร์ดินัลผู้มีพระเกียรติ” ซึ่งหมายความว่าพระคาร์ดินัลเบชชูยังมีตำแหน่งพระคาร์ดินัล แต่ว่าไม่มีสิทธิใดๆ
ในช่วงเวลาดังกล่าวนี้เองที่พระคาร์ดินัลเบชชูถูกระบุว่ามีส่วนเกี่ยวเกี่ยวข้องกับเรื่องอื้อฉาวทางการเงิน จากกรณีที่วาติกันไปลงทุนในข้อตกลงอสังหาริมทรัพย์ที่กรุงลอนดอน
ย้อนไปในปี 2557 วาติกันเข้าสู่กิจการด้านอสังหาริมทรัพย์ผ่านการลงทุน 200 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (6,705,498,200 บาท ตามค่าเงินปัจจุบัน) ในกองทุนที่ดําเนินการโดยนายราฟฟาเอล มินซิโอเน่ (Raffaele Mincione) นักธุรกิจชาวอิตาลี ซึ่งการลงทุนนี้จะทำให้วาติกันเป็นเจ้าของอาคารในสัดส่วน 45% ในย่านเชลซี กรุงลอนดอน ตามรายงานของสำนักข่าวเอพี
สำหรับที่มาของเงินลงทุนมาจากทรัพย์สินของสํานักเลขาธิการแห่งรัฐวาติกัน ซึ่งพระเบชชูดำรงตำแหน่งเป็นเบอร์สองของสำนักเลขาธิการในช่วงเวลาดังกล่าว และอีกส่วนก็มาจากการเงินอุดหนุนสมเด็จพระสันตะปาปา (Peter's Pence) ซึ่งจะมาจากชาวคริสต์นิกายคาทอลิกทั่วโลก แล้วส่งต่อไปให้กับสมเด็จพระสันตะปาปา
เมื่อพระเบชชูซึ่งได้รับการแต่งตั้งเป็นพระคาร์ดินัลในปี 2561 ได้ออกจากตำแหน่งในสํานักเลขาธิการแห่งรัฐวาติกันในปีเดียวกัน ผู้ที่ดำรงตำแหน่งสืบทอดต่อมาผ่านการแต่งตั้งของพระสันตะปาปาฟรานซิสต้องการที่จะยุติกองทุนนี้และต้องการจะซื้อตึกทั้งหมดเองเพื่อที่จะเลี่ยงจากากรเสียเงินเพิ่มเติมอีก
พอดแคสต์รายงานกรณีพระสันตะปาปาฟรานซิสไล่พระคาร์ดินัลเบชชูออก (อ้างอิงวิดีโอจาก Dr Taylor Marshall)
ซึ่งข้อตกลงการซื้อตึกทั้งหมดจะทำให้วาติกันเสียเงินเพิ่มไปอีกหลายร้อยล้านยูโร กรณีนี้ทำให้เกิดการสอบสวนการดำเนินงานของพระคาร์ดินัลเบชชูและพนักงานของวาติกันที่เกี่ยวข้องกับการทำข้อตกลงกับกองทุนของนักธุรกิจอิตาลีในปี 2557
สำนักข่าวบีบีซีรายงานว่าพระคาร์ดินัลเบชชูไม่เพียงถูกสอบสวนในกรณีอาคารที่กรุงลอนดอนเท่านั้น แต่ยังถูกสอบสวนว่านำเงินไปยังสังฆมณฑลซาร์ดิเนีย ซึ่งเป็นบ้านเกิดของพระองค์
ในปี 2565 พระคาร์ดินัลเบชชูถูกกล่าวหาว่ามีการส่งเงินก้อนใหญ่ไปยังประเทศออสเตรเลีย ซึ่งที่นั่นพระคาร์ดินัลจากออสเตรเลียก็ยังถูกสอบสวนอยู่
@พระคาร์ดินัลเบชชูกลายเป็นคาร์ดินัลพระองค์แรกที่ถูกพิจารณาคดีและตัดสินว่ามีความผิดโดยศาลอาญาของวาติกัน
พระคาร์ดินัลเบชชูและจำเลยอีกที่เหลือเก้าคน รวมถึงนักการเงิน ทนายความ และอดีตพนักงานวาติกัน ทั้งหมดถูกตั้งข้อหารวมถึงการยักยอก การฉ้อโกง การฟอกเงิน และการใช้ตําแหน่งในทางที่ผิด
หลังจากการสอบสวนเป็นเวลาสองปี ศาลวาติกันก็ได้มีคำพิพากษาในเดือน ธ.ค.2566 ให้พระคาร์ดินัลเบชชูมีความผิดต้องโทษจำคุกห้าปีครึ่งในข้อหาอาชญากรรมทางการเงิน พระคาร์ดินัลเบชชูจึงเป็นพระคาร์ดินัลพระองค์แรกที่ถูกพิจารณาคดีและตัดสินว่ามีความผิดโดยศาลอาญาของวาติกัน
“เรายืนยันความบริสุทธิ์ของพระคาร์ดินัลแอนเจโล่ เบชชู และจะยื่นอุทธรณ์” นายฟาบิโอ วิกลีโอเน (Fabio Viglione) ทนายความของพระคาร์ดินัลเบชชูกล่าวและกล่าวอีกว่าเราเคารพคำพิพากษาแต่เราจะยื่นอุทธรณ์แน่นอน
โดยพระคาร์ดินัลเบชชูและทนายความของเขาได้มีการยื่นอุทธรณ์ต่อคำพิพากษาในปี 2566 ซึ่งขณะนี้กระบวนการยื่นอุทธรณ์ยังคงดำเนินอยู่ พระคาร์ดินัลเบชชูจึงไม่ได้ถูกจำคุกและได้รับอนุญาตให้อาศัยในอพาร์ตเม้นต์ในวาติกันของเขา
@อะไรจะเกิดขึ้นหลังจากนี้
สำนักข่าวซีเอ็นเอ็นรายงานว่าพระคาร์ดินัลโจวันนี แบ็ตทิสตา เร (Giovanni Battista Re) คณบดีวิทยาลัยพระคาร์ดินัล และพระคาร์ดินัลปิเอโตร พาโรลิน (Pietro Parolin) ซึ่งเป็นผู้ดูแลกระบวนการประชุม ทั้งสองพระองค์นี้น่าจะเป็นผู้ตัดสินว่าพระคาร์ดินัลเบชชูจะสามารถร่วมประชุมเลือกสมเด็จพระสันตะปาปาได้หรือไม่
ทว่ากำหนดการประชุมเลือกสมเด็จพระสันตะปาปาพระองค์ใหม่ยังไม่ถูกประกาศ ดังนั้นจึงไม่ชัดเจนว่าทั้งสองพระองค์จะตัดสินเมื่อใด
- ส่องคดีทุจริตโลก: รัฐสภาเนปาลสอบ จนท.เอื้อประโยชน์ บ.จีน หนีภาษี-ย้อมแมวสนามบิน 7พันล.
- ส่องคดีทุจริตโลก: ธนาคารชั้นนำสวิสถูกสอบ เหตุทำธุรกรรมกับลูกค้าความเสี่ยงสูง 1,400 บัญชี
- ส่องคดีทุจริตโลก:ข้อพิรุธไชน่า เรลเวย์ อินเตอร์ฯ ใช้นอมินีรับสัญญารถไฟแอฟริกาใต้หมื่น ล.
- ส่องคดีทุจริตโลก: แอฟริกาใต้จ้างเอกชนจีนมีประวัติโดนขึ้นบัญชีดำในต่างแดน สร้างถนน
- ส่องคดีทุจริตโลก:ย้อนรอย บ.จีนจ้างแฟนเก่าอดีต ปธน.โบลิเวียนั่งบริหาร รับสัญญารัฐหมื่นล.
- ส่องคดีทุจริตโลก:ป.ป.ช.อินโดฯ เดินหน้าสอบบิ๊กธนาคาร เอี่ยวจ่ายคอมมิชชั่น บ.โฆษณา 449 ล.
- ส่องคดีทุจริตโลก: รัฐวิสาหกิจจีนประวัติฉาว ทำสัญญาสร้างเขื่อน 1.8 หมื่นล. ที่ฮอนดูรัส
- ส่องคดีทุจริตโลก:เช็กเกียสั่งสอบ 17 ผู้ต้องหา เอี่ยวกินเปอร์เซ็นต์สัญญา รพ.มูลค่าพัน ล.
- ส่องคดีทุจริตโลก:กห.ออสซี่ทำสัญญาหมื่นล.เอกชนถูกสอบฮั้วราคาอุปกรณ์-บริการฐานทัพทหาร
- ส่องคดีทุจริตโลก:สภายูเครนผ่านร่าง กม.ซื้อเครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์ 2 หมื่นล.ส่อไม่โปร่งใส
- ส่องคดีทุจริตโลก:NGO ฉ้อโกงเงิน USAIDนับร้อยล้าน-ยักยอกอาหารผู้ลี้ภัยขายผู้ก่อการร้าย
- ส่องคดีทุจริตโลก:บ.สิงคโปร์ค้าน้ำมันให้กองทัพเมียนมา ก่ออาชญากรรมสงคราม ทำรายได้ พันล.
- ส่องคดีทุจริตโลก:ซาอุฯเดินหน้าสัญญาซื้ออาวุธรัสเซีย 7.7 หมื่นล.แม้ถูกคว่ำบาตรปมบุกยูเครน
- ส่องคดีทุจริตโลก:ก.คลังสหรัฐฯ คว่ำบาตรธนาคารคีร์กีซ เหตุช่วยแบงก์รัสเซียเลี่ยงคว่ำบาตร
- ส่องคดีทุจริตโลก: CEO กรมน้ำฯแอลเอ บริหารงานล้มเหลว? ต้นเหตุหัวดับเพลิงไม่ทำงานช่วงไฟป่า
- ส่องคดีทุจริตโลก:แฉแผนทรมาน ปธ.กกต.เกาหลีฯช่วงอัยการศึก บังคับประกาศเหตุโกงเลือกตั้ง สส.