
ในปี 2558 KRIK และ OCCRP เปิดเผยว่านายมาลีมีบทบาทในบริษัทแห่งหนึ่ง ในปีถัดมา บริษัทหยุดจ่ายค่าเล่าเรียนให้กับลูกของนายมาลี แต่บริษัทอีกสองแห่งได้มารับช่วงต่อ แม้ว่าผู้สื่อข่าวจะไม่สามารถระบุได้ว่าบริษัทเหล่านี้มีความสัมพันธ์โดยตรงกับนายมาลีหรือไม่ แต่ดูเหมือนว่ารูปแบบของบริษัททั้งสองจะถูกออกแบบมาเพื่อปกปิดแหล่งที่มาของเงินที่ใช้จ่ายให้กับโรงเรียนเอกชน
ส่องคดีทุจริตโลก สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) สัปดาห์นี้ขอนำเสนอข่าวกรณีนายซินิชา มาลี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังของเซอร์เบีย และอดีตนายกเทศมนตรีกรุงเบลเกรด มีเงินส่งเสียลูกสามคนของเขาไปเรียนโรงเรียนนานาชาติเบลเกรด (International School of Belgrade)ในช่วงเวลาที่เขายังเป็นนายกเทศมนตรี
ทว่าเงินค่าเทอม ค่าเล่าเรียน และค่าธรรมเนียมสำหรับบุตรสามคนในโรงเรียนดังกล่าวนั้นมีมูลค่าอยู่ที่หลายหมื่นดอลลาร์สหรัฐฯต่อปี แต่ว่าเงินเดือนสำหรับนายกเทศมนตรีตอนนั้นอยู่ที่เดือนละ 1 พันดอลลาร์สหรัฐฯ (32,930 บาท)
ย้อนไปในปี 2559 ในช่วงยังเป็นนายกเทศมนตรีอยู่ นายมาลีเคยให้การต่อศาลว่าเขาสามารถส่งลูกไปเรียนยังโรงเรียนที่มีค่าใช้จ่ายสูงได้ ก็เนื่องมาจากความอนุเคราะห์ของเพื่อนต่างชาติ แต่เขาปฏิเสธที่จะระบุชื่อเพื่อนที่ว่านี้
“ค่าใช้จ่ายโรงเรียนเอกชน ถูกจ่ายโดยเพื่อนของผม เพื่อนที่ผมพบในต่างประเทศ ซึ่งไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับประเทศเซอร์เบีย” นายมาลีกล่าวต่อหน้าผู้พิพากษาซึ่งตัดสินข้อพิพาทระหว่างเขาและอดีตภรรยา
การให้การดังกล่าว ได้ทำให้หน่วยงานต่อต้านทุจริตของเซอร์เบียเข้ามาเปิดคดี ตรวจสอบและยื่นรายงานต่ออัยการ ทว่าคดีนี้ก็ไม่เคยได้พบกับบทสรุป เนื่องจากว่านายมาลีทำข้อตกลงกับอัยการเพื่อเลี่ยงจากการถูกตั้งข้อหาซึ่งมีโทษจำคุก 5 ปีด้วยการบริจาคเงิน 2 พันดอลลาร์สหรัฐฯ (65,859 บาท) ให้กับการกุศล แล้วคดีนี้ก็ดูเหมือนว่าจะถูกทำให้เลือนหายไป
อย่างไรก็ตามสำนักข่าวเครือข่ายผู้สื่อข่าวที่รายงานเกี่ยวกับองค์กรอาชญากรรมและการทุจริต (OCCRP) และสำนักข่าวพันธมิตรในเซอร์เบียอย่าง KRIK เปิดเผยข้อมูลใหม่ว่าบริษัทนอกอาณาเขตหรือออฟชอร์จำนวนสามแห่งเป็นแหล่งจ่ายเงินค่าเล่าเรียนให้กับลูกๆทั้งสามคนของนายมาลี และในบางกรณีพบว่าเจ้าของบริษัทนอกอาณาเขตมีความเกี่ยวข้องกับประเทศเซอร์เบีย
