โครงการศูนย์ข้อมูลนี้จะมีบริษัท Hyperco ทำหน้าที่เป็นแม่งานหลักในการดำเนินการก่อสร้าง โดยบริษัทนี้ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2563 อย่างไรก็ตามข้อมูลผลประกอบการล่าสุดของ Hyperco ตามเอกสารปีงบประมาณบริษัทในปี 2567 นั้นพบว่าอยู่แค่ประมาณ 1.3 ล้านยูโร (48,363,900 บาท)
ส่องคดีทุจริตโลก สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) สัปดาห์นี้ขอนำเสนอข่าวมหาเศรษฐีซึ่งพัวพันกับข้อกล่าวหาทุจริต และมีความเกี่ยวข้องกับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐอเมริกา
โดยสำนักข่าว YLE ได้รายงานข่าวกรณีนายฮุสเซน แซจวาน พบประวัติว่าเคยทำธุรกิจกับนายโดนัลด์ ทรัมป์ และนายวลาดิเมียร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซีย ทว่านายแซจวานนั้นกลับอยู่ในบัญชีรายชื่อการคว่ำบาตรของประเทศแคนาดา ด้วยข้อหาว่ามีพฤติกรรมทุจริต
โดยกรณีดังกล่าวนั้นเกี่ยวข้องกับบริษัทอสังหารริมทรัพย์ของฟินแลนด์ที่วางแผนจะก่อสร้างศูนย์ข้อมูลในพื้นที่ทางตะวันตกของฟินแลนด์ ซึ่งศูนย์ข้อมูลที่ว่าจะให้บริการแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียติ๊กต๊อก (TikTok) เป็นหลัก มีมูลค่าการลงทุนโครงการอยู่ที่ 1 พันล้านยูโร (37,203,000,000 บาท)
หนึ่งในผู้สนับสนุนหลักของบริษัทอสังหาริมทรัพย์ดังกล่าวก็คือนายฮุสเซน แซจวาน มหาเศรษฐีจากสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ซึ่งเคยมีประวัติร่วมมือกับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯ มาก่อน ตามรายงานของ Forbes
นายแซจวานทําเงินได้หลายพันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ จากธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ โดยเฉพาะในดูไบ เขาร่วมมือกับบริษัทของนายทรัมป์ในปี 2555 ในการลงทุนรีสอร์ทกอล์ฟแบรนด์ของนายทรัมป์ในดูไบ
เมื่อต้นปีนี้ นายทรัมป์ประกาศต่อสาธารณะว่า บริษัท ของนายแซจวานกําลังวางแผนที่จะลงทุนเกือบ 2 หมื่นล้านยูโร (744,060,000,000 บาท) ในศูนย์ข้อมูลทั่วสหรัฐอเมริกา โดยนายแซจวานพบกับประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่ทําเนียบขาวในเดือนเมษายน นอกจากนี้ยังปรากฏภาพถ่ายนายแซจวานที่โพสต์บนโซเชียลมีเดียว่ากําลังรับประทานอาหารเช้าร่วมกับนายอีลอน มัสก์ มหาเศรษฐีและพันธมิตรของนายทรัมป์
นายแซจวานกับนายอีลอน มัสก์ ที่ทำเนียบขาว
อย่างไรก็ตามไม่พบข้อมูลว่านายแซจวานมีประวัติว่าเคยติดต่อทางธุรกิจในประเทศฟินแลนด์มาก่อน
