‘ธปท.’แจงหลักเกณฑ์กำกับธุรกิจเช่าซื้อ-ลีสซิ่ง‘รถยนต์-รถจักรยานยนต์’ 1.56 ล้านล้าน พร้อมเร่ง ‘ผู้ประกอบธุรกิจรายเดิม’ รายงานข้อมูลเพื่อแสดงตัวตนภายใน 31 มี.ค.69
....................................
เมื่อวันที่ 16 ธ.ค. น.ส.พีรจิต ปัทมสูต ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายคุ้มครองและตรวจสอบบริการทางการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยในงาน Media Briefing ‘การกำกับดูแลธุรกิจการให้เช่าซื้อและการให้เช่าแบบลีสซิ่งรถยนต์และรถจักรยานยนต์’ ว่า หลังจาก ธปท. ออกประกาศ เรื่อง การกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการประกอบธุรกิจการให้เช่าซื้อและการให้เช่าแบบลีสซิ่งรถยนต์และรถจักรยานยนต์ ซึ่งมีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 3 ธ.ค.ที่ผ่านมา นั้น
ขณะนี้ ธปท.อยู่ระหว่างเปิดให้ผู้ประกอบธุรกิจรายเดิม (นิติบุคคล) รายงานข้อมูลเพื่อแสดงตัวตนผ่านเว็บไซต์ ธปท. ซึ่งที่ผ่านมาบริษัทขนาดใหญ่เข้ามารายงานข้อมูลฯเกือบ 100% แล้ว ขาดเพียง 2 ราย ส่วนบริษัทขนาดกลางเข้ามารายงานข้อมูลฯเกินครึ่ง ขณะที่บริษัทขนาดเล็ก ซึ่งมีประมาณ 3,000 บริษัท เข้ามารายงานข้อมูลฯเพียงหลักร้อยรายเท่านั้น และเมื่อสิ้นสุดการรายงานฯในวันที่ 31 มี.ค.2569 นี้ ผู้ประกอบธุรกิจที่ไม่มารายงานข้อมูลฯ จะมีความผิดตามกฎหมาย ซึ่งมีโทษทั้งจำคุกและปรับ
สำหรับผู้ประกอบธุรกิจรายใหม่ที่ประกอบธุรกิจตั้งแต่ 3 ธ.ค.2568 เป็นต้นไป จะต้องเข้ามารายงานข้อมูลเพื่อแสดงตัวตนภายใน 120 วัน นับจากวันจดทะเบียนกับกรมพัฒนาธุรกิจการค้า


สำหรับขอบเขตและวันบังคับใช้หลักเกณฑ์ภายใต้ประกาศฯ แบ่งได้เป็น 2 กลุ่มหลัก ได้แก่
กลุ่มแรก-หลักเกณฑ์เรื่องเพดานอัตราดอกเบี้ย ได้แก่ รถยนต์ใหม่ 10% ต่อปี รถยนต์ใช้แล้ว 15% ต่อปี และรถจักรยานยนต์ 23% ต่อปี, การคิดดอกเบี้ยผิดนัดชำระหนี้ ไม่เกิน 5% บนค่างวดที่คงค้าง และการได้รับส่วนลดการปิดบัญชีก่อนกำหนด สำหรับการให้เช่าซื้อแก่บุคคลธรรมดาเพื่อใช้ส่วนตัว เช่น หากจ่ายค่างวดมาแล้ว 2 ใน 3 จะได้รับส่วนลดดอกเบี้ยคงค้างทั้งหมด เป็นต้น นั้น หลักเกณฑ์ต่างๆเหล่านี้ จะบังคับใช้กับสัญญาใหม่ที่ทำขึ้นตั้งแต่วันที่ 3 ธ.ค.2568 เป็นต้นไป