โดยข้อมูลดังกล่าวนั้นเป็นเอกสารความลับในรายงานของหน่วยต่อต้านทุจริต ซึ่งสำนักข่าว KRIK รวบรวมได้มาพร้อมเอกสารอื่นๆ

เอกสารหน่วยงานต่อต้านทุจริตเซอร์เบียระบุข้อมูลบริษัทนอกอาณาเขตที่จ่ายเงินค่าเทอมให้กับลูกของนายมาลี
พบข้อมูลว่ามีเงินส่วนใหญ่มาจากบริษัทในหมู่เกาะบริติชเวอร์จิน ที่นายมาลีเป็นเจ้าของ ยังไม่ชัดเจนว่าบริษัทเหล่านี้ได้เงินมาจากไหน และนายมาลีก็ไม่ได้ตอบกลับคำขอให้แสดงความเห็นในเรื่องนี้
ในปี 2558 KRIK และ OCCRP เปิดเผยว่านายมาลีมีบทบาทในบริษัทแห่งหนึ่ง ในปีถัดมา บริษัทหยุดจ่ายค่าเล่าเรียนให้กับลูกของนายมาลี แต่บริษัทอีกสองแห่งได้มารับช่วงต่อ แม้ว่าผู้สื่อข่าวจะไม่สามารถระบุได้ว่าบริษัทเหล่านี้มีความสัมพันธ์โดยตรงกับนายมาลีหรือไม่ แต่ดูเหมือนว่ารูปแบบของบริษัททั้งสองจะถูกออกแบบมาเพื่อปกปิดแหล่งที่มาของเงินที่ใช้จ่ายให้กับโรงเรียนเอกชน
บริษัทแห่งที่สองซึ่งจดทะเบียนในหมู่เกาะบริติชเวอร์จินพบว่าเป็นของนักธุรกิจชาวเซอร์เบียที่เคยให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวว่าบริษัทของเขาถูกใช้เป็นตัวกลางรับเงิน โดยไม่เปิดเผยตัวตนของผู้จ่ายเงินที่แท้จริง เขากล่าวว่าไม่รู้ว่าเงินที่ใช้เป็นค่าเล่าเรียนมาจากไหน เนื่องจากจ่ายเป็นเงินสดให้กับตัวแทนบริการทางการเงินของเขาในไซปรัส ซึ่งตัวแทนในไซปรัสก็ปฏิเสธไม่ทราบเกี่ยวกับธุรกรรม
ส่วนบริษัทแห่งที่สามซึ่งจดทะเบียนในไซปรัสก็ไม่มีการเปิดเผยตัวตนของเจ้าของบริษัท

โรงเรียนนานาชาติเบลเกรด
@เงินสดจากแคริบเบียน
ค่าใช้จ่ายในโรงเรียนส่วนใหญ่ ประมาณ 150,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ (4,939,499 บาท) ระหว่างปี 2553 ถึง 2558 จ่ายโดยบริษัท Alessio Investment Ltd ซึ่งเป็นบริษัทที่จดทะเบียนในหมู่เกาะบริติชเวอร์จิน
โดยในปี 2558 OCCRP และ KRIK ได้รับเอกสารมอบอํานาจที่เปิดเผยว่านายมาลีเคยดํารงตําแหน่งกรรมการของ Alessio Investment และต่อมาก็ปรากฏในคําให้การที่เกี่ยวข้องกับคดีในศาลที่เกี่ยวข้องกับครอบครัวของนายมาลีว่าเขาเป็นเจ้าของ Alessio Investment ด้วย
อย่างไรก็ตาม หลังจากสำนักข่าว OCCRP และ KRIK รายงานข่าวเกี่ยวกับบทบาทของบริษัท Alessio Investment ในปี 2558 บริษัทแห่งนี้ก็ได้หยุดจ่ายค่าเล่าเรียนลง และปีต่อมา บริษัทนอกอาณาเขตสองแห่งก็เข้ามามีบทบาทในการจ่ายค่าเล่าเรียนแทน
@แพนโดร่าเปเปอร์สระบุข้อมูลบริษัทที่สอง
