ธปท.เผย ‘ความเร็ว’ ในการฉีดวัคซีนสำคัญกว่า ‘ชนิดวัคซีน’ ระบุหากไทยฉีดวัคซีนครบ 100 ล้านโดส ภายในปี 64 จะทำให้จีดีพีปีนี้ขยายตัว 2% ส่วนปีหน้าโต 4.7% หวังภาคส่งออกที่ดีต่อเนื่องจะช่วยเพิ่มการจ้างงาน
..................
เมื่อวันที่ 14 พ.ค. น.ส.ชญาวดี ชัยอนันต์ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายเศรษฐกิจมหภาค ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวในงาน Media Briefing เรื่อง ‘ส่องเศรษฐกิจ ฝ่าวิกฤตโควิด ด้วยวัคซีน’ ว่า การแพร่ระบาดของโควิด-19 ระลอกที่ 3 ส่งผลกระทบต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจและความเชื่อมั่นผู้บริโภค โดยเฉพาะการใช้จ่ายในประเทศนั้น คาดว่าจะได้รับผลกระทบ 1.4-1.7% ต่อจีดีพี เทียบกับการระบาดระลอกแรกที่มีผลกระทบ 2.2% ต่อจีดีพี
“ภาคบริการได้รับผลกระทบค่อนข้างเยอะ ซึ่งจากการสอบถามผู้ประกอบการพบว่า ในช่วงเดือน เม.ย. หลังสงกรานต์เป็นต้นมา มีการยกเลิกการจองห้องพักเป็นจำนวนมาก ทำให้อัตราเข้าพักเฉลี่ยในช่วงเดือน เม.ย. น่าจะไม่ถึง 20% และในเดือนพ.ค. อาจจะต่ำกว่า 10% ซึ่งสะท้อนถึงความเชื่อมั่นของนักท่องเที่ยวชาวไทยที่ลดลงค่อนข้างมาก และส่งผลต่อกิจกรรมเศรษฐกิจอื่นๆ แต่ผลกระทบรอบนี้ไม่ได้รุนแรงเมื่อเทียบกับการระบาดระลอกแรก” น.ส.ชญาวดีกล่าว
น.ส.ชญาวดี กล่าวว่า เนื่องจากไวรัสสายพันธุ์ที่ระบาดระลอกนี้ระบาดได้เร็วกว่าสายพันธุ์ก่อนหน้านี้ ทำให้การที่มีภูมิคุ้มกันหมู่ (Herd Immunity) ในประเทศไทย อาจต้องเลื่อนออกไป 1 ไตรมาส หรือจากเดิมไตรมาส 2/2565 เป็นไตรมาส 3/2565 แต่ทั้งนี้ ปัจจัยที่ทำให้เกิดภูมิคุ้มกันหมู่ได้ช้าหรือเร็ว ได้แก่ สายพันธุ์ไวรัส ประสิทธิภาพวัคซีน ปริมาณวัคซีน ความสามารถในการกระจายและฉีดวัคซีน และความเต็มใจของประชาชนในการรับวัคซีน
อย่างไรก็ตาม ธปท.ได้ประเมินฉากทัศน์การฉีดวัคซีนและเกิดภูมิคุ้มกันหมู่เป็น 3 กรณี ได้แก่ กรณีที่ 1 หรือกรณีดีที่สุด คือ หากจัดหาและฉีดวัคซีนได้ 100 ล้านโดส (ซิโนแวค แอสตร้าเซนเนก้า ไฟเซอร์ และโมเดอร์นา) ในปี 2564 จะเกิดภูมิคุ้มกันหมู่ไตรมาส 1/2565 กรณีที่ 2 หรือกรณีฐาน หากจัดหาและฉีดวัคซีนได้ 64.6 ล้านโดส (ซิโนแวค และแอสตร้าเซนเนก้า) ในปี 2564 จะเกิดภูมิคุ้มกันหมู่ไตรมาส 3/2565
และกรณีที่ 3 หรือกรณีแย่สุด หากจัดหาและฉีดวัคซีนได้น้อยกว่า 64.6 ล้านโดส (ซิโนแวค และแอสตร้าเซนเนก้า) ในปี 2564 จะเกิดภูมิคุ้มกันหมู่ไตรมาส 4/2565
“ถ้าเราฉีดวัคซีนได้เร็ว ไม่ว่าจะเป็นวัคซีนที่มีประสิทธิผลสูง หรือวัคซีนที่มีประสิทธิผลกลางๆ ระยะเวลาที่เราจะมีภูมิคุ้มกันหมู่ไม่ได้ต่างกันมาก ดังนั้น การที่เราจะได้ภูมิคุ้มกันหมู่ ความเร็วในการฉีดวัคซีนมีความสำคัญมากกว่าชนิดวัคซีน เพราะฉะนั้นในแง่เศรษฐกิจ มันคือเรื่องของความเร็วในการฉีดวัคซีน ไม่ใช่ชนิดของวัคซีน และการได้มาซึ่งภูมิคุ้มกันหมู่ จะทำให้เราสบายใจในการเปิดประเทศ รวมทั้งมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาได้เร็ว” น.ส.ชญาวดีกล่าว