ส่วนกรณีการ ‘คืนรถจบหนี้’ นั้น แม้ว่าประกาศฯ จะไม่มีการกำหนดเรื่องนี้ไว้ แต่สิ่งที่ ธปท. กำหนดให้ผู้ประกอบธุรกิจต้องทำ คือ ผู้ประกอบธุรกิจต้องคุยกับลูกหนี้และเขียนในเงื่อนไขสัญญาให้ชัดเจนว่า กรณีที่ลูกหนี้นำรถมาคืนจะสามารถจบหนี้หรือไม่ หากจบหนี้ไม่ได้ ลูกหนี้ต้องมีภาระอย่างไร โดยให้ตกลงกันให้ชัดเจนตั้งแต่ต้นสัญญา เพื่อให้เกิดความเป็นธรรม
กลุ่มที่สอง-หลักเกณฑ์ในเรื่องการปฏิบัติและการเปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับดอกเบี้ย ค่าบริการ และเบี้ยปรับ ประเภทของค่าบริการที่เรียกเก็บได้ รวมถึงการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมอย่างเป็นธรรม ไม่เอาเปรียบลูกค้า ไม่เก็บค่าธรรมเนียมซ้ำซ้อน สะท้อนต้นทุนจริง โดยเฉพาะห้ามเรียกเก็บค่าธรรมเนียมที่ไม่เป็นธรรม เช่น ค่ายกเลิกสัญญา และค่าปรับโครงสร้างหนี้ เป็นต้น ,ลำดับการตัดชำระหนี้
การระบุเงื่อนไขเกี่ยวกับการปิดบัญชี/ยกเลิกสัญญาก่อนกำหนด ,การให้บริการทางการเงินอย่างรับผิดชอบและเป็นธรรม เช่น การกำหนดราคาและเงื่อนไขที่เป็นธรรม การโฆษณาถูกต้อง ครบถ้วน ชัดเจน ต้องเสนอปรับโครงสร้างหนี้ให้ลูกหนี้ก่อนเป็นหนี้เสีย 1 ครั้ง และหลังเป็นหนี้เสียอีก 1 ครั้ง และการดูแลข้อมูลลูกค้า เป็นต้น
และการใช้บริการจากผู้ให้บริการภายนอก เช่น การหาลูกค้า การโฆษณา และติดตามทวงถามหนี้ ผู้ประกอบธุรกิจจะต้องรับผิดชอบเสมือนตนเป็นผู้ดำเนินการเอง นั้น หลักเกณฑ์ดังกล่าว จะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 มิ.ย.2569 เพื่อให้ผู้ประกอบธุรกิจฯ สามารถเตรียมความพร้อมและปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพและราบรื่น



น.ส.พีรจิต ระบุว่า จากการสำรวจและรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับธุรกิจเช่าซื้อและลิสซิ่งในปัจจุบัน พบว่ามีประชาชนใช้บริการเช่าซื้อและลิสซิ่งในวงกว้าง โดยมียอดธุรกรรมคงค้างสูงถึง 1.56 ล้านล้านบาท และที่ผ่านมามีร้องเรียนเข้ามายัง ธปท. เกี่ยวกับการให้บริการค่อนข้างสูง เช่น การให้ข้อมูลไม่ครบถ้วน การปรับโครงสร้างหนี้ไม่สอดคล้องกับรายได้ และปัญหาค่าธรรมเนียมและปัญหาหนี้คงค้าง เป็นต้น
น.ส.พีรจิต กล่าวว่า เมื่อวันที่ 15 ธ.ค.ที่ผ่านมา ธปท. ได้ออกหนังสือเวียนเพื่อขอความร่วมมือให้ผู้ประกอบธุรกิจการให้เช่าซื้อและการให้เช่าแบบลีสซิ่งที่มิใช่สถาบันการเงิน พิจารณาให้ความช่วยเหลือลูกหนี้ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์สาธารณภัย รวมถึงสถานการณ์ความไม่สงบบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ในด้านเงินทุนและสภาพคล่อง เพื่อให้ลูกหนี้สามารถประกอบอาชีพหรือดำเนินธุรกิจหรือเพื่อใช้ประโยชน์ในทรัพย์สินเป็นการส่วนตัวต่อไปได้