สำนักข่าว Yle ได้พยายามติดต่อนายแซจวานเพื่อขอสัมภาษณ์เกี่ยวกับกรณีการสร้างศูนย์ข้อมูล แต่ว่าโฆษกจากบริษัทของนายแซจวานปฏิเสธคำขอของสำนักข่าว โดยกล่าวว่านายแซจวานจะไม่แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับโครงการก่อสร้างศูนย์ข้อมูลในขั้นตอนนี้
ขณะเดียวกันสื่อด้านธุรกิจของฟินแลนด์อีกแห่งชื่อว่า Kauppalehti รายงานข่าวว่าโครงการศูนย์ข้อมูลนั้นมีความเชื่อมโยงกับบริษัทยักษ์ใหญ่ที่ให้บริการด้านไอทีอย่างบริษัท GDS Holdings โดยข้อมูลที่ Yle รวบรวมมาได้พบว่าหนึ่งในหลายบริษัทที่เข้าไปร่วมก่อตั้งโครงการศูนย์ข้อมูลนั้นมีเจ้าของบริษัทเป็นชาวจีน
@บริษัทที่อยู่เบื้องหลังข้อตกลง
ย้อนไปเมื่อสองสัปดาห์ก่อน สื่อฟินแลนด์รายงานข่าวเกี่ยวกับแผนที่จะสร้างศูนย์ข้อมูล TikTok ในฟินแลนด์ และต่อมาในวันที่ 6 ก.พ. มีการประกาศว่าศูนย์ข้อมูลนั้นจะถูกสร้างขึ้นที่เมืองคูโวลา เมืองเล็กๆ ในแผ่นดินทางตะวันออกเฉียงใต้ที่มีประชากรเพียง 78,000 คน โครงการคาดว่าจะแล้วเสร็จภายในสิ้นปี 2569
ตามเอกสารข่าวประชาสัมพันธ์โครงการนี้ระบุว่าบริษัทอสังหาริมทรัพย์ของฟินแลนด์ชื่อว่า Hyperco ได้รายงานว่า TikTok จะเป็นผู้ใช้งานหลักของศูนย์ข้อมูลที่ว่านี้ โดย Hyperco จะเป็นเจ้าของศูนย์ข้อมูลและ TikTok จะเป็นผู้เช่า
โครงการศูนย์ข้อมูลนี้จะมีบริษัท Hyperco ทำหน้าที่เป็นแม่งานหลักในการดำเนินการก่อสร้าง โดยบริษัทนี้ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2563 อย่างไรก็ตามข้อมูลผลประกอบการล่าสุดของ Hyperco ตามเอกสารปีงบประมาณบริษัทในปี 2567 นั้นพบว่าอยู่แค่ประมาณ 1.3 ล้านยูโร (48,363,900 บาท)
พื้นที่ก่อสร้างศูนย์ข้อมูลที่เมืองคูโวลา
ข้อมูลบริคนสนธิอื่นๆพบว่าบริษัท Hyperco นั้นก่อตั้งโดยกลุ่มนักธุรกิจชาวฟินแลนด์ แต่รายละเอียดเกี่ยวกับการเป็นเจ้าของของบริษัทได้รับการเปิดเผยหลังจากการประชุมสามัญเมื่อเดือนที่แล้ว โดยบริษัทในสหราชอาณาจักรชื่อ Astral Star Holding Company Limited ถูกระบุว่าเป็นเจ้าของบริษัทแต่เพียงผู้เดียว
ส่วนบริษัท Astral Star Holding Company Limited ก็ถูกระบุว่ามีเจ้าของเพียงคนเดียวได้แก่นายฮุสเซน อาลี ฮาบิบ ซาจวานี ซึ่งเป็นชื่อเต็มของนายแซจวานนั่นเอง
@ประเด็นที่ซับซ้อนมากขึ้น
ตามเอกสารข่าวแจกของ Hyperco ระบุว่า Hyperco รับผิดชอบในโครงการศูนย์ข้อมูล อย่างไรก็ตามปรากฏข้อมูลว่าเมือคูโวลาได้ขายที่ดินเพื่อทำโครงการศูนย์ข้อมูลให้กันบริษัทฟินแลนด์อีกแห่งชื่อว่า Hyperco Fin Holdco 1 ตามรายงานของสำนักข่าว Kauppalehti พบว่าบริษัท Hyperco Fin Holdco 1 นั้นเป็นผู้รับผิดชอบโครงการตัวจริง
สำนักข่าว Yle ตรวจสอบพบว่านายแซจวาน หรือนายซาจวานี เป็นผู้ถือหุ้น 26.6 เปอร์เซ็นต์ในบริษัท Hyperco Fin Holdco 1 ในขณะที่ผู้ถือหุ้นอีกรายเป็นพลเมืองจีนในวัย 50 ปลายๆ ส่วนข้อมูลเกี่ยวกับผู้ถือหุ้นรายอื่นๆกลับไม่มีความชัดเจนเนื่องจากเส้นทางการถือหุ้นบริษัทไปเชื่อมโยงกับบริษัทต่างชาติ
สำนักข่าว YLE ได้พยายามติดต่อตัวแทนบริษัท Hyperco เพื่อขอความเห็นเมื่อวันที่ 7 พ.ค.ที่ผ่านมา แต่ก็ไม่สามารถติดต่อได้
@นายกเทศมนตรีตระหนักถึงผู้เป็นเจ้าของบริษัท
นางมาริตา ทอยก้า นายกเทศมนตรีเมืองคูโวลา ให้สัมภาษณ์สำนักข่าว Yle ว่าเธอรู้ดีว่าบริษัท Hyperco มีเจ้าของคือนายซาจวานี ซึ่งเรื่องนี้ไม่ได้มีผลกระทบไปถึงการตัดสินใจเกี่ยวกับการดำเนินการทำข้อตกลงก่อสร้างศูนย์ข้อมูล
“โดยรวมแล้วเมืองเป็นหน่วยงานวางแผน,อนุญาตและขายทรัพย์สิน ดังนั้นเราจึงประเมินการดําเนินงานของบริษัทจากมุมมองเหล่านี้เท่านั้น ฐานความเป็นเจ้าของเปลี่ยนแปลงหรือขยายตัวอย่างไรเป็นเรื่องของบริษัทเอง” นางทอยก้ากล่าว
ศูนย์ข้อมูลที่วางแผนไว้ว่าจะก่อสร้างจะให้บริการ TikTok เป็นหลัก ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียของจีนที่นักวิจารณ์หลายคนกล่าวว่าก่อให้เกิดความเสี่ยงด้านความปลอดภัย ตัวอย่างเช่น นายทรัมป์ ขู่ว่าจะแบนแพลตฟอร์มหากยังคงอยู่ภายใต้ความเป็นเจ้าของของจีน
อย่างไรก็ตามนายกเทศมนตรีทอยก้ากล่าวว่าบทบาทของเมืองไม่ใช่การประเมินปัญหาความปลอดภัยของข้อมูลระหว่างประเทศ เพราะนั่นเป็นหน้าที่ของฟินแลนด์และยุโรปที่ต้องจัดการ
“เราไม่คาดเดาเกี่ยวกับคําถามดังกล่าวโดยเปล่าประโยชน์ เพราะเราไม่มีอิทธิพลต่อคําถามเหล่านั้น มุมมองของผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับความปลอดภัยของข้อมูล [TikTok] ค่อนข้างขัดแย้งกัน เป็นการยากที่จะสรุปที่ชัดเจนจากพวกเขาซึ่งเป็นแพลตฟอร์มหนึ่งท่ามกลางแพลตฟอร์มอื่น ๆ” นางทอยก้ากล่าว
เว็บไซต์ TikTok ลงข่าวประชาสัมพันธ์การสร้างศูนย์ข้อมูลที่ฟินแลนด์ในชื่อ Project Clover
เมื่อปลายปีที่แล้ว เมืองได้ลงนามในข้อตกลงขายที่ดินขนาด 12.5 เฮกตาร์ให้กับ Hyperco เพื่อใช้เป็นศูนย์ข้อมูล และในปีนี้ได้ทําข้อตกลงเบื้องต้นกับบริษัทเกี่ยวกับที่ดินขนาดใกล้เคียงกัน
ตามเอกสารของเมืองข้อตกลงเบื้องต้นเกี่ยวกับที่ดินแปลงที่สองจะช่วยให้ Hyperco สามารถขยายตัวได้ในอนาคต ซึ่งจากข้อมูลการโอนเงินทั้งสองครั้งเพื่อทำธุรกรรมเกี่ยวกับที่ดิน พบว่าอยู่ที่เกือบ 2 ล้านยูโร (74,406,000 บาท)
นายกเทศมนตรีกล่าวว่าความคิดริเริ่มสําหรับข้อตกลงมาจากฝั่งบริษัท Hyperco
@ภูมิหลังนายซาจวานี