น.ส.ชญาวดี ระบุว่า หากประเทศไทยมีภูมิคุ้มกันหมู่ได้เร็ว จะทำให้ประชาชนมั่นใจในการจับจ่ายใช้สอย รวมถึงมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าไทยได้เร็ว โดยเฉพาะกรณีที่ 1 หรือมีการฉีดวัคซีนได้ 100 ล้านโดสในปี 2564 นั้น จะทำให้เศรษฐกิจไทยปี 2564 ขยายตัว 2% และปี 2565 ขยายตัว 4.7% แต่หากเป็นกรณีที่ 3 หรือมีการฉีดวัคซีนได้น้อยกว่า 64.6 ล้านโดสในปี 2564 จะทำให้เศรษฐกิจปี 2564 ขยายตัวเพียง 1% และปี 2565 ขยายตัว 1.1% เท่านั้น
“จีดีพีที่เราเห็นนี้ ยังไม่ใช่จีดีพีที่รวมมาตรการอื่นๆในอนาคต เช่น หากภาครัฐดำเนินมาตรการเพิ่มเติมในช่วงที่เหลือของปีนี้ และปีหน้า จีดีพีของเราจะดีกว่านี้” น.ส.ชญาวดีกล่าว และว่า “จีดีพีที่เราออกครั้งนี้ เป็นประเมินผลกระทบคร่าวๆ ยังไม่ใช่รอบการแถลงจีดีพีของธปท. ขณะที่ในช่วงต้นสัปดาห์หน้าจะมีการแถลงจีดีพีของสภาพัฒน์ฯ”
น.ส.ชญาวดี ระบุว่า ในช่วงที่ผ่านมาการส่งออกเป็นปัจจัยที่ช่วยพยุงเศรษฐกิจไทยเอาไว้ และในอนาคตการส่งออกไทยจะขยายตัวต่อเนื่องตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก อย่างไรก็ตาม การส่งออกที่ดีขึ้นดังกล่าวยังไม่ส่งผลดีต่อการจ้างงานรายใหม่มากนัก เพียงแต่ทำให้แรงงานมีชั่วโมงทำงานเพิ่มขึ้น ซึ่งธปท.หวังว่าหากการส่งออกในระยะข้างหน้าจะส่งผลดีต่อการจ้างงานในภาคการผลิตบ้าง
น.ส.ชญาวดี กล่าวด้วยว่า ผลกระทบของการระบาดของโควิด-19 ส่งผลกระทบต่อธุรกิจไม่เท่ากัน โดยธุรกิจเพื่อการส่งออกยังได้รับคำสั่งซื้อจากต่างประเทศต่อเนื่อง ในขณะที่ธุรกิจค้าปลีก โดยเฉพาะห้างสรรพสินค้ารายได้ลดลงเหลือ 30% เมื่อเทียบกับช่วงปกติ ส่วนธุรกิจโรงแรมมีอัตราเข้าพักน้อยกว่า 10% จำนวนเที่ยวบินลดเหลือเพียง 20% ของช่วงปกติ จำนวนผู้ใช้แท็กซี่ลดลงเหลือน้อยกว่า 30% และธุรกิจร้านอาหารในพื้นที่สีแดงเข้ม 6 จังหวัดลดลง
อ่านประกอบ :
พักต้น-ลดดอก-คืนรถได้! ธปท.ประกาศมาตรการช่วยเหลือ 'ลูกหนี้รายย่อย' 4 กลุ่ม
คาดจีดีพีปีนี้ดีสุดโต 2%! กนง.คงดอกเบี้ยนโยบาย 0.5%-วัคซีนพระเอกฟื้นเศรษฐกิจ
เซ่นโควิดระลอก 3! ‘ธปท.’ เล็งหั่นจีดีพีโตต่ำ 3%-เผยตัวเลขส่งออกมี.ค.พุ่ง 15.8%
โควิดระลอก 3 เขย่าเศรษฐกิจไทย-กระทบเปิดประเทศ ‘วัคซีนทั่วหน้า’ คือ ทางออก
เปิดรายงานกนง. : เศรษฐกิจไทยเสี่ยงโตต่ำคาด-โควิดซ้ำเติมเหลื่อมล้ำรายได้เลวร้ายลง
กนง.หั่นจีดีพีโตแค่ 3%! เซ่นโควิดรอบสอง-นทท.เหลือ 3 ล้าน คงดบ.นโยบาย 0.5%
ให้กู้ยาว 5 ปี! ครม.ปลดล็อก ‘ซอฟต์โลน’ อุ้มเอสเอ็มอี-เทแสนล.หนุน ‘พักทรัพย์ พักหนี้’
แบงก์ทุนแกร่ง-สภาพคล่องล้น! ธปท.มอง NPL ปี 64 ขยับอีก-ถก'คลัง'ผุด'โกดังเก็บหนี้'
เปิดรายงาน กนง. : แนะรัฐบาล 'ออกแรง' กระตุ้นทางการคลังเพิ่ม
หั่นจีดีพีปี 64! กนง.คาดโตต่ำกว่า 3.2%-มติเอกฉันท์คงดอกเบี้ยนโยบาย 0.5%
# กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage/