โดยการพบปะกันนั้น พล.ท.โนห์กล่าวว่า “ถ้าเราจับและทรมานคนที่เกี่ยวกับการฉ้อโกงการเลือกตั้ง ความจริงเกี่ยวกับการโกงการเลือกตั้งจะปรากฏออกมา ดังนั้นเตรียมเครื่องมืออย่างพวกไม้เบสบอล คีม และสายรัดมาด้วย”
ส่องคดีทุจริตโลก สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) สัปดาห์นี้ขอนำเสนอกรณีความไม่โปร่งใสเชื่อมโยงเกี่ยวกับกรณีการประกาศกฎอัยการศึกของประธานาธิบดียุน ซอก ยอล ของเกาหลีใต้ ที่เป็นเหตุทำให้ตัวเขาถูกถอดถอนโดยรัฐสภาเมื่อช่วงเดือน ธ.ค.ที่ผ่านมา และปรากฎเป็นข่าวว่าศาลเกาหลีใต้ออกหมายจับนายยุน หลังจากยุนปฏิเสธเข้าให้การกับเจ้าหน้าที่ตามหมายเรียกถึง 3 ครั้ง แต่หมายจับดังกล่าวก็ถูกยกเลิกไปแล้วหลังจากที่หน่วยงานอารักขาประธานาธิบดีเกาหลีใต้ไม่ยอมให้เจ้าหน้าที่จากสำนักงานสอบสวนการทุจริตสำหรับเจ้าหน้าที่ระดับสูง (CIO) ดำเนินการจับกุม
สำนักข่าว MBC รายงานในช่วงวันที่ 1 ม.ค.ที่ผ่านมา ระบุว่า ในการสืบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจพบว่าแผนการประกาศกฎอัยการศึกเมื่อวันที่ 3 ธ.ค.นั้นแท้จริงแล้วมีบุคคลสำคัญคือ พล.ท.โนห์ ซัง วอน อดีตผู้บัญชาการหน่วยข่าวกรองกองทัพเกาหลีใต้ ทั้งนี้มีรายงานว่า พล.ท.โนห์นั้นมีแผนการที่จะทรมานสมาชิกคณะกรรมการการเลือกตั้ง (NEC) เพื่อให้มีแถลงการณ์เกี่ยวกับกรณีโกงการเลือกตั้ง โดยปัจจุบันนั้น พล.ท.โนห์ประกอบอาชีพเป็นคนทรงเจ้าและหมอดู หลังจากที่เขาถูกปลดประจำการจากกองทัพอย่างไม่สมเกียรติเนื่อจากคดีล่วงละเมิดทางเพศ
สำนักข่าว MBC ได้ข้อมูลเกี่ยวกับการให้ปากคำจาก พ.อ.จอง สังกัดกองบัญชาการความมั่นคงกลาโหม ระบุว่านายโนห์นั้นเป็นผู้ที่ออกคำสั่งกับ พ.อ.จอง ระหว่างการพบการพบปะกันที่ใกล้กับร้านอาหารฟาสต์ฟู๊ดส์ลอตเตอเรีย (Lotteria) ใกล้กับสถานีซังอ๊ก (Sangnok) เมืองอันซาน จังหวัดคยองกี เมื่อวันที่ 17 พ.ย.2567
โดยการพบปะกันนั้น พล.ท.โนห์กล่าวว่า “ถ้าเราจับและทรมานคนที่เกี่ยวกับการฉ้อโกงการเลือกตั้ง ความจริงเกี่ยวกับการโกงการเลือกตั้งจะปรากฏออกมา ดังนั้นเตรียมเครื่องมืออย่างพวกไม้เบสบอล คีม และสายรัดมาด้วย”
พล.ท.โนห์ ซัง วอน กับหมอดู คู่เดตของ พล.ท.โนห์เมื่อสองปีก่อน (อ้างอิงวิดีโอจาก MBC)
ในระหว่างการพบปะ พล.ท.โนห์ ยังได้ย้ำเตือนถึงภารกิจว่าต้องควบคุมตัวเจ้าหน้าที่ NEC ให้จงได้ ยิ่งไปกว่านั้นมีรายงานว่าในการพบปะครั้งนี้ พล.ท.มูน ซัง โฮ ผู้บัญชาการหน่วยข่าวกรองกลาโหม ยังได้เข้าร่วมการพบปะหารือด้วย ซึ่งพล.ท.โนห์กล่าวเน้นว่าตัวเขาจะเป็นผู้ดำเนินการสอบปากคำนายโน แต อัค ประธาน NEC ด้วยตัวเอง
การพบปะกันครั้งถัดไปที่ร้านลอตเตอเรียที่เดิมเมื่อวันที่ 1 ธ.ค. พล.ท.โนห์กล่าวว่า “ผมจะจัดการโน แต อัค ด้วยตัวเอง เอาไม้เบสบอลมาที่ออฟฟิศผม” และกล่าวอีกว่า “คนที่ไม่ยอมพูดยังไงก็จะต้องสารภาพเมื่อถูกคุกคาม” ซึ่งคำพูดเหล่านี้สื่อได้ว่าจะมีการใช้วิธีการทรมานประธาน และเจ้าหน้าที่ NEC อย่างแน่นอน