จากข้อมูลเอกสารแพนโดร่าเปเปอร์สระบุว่าในช่วงปี 2559-2560 บริษัท Evon Invest & Trade Corp ซึ่งเป็นบริษัทอีกแห่งที่จดทะเบียนในบริติชเวอร์จิน เข้ามามีบทบาทจ่ายค่าเล่าเรียนมูลค่า 6 หมื่นดอลลาร์สหรัฐฯ (1,975,799) โดยบริษัทนี้มีเจ้าของเป็นนักธุรกิจเซอร์เบียชื่อนายบรันโก โจวาโนวิช (Branko Jovanović) เป็นเจ้าของบริษัท
แพนโดร่าเปเปอร์สระบุข้อมูลโครงสร้างบริษัท Evon Invest & Trade Corp ว่าถูกก่อตั้งที่เกาะบริติชเวอร์จิน โดยมีผู้ก่อตั้งคือบริษัททรัสต์ชื่อว่า บริษัท Trident Trust ซึ่งเป็นบริษัทเดียวกันกับที่นายมาลีใช้ก่อตั้งบริษัท Alessio Investment
ผู้สื่อข่าวได้พยายามเข้าไปติดต่อนายโจวาโนวิช ที่ถูกระบุว่าเป็นเจ้าของบริษัท ซึ่งตัวเขาก็ยืนยันว่าเป็นเจ้าของจริง และได้อธิบายว่าบริษัทของเขาเข้าไปจ่ายเงินค่าเทอมให้ลูกของนายมาลีได้อย่างไร
“มีคนบอกว่านี่เป็นเงินสำหรับโรงเรียน สำหรับค่าเล่าเรียนเด็ก ซึ่งผมก็คิดแล้วว่ามันไม่ใช่เงินสำหรับอาวุธ หรือยาเสพติด ผมก็เลยจ่าย เพราะคิดว่าไม่เป็นไร” นายโจวาโนวิชกล่าว
นายโจวาโนวิชกล่าวว่านี่ถือว่าไม่ใช่เรื่องแปลกสำหรับเรื่องของการเงินนอกชายฝั่ง
“ระบบการเงินนอกชายฝั่งจะเป็นแบบนี้ตลอด จะมีบางคนโทรมาแล้วถามคุณว่าคุณสามารถจ่ายเงินสำหรับอะไรได้บ้างหรือไม่ ซึ่งถ้าคุณมีเงินเหลือในบัญชี กรณีนี้บางคนก็ยอมจ่ายเงิน และมันก็ไม่เป็นอะไร คุณจะคิดค่าบริการทางธุรกรรมจากการจ่ายเงินหนึ่งเปอร์เซ็นต์ และมันก็แค่นั้น” นายโจวาโนวิชกล่าว
นักธุรกิจจากเซอร์เบียกล่าวว่าตัวเขาไม่เห็นอะไรน่าสงสัยเกี่ยวกับการทำธุรกรรม ณ เวลานั้น และก็ไม่ได้รับการแจ้งเตือนด้วยว่าเงินสำหรับค่าเล่าเรียนที่ว่ามานี้ จะเป็นเงินค่าเล่าเรียนของลูกของนายมาลี นายกเทศมนตรีกรุงเบลเกรด
นายโจวาโนวิชกล่าวว่าหลังจากที่เขาได้รับแจ้งว่ามีการส่งมอบเงินสดไปยังสำนักงานของตัวแทนทางการเงินของเขาในไซปรัส ตัวเขาก็ได้อนุมัติให้มีการชำระเงินจากบัญชีในธนาคารที่ไซปรัสในชื่อบัญชีบริษัท Evon Invest & Trade Corp
เมื่อผู้สื่อข่าวแจ้งนายโจวาโนวิช ว่านายมาลีอ้างว่า เพื่อนของนายมาลีเป็นคนที่จ่ายเงินค่าเล่าเรียนให้กับลูกๆของนายมาลี นายโจวาโนวิชกล่าวต่อไปว่า “ผมหวังจะมีเพื่อนแบบนั้น เพื่อนแบบไหนกันที่ยอมจ่ายเงินจากกระเป๋าตัวเองเพื่อการศึกษาของลูกๆของคุณ และคุณไม่ต้องจ่ายเงินคืนให้พวกเขา”
