
เรื่องอื้อฉาวนี้เกี่ยวข้องกับการบริหารจัดการโควตาอย่างผิดพลาด หลังจากที่ซาอุดิอาระเบียได้เพิ่มโควตาผู้แสวงบุญให้กับอินโดนีเซียอีก 20,000 โควตา ซึ่งการเพิ่มโควตาดังกล่าวมีจุดประสงค์เพื่อลดระยะเวลาการรอคอยของผู้แสวงบุญชาวอินโดนีเซีย แต่การแจกจ่ายโควตาดังกล่าวกลับกลายเป็นแหล่งทุจริตที่ก่อให้เกิดผลกำไรมหาศาล
ส่องคดีทุจริตโลก สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) ในสัปดาห์นี้ขอนำเสนอข่าวการทุจริตในประเทศอินโดนีเซีย ประเทศซึ่งตอนนี้ต้องเผชิญกับสถานการณ์การประท้วงอย่างรุนแรง โดยมีสาเหตุมีจากทั้งปัญหาความไม่โปร่งใส ปัญหาเรื่องปากท้อง และการเพิ่มเบี้ยเลี้ยงให้กับ สส. อย่างไม่เหมาะสม
โดยในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา หน่วยงานต่อต้านการทุจริตของอินโดนีเซียหรือ คณะกรรมการปราบปรามการทุจริต (KPK) ซึ่งเทียบได้กับ ป.ป.ช.ของไทย ได้เพิ่มความเข้มข้นในการสืบสวนข้อกล่าวหาการทุจริตรอบโควตาผู้แสวงบุญพิธีฮัจญ์ของอินโดนีเซียในปี 2566-2567 โดยประเมินความเสียหายของรัฐไว้แล้วกว่า 1 ล้านล้านรูเปียห์ หรือ 60.9 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (1,951,236,000 บาท)
ด้านสำนักข่าว Tempo.co ระบุว่า เรื่องอื้อฉาวนี้เกี่ยวข้องกับการบริหารจัดการโควตาอย่างผิดพลาด หลังจากที่ซาอุดิอาระเบียได้เพิ่มโควตาผู้แสวงบุญให้กับอินโดนีเซียอีก 20,000 โควตา ซึ่งการเพิ่มโควตาดังกล่าวมีจุดประสงค์เพื่อลดระยะเวลาการรอคอยของผู้แสวงบุญชาวอินโดนีเซีย แต่การแจกจ่ายโควตาดังกล่าวกลับกลายเป็นแหล่งทุจริตที่ก่อให้เกิดผลกำไรมหาศาล
ข่าวการตรวจสอบการทุจริตโควตาพิธีฮัจญ์ (อ้างอิงวิดีโอจาก Jawa Pos TV Digital)
โดยมีข้อสงสัยว่าผู้รับโควตาเข้าพิธีฮัจญ์แบบพิเศษจะสามารถเดินทางออกไปอินโดนีเซียได้ทันทีโดยไม่ต้องรอคิวนานหลายปีตามรูปแบบปกติ
นายบูดี ปราเสตโย โฆษก KPK กล่าวว่าข้อกล่าวหาที่ว่ามีนี้เป็นหัวใจสำคัญของการสอบสวน โดยย้อนไปวันที่ 1ก.ย. สำนักข่าว VOI.id ได้รายงานว่าเจ้าหน้าที่สอบสวน KPK ได้สอบปากคำพยาน 4 รายที่อาคาร Red and White ของหน่วยงานในกรุงจาการ์ตาตอนใต้
พยานทั้ง 4 รายประกอบด้วยนายอัคหมัด รูฮุดิน เจ้าหน้าที่การเงินของสมาคมมูเทียร่า,ผู้จัดการบริษัทอูฮุดทัวร์,นายอารี ปราเสตโยผู้จัดการบริษัทอูฮุดทัวร์,,นายอัสรุล อาซิส ทาบา ประธานสมาคมการท่องเที่ยวและการเดินทางฮัจญ์และอุมเราะห์แห่งชาวอินโดนีเซีย (เกศธูรี) และผู้จัดการบริษัทราวดาห์ เอ็กซาติ อุตามา และนายเอริส เฮอร์ลัมบัง จากบริษัท Anugerah Citra Mulia