มีหลักฐานเพิ่มเติมอีกว่า พล.ท.โนห์ได้ออกคำสั่งให้เจ้าหน้าที่กองบัญชาการความมั่นคงกลาโหมอีกนายชื่อว่า พ.อ.คิม ให้พาตัวเจ้าหน้าที่ NEC ไปยังห้องแถลงการณ์,ค้นหาตัวผู้ดูแลเว็บไซต์ NEC และสั่งให้พวกเขาโพสต์ข้อความคำสารภาพเกี่ยวกับกรณีโกงการเลือกตั้ง
ขณะที่สำนักข่าว SBS รายงานข่าวที่มีลักษณะคล้ายคลึงกันระบุว่า CIO ได้รับคำให้การเกี่ยวกับการที่ พล.ท.โนห์ ได้บีบบังคับให้เจ้าหน้าที่ NEC โพสต์ข้อมูลอันเป็นเท็จว่ามีการทุจริตการเลือกตั้ง บนเว็บไซต์ของ NEC ซึ่งการโพสต์ดังกล่าวนั้นจะช่วยเพิ่มน้ำหนักคำกล่าวอ้างของประธานาธิบดียุนที่กล่าวโทษว่ามีความผิดปกติของการเลือกตั้ง
CIO ได้ยืนยันข้อมูลการพบปะหารือกันที่ร้านลอตเตอเรีย เมื่อวันที่ 1 ธ.ค. ซึ่งการหารือดังกล่าวนั้นเป็นที่ทราบกันดีว่ามีการวางแผนเกี่ยวกับการประกาศกฎอัยการศึกด้วย โดย พล.ท.โนห์ได้สรุปแผนการที่จะเข้าควบคุมคณะกรรมการการเลือกตั้งของเกาหลีอย่างชัดเจน
ตามข้อมูลหลักฐานของ CIO เกี่ยวกับการประชุมหารือกันที่ร้านลอตเตอเรีย เมื่อวันที่ 1 ธ.ค. พล.อ.โนห์ได้กล่าวถึงแผนการยึดอำนาจ NEC อย่างชัดเจน ระบุคำสั่งว่า “มัดใครก็ตามที่ต่อต้านด้วยสายรัด” และมีรายงานว่าเขายังพยายามแสดงคำสารภาพปลอมที่จะบังคับโพสต์บนเว็บไซต์ NEC เพื่อสร้างลักษณะว่ามีการทุจริตการเลือกตั้ง ที่จะให้ความชอบธรรมแก่การประกาศกฎอัยการศึก
รายงานของสื่อยังเน้นย้ำว่า พล.ท.โนห์แสดงความมุ่งมั่นที่จะสอบปากคำประธาน NEC เป็นการส่วนตัวระบุว่า “ฉันจะสอบปากคำโน แต อัค ดัวยตัวเอง”
CIO เชื่อกันว่าการพบปะกันวันที่ 17 พ.ย. ก็เพื่อเป็นการซักซ้อมแผนการ โดยประจักษ์พยานระบุว่า พล.ท.โนห์กล่าวว่า “ถ้าเรารวบรวมทุกคนที่เกี่ยวข้องกับการฉ้อโกงการเลือกตั้งและสอบปากคําพวกเขาความจริงจะปรากฏขึ้น”
CIO ย้ำว่า พล.ท.โนห์วางแผนที่จะยึดอำนาจควบคุม NEC อย่างสมบูรณ์ เพื่อบังคับให้มีการกล่าวถ้อยคำรับสารภาพอันเป็นเท็จ โดยตอนนี้ CIO กำลังสอบสวนเพิ่มเติมตามคำให้การของพยานเพื่อเปิดเผยขอบเขตของคดี
@บทบาทของรัฐมนตรีคิม
สำผลการสอบสวนเพิ่มเติมยังมีการระบุว่านายคิม ยอง ฮยอน อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมเกาหลีใต้ที่ออกจากตำแหน่งไปเมื่อวันที่ 4 ธ.ค. ยังได้มีการกล่าวก่อนการประกาศกฎอัยการศึกวันที่ 3 ธ.ค. ระบุถ้อยคำตอนหนึ่งด้วยว่า “หากเราเปิดเผยหลักฐานการทุจริตเลือกตั้ง และการบิดเบือนความเห็นของสาธารณชน ประชาชนจะแสดงความเห็นด้วย”
ข่าวอดีตรัฐมนตรีคิมพยายามฆ่าตัวตาย (อ้างอิงวิดีโอจาก Express Tribune)