นายโจวาโนวิช ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวยืนยันว่าผู้ที่จัดการเรื่องการทำธุรกรรมการเงินที่ไซปรัสก็คือนายเดยัน ฮันจิช (Dejan Janjić) ตัวแทนผู้จัดตั้งบริษัทในไซปรัส ซึ่งมีประวัติเคยทำงานกับชาวเซอร์เบียผู้ร่ำรวย
ผู้สื่อข่าวได้ติดต่อไปยังนายฮันจิช ซึ่งนายฮันจิชกล่าวว่าเขาจำนายโจวาโนวิชไม่ได้ และกล่าวยืนยันว่าเขาไม่เคยไปยุ่งเกี่ยวกับการทำธุรกรรมการจ่ายค่าเล่าเรียนแต่อย่างใด
“ทั้งชื่อและบริษัทไม่ได้มีความหมายอะไรสําหรับผม ผมไม่รู้จริงๆ ว่าคุณกําลังพูดถึงใคร เชื่อผมเถอะ ผมไม่รู้ว่าคนนี้คือใครหรือเป็นบริษัทอะไร” นายฮันจิชกล่าว
อย่างไรก็ตาม เอกสารแพนโดร่าเปเปอร์สมีข้อมูลที่รั่วไหลออกมา บ่งชี้ว่านายโจวาโนวิชเคยทำงานร่วมกับนายฮันจิชในปี 2558 เนื่องจากว่าหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการจดทะเบียนบริษัท Evon Invest & Trade Corp บนเกาะบริติชเวอร์จินได้มีการส่งบันทึกบริษัทไปยังบริษัทของนายฮันจิชที่ไซปรัส
@บริษัทนอกอาณาเขตอีกแห่ง ซึ่งจ่ายค่าเล่าเรียนอีกปี
ล่าสุดปีที่แล้ว มีข้อมูลปรากฏว่ามีอีกบริษัทหนึ่งที่เข้าไปจ่ายค่าเล่าเรียนให้กับลูกๆของนายมาลีในช่วงปี 2558-2559 คิดเป็นมูลค่า 6 หมื่นดอลลาร์สหรัฐฯ โดยบริษัทนี้มีชื่อว่า Avant Trade Technical Limited จดทะเบียนที่ประเทศไซปรัส และบริษัทนี้มีการซ่อนผู้ที่เป็นผู้ที่เป็นเจ้าของบริษัทที่แท้จริง ผ่านผู้ที่เป็นนอมินีของบริษัท เพราะว่ามีข้อมูลผู้ถือหุ้นของบริษัทนี้เพียงแค่รายเดียว
โดยผู้ถือหุ้นรายเดียวของบริษัทก็คือบริษัทซึ่งเป็นผู้ให้บริการ ทำหน้าที่เป็นเจ้าของบริษัทในไซปรัสหลายแห่ง
แม้ว่าตอนนี้ไซปรัสจะไม่ได้กําหนดให้บริษัทต่างๆ ประกาศต่อสาธารณะว่าเจ้าของผลประโยชน์สูงสุด (UBO) ของบริษัทนั้นเป็นใครกันแน่ แต่ก็มีช่วงเวลาที่ไซปรัสเคยประกาศชื่อ UBO ต่อสาธารณะเป็นเวลาหลายเดือนในช่วงปี 2565
โดยช่วงเวลาหลายเดือนในปี 2565 ดังกล่าว ทางผู้สื่อข่าวสำนักข่าว OCCRP และ KRIK ได้พยายามขอชื่อผู้รับผลประโยชน์สูงสุดของบริษัท Avant Trade Technical Limited แต่ได้รับคำตอบกลับมาว่าผู้รับผลประโยชน์สูงสุดของบริษัทนี้ไม่เคยถูกประกาศต่อสำนักจดทะเบียนในไซปรัส
อนึ่งประเทศในยุโรปหลายประเทศรวมถึงในไซปรัส ถูกกำหนดให้เปิดเผย UBO ต่อสาธารณะ ในช่วงระยะเวลาสั้นๆ ก่อนที่ในปี 2565 ศาลยุติธรรมยุโรปจะมีคำสั่งอนุญาตให้ปกปิดการเข้าถึงข้อมูล UBO ซึ่งคำตัดสินดังกล่าวได้กลายเป็นประเด็นที่มีการถกเถียงกันเป็นอย่างยิ่ง