Tempo รายงานคำแถลงของนายบูดีซึ่งลายลักษณ์อักษรเมื่อวันที่ 3 กันยายนระบุว่าทั้งหมดถูกตรวจสอบเกี่ยวกับกระบวนการในการขอโควตาฮัจญ์เพิ่มเติม และความเป็นไปได้ที่ผู้สมัครฮัจญ์ด้วยโควตาพิเศษจะสามารถออกไปได้ทันทีโดยไม่ต้องเข้าคิว”
@ทรัพย์สินและหลักฐานที่ถูกยึด
สำนักข่าว VOI.id รายงานว่าคดีนี้นำไปสู่การยึดทรัพย์สินจำนวนมาก โดยเจ้าหน้าที่สืบสวนได้ยึดทรัพย์สินมูลค่า 1.6 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (51,264,000 บาท) รถยนต์ 4 คัน และที่ดินและอาคาร 5 แปลง ซึ่งเชื่อมโยงกับผู้ต้องสงสัยว่าแสวงหากำไรจากการจัดสรรโควตา
นายบูดี อธิบายว่าการยึดทรัพย์สินเหล่านี้เป็นสิ่งจำเป็นทั้งในการเสริมสร้างหลักฐานและเพื่อให้แน่ใจว่ารัฐสามารถกู้คืนความเสียหายได้
“นี่เป็นก้าวแรกของ KPK ในการปรับปรุงประสิทธิภาพการกู้คืนทรัพย์สินให้เหมาะสมที่สุด ท่ามกลางความสูญเสียทางการเงินที่เกิดจากการทุจริต” นายบูดีกล่าว
การสืบสวนยังเกี่ยวข้องกับบุคคลสำคัญหลายคน รวมถึงนายยากุต โชลิล คูมาส อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกิจการศาสนา ซึ่งถูกตั้งคำถามถึงเหตุผลเบื้องหลังการจัดสรรโควตา 50:50 ระหว่างผู้แสวงบุญพิธีฮัจญ์ปกติและฮัจญ์แบบพิเศษ ซึ่งเป็นข้อครหาจนถึงตอนนี้
สำนักข่าว Tempo.co รายงานเน้นย้ำว่าการจัดสรรโควตานี้ละเมิดกฎหมายที่มีอยู่ ซึ่งกำหนดว่าโควตา 92% ควรมอบให้กับผู้แสวงบุญปกติ และเพียง 8% ให้กับผู้เข้าร่วมฮัจญ์แบบพิเศษ
@เส้นทางการเงินและเหตุผลทางกฎหมาย
เจ้าหน้าที่ KPK ย้ำว่าการสอบสวนครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเปิดเผยกระแสเงินทุนผิดกฎหมายที่เกิดจากการซื้อขายโควตา ซึ่งมีการกล่าวหาในเรื่องนี้
สำนักข่าว VOI.id ระบุว่า การสอบสวนนี้ได้รับการสนับสนุนผ่านกระบวนการออกหมายจับทั่วไป (Sprindik) ซึ่งให้อำนาจในการบังคับใช้มาตรการบังคับ รวมถึงการสอบสวนและการตรวจค้นพยาน หมายจับนี้ใช้บังคับตามมาตรา 2 และมาตรา 3 ของกฎหมายป้องกันและปราบปรามการทุจริต ควบคู่ไปกับมาตรา 55 ของประมวลกฎหมายอาญา ซึ่งตอกย้ำว่าเรื่องอื้อฉาวดังกล่าวได้สร้างความเสียหายแก่รัฐอย่างมาก