รวมทั้งดูแลให้มีการปรับปรุงโครงสร้างหนี้ให้สอดคล้องกับความจำเป็นของลูกหนี้ โดยให้พิจารณาอนุมัติความช่วยเหลือให้แล้วเสร็จไม่เกิน 12 เดือน
นอกจากนี้ ในช่วงระยะเวลาที่ช่วยเหลือ ขอให้ผู้ประกอบธุรกิจการให้เช่าซื้อและการให้เช่าแบบลีสซิ่งที่มิใช่สถาบันการเงิน ไม่เรียกเก็บดอกเบี้ยผิดนัด ค่าบริการ เบี้ยปรับ หรือค่าใช้จ่ายอื่นใดเพิ่มเติมจากลูกหนี้ และในการเรียกเก็บเงินต้นและดอกเบี้ยที่คิดคำนวณในช่วงให้ความช่วยเหลือ ให้ใช้วิธีที่จะไม่ก่อให้เกิดภาระกับลูกหนี้มากจนเกินไป และไม่เรียกเก็บเป็นเงินก้อนในครั้งเดียวเมื่อสิ้นระยะเวลาให้ความช่วยเหลือ
ทั้งนี้ การขอความร่วมมือข้างต้นสอดคล้องและเป็นไปในแนวทางเดียวกับผู้ประกอบธุรกิจภายใต้การกำกับของ ธปท.ในปัจจุบัน

อ่านประกอบ :
แพร่ประกาศ‘ธปท.’กำกับธุรกิจเช่าซื้อฯ‘รถ’-คุมดบ.‘เก๋งมือสอง’10%-‘มอเตอร์ไซค์’ไม่เกิน 23%
แพร่ประกาศฯให้ธุรกิจเช่าซื้อ-ลีสซิ่ง‘รถ-มอเตอร์ไซค์’เป็น‘ธุรกิจการเงิน’ภายใต้กำกับ ธปท.
ธปท.เปิด'ธุรกิจเช่าซื้อ-ลีสซิ่งฯ'รายงานตัว ก.ย. จ่อออกเกณฑ์'กำกับฯ-กำหนดดอกเบี้ย' 3 ธ.ค.
ธปท.คุมเช่าซื้อรถ! ราชกิจจาฯแพร่ พ.ร.ฎ.ให้เช่าซื้อรถฯอยู่ภายใต้พ.ร.บ.ธุรกิจสถาบันการเงิน
ธปท.เผยร่าง พ.ร.ฏ.กำกับดูแล‘ธุรกิจเช่าซื้อรถฯ’ ยังอยู่ระหว่างการพิจารณาของ‘กฤษฎีกา’
ครม.ไฟเขียวร่าง พ.ร.ฎ.กำกับธุรกิจเช่าซื้อรถฯ ให้อำนาจ'ธปท.'กำหนด'ดอกเบี้ย-เบี้ยปรับ'
ไม่ใช่ลดต้นลดดอก! 'สคบ.'แจงยิบประกาศคุมสัญญาเช่าซื้อ'รถ-มอเตอร์ไซค์'ลดเอาเปรียบผู้บริโภค
สภาองค์กรของผู้บริโภค จี้ สคบ.แจงข้อเท็จจริง‘ประกาศเช่าซื้อรถ’ สร้างความชัดเจน
แพร่ประกาศคุมเช่าซื้อ‘รถยนต์-มอ’ไซค์’ ให้คิดดบ.10-23%-ห้ามเขียนสัญญาเอาเปรียบผู้บริโภค
รัฐย้ำคุม‘ดอกเบี้ย’สินเชื่อเช่าซื้อ‘มอเตอร์ไซค์’-‘คลัง-ธปท.’เปิดงานไกล่เกลี้ยหนี้ออนไลน์
‘ธปท.’เล็งประกาศแนวนโยบายแก้ปัญหา‘หนี้ครัวเรือน’ หวังกำกับปล่อยสินเชื่อใหม่ที่มีคุณภาพ
‘ธปท.’เปิดรับฟังความเห็นร่าง พ.ร.ฎ.กำกับดูแลธุรกิจ‘เช่าซื้อ-ลีสซิ่ง’รถยนต์-มอเตอร์ไซค์
แกะปมเช่าซื้อ'มอเตอร์ไซค์' คิดดอกเบี้ย 50-70% ต่อปี 'สคบ.'ขยับคุมสัญญา-ชง SFI ปล่อยกู้
ชำแหละปัญหา ‘หนี้เช่าซื้อ’ กรณี ‘ลุงทองเสาว์’ ถึงเวลารัฐออกกฎคุ้มครองลูกหนี้

Isranews Agency | สำนักข่าวอิศรา