สำหรับบริษัท Avant Trade Technical Limited ไม่ปรากฏว่ามีเว็บไซต์หรือโฆษณาบริการของบริษัทเปิดเผยสู่สาธารณะแต่อย่างใด และผู้สื่อข่าวก็ไม่เคยได้รับคำตอบใดๆเลย สำหรับกรณีเกี่ยวกับผู้ถือหุ้นบริษัท

ไทม์ไลน์ที่บริษัทนอกอาณาเขตได้เข้าไปมีส่วนในการจ่ายค่าเทอม
โดยข้อมูลจากหน่วยงานจดทะเบียนบริษัทไซปรัสระบุเพียงแค่ว่าบริษัท Avant Trade Technical Limited นั้นมีกิจกรรมบริษัทได้แก่ “การค้าอุปกรณ์โทรคมนาคม” และ “การให้บริการด้านคําปรึกษาและการเงิน”
ร่องรอยเดียวของกิจกรรมทางธุรกิจที่ผู้สื่อข่าวสามารถพบได้เกี่ยวกับบริษัท Avant Trade Technical คือธุรกรรมหลายรายการที่เกี่ยวข้องกับกลุ่ม Comita ซึ่งเป็นกลุ่มบริษัทนานาชาติ ที่มีศูนย์กลางของกลุ่มอยู่ที่กรุงมอสโก ประเทศรัสเซีย
โดยกลุ่มบริษัทนี้ดำเนินกิจการทั่วยุโรป รวมไปถึงที่ประเทศเซอร์เบีย และมีประวัติการทำงานอันยาวนานร่วมกับภาคส่วนโทรคมนาคมและภาคส่วนพลังงานของรัสเซีย
สำหรับประวัติการทำธุรกรรมของ Avant Trade Technical ที่เกี่ยวข้องกับกลุ่ม Comita มีรายละเอียดอาทิ
-บริษัทในกลุ่ม Comita ซึ่งอยู่ที่ประเทศสโลวีเนีย ที่ดำเนินกิจกรรมในประเทศเซอร์เบียด้วยได้มีการจ่ายเงินให้กับบริษัท Avant Trade Technical ในปี 2555 คิดเป็นเงินมูลค่า 5 ล้านยูโร (214,044,972 บาท) โดยข้อมูลนี้มาจากฐานข้อมูลของหน่วยต่อต้านการฟอกเงินของสโลวีเนีย ซึ่งเผยแพร่ธุรกรรมที่มีความเสี่ยงสูงไปยังและมาจากหน่วยงานนอกสโลวีเนีย
อย่างไรก็ตาม ฐานข้อมูลไม่ได้ให้รายละเอียดเกี่ยวกับเหตุผลในการทําธุรกรรม โดยอธิบายเพียงว่า “การชําระเงินล่วงหน้าภายใต้สัญญา”
-กลุ่ม Comita ในสโลวีเนียยังได้มีการจ่ายเงินให้กับ Avant Trade Technical เป็นจำนวนมากกว่าครึ่งล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในช่วงปี 2558 ตามรายงานจากฐานข้อมูล
-ในปี 2558 บริษัท Avant Trade Technical Limited ได้รับเงินกู้ 1.6 ล้านยูโร (57,956,792 บาท) จากบริษัทในไซปรัสที่เป็นเจ้าของบริษัท Iskra Systems ซึ่งเป็นบริษัทในกลุ่ม Comita ตามรายงานทางการเงินประจําปีของ Avant Trade
-ในปี 2557 พบว่าบริษัท Avant Trade Technical Limited เข้าครอบครองบริษัทไซปรัสแห่งหนึ่ง ที่มีเจ้าของก่อนหน้าคือบริษัทซึ่งอยู่ในกลุ่ม Comita