โดยในเวลาต่อมาทางด้านของนายคิม ซึง วอน สส.พรรคเสรีประชาธิปไตยเกาหลี ก็สามารถรวบรวมเอกสารบันทึกถ้อยคำนี้จากออฟฟิศของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม นี่จึงทำให้อัยการเกาหลีใต้คาดดว่าทั้งประธานาธิบดียุน,อดีตรัฐมนตรีคิม และผู้ต้องสงสัยรายอื่นในคดีนี้กำลังพยายามตั้งข้อสงสัยว่ามีช่องโหว่ในระบบรักษาความปลอดภัยของ NEC เพื่อสร้างอิทธิพลต่อผลการเลือกตั้งอย่างไม่เหมาะสม
ในคำฟ้องของอัยการมีการระบุถึงคำพูดของรัฐมนตรีคิมอีกตอนหนึ่งที่เขากล่าวว่า “ประธานาธิบดีจะประกาศกฎอัยการศึกอีกไม่นานแล้ว และถ้าสภานิติบัญญัติแห่งชาติอยู่ภายใต้การควบคุมของกฎอัยการศึก และกองกำลังภายใต้กฎอัยการศึกสามารถเปิดโปงหลักฐานการฉ้อโกงการเลือกตั้งและหลักฐานการบิดเบือนความเห็นของสาธารณชนได้ อาทิ เช่นกรณีคณะกรรมการการเลือกตั้งและโพลความเห็นสาธารณชน ประชาชนก็จะเห็นด้วย ซึ่งผมจะทำมัน”
คำฟ้องระบุอีกว่าอดีตรัฐมนตรีคิมได้มีการสั่งการไปยังพล.ท.โนห์ และสั่งให้ พล.ท.มูน บัญชาการหน่วยข่าวกรองกลาโหม ดำเนินการช่วยเหลือนายพลโร ซัง วอน (ไม่ได้ระบุยศชัดเจน) ในภารกิจที่ได้รับมอบหมายได้แก่ “หน้าที่ของหน่วยข่าวกรองในการพิสูจน์การฉ้อโกงการเลือกตั้ง”
อดีตรัฐมนตริมยังได้มีการออกคำสั่งให้ตั้งทีมสืบสวนในช่วงประกาศกฎอัยการศึก ซึ่งมีหน้าที่สืบสวนกรณีการฉ้อโกงการเลือกตั้งที่ดำเนินการโดยคณะกรรมการการเลือกตั้งโดยเฉพาะ
“ในช่วงเวลา 22.45 น. ของวันที่ 3 ธ.ค. ทันทีหลังการประกาศกฎอัยการศึก อดีตรัฐมนตรีคิมได้โทรหาเจ้าหน้าที่วางแผนบุคลากรของกระทรวงกลาโหม พร้อมกับยื่นเอกสารชื่อว่าคำสั่งกระทรวงกลาโหม และแนะนำให้ตามบุคคลในคำสั่งนี้”
โดยบุคคลตามคำสั่งก็มีได้แก่ ผู้บัญชาการคู ซัม โฮ (Koo Sam-hoe) ของกองพลยานเกราะที่ 2 ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นหัวหน้าทีมสืบสวนร่วมที่ 2 ,นายจองฮวาน หัวหน้าหน่วยงานการควบคุมทางยุทธการ (OPCON) ด้านการเปลี่ยนผ่าน กระทรวงกลาโหม ทำหน้าที่เป็นรองหัวหน้าทีม รองผู้อํานวยการกองบัญชาการสืบสวนกระทรวงกลาโหมนายคิม ซัง ยอง (Kim Sang-yong) ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นหัวหน้าแผนกสืบสวนที่ 1 เป็นต้น โดยมีเจ้าหน้าที่สืบสวนในทีมทั้งหมดจำนวน 20 คน
สำนักข่าวอิศรารายงานเพิ่มเติมว่าสำหรับการเลือกตั้ง สส.ครั้งล่าสุดของเกาหลีใต้นั้นเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 10 เม.ย. 2567 โดยการเลือกตั้งครั้งนั้น พรรคเสรีประชาธิปไตย (DP) ซึ่งเป็นพรรคฝ่ายค้านหลัก ได้ครองเสียงข้างมากในรัฐสภา โดยได้ 175 ที่นั่ง เพิ่มขึ้นจากเดิมที่ได้รับ 169 ที่นั่ง ในขณะที่พรรคพลังประชาชน (PPP) ซึ่งนำโดยประธานาธิบดียุน ซอก ยอล และพรรคพันธมิตร คว้าไปแค่เพียง 108 ที่นั่ง ลดลงจากเดิม 131 ที่นั่ง จากจำนวนที่นั่งในสภาทั้งสิ้น 300 ที่นั่ง
เรียบเรียงเนื้อหาจาก:https://www.koreatimes.co.kr/www/nation/2024/12/113_388849.html,https://www.yna.co.kr/view/AKR20250104035700004