การประมาณการเบื้องต้นระบุว่าการสูญเสียดังกล่าวสูงกว่า 1 ล้านล้านรูเปียห์ แต่สำนักข่าว Tempo.co รายงานว่าตัวเลขดังกล่าวอาจเพิ่มขึ้นอย่างมาก เนื่องจาก KPK ยังคงประสานงานกับหน่วยงานตรวจสอบสูงสุด (BPK) ของอินโดนีเซีย ซึ่งเทียบเท่ากับ สตง.ของไทย เพื่อประเมินความเสียหายต่อไป
KPK รายงานข่าวว่าการทุจริตโควตาพิธีฮัจญ์อาจทำให้อินโดนีเซียเสียเงินไปถึง 1 ล้านล้านรูเปียห์ (อ้างอิงวิดีโอจาก Tribun Timur)
@คำให้การและการสนับสนุนจากสถาบันที่เกี่ยวข้อง
เจ้าหน้าที่จากสำนักงานบริหารการเงินฮัจญ์ (BPKH) ก็ถูกสอบสวนเช่นกัน โดยนายฟัดลุล อิมันชาห์ หัวหน้าสำนักงาน BPKH ยืนยันหลังจากการประชุมกับผู้สอบสวนเป็นเวลาหนึ่งวันเมื่อวันที่ 2ก.ย.ที่ผ่านมา ว่าเขาให้ข้อมูลและสนับสนุนกระบวนการทางกฎหมายอย่างเต็มที่ ในการให้สัมภาษณ์กับ VOI.id นายฟัดดุลย้ำว่า “ในฐานะพลเมืองดีและตัวแทนของสถาบันของรัฐ เราสนับสนุนความพยายามทั้งหมดในการบังคับใช้กฎหมายอย่างเต็มที่”
อย่างไรก็ตาม ไม่ใช่ทุกคนที่ถูกเรียกตัวจะให้ความร่วมมือ เพราะสำนักข่าว Tempo.co รายงานว่า นายคาลิด ซีด อับดุลเลาะห์ บาซาลามาห์ นักเทศน์และเจ้าของอูฮุดทัวร์ ไม่ได้มาปรากฏตัวเพื่อรับการสอบปากคำ โดยนายคาลิดอ้างว่าเขาติดภารกิจ ทำให้มาไม่ได้
อย่างไรก็ตามการที่นายคาลิดไม่มา ทำให้การสอบสวนที่ขยายวงกว้างอยู่แล้ว ซับซ้อนมากขึ้น โดยเรื่องนี้เกี่ยวข้องกับเจ้าหน้าที่รัฐ ผู้จัดการฝ่ายการเงิน และผู้ประกอบการทัวร์เอกชน
@ผลกระทบต่อผู้แสวงบุญและสถาบันต่างๆ
เรื่องอื้อฉาวเรื่องโควตาพิธีฮัจญ์เป็นมากกว่าอาชญากรรมทางการเงิน สำหรับชาวอินโดนีเซียหลายล้านคนที่รอคอยนานถึงสองทศวรรษเพื่อเข้าแสวงบุญพิธีฮัจญ์
และเนื่องจากการที่ต้องรอนานดังกล่าว ทำให้มีข่าวว่าบางคนพยายามลัดคิวด้วยวิธีการฉ้อฉล โดยสำนักข่าว VOI.id ระบุว่าการใช้ความปรารถนาดีของซาอุดีอาระเบียในทางที่ผิดในการจัดสรรโควตาเพิ่ม 20,000 โควตา บั่นทอนทั้งศรัทธาในสถาบันทางศาสนาและความน่าเชื่อถือในระดับนานาชาติของอินโดนีเซีย
ขณะที่การสืบสวนยังคงดำเนินต่อไป KPK กำลังเผชิญกับความท้าทายสองประการ คือ 1.การติดตามธุรกรรมทางการเงินที่ซับซ้อนและการเอาผิดบุคคลสำคัญ ด้วยความเสียหายของรัฐที่พุ่งสูงกว่า 1 ล้านล้านรูเปียห์แล้ว
และ2.โอกาสที่จะมีการเปิดเผยเพิ่มเติมในอนาคต