ในเซอร์เบีย Comita ดําเนินการผ่านสาขาที่สโลวีเนีย ซึ่งเป็นที่เดียวกันกับที่ชําระเงินให้กับบริษัท Avant Trade Technical โดย Comita เปิดสาขาในกรุงเบลเกรดเมื่อสิบกว่าปีที่แล้วด้วยความช่วยเหลือของนายอิกอร์ อิซาโลวิช (Igor Isailovic) ทนายความและเพื่อนสนิทของนายมาลี
แต่ว่านายอิซาโลวิชก็ไม่ใช่คนเดียวที่เป็นคอนเน็คชั่นเชื่อมโยงระหว่างกลุ่ม Comita กับนายมาลี เพราะว่ากลุ่มยังเคยทำธุรกิจกับบริษัท KBV Datacom บริษัทโทรคมนาคมสัญชาติเซอร์เบีย ซึ่งสำนักข่าว KRIK เคยทำข่าวเปิดโปงว่าบริษัทนี้มีความสัมพันธ์ที่สะดุดตากับครอบครัวของนายมาลี
ในปี 2562 ผู้สื่อข่าวพบว่าน้องชาย (หรือพี่ชาย) ของนายมาลีชื่อว่าพรีดราก (Predrag) ได้ขับรถรุ่นออดี A6 มาเป็นระยะเวลาห้าปีแล้ว โดยมีผู้เป็นเจ้าของรถได้แก่บริษัท KBV Datacom และบริษัทแม่ชื่อว่า Millennium Team ซึ่งบริษัทนี้เป็นหนึ่งในบริษัทก่อสร้างที่ใหญ่ที่สุดของเซอร์เบีย อย่างไรก็ตาม พี่น้องมาลีไม่เคยชี้แจงต่อสาธารณะเกี่ยวกับการพบข้อมูลนี้
ทั้งบริษัท KBV Datacom และบริษัท Millennium Team ต่างก็ได้รับสัญญามูลค่าสูงจากรัฐบาลเซอร์เบีย รวมถึงสัญญาโครงการพัฒนาเมืองที่กำลังเป็นประเด็นถกเถียง โดยมีบริษัท Millennium Team เป็นผู้รับงาน และมีนายมาลีเป็นผู้เจรจาสัญญา
ข้อมูลจากหน่วยต่อต้านการฟอกเงินของสโลวีเนียแสดงให้เห็นว่า Comita ได้ชําระเงินผ่านสาขาเซอร์เบียมากกว่า 1 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (32,929,995 บาท) ให้กับบริษัท KBV Datacom ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของ Millennium Team ในเดือนสิงหาคม 2562
ผู้สื่อข่าวได้พยายามติดต่อทั้งสองบริษัท โดยทนายความที่ทำหน้าที่ตัวแทนบริษัท Millennium Team และ KBV Datacom กล่าวว่าทั้งสองบริษัท "ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการจัดหาเงินทุนสําหรับค่าเล่าเรียน" ของลูกๆ ของนายมาลี
อย่างไรก็ตามทนายความไม่ได้ตอบคําถามว่าบริษัทมีความสัมพันธ์ทางธุรกิจกับ Avant Trade Technical Limited หรือไม่ หรือวัตถุประสงค์ของการชําระเงินที่ KBV Datacom ได้รับจาก Comita นั้นคืออะไร
ส่วนกลุ่ม Comita ก็ไม่ได้ตอบคำขอให้แสดงความเห็นเช่นกัน
- ส่องคดีทุจริตโลก:ข้อครหา บ.จีน ส่งเอกสารปลอม เข้าประมูลเทคนิค โรงไฟฟ้าพลังงานน้ำที่เนปาล
- ส่องคดีทุจริตโลก: เปิดประวัติคาร์ดินัลโดนคดีการเงิน อ้างมีสิทธิ์โหวตโป๊ปพระองค์ใหม่
- ส่องคดีทุจริตโลก: รัฐสภาเนปาลสอบ จนท.เอื้อประโยชน์ บ.จีน หนีภาษี-ย้อมแมวสนามบิน 7พันล.