ในอดีตนายฮุสเซน ซาจวานี เคยกล่าวชื่นชมเกี่ยวกับบทบาทนักลงทุนรัสเซีย ซึ่งเป็นที่ทราบกันดีว่าดูไบได้กลายเป็นศูนย์กลางสําคัญสําหรับกองทุนของรัสเซียในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา
ในปี 2566 นายซาจวานีได้กล่าวว่าดูไบยินดีที่จะรับเงินรัสเซียตราบใดที่มัน "สะอาด" โดยในโพสต์บนเว็บไซต์ของเขา นายซาจวานียกย่องการลงทุนของรัสเซียในบทความชื่อว่า "ดูไบที่ปราศจากการคว่ำบาตร"
"ผมแน่ใจว่าชาวรัสเซียจํานวนมากกําลังพยายามแก้ไขปัญหาและปัญหาของพวกเขา แต่ดูไบจะได้รับประโยชน์จากวิกฤตการณ์ในที่สุด" นายซาจวานีกล่าว
โดยคำกล่าวของนายซาจวานีเกิดขึ้นหลังจากที่สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ซึ่งมีความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้นกับรัสเซียตัดสินใจที่จะไม่ดำเนินการสอดคล้องกับมาตรการคว่ำบาตรที่ประเทศตะวันตกกําหนดต่อรัสเซียจากกรณีรุกรานยูเครน
“'ผมจะพูดตามตรงกับคุณ การคว่ำบาตรเหล่านี้ พวกเขา (ประเทศตะวันตก) ทําให้หลายคนประหม่า” นายซาจวานีกล่าวและกล่าวอีกว่าหากใครนําเงินผ่านระบบธนาคารที่นี่ (ดูไบ) อย่างถูกกฎหมายและเป็นมืออาชีพ เราจะทําธุรกิจกับพวกเขาและจะทำต่อไป
@จากรัสเซียไปยังแคริบเบียน
บริษัทการลงทุนของนายซาจวานียังได้ดําเนินงานในรัสเซียเช่นกัน ตัวอย่างเช่น บริษัทได้มีส่วนร่วมในการสร้างสถานที่สําหรับการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกฤดูหนาวที่เมืองโซชิในปี 2557 โครงการนี้นําโดยประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย ซึ่งในขณะนั้นเป็นนายกรัฐมนตรีของรัสเซีย
โดยปรากฏภาพทั้งนายซาจวานีและนายปูตินในการแถลงข่าวเกี่ยวกับขั้นตอนการลงทุนในปี 2553
สำนักข่าวโครงการรายงานข่าวอาชญากรรมและการทุจริตหรือ OCCRP ยังเคยรายงานข่าวเกี่ยวกับนายซาจวานีว่าเคยอยู่ในรายชื่อคว่ำบาตรของแคนาดาเกี่ยวกับกรณีการทุจริตในช่วงระหว่างปี 2554-2557
ต่อมาในปี 2564 ศาลที่ประเทศอียิปต์ได้มีการตัดสินคดีลับหลังนายซาจวานี พิพากษาให้จำคุก 5 ปี ในข้อหาเกี่ยวกับความผิดปกติของข้อตกลงอสังหาริมทรัพย์ อย่างไรก็ตามนายซาจวานีวิจารณ์คำตัดสินของศาลว่าหลอกลวงและมีแรงจูงใจทางการเมือง
ในขณะเดียวกัน OCCRP รายงานว่านายซาจวานียื่นขอซื้อสัญชาติในประเทศเกาะแถบแคริบเบียน อย่างประเทศเซนต์คิตส์และเนวิสในปี 2553 เนื่องจากประเทศนี้ขายสัญชาติให้กับผู้ที่ลงทุนที่นั่น
เรียบเรียงจาก:https://yle.fi/a/74-20160341
- ส่องคดีทุจริตโลก:บ.ออฟชอร์จ่ายให้! ลูกขุนคลังเซอร์เบียเรียน รร.นานาชาติ ค่าเทอมหลัก ล.
- ส่องคดีทุจริตโลก:ข้อครหา บ.จีน ส่งเอกสารปลอม เข้าประมูลเทคนิค โรงไฟฟ้าพลังงานน้ำที่เนปาล
- ส่องคดีทุจริตโลก: เปิดประวัติคาร์ดินัลโดนคดีการเงิน อ้างมีสิทธิ์โหวตโป๊ปพระองค์ใหม่
- ส่องคดีทุจริตโลก: รัฐสภาเนปาลสอบ จนท.เอื้อประโยชน์ บ.จีน หนีภาษี-ย้อมแมวสนามบิน 7พันล.
- ส่องคดีทุจริตโลก: ธนาคารชั้นนำสวิสถูกสอบ เหตุทำธุรกรรมกับลูกค้าความเสี่ยงสูง 1,400 บัญชี
- ส่องคดีทุจริตโลก:ข้อพิรุธไชน่า เรลเวย์ อินเตอร์ฯ ใช้นอมินีรับสัญญารถไฟแอฟริกาใต้หมื่น ล.
- ส่องคดีทุจริตโลก: แอฟริกาใต้จ้างเอกชนจีนมีประวัติโดนขึ้นบัญชีดำในต่างแดน สร้างถนน
- ส่องคดีทุจริตโลก:ย้อนรอย บ.จีนจ้างแฟนเก่าอดีต ปธน.โบลิเวียนั่งบริหาร รับสัญญารัฐหมื่นล.
- ส่องคดีทุจริตโลก:ป.ป.ช.อินโดฯ เดินหน้าสอบบิ๊กธนาคาร เอี่ยวจ่ายคอมมิชชั่น บ.โฆษณา 449 ล.
- ส่องคดีทุจริตโลก: รัฐวิสาหกิจจีนประวัติฉาว ทำสัญญาสร้างเขื่อน 1.8 หมื่นล. ที่ฮอนดูรัส
- ส่องคดีทุจริตโลก:เช็กเกียสั่งสอบ 17 ผู้ต้องหา เอี่ยวกินเปอร์เซ็นต์สัญญา รพ.มูลค่าพัน ล.
- ส่องคดีทุจริตโลก:กห.ออสซี่ทำสัญญาหมื่นล.เอกชนถูกสอบฮั้วราคาอุปกรณ์-บริการฐานทัพทหาร
- ส่องคดีทุจริตโลก:สภายูเครนผ่านร่าง กม.ซื้อเครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์ 2 หมื่นล.ส่อไม่โปร่งใส
- ส่องคดีทุจริตโลก:NGO ฉ้อโกงเงิน USAIDนับร้อยล้าน-ยักยอกอาหารผู้ลี้ภัยขายผู้ก่อการร้าย
- ส่องคดีทุจริตโลก:บ.สิงคโปร์ค้าน้ำมันให้กองทัพเมียนมา ก่ออาชญากรรมสงคราม ทำรายได้ พันล.
- ส่องคดีทุจริตโลก:ซาอุฯเดินหน้าสัญญาซื้ออาวุธรัสเซีย 7.7 หมื่นล.แม้ถูกคว่ำบาตรปมบุกยูเครน
- ส่องคดีทุจริตโลก:ก.คลังสหรัฐฯ คว่ำบาตรธนาคารคีร์กีซ เหตุช่วยแบงก์รัสเซียเลี่ยงคว่ำบาตร
- ส่องคดีทุจริตโลก: CEO กรมน้ำฯแอลเอ บริหารงานล้มเหลว? ต้นเหตุหัวดับเพลิงไม่ทำงานช่วงไฟป่า
- ส่องคดีทุจริตโลก:แฉแผนทรมาน ปธ.กกต.เกาหลีฯช่วงอัยการศึก บังคับประกาศเหตุโกงเลือกตั้ง สส.