คดีนี้จึงถือเป็นหนึ่งในคดีทุจริตอื้อฉาวที่สำคัญที่สุดที่ส่งผลกระทบต่อภาคธุรกิจศาสนาของอินโดนีเซียในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ทั้งสำนักข่าว Tempo.co และสำนักข่าว VOI.id ย้ำว่าผลลัพธ์การสืบสวนจะถูกจับตามองอย่างใกล้ชิด เพราะไม่ใช่แค่การเรียกคืนเงินทุนของรัฐกลับมาเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการฟื้นฟูความเชื่อมั่นของประชาชนที่มีต่อกระบวนการแสวงบุญพิธีฮัจญ์ด้วย
เรียบเรียงจาก:https://www.intellinews.com/indonesia-uncovers-over-60mn-in-hajj-quota-corruption-399270/?source=indonesia
- ส่องคดีทุจริตโลก:เปิดโปงซัพพลายเออร์จีนเทาปริศนา ส่งอิฐปลอม ให้ บ.ฮ่องกง สร้างสถานีรถไฟ
- ส่องคดีทุจริตโลก:รบ.ฮ่องกง ทำสัญญาฉาว 221 ล. จัดหาน้ำดื่มด้อยคุณภาพจากจีนแผ่นดินใหญ่
- ส่องคดีทุจริตโลก:โปแลนด์สอบ บ.ที่ปรึกษาปริศนา ออกใบแจ้งหนี้นำเข้าอาวุธเกาหลีเป็นเท็จ
- ส่องคดีทุจริตโลก: หัวหน้าฝ่ายการตลาด บ.แม่ AI DeepSeek ร่วมขบวนการโกงคอมมิชชั่นร้อย ล.
- ส่องคดีทุจริตโลก:แฉฮุน เซน เซ็น ทิ้งทวนนายกฯยกอุทยานเฉียดพันเฮกตาร์ให้ลูกคนใกล้ชิดบริหาร
- ส่องคดีทุจริตโลก:อัยการเกาหลีสอบคดีสินบน ปธน.ยุน โยงโครงการก่อสร้างที่กัมพูชา
- ส่องคดีทุจริตโลก: ป.ป.ช.มาเลย์เข้าสอบ บ.ผลิตชิป Nvidia ลักลอบขนเศษเหล็กเข้าจีน-อินเดีย
- ส่องคดีทุจริตโลก:กห.ออสซี่อ้างไม่เข้าข่ายขัดกันแห่งผล ปย.เหตุ จนท.รับงาน บ.คู่สัญญาเรือรบ
- ส่องคดีทุจริตโลก: โรมาเนียรวบขบวนการปลอมโพรไฟล์บริษัท รับงานรัฐใช้งบ EU ร่วม 3.8 พันล.
- ส่องคดีทุจริตโลก: เปิดโปงเอกชน มท.1กัมพูชาถือหุ้น โยงคาสิโน-ลงทุนเกาะปาเลา 3.2 หมื่น ล.
- ส่องคดีทุจริตโลก:ตีแผ่เว็บคริปโตฯหลาน 'ฮุน เซน' เชื่อมโยงฟอกเงินเกาหลีเหนือพัน ล.
- ส่องคดีทุจริตโลก: จนท.USAID-เอกชน สมคบขบวนการสินบนตั้งแต่ปี 56 ได้สัญญารัฐ 1.7 หมื่นล.
- ส่องคดีทุจริตโลก: ทวิตเตอร์ส่อโดนสอบ เหตุรับเงินผู้ก่อการร้าย ใช้งานบริการยืนยันตัวตน
- ส่องคดีทุจริตโลก: ข้อพิรุธจัดซื้ออาหารเด็กลัตเวีย ใช้วิธีจับสลาก เลือกผู้ชนะประวัติฉาว
- ส่องคดีทุจริตโลก:ผู้รับเหมาแฟลตฮ่องกง 2 หมื่นล. จ่ายสินบนหัวหน้างานแลกใช้เหล็กด้อยคุณภาพ
- ส่องคดีทุจริตโลก: นักธุรกิจฉาวพัวพัน 'ทรัมป์' เอี่ยวลงทุนศูนย์ข้อมูล TikTok ที่ฟินแลนด์
- ส่องคดีทุจริตโลก:บ.ออฟชอร์จ่ายให้! ลูกขุนคลังเซอร์เบียเรียน รร.นานาชาติ ค่าเทอมหลัก ล.