- ส่องคดีทุจริตโลก: ธนาคารชั้นนำสวิสถูกสอบ เหตุทำธุรกรรมกับลูกค้าความเสี่ยงสูง 1,400 บัญชี
- ส่องคดีทุจริตโลก:ข้อพิรุธไชน่า เรลเวย์ อินเตอร์ฯ ใช้นอมินีรับสัญญารถไฟแอฟริกาใต้หมื่น ล.
- ส่องคดีทุจริตโลก: แอฟริกาใต้จ้างเอกชนจีนมีประวัติโดนขึ้นบัญชีดำในต่างแดน สร้างถนน
- ส่องคดีทุจริตโลก:ย้อนรอย บ.จีนจ้างแฟนเก่าอดีต ปธน.โบลิเวียนั่งบริหาร รับสัญญารัฐหมื่นล.
- ส่องคดีทุจริตโลก:ป.ป.ช.อินโดฯ เดินหน้าสอบบิ๊กธนาคาร เอี่ยวจ่ายคอมมิชชั่น บ.โฆษณา 449 ล.
- ส่องคดีทุจริตโลก: รัฐวิสาหกิจจีนประวัติฉาว ทำสัญญาสร้างเขื่อน 1.8 หมื่นล. ที่ฮอนดูรัส
- ส่องคดีทุจริตโลก:เช็กเกียสั่งสอบ 17 ผู้ต้องหา เอี่ยวกินเปอร์เซ็นต์สัญญา รพ.มูลค่าพัน ล.
- ส่องคดีทุจริตโลก:กห.ออสซี่ทำสัญญาหมื่นล.เอกชนถูกสอบฮั้วราคาอุปกรณ์-บริการฐานทัพทหาร
- ส่องคดีทุจริตโลก:สภายูเครนผ่านร่าง กม.ซื้อเครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์ 2 หมื่นล.ส่อไม่โปร่งใส
- ส่องคดีทุจริตโลก:NGO ฉ้อโกงเงิน USAIDนับร้อยล้าน-ยักยอกอาหารผู้ลี้ภัยขายผู้ก่อการร้าย
- ส่องคดีทุจริตโลก:บ.สิงคโปร์ค้าน้ำมันให้กองทัพเมียนมา ก่ออาชญากรรมสงคราม ทำรายได้ พันล.
- ส่องคดีทุจริตโลก:ซาอุฯเดินหน้าสัญญาซื้ออาวุธรัสเซีย 7.7 หมื่นล.แม้ถูกคว่ำบาตรปมบุกยูเครน
- ส่องคดีทุจริตโลก:ก.คลังสหรัฐฯ คว่ำบาตรธนาคารคีร์กีซ เหตุช่วยแบงก์รัสเซียเลี่ยงคว่ำบาตร
- ส่องคดีทุจริตโลก: CEO กรมน้ำฯแอลเอ บริหารงานล้มเหลว? ต้นเหตุหัวดับเพลิงไม่ทำงานช่วงไฟป่า
- ส่องคดีทุจริตโลก:แฉแผนทรมาน ปธ.กกต.เกาหลีฯช่วงอัยการศึก บังคับประกาศเหตุโกงเลือกตั้ง สส.

Isranews Agency | สำนักข่าวอิศรา