- ส่องคดีทุจริตโลก:ข้อครหา บ.จีน ส่งเอกสารปลอม เข้าประมูลเทคนิค โรงไฟฟ้าพลังงานน้ำที่เนปาล
- ส่องคดีทุจริตโลก: เปิดประวัติคาร์ดินัลโดนคดีการเงิน อ้างมีสิทธิ์โหวตโป๊ปพระองค์ใหม่
- ส่องคดีทุจริตโลก: รัฐสภาเนปาลสอบ จนท.เอื้อประโยชน์ บ.จีน หนีภาษี-ย้อมแมวสนามบิน 7พันล.
- ส่องคดีทุจริตโลก: ธนาคารชั้นนำสวิสถูกสอบ เหตุทำธุรกรรมกับลูกค้าความเสี่ยงสูง 1,400 บัญชี
- ส่องคดีทุจริตโลก:ข้อพิรุธไชน่า เรลเวย์ อินเตอร์ฯ ใช้นอมินีรับสัญญารถไฟแอฟริกาใต้หมื่น ล.
- ส่องคดีทุจริตโลก: แอฟริกาใต้จ้างเอกชนจีนมีประวัติโดนขึ้นบัญชีดำในต่างแดน สร้างถนน
- ส่องคดีทุจริตโลก:ย้อนรอย บ.จีนจ้างแฟนเก่าอดีต ปธน.โบลิเวียนั่งบริหาร รับสัญญารัฐหมื่นล.
- ส่องคดีทุจริตโลก:ป.ป.ช.อินโดฯ เดินหน้าสอบบิ๊กธนาคาร เอี่ยวจ่ายคอมมิชชั่น บ.โฆษณา 449 ล.
- ส่องคดีทุจริตโลก: รัฐวิสาหกิจจีนประวัติฉาว ทำสัญญาสร้างเขื่อน 1.8 หมื่นล. ที่ฮอนดูรัส
- ส่องคดีทุจริตโลก:เช็กเกียสั่งสอบ 17 ผู้ต้องหา เอี่ยวกินเปอร์เซ็นต์สัญญา รพ.มูลค่าพัน ล.
- ส่องคดีทุจริตโลก:กห.ออสซี่ทำสัญญาหมื่นล.เอกชนถูกสอบฮั้วราคาอุปกรณ์-บริการฐานทัพทหาร
- ส่องคดีทุจริตโลก:สภายูเครนผ่านร่าง กม.ซื้อเครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์ 2 หมื่นล.ส่อไม่โปร่งใส
- ส่องคดีทุจริตโลก:NGO ฉ้อโกงเงิน USAIDนับร้อยล้าน-ยักยอกอาหารผู้ลี้ภัยขายผู้ก่อการร้าย
- ส่องคดีทุจริตโลก:บ.สิงคโปร์ค้าน้ำมันให้กองทัพเมียนมา ก่ออาชญากรรมสงคราม ทำรายได้ พันล.
- ส่องคดีทุจริตโลก:ซาอุฯเดินหน้าสัญญาซื้ออาวุธรัสเซีย 7.7 หมื่นล.แม้ถูกคว่ำบาตรปมบุกยูเครน
- ส่องคดีทุจริตโลก:ก.คลังสหรัฐฯ คว่ำบาตรธนาคารคีร์กีซ เหตุช่วยแบงก์รัสเซียเลี่ยงคว่ำบาตร
- ส่องคดีทุจริตโลก: CEO กรมน้ำฯแอลเอ บริหารงานล้มเหลว? ต้นเหตุหัวดับเพลิงไม่ทำงานช่วงไฟป่า
- ส่องคดีทุจริตโลก:แฉแผนทรมาน ปธ.กกต.เกาหลีฯช่วงอัยการศึก บังคับประกาศเหตุโกงเลือกตั้ง สส.

Isranews Agency | สำนักข่าวอิศรา